Review ร้านทำผมปลอดสารพิษ @ St. Paul
MeekPeakThailand1ร้านทำผมปลอดสารพิษ ไม่ใช่ผักปลอดสารพิษนะ คือการดูแลสุขภาพที่แท้จริงก็ต้องปลอดสารพิษทั้งภายในและภายนอกใช่ไหมคะ? อาจจะทำได้ไม่ทุกอย่าง แค่ทำเท่าที่เราทำได้แล้วสุขกาย สบายใจสำคัญที่สุดค่ะ มาเข้ารายละเอียดกันดีกว่า
อย่างที่ทราบกันนะค่ะว่าเราไม่สระผมด้วยสารเคมี หรือง่ายๆคือแชมพูที่เขาขายกันตามร้านทั่วไปมาได้ประมาณจะ 4 เดือน แล้วถึงปัจจุบัน (วิธีสระที่เราใช้ อยู่นี่ค่ะ) ทีนี้พอไม่ใช้สารเคมีมาตั้ง 4 เดือน อยู่ๆจะให้เดินเข้าร้านทำผมแล้วให้ช่างเอาสารเคมีมาสระผมให้เราอีก มันก็รู้สึกจะไม่ง่ายอ่ะค่ะ เลยเป็นที่มาของการเสาะหา และไปตัดผมที่ร้านออร์แกนิคครั้งนี้
ร้านซาลอนสีเขียว (ที่เมืองไทยเรียกกัน) หรือร้านซาลอนออร์แกนิคแห่งนี้อยู่ดาวทาวน์ เซนท์พอล ชื่อร้าน The Hive Salon (เดี๋ยวตอนท้ายจะเขียนรายชื่อของร้านซาลอนออร์แกนิคที่เมืองไทยไว้ให้นะค่ะ เผื่อใครอยากลองดู) ร้านปลอดสารพิษ แน่นอนค่ะว่าทุกอย่างในร้านปราศจากสารเคมี ทางร้านใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้ลงทะเบียนออร์แกนิค ส่วนประกอบจากธรรมชาติ ปราศจากสารกันบูด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ทุกอย่างค่ะ ทางร้านบอกว่าเทคโนโลยีตอนนี้คือยังไม่มีครีมเปลี่ยนสีผม หรือน้ำยาดัดผมที่ปลอดสารพิษจริงๆ ครีมเปลี่ยนสีผมที่ดีที่สุดตอนนี้คือปราศจากแอมโมเนีย (ที่ทำให้ผมแห้ง) มาดูภาพภายในร้านกันเลยดีกว่า
เป็นร้านเล็กๆดูน่ารักค่ะ ตกแต่งด้วยกระจกบานเล็กๆทั่วร้าน มีกระจกบานใหญ่เท่าบ้านหน้าเก้าอี้ทำผม สังเกตุดูช่างทุกคนจะฮิปมากกก ตอนแรกเข้าไปพอเห็นช่างแต่ละคนแล้ว เราก็แบบ... มันจะใช่สไตล์ชั้นหรอเนี่ย ช่างทำผมเราโดยเฉพาะค่ะสักไปทั้งแขน 555+ แต่เรามาตัดสินกันที่ความสามารถและจิตบริการของช่างค่ะ
อีกอย่างคือร้านนี้เขาเป็นช่างเฉพาะทางสำหรับคนผมหยิก ผมดัดลอนหรือผมหยักศกโดยเฉพาะ เข้าทางเราพอดี ผมเราปกติก็ดูตรงๆนี่แหละ แต่ยิ่งยาวจะยิ่งเห็นว่าปลายผมหยักเป็นตัว S เวลาเปียกน้ำนี่ชัดเลยว่าเป็นคนผมหยักเล็กน้อย เราว่าคนไทยปกติก็ผมแบบนี้กันรึเปล่าค่ะ? เคยลองสังเกตุผมตัวเองเวลาเปียกกันบ้างไหมเอ่ย? หรือว่าส่วนใหญ่ผมตรงเป๊ะกันหมด?
