[HAUL+mini review] Holiday Shopping!! สิ่งที่ฉันสอยมาในช่วงปีใหม่ :D

สวัสดีค่า~

ช่วงที่holiday sale ที่ผ่านมาเราซื้อของไปเยอะพอสมควรเลยค่ะ อดใจกับ sale ไม่ไหว >.<

ของส่วนใหญ่เราสั่งมาจาก sephora US ค่ะ เพราะเราเรียนอยู่ที่ญี่ปุ่นและที่นี่ไม่มี sephora

ของที่ซื้อมาในช่วง2-3เดือนที่ผ่านมามีดังนี้ค่ะ

1. Too faced Chocolate Bar palette
2. Too faced matte eye palette
3. Tarte Pin up girl palette
4. Bite High pigment pencil #Rhubarb and #bouquet
5. Bite matte creme lip crayon #Gavi and #Glace (Holiday special : mini size)
6. No bleeding lips secret lip liner
7. Shiseido spotcover foundation
8. Kat Von D lock it concealer
9. Glamglow super mud
10. Fresh Dare to bare Sugar lip ritual
11. Heroine Make Long and Curl Mascara Super WP
12. Shu Uemura S curler

แต่ก็อยากจะพูดถึงทุกตัวโดยคร่าวๆให้ฟังอยู่ดีค่ะ><

too faced chocolate bar

อย่างที่หลายๆคนคงทราบกัน จริงๆปลายปีที่ผ่านมา too faced เพิ่งออก chocolate bar ตัวใหม่มา

ชื่อว่า semi-sweet chocolate bar ตอนแรกเราอยากได้อันนี้มากกว่า

แต่เท่าที่อ่านรีวิวแล้วมีแต่คนบอกยังสู้อันแรกไม่ได้

แล้วเราดูสีละคิดว่าอันแรกมันได้ chocolate eyes จริงๆมากกว่า เลยเลือกที่จะซื้อตัวแรกมาค่ะ

ชอบมาก รู้สึกเหมือนเอาโอวัลตินทาตา กลิ่นหอมจนหิวเลย

แล้วเป็นครั้งแรกที่แต่งตาแล้วแฟนชมว่าสวย ทำให้เรายิ่งชอบมากกว่าเดิมอีก

เพราะปกติผู้ชายเค้าแยกกันไม่ออกว่าสีตาแต่ละวันต่างกันยังไงด้วยซ้ำ

ส่วนเนื้อผลิตภัณฑ์ก็ดีสมคำร่ำลือ ทาง่าย รู้สึกว่าไม่ต้องเอาแปรงขยี้เพื่อให้สีมันblend แบบแค่แตะๆ

มันก็blendรวมกันเองเลย พูดละก็ฟิน รู้สึกคุ้มเงิน งรื้ออออ

Too faced matte eye palette

อันนี้ซื้อมาพักนึงแล้ว ตั้งแต่ได้มาใช้ทุกวันเลยค่ะ

เราใช้แถวบนสุดบ่อย เพราะได้ลุคที่ธรรมชาติมาก เหมาะกับการไปเรียน

เวลาไปเรียนเราอยากได้ลุคแบบ make up no make up น่ะค่ะ

ซึ่งคือถ้าeyeshadowมีชิมเมอร์นี่คือจบ ต่อให้เป็นสีไฮไลท์แต่คือรู้ทั้งบางว่าแต่งหน้ามา

เราก็เลยใช้สีแมทท์ เป็นธรรมชาติดี สีคล้ายสีผิวจริงๆ เลยเหมือนแค่เพิ่มแสงเงาเล็กน้อยน่ะค่ะ

แถวล่างๆก็สวย ได้ลุคแบบ sophisticated เพราะตาไม่วาว เลยดูเป็นผู้ใหญ่กว่า

แต่ข้อควรระวังคือแถวกลาง ถ้าแต่งไม่ดีตาจะเทา และเหมือนโดนต่อยมาค่ะ -.-

Tarte Pin up girl Palette

ยังต้องบรรยายอะไรอีกไหมมม ดีมากๆ สีติดทนสวยงาม ปัดแล้วสวยเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

