Review my skincare และการเอาใจใส่ผิวหน้า

สวัสดีค่ะ ชื่อ นุ๊ก นะคะ นี่เป็นกระทู้แรกของนุ๊กเลย ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ หากมีข้อผิดพลาดประการใด นุ๊กก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย หลังจากที่แอบซุ้มอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ตว่ากันด้วยเรื่องผลิตภัณฑ์ความงามมานาน ลองนู้นนี่นั่นที่ว่ากันว่าดีมาก็หลายตัว ใช้แล้วดีบ้าง ใช้แล้วแพ้บ้าง หรือใช้แล้วไม่มีเกิดอะไรขึ้นเลยก็มี จนในที่สุดก็ได้พบกับผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเอง และที่สำคัญคือมีราคาที่เราสามารถคว้ามาไว้ในครอบครองได้ นุ๊กเลยอยากมาแชร์ข้อมูลของตัวเองให้เพื่อนๆ ที่สนใจฟัง เพื่อเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการตัดสินใจเลือกซื้อสกินแคร์สำหรับตัวเองค่ะ

สภาพผิวหน้า : นุ๊กเป็นคนผิวมัน และระคายเคืองง่าย มีกระ (อันนี้ไม่รู้ว่ามีสาเหตุมาจากอะไร แต่ก็เห็นมันอยู่ที่หน้ามาตั้งแต่หัดส่องกระจก) สิวอักเสบหรือสิวเม็ดใหญ่ๆ ไม่ค่อยมี ยกเว้นช่วงเป็นประจำเดือนอาจจะขึ้นมาบ้างสองสามเม็ดพอให้คันไม้คันมือ (อยากจะบีบจะบี้มัน) มีสิวผดขึ้นบริเวณหน้าผากและคิ้ว

นุ๊กเริ่มมาสนใจดูแลผิวหน้าตอน ม.ปลาย ซึ่งก็ไม่ค่อยเป็นการดูแลที่ถูกวิธีนัก ใช้ครีมที่มีฤทธิ์เป็นกรดที่ช่วยให้หน้าใสหน้าขาว และแน่นอนว่าทำให้หน้าเราบางขึ้น โดยไม่ใช้ครีมกันแดด เพราะคิดว่าคงไม่เป็นไร ตอนใช้อยู่ก็โอเค หน้าใสขึ้น ขาวขึ้น แต่พอหยุดใช้เท่านั้นแหละ หน้าดำยิ่งกว่าเก่า ก็เลยไม่ใช้อะไรเลย ปล่อยมันไว้อย่างนั้น

จนพอเข้ามหาวิทยาลัย ก็เริ่มหันมาใส่ใจกับตัวเองอีกครั้ง โดยเริ่มศึกษาหาข้อมูลการดูแลตัวเองจากในเว็บบอร์ดต่างๆ ตามยูทูป และอื่นๆ ซึ่งก็ได้ข้อสรุปให้กับตัวเองมาเป็นผลิตภัณฑ์ ดังต่อไปนี้ (ทั้งนี้ทั้งนั้นผลของการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าของแต่ละบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ)

หมวดทำความสะอาดผิวหน้า

จากการหาข้อมูลต่างๆ และจากประสบการณ์ของตัวเองทำให้นุ๊กเชื่อว่าการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างสะอาดหมดจดก็ถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่จะทำให้เรามีหน้าที่กระจ่างใสและไร้สิวมากวนใจ ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะละเลยไม่ได้ ไม่ว่าจะขี้เกียจขนาดไหน แต่ถ้าอยากสวยหน้าใส ลุกขึ้นมาเถอะค่ะ มันช่วยเราได้จริงๆ

ในขั้นตอนการทำความสะอาดผิวหน้านี้นุ๊กจะทำอยู่สองขั้นตอน คือ การใช้คลีนซิ่งเช็ดเครื่องสำอางกับการใช้โฟมล้างหน้า

