ยาสิว Roaccutane อันตรายที่คุณควรใส่ใจ !!
fonkan43บทความ : จากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน
วันนี้ขอนำเสนอบทความดีๆ เกี่ยวกับยาสิวนะคะ เพราะว่าส่วนตัวเป็นสิวจึงต้องสนใจเป็นพิเศษ ขอแชร์ความรู้เพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ จ๊ะ
น.พ.ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์อเมริกันบอร์ดสาขาโรคผิวหนังและภูมิแพ้ผิวหนัง เปิดเผยว่า เวลานี้มีคนไทยนิยมนำยารักษาสิว กรดไวตามินเอ ชนิดรับประทาน หรือ ไอโซเตรทติโนอิน (Isotre-tinoin) มาใช้กันอย่างพร่ำเพรื่อ ทั้งที่จริงแล้วเป็นยาควบคุมพิเศษตามกฎหมายที่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์ผิวหนัง และควรนำมาใช้รักษาในกรณีจำเป็นเท่านั้น
วันนี้ขอนำเสนอบทความดีๆ เกี่ยวกับยาสิวนะคะ เพราะว่าส่วนตัวเป็นสิวจึงต้องสนใจเป็นพิเศษ ขอแชร์ความรู้เพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ จ๊ะ
น.พ.ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์อเมริกันบอร์ดสาขาโรคผิวหนังและภูมิแพ้ผิวหนัง เปิดเผยว่า เวลานี้มีคนไทยนิยมนำยารักษาสิว กรดไวตามินเอ ชนิดรับประทาน หรือ ไอโซเตรทติโนอิน (Isotre-tinoin) มาใช้กันอย่างพร่ำเพรื่อ ทั้งที่จริงแล้วเป็นยาควบคุมพิเศษตามกฎหมายที่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์ผิวหนัง และควรนำมาใช้รักษาในกรณีจำเป็นเท่านั้น
ปัจจุบันยาดังกล่าวกลับมีการนำมาวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยตามร้านขายยาทั่วไป โดยเฉพาะร้านขายยาหน้าโรงพยาบาลใหญ่ๆ ทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถหาซื้อได้ง่าย เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายจากฤทธิ์แทรกซ้อนของยา
นอกจากนี้ ร้านเสริมสวยหรือสถานเสริมความงามที่ไม่มีแพทย์ประจำจำหน่ายยาประเภทดังกล่าว โดยอวดอ้างโฆษณาว่ารักษาสิวได้หรือโฆษณาชวนเชื่อด้วยอุปกรณ์ทันสมัย และบางแห่งยังมีการสั่งสารเคมี มาทำเลียนแบบยากลุ่มนี้อีกด้วย
ทำให้ผู้บริโภคต้องอยู่ในภาวะเสี่ยงกับอันตรายโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากไม่ทราบข้อจำกัด หรือข้อห้ามในการใช้ยานี้ เพราะผู้ให้บริการจะไม่บอกข้อเท็จจริงเกี่ยวกับภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่มักให้บริการเป็นคอร์สๆ ละประมาณ 1,000 บาท หรือมากกว่า ซึ่งบางคนอาจใช้หลายคอร์ส โดยคอร์สหนึ่งจะมียากิน 10 เม็ด รับประทานวันละ 1 เม็ด เฉลี่ยเม็ดละ 100 บาท จึงแพงกว่ารักษาตามคลินิกที่มีแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังให้บริการ อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการได้รับยาในปริมาณสูง
ดังนั้น หากรับยาไปกินแล้วเกิดอาการ ริมฝีปากแห้ง จมูกและตาปากแห้ง ฝ่ามือฝ่าเท้าลอก ปวดข้อ กระดูก เบื่อ ปวดศีรษะ ไขมันในเลือดสูง แสดงว่าได้รับยาในกลุ่มกรดวิตามินเอ ให้รีบขอคำแนะนำ หรือปรึกษาแพทย์ผิวหนังโดยด่วน
สำหรับยาดังกล่าวใช้กันทั่วโลกมากว่า 20 ปี จัดว่ามีความปลอดภัยและประสิทธิผลในการรักษาสูง แต่ก็ต้องใช้ยาด้วยความระมัดระวังจากผลข้างเคียงของฤทธิ์ยา เช่น ต้องไม่ตั้งครรภ์ระหว่างรับประทานยานี้ และต้องหยุดยาครบ 1 เดือนจึงจะตั้งครรภ์ได้อย่างปลอดภัย ห้ามให้นมบุตรขณะ กินยานี้ ต้องไม่ใช้ยานี้ร่วมกับยาปฏิชีวนะบางตัวที่อาจเสริมฤทธิ์กัน ทำให้ความดันในสมองสูงและปวดศีรษะ แต่ยานี้ไม่ทำให้เป็นหมันอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่โรคแทรกซ้อนหลีกเลี่ยงได้ หากได้รับยาในขนาดที่เหมาะสม และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ขอทิ้งท้ายด้วย เกร็ดสุขภาพ 5 เคล็ดลับดีๆ กับการรักษาสิวด้วยตัวคุณเองในแบบชีวจิตมาฝากกันค่ะ (ที่มาจากเวปชีวจิต)