ก่อนตัดช่างถามค่ะว่าอยากได้อะไรแบบไหน เราตอบไปตามตรงว่า ชั้นไม่รู้ ไว้ใจช่างเลยค่ะ แต่ขออย่างเดียวคือยังอยากไว้ผมยาวอยู่ เขาก็บอกว่าเป็นเพราะส่วนสูงมาตรฐาน(สาวไทย)อย่างเรา คุณไม่ควรไว้ผมยาวจนเลยอก เพราะปล่อยไว้มันก็ห้อยอยู่อย่างนั้นทำให้สภาพผมโดยรวมดูลีบ แทนที่จะดูมีน้ำหนัก พองสวยได้รูป คำถามอีกอย่างคือปกติทำผมใส่เจลอะไร ยังไง ตอบตามตรงเช่นเคย ชั้นสระเสร็จ จบเลยไม่ทำอะไร ขึ้เกียจ ไม่ไดร์ (โดยส่วนใหญ่ถ้ามีเวลารอให้แห้งเอง) ไม่มีเจล ไม่สเปรย์ใดๆทั้งสิ้น ขอสวยแบบธรรมชาติ (แล้วเชิดหน้า 555) ช่างคนนี้ดีมากๆค่ะ พอเราตอบแบบนั้นเขา บอกว่าจะตัดผมเราให้เข้ากับความหยักของเส้นผมที่มีตามธรรมชาติ พอผมแห้งหลังสระแล้ว ผมข้างหลังที่หยักนิดๆจะยังดูดีได้โดยที่ไม่ต้องทำอะไร(ขอบอก นะค่ะว่าช่างทั่วๆไปได้แต่พูดค่ะ แต่ทำไม่ได้ ไม่ว่าจะจ่ายแพงแค่ไหน อันนี้จากประสบการณ์ที่ผ่านๆมา หลังทำผมเสร็จแต่ละนางก็จะบอกว่า คุณน้องต้องใช้เจลอันนี้ สเปรย์อันนู้นนะค่ะมันถึงจะดูดี) เราก็ต้องมาดูกันค่ะว่าเขาทำได้อย่างที่พูดไหม ถ้าทำได้กลับไปแน่นอน ทำไม่ได้ก็อาจจะกลับไปแต่ขอเปลี่ยนช่าง
เริ่มทำสระผม เขาก็ชวนคุยแบบทั่วๆไปค่ะ เพิ่งมาเป็นครั้งแรกหรอ รู้จักร้านได้ไง อะไรทำนองนี้ พร้อมกับอธิบายแชมพูและครีมนวดที่ใช้ว่าเป็นออร์แกนิคนะ ระหว่างสระก็ได้ผ้าร้อนๆมาประคบหน้าพร้อมกับที่ช่างนวดศรีษะให้เราไปด้วย รู้สึกผ่อนคลายดีมากๆตอนนี้ จะหลับ สระเสร็จก็ไปนั่งเก้าอี้หน้ากระจากบานใหญ่ เริ่มตัดผม ระหว่างตัดก็คุยเฮฮาๆกันไป
ตอนคุยนี่ก็สัปเพเหระอ่ะค่ะ แต่มีเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ ประมาณว่าบรรดาช่างทำผมของที่อเมริกาเขาจะรู้กันแต่ผู้บริโภคทั่วๆไปไม่ค่อย รู้ เรื่องคือแรกเริ่มเดิมทีผู้ก่อตั้งแบรนด์แชมพูอันโด่งดังที่ชื่อ อเวด้า เขาตั้งใจทำผลิตภัณฑ์ดีๆปลอดสารพิษ ออร์แกนิคออกมาให้ผู้บริโภคใช้ ทำไปทำมาบริษัทเริ่มใหญ่ขึ้นมาก คือประสบความสำเร็จมากๆนั่นแหละ จนกระทั่งมีหุ้นส่วน มีผู้อำนวยการฝ่ายต่างๆ และที่สำคัญคือ บอร์ดผู้บริหาร ตอนเริ่มโต แบรนด์เริ่มดัง คนหันมาใช้กันเยอะขึ้น แน่นอนกำไรก็มา ทีนี้ผ่านมาเป็นสิบๆปีเริ่มอยู่ตัว บอร์ดผู้บริหารก็บอกว่า เราต้องทำกำไรให้มากกว่านี้ ต้องทำให้สินค้าอยู่ได้นานขึ้น (คือมีอายุยาวนานขึ้น จะได้วางขายได้นานๆ) ต้องลดต้นทุนนะ ซึ่งก็คือเรื่องปกติเปล่าค่ะถ้าบริษัทเล็งผลกำไรเป็นสำคัญ โดยเฉพาะบริษัทใหญ่ๆที่มีหุ้นส่วน ผู้ถือหุ้นก็ต้องอยากทำกำไรเพิ่มทุกปีป่ะ? จะให้ได้กำไรเท่าเดิมนางก็ไม่เอา นางบอกกำไรต้องเพิ่มทุกปีดิ ถ้าเท่าเดิม แสดงว่าผู้บริหารไม่มีศักยภาพ ไปลงทุนที่อื่นดีกว่า (ว่าไปโน่น ได้เยอะแล้วก็ไม่รู้จักพอหรอกบางคนน่ะ ขอบ่นเลย) ผู้ถือหุ้นบีบบอร์ดบริหาร บอร์ดจะมาบีบใครละค่ะถ้าไม่ใช่ผู้ก่อตั้งและคิดค้นสูตร (งานเข้าเลย) ตามใบสั่งคือ ลดต้นทุน ทำให้สินค้าวางขายได้นานขึ้นมีอายุนานขึ้น ก็ต้องปรับสูตรดิ ปรับแบบไหนให้ลดต้นทุน อยู่ได้นานขึ้นก็คิดกันเองนะค่ะ