เพราะก่อนทาหน้าจะขาววอกเป็นผี พอปัดblushแล้วดูสุขภาพดีมากๆ

สีโปรดที่ปัดทุกวันคือสีแรกและสีที่สองจากซ้าย มันดูแก้มแบบสุขภาพดีน่ะค่ะ

สีที่เกลียดที่สุดคือสีขวาสุด เพราะ pigment ชัดไปมากกก ควบคุมยากมากกก

คือในโลกความเป็นจริงมันไม่ได้มีเวลามานั่งควบคุมทุกกระเบียดนิ้วขนาดนั้น

เช้าๆคนมันรีบน่ะค่ะ อยากได้แบบสีปานกลาง ทาง่ายมากกว่า

Bite high pigment lip pencil

อันนี้ไม่มีขายที่ไทยค่ะ เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ตัดใจสั่งจาก sephora us

คืออยากได้มากเพราะมีแต่คนบอกมันดี

แล้วมันก็ดีสมคำร่ำลือ คือไม่รู้สึกว่าปากแห้งเลยยยยยย แล้วสีติดทน ชัด ไม่วาว

(เราเป็นคนไม่ชอบลิปกลอสค่ะ โดยส่วนตัวรู้สึกว่ามันเหมือนคนกินไก่ทอดแล้วไม่เช็ดปาก)

คือเนื้อมัน creamy แต่ไม่ดูมันวาวเกินไป ให้ความชุ่มชื้นเหมาะกับหน้าหนาวมากๆค่ะ

มี swatch สีให้ดูด้านล่างค่ะ (ไม่ได้แต่งรูปหรือปรับแสงเลยหน้าอาจจะเหียกไปบ้าง ขออภัยค่า -,-)

Bite matte creme lip crayon

รักมากกกกก พอกับอันบน แต่อันนี้ทาแล้วปากแห้งกว่า นิดส์นึง

pigment แน่นกว่าอันบน เนื้อหนักกว่า (มี swatch บนแขนด้านบนนะคะ สี glace กับ gavi)

เป็นลิปแมทท์ที่moisturizeไปในเวลาเดียวกัน

และfinishไม่แห้งผากเหมือนlip matteหลายๆตัว

ที่สำคัญเป็นลิปแมทท์ตัวเดียวที่ทาได้โดยไม่ต้องใช้ลิปบาล์มก่อน ปลื้มปริ่มมากก

no bleeding lips secret lip liner

สั่งมาเพราะขี้เกียจมีlip linerหลายสีค่ะ :P เป็นลิปไลเนอร์ใส เหมือนเป็นแวกซ์ช่วยกันไม่ให้ลิปไหล

เราประสบปัญหาปากเบินเหมือนโดนต่อยเวลาทาสีเข้ม ในช่วงเย็นจะไหลมาก

ทารอบปากก่อนลงลิป ช่วยได้มากเลยค่ะ ไม่รู้จักยี่ห้อนี้ แต่ทำตามที่claimได้ถือว่าโอเคค่ะ

Shisedo spotcover foundation

ซื้อมาตอนลดจาก 1200 เยน (~400 บาท) เหลือ 800 เยน (~240 บาท) ในช่วงปีใหม่

คุ้มมากๆๆๆ เราเลยตัดสินใจสอยมา

เพราะเคยอ่านรีวิวของใครซักคนในจีบันเนี่ยแหละ (ขอโทษด้วยนะคะที่ลืมชื่อไปT.T)

บอกว่าคล้ายๆ mac studio finish concealer แต่ราคาถูกกว่า

คือเราไม่เคยใช้ mac ก็คงเทียบไม่ได้ แต่เนื้อเหนียว และปกปิดได้ดีมากค่ะ

ไม่ต้องกลบหลายชั้นเลย เนื้อหนักแน่นเว่อ

เลยยังไม่ได้ลองใช้ปิดใต้ตา เพราะท่าทางจะเหมือนโบกปูนไปซักเล็กน้อย

Kat Von D lock it concealer

สั่งมาจาก sephora us เช่นเคยเพราะที่ไทยแบรนด์นี้ยังไม่เข้า

เราชอบของ Kat Von D หลายอย่างมากกก โดยเฉพาะ foundation

blogger ตปทเค้าอวยกันถล่มทลาย แต่เราไม่กล้าซื้อเพราะสั่งจากเน็ตกลัวสีไม่ตรงแล้วแป้ก

