ทำไม Botox….ไม่ใช่คำตอบของทุกคนที่อยากหน้าเรียว ทำไมบางคนฉีดแล้วไม่เห็นผล
Dr. Sunida37ตอนนี้ใครๆ ก็อยากหน้าเรียวเป็น V-Shape ทุกคน จนเกิดกระแสแห่ไปฉีด Botox ให้หน้าเรียวกัน และกลายเป็นประเด็น เมื่อหลายคนฉีดไปหลายครั้งแล้วไม่เห็นผลค่ะ
ช่วงนี้มีคำถามจากคนไข้หลายๆคน ที่ฉีด Botox กันมาหลายเช็ม แล้วหน้ายังไม่เรียวขึ้นเป็น V-Shape ซักที จนหมอทนไม่ไหว ต้องขออธิบายให้เข้าใจกันว่า...
"Botox…ไม่ใช่คำตอบของทุกคนที่อยากหน้าเรียวนะคะ"
การจะแก้ไขรูปหน้าให้เรียว ตึงกระชับ เป็นตัว V นั้น คงต้องพิจารณาถึงโครงสร้างของใบหน้า อันเป็นสาเหตุที่ทำให้หน้าไม่เรียว และแก้ไขให้ตรงจุดค่ะ
โดยแต่ละคนจะมีโครงสร้างของใบหน้าที่แตกต่างกันตามพันธุกรรม ประกอบกับอายุที่เพิ่มมากขึ้น การดูแลสุขภาพที่แตกต่าง ทำให้สาเหตุของหน้าไม่เรียวไม่เหมือนกัน การแก้ไขก็ต่างกันค่ะ ต้องพิจารณาเป็นรายๆไป
หมอขออธิบายถึงโครงสร้างหลักของใบหน้า ที่มีส่วนสำคัญต่อรูปหน้าของเราดังนี้ค่ะ
_______________________________________________________________________
Bone : กระดูกช่วงกรามค่ะ
: ถ้ากระดูกกรามใหญ่ หน้าเราก็จะใหญ่ด้วย
: อยากหน้าเล็กต้องตัดกรามค่ะ
: Botox ไม่ช่วยค่ะ !
ทางแก้ : กรณีนี้ต้องปรึกษาศัลยแพทย์ตกแต่งเท่านั้นค่ะ
______________________________________________________________________
Masseter Muscle :กล้ามเนื้อที่ควบคุมการเคี้ยว
: หน้าใหญ่จากกล้ามเนื้อมัดนี้ล่ะค่ะ ที่ฉีด Botox แล้วดูเรียวขึ้น
: แต่ไม่ใช่ทุกคนะคะ ที่จะหน้าใหญ่ เพราะเจ้ากล้ามเนื้อมัดนี้
มีวิธี Test ง่ายๆ ดังนี้ค่ะ
: ใช้มือทั้ง 2 ข้าง วางบนใบหน้าด้านข้างบริเวณ ด้านหน้า - ล่างของติ่งหู
: ลองขบกรามให้แน่น
: หากสัมผัสที่มือบอกว่า กล้ามเนื้อบริเวณนี้นูนขึ้น ก็ใช่เลย...
ทางแก้ : Botox!!!! คือ คำตอบของคุณค่ะ
______________________________________________________________________
Fat : ไขมันสะสมบริเวณแก้มค่ะ
: หากเป็นวัยรุ่น การมีแก้มป่อง เป็นเรื่องธรรมชาติ ดูน่ารักค่ะ
: แต่ถ้าเลยวัยแล้ว ย่างเข้า 40… แก้มที่ป่อง เพราะน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้น จะถูกแรงโน้มถ่วงของโลกทำพิษ กลายเป็น "แก้มหมู-ห้อย" ดูแก่ไปเลยค่ะ
อาการนี้ Botox 10 เข็มก็ไม่ช่วยค่ะ....
: ทางแก้ : การสลายไขมันส่วนเกินบริเวณแก้มออกค่ะ อาจทำด้วย Laser สลายไขมัน ตอนนี้ล่าสุดก็เป็นนวัตกรรม HiFUหรือ High Frequency Focus Ultrasound ค่ะ รุ่นเก่าจะเจ็บ แต่รุ่นใหม่ล่าสุด Advance ไม่เจ็บแล้วค่ะ หรือจะร่วมกับการฉีด Meso Fat เพื่อสลายไขมันก็ได้ค่ะ ปรึกษาคุณหมอแล้วเลือก Option ที่เหมาะกับตัวคุณค่ะ
____________________________________________________________________
SMAS :กล้ามเนื้อพยุงใบหน้า
: ส่วนใหญ่พอย่างเข้า 40 เจ้ากล้ามเนื้อ SMAS นี้มันจะหย่อนตัวลงค่ะ จะไม่ตึงกระชับเหมือนตอนเป็นวัยรุ่น ทำให้เกิดปัญหา "หน้าตก" ค่ะ สังเกตุดูจะเห็นร่องแก้มชัดขึ้น โดยเฉพาะบริเวณมุมปาก และช่วงแก้มด้านล่างจะห้อยลง เห็นชัดเวลาส่องกระจกด้านข้างค่ะ จุดนี้แหละที่ทำให้ดูแก่ -__-"
ทางแก้ : ถ้าอาการหนัก และไม่กลัวผ่าตัด ก็ปรึกษาคุณหมอศัลย์พลาสติก ให้ผ่ายกหน้ากันไปเลยค่ะ
: แต่ถ้าอาการยังไม่มาก หรือมากแล้ว แต่ไม่อยากเสี่ยงกับการผ่าตัด ก็ใช้ Laser ช่วยก็ได้ค่ะ