    คลีนซิ่ง เมื่อก่อนนุ๊กไม่เคยสนใจที่จะใช้คลีนซิ่งเลย เรียกว่ามองข้ามเพราะคิดว่าเราไม่ได้แต่งหน้าเยอะอะไร แค่ทาครีมกันแดด เขียนคิ้ว (ใช้ที่เขียนคิ้วแบบฝุ่น) ทาแป้ง และลิปมันธรรมดา ใช้แค่โฟมล้างหน้าก็คงได้ ซึ่งความคิดนี้เป็นอะไรที่ผิดมาก ผิดอย่างมหันต์ เพราะแค่โฟมล้างหน้าไม่ได้ทำให้เราล้างเครื่องสำอางที่เราทาลงไปได้อย่างหมดจด ดังนั้นหันมาใช้คลีนซิ่งเถอะ เพื่อผิวหน้าที่ไร้สิ่งอุดตัน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวนั่นเอง

    สำหรับคลีนซิ่งที่นุ๊กได้ลองใช้แล้ว มีอยู่ 3 ตัว

    • ตัวแรกที่ลองคือ Biore Cleansing Mill

    ตัวนี้เป็นโลชั่นน้ำนม อ่อนโยนต่อผิว มี Moist & Fresh Balance ซึมซาบคืนความชุ่มชื่นให้ผิวขณะนวด ให้ผิวสะอาดหมดจด อ่อนนุ่ม ไม่แห้งตึงหลังการล้าง ไม่ระคายเคืองผิว แต่ผลที่ได้สำหรับนุ๊กคือ ใช้แล้วระคายเคืองค่ะ :( ใช้ครั้งแรกก็รู้สึกได้เลยว่าคัน แสบหน้า และมีผดแดงขึ้น จึงหยุดใช้ ไม่ใช้ต่อ ยกให้เพื่อนไป ซึ่งโชคดีมากที่อาการไม่รุนแรง วันสองวันก็หาย

    • ตัวที่สอง Bifesta Cleansing Lotion Sebum

    เป็นคลีนซิ่งน้ำ ทางแบรนด์เคลมมาว่า ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม สี และสารกันเสีย อ่อนโยนสำหรับผิวแพ้ง่าย แต่เพราะยังเข็ดกับการเสียเงินซื้อ Biore Cleansing Mill ไปโดยเปล่าประโยชน์ เลยยังไม่ปักใจเชื่อเท่าไร นุ๊กจึงไปซื้อขนาด 60 ml ที่เซเว่นมาลองใช้ ผลปรากฏว่า ไม่ระคายเคืองค่ะ ปลื้มมาก เช็ดเครื่องสำอางอออกได้หมด ไม่แสบหน้า หลังเช็ดรู้สึกว่าหน้าตึงนิดๆ แต่ใช้แล้วไม่ระคายเคือง ณ จุดนี้ให้อภัย

    • ตัวที่สาม Alovivi Purevivi Cleansing Lotion

    อันนี้ได้มาจากการดูรีวิวของพี่ทราย (mhunoiii) จึงเกิดกิเลสรีบไปสอยมาทันที ตัวนี้เป็นคลีนซิ่งน้ำ ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม สี และสารกันเสีย ซึ่งคุณสมบัติเป็นอะไรที่ถูกใจคนผิวหน้าระคายเคืองง่ายอย่างนุ๊กมากและที่สำคัญเริ่มเชื่อแล้วว่าคลีนซิ่งน้ำใสๆ พวกนี้เป็นมิตรกับหนังหน้านุ๊ก ใช้แล้ว เช็ดเครื่องสำออกออกได้หมดจด ไม่แสบหน้า (แต่ถ้าเข้าปากนี่ขมมาก) เช็ดแล้วหน้าไม่แห้งตึง

    และเมื่อเทียบกับ Bifesta ตัวข้างบน นุ๊กชอบตัว Purevivi นี่มากกว่า โดยส่วนตัวรู้สึกว่า Purevivi จะเช็ดเครื่องสำอางออกได้ง่ายและหมดจดกว่า

    โฟมล้างหน้า โฟมล้างหน้านี่ลองใช้มาเยอะมาก พอหลอดนี้หมดก็หันไปลองหลอดนั้น แต่ที่ชอบที่สุด มีอยู่ด้วยกันสองตัวค่ะ