เลยลองสั่งconcealer มา เพราะอย่างน้อยถ้าสีขาวไปก็เอามาทาใต้ตาได้

หลังจากได้มาใช้นี่ใช้ต่อเนื่องมาทุกวันเลยค่ะเพราะชอบมาก

เป็นแบบ medium coverage ปิดสิวได้แค่พอทน เพราะต้องทาหลายชั้น แต่ปิดแพนด้านี่เลิศมาก

คือเนื้อไม่หนักจนดูไม่เป็นธรรมชาติ และถ้าอยากปกปิดมากก็ทาทับหลายชั้นได้ไม่ดูคราบ

แต่เนื้อผลิตภัณฑ์เกลี่ยง่ายมากๆ เพราะเนื้อนุ่มนิ่มเหมือนเจลเลยไม่ตกร่องเลย

สรุปว่าปลื้มสุดๆ คงจะสั่งรองพื้นมาใช้ในเร็วๆนี้

Glamglow super mud and Fresh Dare to bare Sugar lip ritual

อันนี้จะนำมารีวิวแยกภายหลังนะคะ :)

Heroine Make Long and Curl Mascara Super WP

เจ้าของรางวัล best cosme - mascara 2014 นะคะ (ใครสนใจอ่านเกี่ยวกับ best cosme ลองย้อนดูกระทู้เก่าของเราดูได้นะคะ หรือที่บลอคของเราตามลิ้งด้านล่างค่า)

เราไปสอยมาลองเพราะชนะรางวัลเนี่ยแหละ สุดยอดสมคำร่ำลือจริงๆ

ช่วยพยุงขนตาอันแสนสั้นและเหี่ยวของเราได้ดีมาก เพราะเนื้อเบา แต่ติดทน

ขนตาดูยาวเป็นแพขึ้นค่ะ ปลื้มปริ่ม

Shu Uemura S curler

คือตอนแรกกะจะไม่ซื้อแล้วค่ะตัวนี้ ไม่ได้อยากได้เว่ออะไร

แต่เจอลดราคาหลายทีเข้า ก็อดใจไม่ไหวซื้อมาจนได้ค่ะ

สำหรับตัวนี้รีวิวไปสองทางนะ คือบางคนชอบมาก บางคนไม่ชอบเลย

ซึ่งพอได้ทดลองใช้จริงๆเราก็เข้าใจนะว่าทำไมมันเป็นแบบนี้

เพราะใช้ค่อนข้างยาก เราว่าขามันกางได้น้อยกว่าขาที่ดัดขนตาธรรมดา

คือสมมุติอันธรรมดากางได้45 องศา อันนี้ได้แบบ 30 องศายังงี้อ่ะค่ะ

ทำให้รู้สึกว่า movement โดนจำกัดมากๆ

ข้อดีคือไม่มีขอบค่ะ ขอบเลยไม่ชนขนตา แต่ข้อเสียคือกะตำแหน่งยากมาก แทงตาไปหลายหนอยู่

เพราะอยากจะดัดที่โคนแต่เข้าไม่ถึง

แต่อย่างไรก็ตามเราคิดว่ามันจะมีประโยชน์ถ้าฝึกใช้ให้เซียนกว่านี้

แต่คงใช้เป็นตัวหลักไม่ได้ เพราะค่อนข้างเล็กค่ะ เช้าๆรีบเวลาไม่พอ

ใช้ช่วยแก้เวลาดัดตรงปลายๆไม่ถึงน่าจะดีกว่าค่ะ

จบแล้ว~ พิมไปพิมมารู้สึกว่าเริ่มจะยาว -.-

ใครสนใจตัวไหนหรือมีคำถามสามารถถามได้เลยนะคะ

ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ค่า ><