: Laser ที่ช่วยกระชับกล้ามเนื้อ SMAS เป็นกลุ่ม Focus Ultrasoundซึ่งรุ่นใหม่ๆ จะเป็น Fractional HiFUซึ่งยิงได้ลึกกว่า, ไม่เจ็บเลย และเห็นผลทันที ไม่ต้องรออีก 6 เดือน เหมือน Laser รุ่นเก่าค่ะ
__________________________________________________________________
Collagen-Elastin Support : การเสื่อมสภาพของ Colagen-Elastin Network จะมาพร้อมกับผิวที่ดูแย่ลงค่ะ
: อาการ คือ ผิวจะดูหลวมๆ ไม่กระชับ สังเกตุว่าริ้วรอย เหี่ยวย่น ชัดเจนขึ้น รูขุมขนขยาย ผิวดูหยาบกร้าน เป็นอาการที่เรียกว่า "หน้าแก่" หรือ "ผิวแก่"
: ทางแก้ : มีหลายวิธี ที่ช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen-Elastin ใหม่ๆขึ้น เช่น
- Chemical Peeling (ลอกหน้าด้วยสารเคมี) วิธีนี้คน Asia ไม่นิยม เพราะเสี่ยงกับหน้าดำ
- Laser มีหลายชนิดทั้ง Nd-Yag, RF, Fractional CO2 , Ultrasound
____________________________________________________________________
แต่โดยส่วนใหญ่แล้วแต่ละคนมักมีปัญหาแบบ Combination ค่ะ ฉะนั้นการรักษา มักเป็นแบบผสมผสาน เช่น
1. กลุ่มอายุน้อยกว่า 30 ปี
มักหน้าไม่เรียว หรือ หน้าใหญ่ จาก Masseter ใหญ่ และไขมันที่แก้ม หน้ายังไม่ตก ยังไม่ต้องยก
การรักษา
1.Botox (ถ้ากล้ามเนื้อกรามใหญ่นะคะ ถ้าไม่ใหญ่ก็ไม่ต้องฉีดค่ะ) +/-
2. สลายไขมันที่แก้ม (Laser หรือ Meso) แต่ถ้าไขมันสะสมไม่เยอะก็ไม่ต้องทำตรงนี้ค่ะ (+/-)
2. กลุ่มอายุ 30-40 ปี
มักเริ่มมีอาการ "ผิวแก่" ร่วมกับ "หน้าใหญ่"
การรักษา
1.Botox (ลดขนาดกล้ามเนื้อ) เฉพาะเคสที่กล้ามเนื้อ Masseter ใหญ่ค่ะ (+/-)
2. สลายไขมัน (Fat) เฉพาะเคสที่แก้มเยอะ เพราะไขมันสะสมค่ะ (+/-)
3. กระชับ Collagen Elastin Support ร่วมกันไป เพื่อให้ผิวเนียน-ตึงกระชับ
3.กลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไป
นอกจากผิวแก่, หน้าใหญ่แล้ว "หน้ายังตก" อีกด้วย
การรักษา
1. Botox เฉพาะเคสที่กล้ามเนื้อ Masseter ใหญ่ค่ะ (+/-)
2. สลายไขมัน (Fat) เฉพาะเคสที่แก้มเยอะ เพราะไขมันสะสมค่ะ (+/-)
3. กระชับ Collagen Elastin Support ร่วมกันไปเพื่อให้ผิวเนียน-ตึงกระชับ
4. Lift กล้ามเนื้อ SMAS ที่เป็นตัวโอบอุ้มใบหน้าที่หย่อนคล้อยจากวัยและแรงโน้มถ่วงของโลก
หมายเหตุ (หมายถึงอาจจะต้องรักษาหรือไม่ต้องรักษา ตรงนี้ขึ้นกับปัญหาโครงสร้างใบหน้าชองแต่ละคนที่แตกต่างกัน)
คิดว่ากระทู้ของหมอวันนี้อาจจะช่วยให้ใครหลายๆคนใน Jeban หายสงสัยเรื่อง BOTOX กันนะคะ หมอจะแวะเข้ามาแชร์ความรู้ใน Jeban เรื่อยๆนะคะเพื่อให้ทุกคนได้ความรู้จากแพทย์โดยตรงค่ะ และแชร์คำตอบของปัญหายอดฮิตจากคนไข้ที่หมอเจอทุกๆวัน ขอบคุณที่เข้ามาติดตามอ่านนะคะ
Discussion (7)
1. มาจากกระดูกที่ไม่เท่ากันมาตั้งแต่แรก ซึ่งจริงๆแล้วหน้าของทุกคนไม่มีใครเท่ากันทั้ง 2 ข้าง 100% ค่ะ เพียงแต่อยู่ที่ใครจะเห็นความชัดเจนของกระดูกที่ไม่เท่ากันมากน้อยเท่านั้นเองค่ะ
2. เกิดจากการเคี้ยวอาหารเพียงข้างเดียวมาตลอด หรือคนที่ชอบนอนกัดฟันตอนกลางคืนมาเป็นระยะเวลาสิบๆปี ทำให้เนื้อส่วนนั้นมีการกระตุ้นเพียงข้างเดียว จึงมีการเปลี่ยนแปลงของขนาดได้ค่ะ ซึ่งกรณีเป็นกันค่อนข้างเยอะค่ะ
3. ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงแบบผิดปรกติจนสังเกตุได้แบบชัดเจนมากๆ เช่น 2-3เดือนก่อนหน้าไม่ได้ดูไม่เท่ากันขนาดนี้ ให้ปรึกษาแพทย์ทันทีเพราะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคบางโรคที่ไปกระตุ้นกล้ามเนื้อให้มีการเปลี่ยนแปลงค่ะ