    • ตัวแรก Biore Facial Foam Pure Perfect

    ตัวนี้ทางแบรนด์เคลมมาว่า ช่วยขจัดสิ่งสกปรก และความมันบริเวณทีโซน แต่คงความชุ่มชื่นบริเวณยูโซน คงสมดุลน้ำในผิวไม่ทำให้แห้งตึง ผสานสารสกัดจากน้ำนมข้าว ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ผลจากการใช้ ใช้แล้วไม่ระคายเคือง ล้างหน้าได้สะอาด ฟองเยอะ และหลังล้างหน้าไม่รู้สึกแห้งตึง

    • ตัวที่สอง Neutrogena Deep Clean Hydrating Bamboo Gel Cleanser

    ตัวนี้เป็นโฟมล้างหน้าเนื้อเจล มีสารสกัดจากไผ่ ที่จะช่วยเก็บกักความชุ่มชื่นไว้กับผิวได้ดี ทำความสะอาดได้อย่างหมดจด ผลจากการใช้ ใช้แล้วไม่ระคายเคือง ล้างหน้าได้อย่างหมดจดแต่ยังคงความชุ่มชื่นไว้ และหน้าไม่แห้งตึง

    นอกเหนือจากนั้นนุ๊กอยากแนะนำวิธีล้างหน้าที่ตัวเองลองทำตามแล้วเห็นผลว่าสามารถช่วยลดสิวได้จริง โดยเฉพาะสิวผด นั่นก็คือ "การล้างหน้าตามแนวขน" ตามคลิปนี้เลย ซึ่งขอกราบขอพระคุณผู้ที่คิดค้นทฤษฎีนี้ขึ้นมาจริงๆ (กราบงามๆ ค่ะ)

    เพิ่มเติมอีกนิด... ตามที่พี่สายป่านเคยได้รีวิวไปว่าการใช้กระดาษทิชชู่สำหรับเช็ดหน้าแทนการใช้ผ้าเช็ดตัวนั้นก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้ผิวหน้าเราดีขึ้น ซึ่งนุ๊กก็ได้ทำตามและเห็นผลจริง ทั้งนี้ขอกราบขอบพระคุณพี่สายป่านที่ส่งต่อข้อมูลดีๆ แบบนี้ด้วยค่ะ (ใครสนใจคลิกดูได้ที่คลิปข้างล่างนี้เลยค่ะ)

    และผลจากการล้างหน้าอย่างสะอาดหมดจดทำให้สิวผิดบริเวณหน้าผากและคิ้วหายไปแล้ว

    (เห็นรูป after มีสิวสองเม็ดโผล่มาจ๊ะเอ๋ อย่าตกใจค่ะ ช่วงนี้กำลังเป็นประจำเดือน)

    หมวดบำรุงผิวหน้า

    เมื่อทำความสะอาดผิวหน้าอย่างหมดจดไร้สารตกค้าง ไร้สิ่งอุดตันกันไปแล้ว แน่นอนว่าก็ขั้นตอนการบำรุงก็สำคัญไม่แพ้กัน อย่างแรกเลยเราควรรู้จักสภาพผิวของตัวเอง ว่าผิวเราเนี่ยมีสภาพเป็นอย่างไร ผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม หรือมีผิวแบบอื่นๆ ซึ่งจะทำให้เราสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมเข้ากับตัวเองจริงๆ เพื่อที่ผิวของเราจะได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่

    สำหรับนุ๊กอย่างที่บอกไปข้างต้นค่ะว่าเป็นคนผิวมัน ผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้ส่วนใหญ่จึงเป็นประเภทที่ควบคุมความมัน แต่พอได้ลองใช้ไปสักพักกลับมีความรู้สึกว่ามันไม่ใช่ หน้าเรามันน้อยลงก็จริง แต่ทำไมยังรู้สึกแห้งกร้าน รู้สึกผิวไม่มีความสดชื่นเลย ที่สำคัญคือหน้าหนาวมาทีไร หน้านี้ลอกเป็นแผ่นๆ เลย พอเจอแบบนี้เข้าไปก็แอบจิตตกเหมือนกันค่ะ จึงลองไปหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตดู ก็ไปเจอกับคลิปหนึ่งที่พี่ทราย (mhunoiii) ได้อธิบายเรื่องผิวขาดน้ำไว้ในยูทูป