1. ปรับอาหารการกินด้วยสูตรชีวจิต ให้ถูกต้อง
* ไม่ควร รับประทานแป้งข้าวและของหวานที่ทำจากน้ำตาลทรายขาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งช็อกโกแลต รวมทั้งอาหารประเภทมันๆ และของ ทอดทั้งหลาย
* ควร หันมารับประทานผักและผลไม้ให้มาก เพราะมีวิตามินซี วิตามินอี เบตาแคโรทีน แร่ธาตุโครเมียม และคลอโรฟิลล์ เพื่อช่วยปรับ สมดุลของฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย และเลือกรับประทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี ได้แก่ ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีท อาหารทะเล เป็น ต้น เพื่อช่วยลดการอักเสบและการติดเชื้อของสิว นอกจากนี้ยังทำให้แผลเป็นหายเร็วขึ้น ด้วยการสร้างเนื้อเยื่อใหม่แทนเซลล์ผิวหนังที่เสีย ไป
2. ใช้ดีท็อกซ์ช่วยกำจัดท็อกซิน เพราะการเป็นสิว ย่อมแสดงว่าร่างกายในช่วงนั้นมีเจ้าท็อกซินหรือพิษเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้น การทำดีท็อกซ์ ตามหลักชีวจิต เพื่อช่วยขจัดพิษในร่างกาย หลังจากทำดีท็อกซ์เสร็จ ก็เข้าห้องอบไอน้ำหรือ ซาวน่า เพื่อขับพิษออกทางผิวหนังได้อีกทางหนึ่ง ค่ะ
3. ดื่มน้ำสมุนไพรที่ไม่มีน้ำตาล เช่น ลูกใต้ใบ มะตูม หรืออื่นๆ ตามตำราชีวจิต เพราะน้ำจะเป็นตัวพาของเสียสิ่งสกปรกออกไป และจะได้ ประโยชน์จากสมุนไพรแต่ละชนิดอีกด้วย
4. ออกกำลังกายจนเหงื่อออก ช่วยให้เลือดหมุนเวียนดี และทำให้ต่อมไขมันเปิดและพาหัวสิวให้ละลายง่าย ไม่เกิดสิว แต่ที่สำคัญ อย่าลืม ล้างหน้าให้สะอาดทุกครั้งหลังการออกกำลังกาย
5. ทำจิตใจให้สงบ มีอารมณ์สดชื่นแจ่มใส ความผ่อนคลายนี้จะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง รวมทั้งทำให้เม็ดเลือดขาวใน ร่างกายทำงานได้ดีขึ้น
ด้วยรักและห่วงใยจ้ะ
1. ปรับอาหารการกินด้วยสูตรชีวจิต ให้ถูกต้อง
* ไม่ควร รับประทานแป้งข้าวและของหวานที่ทำจากน้ำตาลทรายขาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งช็อกโกแลต รวมทั้งอาหารประเภทมันๆ และของ ทอดทั้งหลาย
* ควร หันมารับประทานผักและผลไม้ให้มาก เพราะมีวิตามินซี วิตามินอี เบตาแคโรทีน แร่ธาตุโครเมียม และคลอโรฟิลล์ เพื่อช่วยปรับ สมดุลของฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย และเลือกรับประทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี ได้แก่ ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีท อาหารทะเล เป็น ต้น เพื่อช่วยลดการอักเสบและการติดเชื้อของสิว นอกจากนี้ยังทำให้แผลเป็นหายเร็วขึ้น ด้วยการสร้างเนื้อเยื่อใหม่แทนเซลล์ผิวหนังที่เสีย ไป
2. ใช้ดีท็อกซ์ช่วยกำจัดท็อกซิน เพราะการเป็นสิว ย่อมแสดงว่าร่างกายในช่วงนั้นมีเจ้าท็อกซินหรือพิษเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้น การทำดีท็อกซ์ ตามหลักชีวจิต เพื่อช่วยขจัดพิษในร่างกาย หลังจากทำดีท็อกซ์เสร็จ ก็เข้าห้องอบไอน้ำหรือ ซาวน่า เพื่อขับพิษออกทางผิวหนังได้อีกทางหนึ่ง ค่ะ
3. ดื่มน้ำสมุนไพรที่ไม่มีน้ำตาล เช่น ลูกใต้ใบ มะตูม หรืออื่นๆ ตามตำราชีวจิต เพราะน้ำจะเป็นตัวพาของเสียสิ่งสกปรกออกไป และจะได้ ประโยชน์จากสมุนไพรแต่ละชนิดอีกด้วย
4. ออกกำลังกายจนเหงื่อออก ช่วยให้เลือดหมุนเวียนดี และทำให้ต่อมไขมันเปิดและพาหัวสิวให้ละลายง่าย ไม่เกิดสิว แต่ที่สำคัญ อย่าลืม ล้างหน้าให้สะอาดทุกครั้งหลังการออกกำลังกาย
5. ทำจิตใจให้สงบ มีอารมณ์สดชื่นแจ่มใส ความผ่อนคลายนี้จะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง รวมทั้งทำให้เม็ดเลือดขาวใน ร่างกายทำงานได้ดีขึ้น
ด้วยรักและห่วงใยจ้ะ
Discussion (43)