Review : เครื่องสำอางค์ Jill Stuart แบรนด์ญี่ปุ่นที่ซื้อจาก EVERRICH Duty Free ที่ไต้หวัน

เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2557 ที่ผ่านส้มได้ไปประชุมที่ไต้หวันก็เลยได้ช้อปปิ้งกรุบกริบใน Duty Free EVERRICH ที่นั่น ไปแพ้ความน่ารักมุ๊งมิ๊งฟรุ๊งฟริ๊งของแบรนด์ Jill Stuart (แบรนด์ญี่ปุ่น) เลยสอยมาอย่างที่เห็นเนี่ยแหละจ้า

มาดูกันทีละตัวกันเลยละกันเนอะ เริ่มจาก

1. Jill Stuart Mix Blush Compact N (Travel Exclusive)No. N113 มีขายเฉพาะใน Duty Free (ขนาด 7 กรัม ซื้อมาจากไต้หวัน ราคา NT$1,305)

เอาเป็นว่า ซื้อเพราะ packaing ล้วนๆ มันน่ารักมากๆ หวานๆเจ้าหญิงสุดๆ มีลวดลายดอกไม้ด้วย พิเศษตรงนี้

เพราะถ้าที่ขายทั่วไปตามห้างเนี่ย มันจะไม่มีลวดลายดอกไม้สีชมพูค่ะ เรียบๆแบบรูปด้านล่างนี้

ตลับสวยไม่พอยังมีแปรงติดพ่วงมาด้วย มีคริสตัล swarovski สีชมพูติดที่ด้ามแปรงอีก ตายๆๆๆๆๆ

แล้วเวลาใช้แปรงนะ ก็แค่เลื่อนตรงคริสตัลสีชมพูขึ้นมา แปรงก็จะโผล่มาด้านบน แล้วขนแปรงสีขาว อัดแน่น แล้วก็นิ่มมากจริงๆ เลิฟค่ะ

สำหรับโทนสีนี้จะออกชมพูเป็นหลักเลย ใสๆ แบ๊วๆ จะมี 4 สีในตลับเดียว

เนื้อบลัชออนจะเป็นเนื้อฝุ่นอัดแข็ง มีปั๊มลวดลายบนตัวยบลัชด้วย

เวลาใช้ ก็ให้ปาดวนๆให้ครบทุกสี แล้วค่อยมาปัดแก้มค่ะหรือถ้าใครชอบโทนสีไหนเป็นพิเศษก็จุ่มขึ้นมาปัดเฉพาะโทนสีนั้นๆได้ค่ะ

สีจะออกมาประมาณนี้ เป็นชมพูอ่อนๆ แต่ถ้าอยากให้สีชัดขึ้นก็ให้ปัดหลายๆรอบหน่อยหรือ อาจจะต้องปัดวนๆแถวบริเวณสีชมพูเข้มๆเยอะหน่อย แล้วค่อยมาปัดแก้ม

ข้อดีของบลัชออนตัวนี้คือ เม็ดสีละเอียด ทำให้เบลนด์สีง่าย แล้วก็ยังเอามาทาเป็นอายแชโดว์ได้ด้วยนะคะส่วนจุดด้อยก็คือ สีติดไม่ค่อยทน เพราะด้วยเม็ดสีที่ค่อนข้างบาง ทำให้ต้องปัดหลายรอบแต่ถ้าไม่ซีเรียสอะไร ก็เอามาปัดระหว่างวันได้ค่ะมันไม่เป็นคราบด้วย โดยรวมโอเคเลยนะ แต่แอบหนักนิดนึงเวลาพกใส่กระเป๋าแต่ก็นะ แพคเกจจิ้งสวยขนาดนี้ ยอมหนักละกัน ฮ่าๆๆ

2. Jill Stuart Melty Lip Balm No. Orange Coral (limited color) (ขนาด 7 กรัม ซื้อมาจากไต้หวัน ราคา NT$435)

อันนี้ซื้อเพราะความน่ารักของแพคเกจจิ้งแน่นอนล่ะอย่างนึงแล้วก็ชอบเนื้อลิบบาล์มของเค้าด้วย แล้วก็กลิ่นด้วย

ลิบบาล์มตัวนี้จะมีส่วนผสมของ Rose honey, Orange honey,Lavender honey, Rosehip oil, Shea butterสีนี้จะเป็นสี Orange Coral ออกส้มอ่อนๆค่ะ เป็นสี limited ด้วยค่ะปล.กลิ่นลิบบาล์มรุ่นนี้หอมหวานยังกับขนมเลย

