สโมคกี้อายสำหรับ คอนแทคเลนส์สีเทา
soulmato34สวัสดีค่ะสาว ๆ ห่างหายกันไปเป็นเดือน กลับมาอีกครั้งพร้อมกับฮาวทูใหม่ และคอนแทคเลนส์สีใหม่ ที่เพิ่งสอบมา 5555
ช่วงนี้เงินเดือนเพิ่งออกค่ะ ก็ช้อปปิ้งกระจายกันไป ได้นู่นนั่นนี่สนองนี้ดกันไป โดยเฉพาะเจ้าคอนแทคเลนส์ใหม่ Pretty lens by pretty doll รุ่น Little damier gray สีเทาสวยมาก ลองใส่แล้วเลยคิดถึงลุคการแต่งหน้าที่จะทำให้ตาดูโดดเด้งขึ้นมา
หลังจากที่ดูฮาวทูของสาว ๆ ในบ้านจีบันหลายคน เลยได้ข้อสรุปว่า สโมคกี้อายนี่แหละคือคำตอบสุดท้าย
How to ครั้งนี้จึงเป็นการสโมคกี้อาย กับพาเลตที่มีอยู่ในมือ ดังนั้นอุปกรณ์ที่ใช้จึงไม่ได้มีอะไรมากค่ะ
ครั้งนี้ตั้งใจจะแต่งตาโทนน้ำเงินกรมท่า เพราะเป็นสีที่ไม่ค่อยจะแตะเท่าไหร่ และพอถ่ายรูปเข้าไป สีตามันดันออกสีฟ้ามากกว่าสีเทาแฮะ งั้นก็พอดีเลยแต่งโทนฟ้าน้ำเงินนี่แหละ!
ตามธรรมเนียมค่ะ ต้องโชว์หน้าสดกันก่อน
แต่งเสร็จละจะได้ลุคประมาณนี้ค่ะ
Let's get Started
1.เริ่มจากลงไพรเมอร์ก่อนเลย ครั้งนี้ส้มใช้ Smashbox Photo Finish เนื้อซิลิโคน ที่ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าเพราะลุคนี้ต้องการความแมทพอสมควร บีบมาใช้ประมาณเม็ดทั่วเขียว ทาทั่วใบหน้า และรอบดวงตาค่ะ ผลที่ได้ผิวจะลื่นมาก และถ้ามีเศษอายแชว์โดว์ตกแถวขอบตาล่างก็ทำความสะอาดได้ง่ายกว่า เพียงแค่ใช้แปรงปัดออกเท่านั้น ลดขั้นตอนการลงแป้งฝุ่นมารองใต้ตาไปได้เลยค่ะ
พอบอกว่าสโมคกี้อาย แต่จะใช้สีเข้ม ๆ ส้มแนะนำให้มาแต่งตาก่อนอันดับแรก เพราะการแต่งสโมคกี้อายมันจะมีเศษอายแชโดว์ตกหกเลอะเทอเปรอะเปื้อนบริเวณใต้ตาเยอะมาก หากเราลงรองพื้น คอนซีลเลอร์ไปก่อน ก็ต้องมานั่งทำความสะอาดแล้วก็ต้องลงรองพื้นเอย คอนซีลเลอร์เอยอีกรอบ เสียเวลา เปลืองคอนซีลเลอร์ไปอีก เพลียค่ะ
2.เนื่องจากส้มต้องการให้โทนสีดูเข้มขึ้น เลยเลือกใช้อายไลเนอร์ดินสอสีดำ มาทาเป็นพื้นก่อนที่จะลงอายแชโดว์สีกรมท่า และอายไลเนอร์ที่เลือกก็ของ Mei linda รุ่นกันน้ำที่สาว ๆ ในบ้านจีบันแนะนำให้ลองสอยดู ขอบอกว่าคุณภาพกันน้ำดีงามเกินราคาจริง ๆ ค่ะ ติดทน สีเข้ม ถูกใจมากมาย
เขียนอายไลเนอร์ให้ชิดขอบตาไว้แล้วทาขึ้นไปทั้งเปลือกตาบน และล่างเลยค่ะ ลองเช็คให้เท่ากันทั้งสองข้างแต่ไม่ต้องเกลี่ยขอบนะคะ เพราะยังไงเราก็จะลงอายแชโดว์เนื้อฝุ่นทับอยู่แล้วค่ะ