ตัวผู้ก่อตั้งก็ทำตามสั่งอ่ะแหละแรกๆ ไปๆมาๆแกก็ขอลาออก เพราะนโยบายทำกำไรของบริษัทมันขัดกับความต้องการส่วนบุคคลของแก ความตั้งใจตั้งแต่เริ่มของนางคือ นางอยากผลิตสินค้าดูแลผมที่ปลอดสารพิษจริงๆ แพงไม่เป็นไร กำไรน้อยหน่อยไม่ว่า แต่นางอยากให้คุณภาพมาก่อน ยิ่งทำคุณภาพยิ่งดี ไม่ใช่ยิ่งทำคุณภาพลงคลอง หลังลาออกก็มาเปิดบริษัทเลยไม่ได้นะค่ะ เพราะเซ็นสัญญาว่าจะไม่แข่งขันธุรกิจตัวเดียวกันเป็นเวลา 3 ปี ช่วงนี้แกก็คิดค้นสูตรใหม่ไป 3 ปีถัดมาบริษัทใหม่ของคุณพี่ก็เปิดตัวขึ้น และภายใน 3-4 ปีก็โตขึ้นมากๆ จากขายออนไลน์อย่างเดียวมาเปิดร้านกันเลยทีนี้ แบรนด์ใหม่นี้มีชื่อว่า Intelligent Nutrients ค่ะ ราคาก็โหดตามสไตล์อเวด้า แต่จะได้ของปลอดสารพิษจริงและคุณภาพเทพ ส่วนตัวเราขอบายค่ะ อ้าว! ไว้รวยแล้วว่ากัน ตอนนี้ขอสระแบบถูกๆบ้านๆของเราไป 555+ แค่เล่าให้ฟังเฉยๆไง มาดูผมเราดีหว่าหลังตัดเสร็จ
วิธีไดร์ผมให้ได้แบบนี้นะค่ะ ง่ายมาก เราเห็นช่างทำ ตอนแรกเป่าไดร์ที่หนังศรีษะให้หนังหัวแห้งก่อน ทีนี้ตัวผมจะยังชื้นๆอยู่มาก คุณก็แค่บิดผมช่อไม่ใหญ่มากให้เป็นเกลียว (เหมือนเวลาอายคนมาจีบนั่นแหละ) พอได้เกลียวผมแล้วก็ไปพันเข้ากับแปรงไดร์ผมแบบกลม พันจนสุดเกลียวเลยนะ ค่อนข้างไม่หลวมเวลาพัน แล้วเป่าไดร์ร้อนสลับเย็นสัก 2 นาทีต่อเกลียว จากนั้นย้ายไปทำแบบเดิมให้ทั่วหัว สเปรย์น้ำเกลือใส่ผมนิดหน่อย พอผมแห้งใช้นิ้วมือสางๆเกลียวผมให้ดูธรรมชาติ จบ ถามว่าเรากลับบ้านไปจะมานั่งมำแบบนี้ไหม? ไม่นะ 555+ ขี้เกียจ ยกเว้นไปงาน ทีนี้มาดูรูปตอนอยู่บ้านแล้วสระเองบ้าง ถ้าอยากรู้ว่าก่อนตัดผมเราเป็นแบบไหนลองกลับไปดูโพสก่อนหน้าได้นะค่ะ
ภาพซ้ายหลังสระผมเสร็จใหม่ๆแห้งเอง ไม่ไดร์ ภาพขวาหลังจากไม่สระผมมา 3 วัน
คะแนนความสามารถช่างให้ 10 เต็ม 10 เราพอใจผมเราค่ะแม้ตอนไม่ไดร์หรือไม่ทำอะไรเลย ราคาทำผมให้ 8 จิตบริการให้ 8 ในส่วนของราคานะค่ะ ก็จะมีหลายราคาขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนทำผมให้คุณ ถ้าเป็นมาสเตอร์สไตลิสท์ก็แพงกว่าสไตลิสท์ในร้านทั่วๆไปค่ะ
ทีนี้มาดูร้านทำผมปลอดสารพิษในไทยกันบ้าง มีไม่กี่ร้านอ่ะค่ะ บางร้านปลอดสารพิษที่ว่าคือมีเครื่องฟอกอากาศในร้านเฉยๆ ไม่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ เราก็งงเหมือนกัน เอาเป็นว่าที่ลงมาให้ดูนี่คือใช้ผลิตภัณฑ์ปราศจากสารเคมี ใครรู้จักร้านอื่นๆอีกก็แนะนำได้นะค่ะ เขียนคอมเม้นท์ทิ้งไว้ได้นะ
https://siratawan42.wordpress.com/tag/ซาลอน/
http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9550000114431
Discussion (0)