    และจากคลิปนี่เองที่ทำให้นุ๊กรู้ว่าแท้จริงแล้วความมันบนใบหน้าของตัวเอง เกิดจากการที่ผิวเราขาดน้ำ ร่างกายจึงต้องผลิตน้ำมันมาเคลือบผิวเราไว้ เพื่อไม่ให้น้ำใต้ผิวหนังมันระเหยออกไป การแก้ปัญหาผิวขาดน้ำก็คือเราต้องเติมความชุ่มชื่นให้แก่ผิว

    ดังนั้น นุ๊กจึงเปลี่ยนมามองหาตัวบำรุงที่เน้นไปในทางให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวเป็นหลัก ซึ่งสิ่งที่ใช้แล้วถูกโฉลกกับนุ๊กก็ คือ

    • ตัวแรกที่นุ๊กลงหลังจากการล้างหน้า คือ ตัวนี้ค่ะ Hada Labo Lotion

    โลชั่นน้ำตบสำหรับคนงบน้อย ที่คุณภาพไม่ได้ด้อยเลย ตัวนี้ช่วยได้มากเลยค่ะในเรื่องความชุ่มชื่น แต่ก่อนหน้าหนาวทีไรหน้านุ๊กจะลอกเป็นขุยๆ พอมาใช้ตัวนี้ เหยาะลงฝ่ามือ ลูบให้เข้ากันหน่อย ตบเบาๆ ไปที่หน้า อะหือ...หน้าเด้ง ชุ่มชื่น ผิวดูอิ่มน้ำมาก และเมื่อหน้าหนาวมาถึงก็ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าหน้าจะลอกอีกเลย

    • ตัวที่สองที่นุ๊กลง....
    ในตอนกลางวัน เพื่อไม่ให้เป็นการหนักหน้าเกินไป นุ๊กจะใช้ เจลว่านหางจระเข้ Aloe vera gel moisturizer จาก Boots

    ตัวนี้และทากันแดดต่อเลย อย่างที่ทราบกันดีค่ะ ว่าว่านหางจระเข้เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณมากมายที่สำคัญ (สำหรับนุ๊ก) คือ ช่วยป้องกันการถูกแดดเผา รักษาผิวหนังที่ถูกแดดเผา สรรพคุณนี้เองจึงเหมาะมากสำหรับการออกไปผจญกับแสงแดดอันแผดเผาของบ้านเรา

    สำหรับในตอนกลางคืน นุ๊กจะใช้ Hada Labo Whitening Perfect Gel

    ตัวนี้มีส่วนผสมสำคัญๆ คือ Arbutin (ช่วยในเรื่องความกระจ่างใส), Vitamin C (บำรุงผิวที่หมองคล้ำให้กลับมาเปล่งประกายตามธรรมชาติ), Nano Hyaluronic Acid + Hyaluronic Acid (ช่วยเก็บกักและเติมความชุ่มชื่นให้แก่ผิว) และ pH Balanced ที่สำคัญตัวนี้มาในรูปแบบ 3 in 1 คือ เป็นได้ทั้ง Essence, Moisturizer และ Sleeping Mark ครบสูตร ใช้ตัวนี้แล้ว ตื่นมาตอนเช้าหน้านี่นุ่มเด้งมาก ส่วนในเรื่องของความกระจ่างใส ถือว่าช่วยได้สำหรับคนที่ต้องการความกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ แต่หากใครที่ต้องการความขาวขั้นสูงสุดตัวนี้ไม่เหมาะค่ะ

    และเมื่อใช้สามตัวข้างบนบำรุงผิวไปสักพัก นุ๊กก็สังเกตได้เลยว่าหน้าตัวเองดูอิ่มน้ำขึ้น

    ความมันลดลง หน้านุ่มขึ้น ณ จุดๆ นี้ต้องขอขอบพระคุณพี่ทรายเป็นอย่างมากค่ะที่ชี้ทางสว่างให้