เห็นมั้ยคะ ตาโตขึ้นมาเลยทันที ตะลึงพรึงเพริดกับขนาดตาตัวเองมากค่ะ บอกตรง ๆ และขอแนะนำทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ ของสาวที่ตาสองชั้นหลบในแบบส้มนะคะ เวลาคุณจะแต่งสโมคกี้อาย วิธีที่รวดเร็วคือคุณควรลืมตา มองตรงไปที่กระจก แล้วเอาอายไลเนอร์ลองขีดว่าเราจะทาอายแชโดว์ถึงจุดไหนที่พอลืมตาก็ยังจะเห็นสีสันที่แต่งแต้มอยู่ เพราะปัญหาหลัก ๆ ของสาวตาสองชั้นหลบใน ถ้าคุณแต่งตาแล้วไม่กะระดับไว้ เวลาคุณลืมตาก็แทบจะไม่เห็นสีสันอะไรเลย ทำให้ต้องค่อย ๆ มาแต่งเพิ่ม เติมขึ้นไปเรื่อย ๆ อีก แล้วสีที่ได้ก็จะยิ่งเข้มขี้นไปอีก เลยเถิดไปกันใหญ่เลยทีนี้ค่ะ ลองทำดูนะคะ
1.จากนั้นก็ลงอายแชโดว์เนื้อฝุ่น ส้มเลือกสี CREED จากเจ้าหนู NAKED1 ที่เปรียบเสมือนยาสามัญประจำบ้าน ขาดเธอเหมือนขาดใจ อยู่ด้วยกันมาเนิ่นนานจนไม่มีท่าทีว่าจะสึกหรอลงไปเลยสักสี (นายนี่มันสุดยอดจริง ๆ เลย)
ดูจากในรูปดูออกเทาควันบุหรี่และผสมกลิตเตอร์เม็ดค่อนข้างใหญ่ทีเดียว นิด ๆ นะ
ส้มใช้แปรง Smokey eye ของ Bobbi Brown ในการกดสีฝุ่นทับลงบนอายไลเนอร์เนื้อดินสอที่ส้มลงไว้ก่อนหน้า
มาดูภาพช้ากันชัด ๆ ค่ะ เม็ดสีแน่น กลิตเตอร์ระยิบระยับ อลังการดาวล้านดวง
จากนั้นเอาแปรงทรงพู่กันจิกสี GunMetal ซึ่งอยู่ถัดน้องCREED มาเบลนด์ช่วงขอบให้ดูฟุ้งและไล่ระดับสี และดูมีมิติ ซึ่งสีนี้บอกตรง ๆ ว่าถ้าเป็น Day look ส้มแทบจะไม่แตะเลย เพราะอะไรนะหรือ เพราะความเว่อร์วังของเม็ดสีที่ดูเทาเงิน ทั้งกลิตเตอร์ แต่ในเมื่อเราจัดสโมคกี้อายแบบเข้ม สีนี้ก็สวยงามและถ่ายภาพออกมาสีสันขึ้นกล้องทีเดียวเชียวค่ะ
จากนั้นเอาแปรงอายแชโดว์อันใหม่จิกสี VIRGIN ลงให้ทั่วใต้ท้องคิ้วเพื่อเพิ่มความสว่างค่ะ
จากนั้นก็มาต่อที่การติดขนตาปลอมค่ะ
ส้มเลือกใช้ขนตาปลอมยี่ห้อบอกต่อ เบอร์ P-068 ลองกะความยาวให้พอดีกับดวงตาเรา ถ้าขนตายาวไปก็เล็มออกไปค่ะ จะได้ไม่ระคายเคืองและแทงหัวตาจนน้ำตาซึม (ลงรูปที่ติดขนตาปลอม) บู้มมมม ตาโตขึ้นมาอีกหนึ่งสเต็ป เพราะขนตาเบอร์นี้ค่อนข้างยาวและกระจายตัวตลอดทั้งแนวขนตา แต่จริง ๆ แล้วถามว่าถ้าแต่งสโมคกี้อายแบบเข้ม ๆ แทบไม่จำเป็นจะต้องติดขนตาปลอมก็ได้ค่ะ ปัดมาสคาร่าหลายครั้งก็เอาอยู่นะ
แต่งตาเสร็จแล้ว มาต่อที่ส่วนอื่นให้เสร็จกันค่ะ เมื่อเราเช็ดและปัดพวกเศษอายแชโดว์ที่ตกลงมาใต้ตาเรียบร้อยแล้วเราก็จัดลุยต่อกับการทารองพื้นค่ะ
ครั้งนี้ส้มเลือก K.MA สูตรกันน้ำคะแนนความนิยมนี่เรียกว่าสูสีมากับเจ้าRevlon ฝาดำ และราคาถูกกว่านิดนึง เนื้อสัมผัสรู้สึกเบากว่า ไม่หนักหน้าเท่า แต่ปกปิด และมีความเป็นแมทที่ใกล้เคียงกันมากทีเดียว