เป็นลิบบาล์มอีกตัวที่ชอบใช้มาก และทาบ่อยที่สุด แม้ว่า texture ของลิบบาล์มจะคล้ายกับ vaselineแต่มันจะไม่เหนียวเหนอะ แล้วมันก็บำรุงให้ริมฝีปากชุ่มชื้น ปากไม่แห้ง แล้วก็ให้สีอ่อนๆ เป็นธรรมชาติเอาไว้แบบวันไหนไม่อยากแต่งหน้าเยอะ ทาลิปบาล์มรุ่นนี้จบเลย ก็ได้ลุคใสๆ เบาๆ แถมยังช่วยบำรุงริมฝีปากอีกด้วยเป็นลิบบาล์มอีกยี่ห้อนึงที่อยากแนะนำให้ลองหาซื้อมาใช้ดูค่ะ

3. Jill Stuart Lip Jewel No. 01 CatsEye Wink(ขนาด 7.3ml ราคาซื้อที่ไต้หวัน NT$740)

แพคเกจจิ้งชนะเลิศอีกแล้ว กว่าส้มจะหยิบแต่ละตัวออกมาใช้ได้นี่ บอกเลยว่าทำใจมากๆไม่ต้องแปลกใจทำไมรีวิวช้าจัง ผ่านไป 5 เดือนแล้ว ถึงเอามารีวิว ฮ่าๆๆๆ

ลิปกลอสรุ่นนี้ ก็มาพร้อมแปรงในตัว หัวแปรงเป็นขนๆอ่อนๆสีขาวๆแบบในรูปนี้ค่ะ

เวลาทาออกมาแล้ว สีเบอร์ 1 หรือ CatsEye Wink นี้ จากตัวหลอดสีจะออกชมพูส้มๆแต่เวลาทาออกมาแล้วสีจะไม่จัดจ้านแบบนั้น เนื้อลิปกลอสจะวาวใสมีชิมเมอร์เรียกได้ว่าเป็นออกแนว Translucent นะคะ แต่ว่าวาวจริงๆ จะเอาไว้ทาเดี่ยวๆ ก็ได้ หรือจะเอาไว้ทาทับลิปสติกที่เป็นเฉดสีชมพูๆ ก็ได้เหมือนกันค่ะ แต่ส้มว่า ส่วนตัวใช้แล้วมันก็ให้ความชุ่มชื้นประมาณ 1-2 ชั่วโมงนะแล้วมันก็จะเริ่มแห้ง และ ก็ลอกค่ะ ไม่รู้ว่าคนอื่นใช้แล้วเป็นยังไงอาจจะเป็นเพราะส้มริมฝีปากแห้งอยู่แล้วด้วย ยังไงก็ต้องลองกันด้วยตัวเองอีกทีนะคะ

4. Jill Stuart Tuberose & Rose Hand Cream(ขนาด 30 ml ราคาจำไม่ได้ค่ะ)

ตัวนี้จะเป็นครีมทามือ ที่หอมมาก แล้วก็ใช้ดีมากอีกตัวนึงมีส่วนผสมของ White Rose Extract, Mango Seed Oil,Calendula Extract,Damask Rose Extract, Wild Rose Extract, Rose Hip Oil, Shea Butterคือซื้อมาเป็นแพค แพคละ 5 ชิ้น ส้มก็เอาไปให้แม่ใช้ด้วย ตอนหน้าหนาวที่ผ่านมา มือไม่แห้งเลยทาแล้วมือชุ่มชื้นมาก แล้วกลิ่นหอมมากๆค่ะ ทาแล้วไม่เหนียวเหนอะมือด้วยใครกำลังมองหา hand cream ส้มว่าตัวนี้โอเคมากๆเลย เพราะลองเองแล้วชอบค่ะ

ราคาและสถานที่จัดจำหน่ายทั้งหมดที่รีวิวไป ส้มซื้อมาจาก EVERRICH DUTY FREE ที่สนามบินเต้าหยวน ประเทศไต้หวันค่ะ1. Jill Stuart Mix Blush Compact N (Travel Exclusive) = ราคา NT$1,305 ประมาณ 1,397 บาท 2. Jill Stuart Melty Lip Balm No. Orange Coral (limited color) = ราคา NT$435 ประมาณ 465 บาท 3. Jill Stuart Lip Jewel No. 01 CatsEye Wink = NT$740 ประมาณ 792 บาท4. Jill Stuart Tuberose & Rose Hand Cream = ราคาจำไม่ได้แน่นอน คาดว่าประมาณ 5-600 บาท

เอาไว้ปีนี้ไปไต้หวันอีก คอยติดตามนะว่าจะสอยอะไรมาอัพเดทให้สาวๆ ได้ดูกันอีกแล้วพบกันใหม่ในรีวิวครั้งหน้านะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

Discussion (3)