    นอกจากการบำรุงด้วยการทาครีมแล้ว นุ๊กยังบำรุงผิวด้วยการมาร์คหน้า โดยใช้Hada Labo Lotion ขวดนี้กับมาร์คอัดเม็ด ทำสองวันต่อครั้งค่ะ

    เมื่อสิวมาเยือน อย่างที่บอกไปแล้วค่ะว่านุ๊กไม่ค่อยมีสิวเม็ดใหญ่ๆ หรือพวกสิวอักเสบเท่าไร ซึ่งถือว่าเป็นโชคดีของตัวเองมาก แต่เมื่อมันโผล่ออกจากชั้นผิวหนังขึ้นมาทักทายโลก นุ๊กจะพยายามไม่ไปบีบไปบี้มัน เพราะกลัวจะเป็นแผลเป็น แต่ถ้าครั้งไหนพลั่งมือยั้งไม่อยู่จริงๆ นุ๊กจะใช้ Smooth E Cream ตัวนี้ทาบางๆ ไปที่แผลนั้น

    สิ่งที่เห็นคือมันทำให้สะเก็ดสิวที่แข็งๆ อ่อนตัวลง และค่อยๆ หลุดไปเอง และช่วยให้รอยดำจาก (แผลบีบ) สิวดูจางลง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องใจเย็นๆ นิดนึง อาจไม่เห็นผลทันตา แต่ในระยะยาวมันก็เลิศอยู่นะ

    ครีมกันแดด

    แน่นอนว่าประเทศไทยตั้งอยู่ในแถบเส้นศูนย์สูตรอนุภาพของแสงแดดจึงร้องแรงตามไปด้วย ครีมกันแดดจึงถือเป็นไอเท็มสำคัญอย่างหนึ่งที่จะเป็นเกราะป้องกันของความหมองคล้ำ ฝ้า กระ มะเร็งผิวหนัง และริ้วรอยก่อนวัยอันควร ซึ่งครีมกันแดดตัวที่นุ๊กใช้อยู่ก็คือ

    L'oreal UV Perfect SPF 50+/ PA +++ Even Complexion

    คุณสมบัติหลังขอกของครีมกันแดดตัวนี้คือ

    -ปกป้องผิวจาก UVA UVB ปกป้องผิวจากการเกิดจุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำและริ้วรอยก่อนวัยอันควร

    -ช่วยปกป้องผิวจาก UV ถึง 12 ชั่วโมง

    -มี Mexoryl Filters ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจาก UV ให้ยาวนานขึ้น

    ตัวนี้เป็นสีเนื้อ ซึ่งช่วยปรับสีผิวให้ดูเรียบเนียน ดูสม่ำเสมอ ทาแล้วหน้าไม่วอก เกลี่ยง่าย กลืนไปกับผิวเลย แต่ใครที่ไม่ชอบความมัน ควรหลีกเลี่ยงตัวนี้นะคะ กันแดดมีความเสถียรดี ใช้แล้วหน้าไม่คล้ำลง ในวันปกติที่ไม่ต้องไปผจญกับแสงแดดมากนุ๊กทาแค่ตอนเช้าครั้งเดียว แต่ถ้าวันไหนต้องออกแดดจัดๆ นานๆ ทาแค่ครั้งเดียวเอาไม่อยู่ค่ะ ต้องหมั่นทา ตัวนี้ใช้แล้วไม่ระคายเคือง และไม่อุดตันค่ะ

    และทั้งหมดที่กล่าวมาก็คือการดูแลผิวในแบบฉบับของนุ๊ก ขอบคุณทุกๆ คนสำหรับการแวะเข้ามาอ่าน หวังว่าคงพอเป็นประโยชน์และเป็นแนวทางสำหรับคนที่สนใจบ้างนะคะ

    ด้วยรักจากมือใหม่ที่อยากสวย <3

    Discussion (6)

    @หนุ่ม ยโสธร ขอบคุณค่ะ 

    บอกว่าเป็นกระทู้แรก  แต่รีวิวได้ดีมากๆเลยครับ  
    รูปชัด อ่านง่าย สั้น กระชับ  ขาดแค่ราคา  
    เป็นประโยชน์มากครับ  
    @tawan_time  ยินดีค่ะ :)
    @RutRuttt ยินดีค่ะ :)