แต่เรื่องความหมองระหว่างวันยังมีนะคะ ซึ่งต่างจากเจ้าฝาดำ รายนั้นไม่หมองเลยสักนิด ส้มใช้คู่กับแปรงรองพื้นของ Bobbi Brown รุ่น Full Coverage ซึ่งทางแบรนด์เค้าเคลมว่าใช้ได้รองพื้น หรือบลัช ออนกับเนื้อครีม เนื้อฟลูอิด เนื้อมูส หรืออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เนื้อฝุ่น เมื่อคุณใช้แปรงนี้วนลงใบหน้า ความเนียน ความผิวดี จุดด่างดำได้จางหายไปหมด ซึ่งเมื่อลองใช้แล้วก็เห็นจริงดังนั้นค่ะ นี้ปลื้มมาก เพราะให้ผลลัพธ์ที่เนียนปกปิดดี และที่สำคัญใช้เวลาลงรองพื้นน้อยกว่าการใช้แปรงแบน หรือฟองน้ำ หรือนิ้วเกือบเท่าตัวเลยค่ะ
มาถึงลูกรักที่หมดแล้วก็ต้องซื้อใหม่ ซื้อแล้วซื้ออีก ซื้อซ้ำ นั่นคือ Revlon Color stay Concealer อันนี้ชอบเป็นการส่วนตัว เพราะส้มเป็นโรคภูมิแพ้อากาศนั่นทำให้ขอบตาคล้ำมากถึงมากที่สุด คล้ำยังไม่พอ ผิวรอบดวงตายังแห้งมาก และมีริ้วรอยตามวัยมาอีกเพียบ T^T ซึ่งทำให้หาซื้อคอนซีลเลอร์ในท้องตลาดได้ยากมากทีเดียว เพราะถ้าคอนซีลเลอร์ที่เป็นสูตรน้ำ เนื้อก็บางเบาจนไม่สามารถปกปิดรอยคล้ำสุดอลังการที่เรามีได้ แต่ถ้าเลือกใช้เนื้อครีม แน่นอนปกปิดได้เนียนกริบ แต่พอผ่านไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็เริ่มเป็นคราบและตกตามร่องรอยประสบการณ์ที่อุตส่าห์สั่งสมมา แต่ตัวนี้คือดีมากค่ะ ไม่มีการตกร่อง และก็สามารถปดปิดได้ดีเมื่อเทียบกับคอนซีลเลอร์แบบลิควิดแบรนด์อื่น ที่สำคัญราคาน่ารักมาก 5555 เอาละวกกลับมาที่การแต่งหน้ากันค่ะ ป้ายคอนซีลเลอร์ไปใต้ขอบตา แต่อย่าชิดเกินไปนะ เพราะลุคนี้เราแต่งสโมคกี้อายที่ขอบตาล่างด้วย เพื่อให้สมดุลกับสโมคกี้อายของเปลือกตาบน จากนั้นก็ใช้นิ้วนางเกลี่ยให้กลืนไปกับผิวส่วนที่เหลือค่ะ
Moving on to การตกแต่งคิ้วค่ะ เนื่องจากส้มทำสีผมมา (ซึ่งสีมันพลาดไปจากที่ตั้งใจเอาไว้มาก) เลยต้องมีการแมทช์สีคิ้วซะใหม่ เริ่มต้นด้วยดินสอเขียนคิ้ววาดโครงคิ้วให้คม ซึ่งตัวดินสอก็ซื้อตามตลาดนัดอัพละ 29 บาท แต่เนื้อมันโอเคและใกล้เคียงกับสีผม (ที่ทำมาพลาด) จากนั้นส้มก็เอาแปรงเขียนคิ้วของ Bobbi Brown แตะลงด้วย eye Shadow สีน้ำตาล ของ Bobbi Brown ที่ทางแบรนด์ก็เคลมมาอีกแหละว่าถ้าคุณซื้ออายแชโดว์โทนสีน้ำตาล หรือเทา นอกจากทาเปลือกตาแล้วก็ทาคิ้วได้ด้วย ซึ่งทำได้จริงและสีสวยเป็นธรรมชาติดังที่เค้าว่าจริง ๆ นั่นแหละค่ะ
ร่างโครงคิ้วด้วยดินสอ
เติมให้เต็มด้วย eye shadow โทนน้ำตาลเนื้อนิ่มของ Bobbi Brown
จากนั้นใช้มาสคาร่าคิ้ว ของ Sivanna เบอร์ 02 (ได้จากตลาดนัดพร้อมกับเจ้าดินสอเขียนคิ้วนี่แหละค่ะ) ย้อมขนคิ้วสีดำธรรมชาติของเราให้เป็นสีน้ำตาลทองแดงชั่วคราวก่อน
มาถึงส่วนของผิวหน้า เมื่อกี้เราลงรองพื้นเอย คอนซีลเลอร์เอย แต่ยังไม่มีการเซ็ทด้วยแป้งแต่อย่างใด ครั้งนี้ส้มลอง MTI Loose Powder รุ่น Feel Perfect สี Translucent จะว่าไปแป้งของMTI ก็คุณภาพดีหลายตัวเลยนะคะ ที่สำคัญราคาแป้งผสมรองพื้นบางตัวยังเท่า ๆ กับของแบรนด์เกาหลียอดนิยมบางยี่ห้ออีก แต่ไลน์ที่ส้มของมากที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้น Feel Perfect ตลับทองนี่ละคะ เพราะเนื้อแป้งติดทน ไม่เป็นคราบ ใช้ได้นาน และราคาถูกกว่าป้าลอร่ามาก กระปุกตกอยู่ประมาณ 500 กว่าบาทเอง แต่ลุคที่ได้จะต่างกันนิดนึงนะคะ ป้าลอร่าลงแล้วดูเป็นผิว ดูธรรมชาติ มีความชุ่มชื่น แต่ป้าทองของMTI นี่ลงแล้วแมทเลยค่ะ หาน้ำมันบนหน้าไม่เจอเลย คนผิวแห้งอาจต้องระวังนิดนึง แต่คนผิวมัน หรือผิวผสมน่าจะปลื้มอยู่ ซึ่งมันตอบโจทย์กับลุคการแต่งหน้าครั้งนี้ ที่ส้มต้องการให้ผิวดูแมทมากๆ เพื่อจะFocus ไปที่การแต่งตา ค่อย ๆ เอาพัฟกดลงบนผิว เพื่อความแมทที่ต้องการ เอาเข้าจริงส้มว่า แป้งตัวนี้มันแอบมีสีสว่างหน่อย ๆ เพราะทาไปแล้วดูไบรท์ขึ้นแต่ก็ไม่มากจนหลอกตาหรือผิวต่างระดับจากสีคอสักเท่าไหร่ค่ะ (เพราะราคาถูก และคุณภาพดูดซับความมันดีนะเนี่ย ถึงยอมหยวน ๆ เรื่องสีแป้งไปบ้าง)
เนื่องจากเราจะเน้นสีสันที่เปลือกตาเป็นสำคัญ ส้มจึงเลือกบลัชออนที่ไม่ออกสีสันมาก แต่มีประกายชิมเมอร์ ครั้งนี้ส้มใช้ของ In2it Sheer Shimmer Blush on สีโทนส้ม และแปรงปัดแก้มของ Bobbi Brown ทาลงไปยังโหนกแก้มและไล่ไปจนถึงข้างหู ซึ่งผลลัพธ์ของบลัชออน In2it มันจะไม่ค่อยออกสี แต่เน้นเพิ่มแสงให้พวงแก้มมากกว่า
ส้มเอาสีที่เหลือที่ติดแปรงมาปัดบริเวณสันจมูกนิดหน่อย เพื่อให้ดูมีมิติมากขึ้น
มาถึงจุดสุดท้าย ปากค่ะปาก คราวนี้ต้องการให้สีปากดูนู้ดมาก และแมทโคตร เพื่อเน้นสโมคกี้อายที่สู้อุตส่าห์บรรจงทำมาอย่างดี ส้มเลือกใช้ลิปไลเนอร์ของ Etude ซื้อมาราคาประมาณ 129บาท เลือกสีนู้ดออกชมพูหน่อยแล้วก็รองพื้นให้ทั่วปาก เนื้อสัมผัสดีมากเลยทีเดียวค่ะ แต่อาจจะไม่สามารถกลบเม็ดสีปากของคนที่สีปากเข้มและคล้ำเท่าไหร่ หรือถ้าจะให้กลบจนมิดก็ต้องวาดหลายรอบกันหน่อย
จากนั้นก็ลงลิปสีนู้ดสีโปรดของส้ม Maybelline สี MAT 7 จำได้ว่าตอนซื้อช่วงแรก ๆ ที่ถึงกับขาดตลาดกันเลยทีเดียว เพราะเป็นนู้ดที่สวย ไม่ผสมกับสีอื่นก็สวย แต่ผสมก็ยิ่งสวย กลบสีปากได้ดี เนื้อไม่แห้งมาก และที่สำคัญราคาน่ารัก (อีกแล้ว) ตัวนี้น่าจะเป็นลูกรักที่อยู่ในกระเป๋าเครื่องสำอางของสาว ๆ กันใช่มั้ยเอ่ย
เอาละค่ะ เสร็จแล้ว กับลุค Super Smokey Eye พร้อมกับรายละเอียดแบบถี่ยิบ ใครอ่านจนจบนี่รักตายเลย เพราะนี่เป็นฮาวทูที่เราเม้าท์ยาวเว่อร์ 5555555
หวังว่าสาว ๆ จะแฮปปี้กับฮาวทูของเรานะคะ ขาดตกบกพร่องประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
แล้วไว้พบกับใหม่กับฮาวทู ครั้งหน้านะคะ ^^
Discussion (4)