รีวิว My Spring-Summer Must Have

สวัสดีคร่าเพื่อนๆชาวจีบัน วันนี้เราอยากจะมาแชร์เครื่องสำอางค์ในกรุที่กำลังชื่นชอบอยู่ช่วงนี้ ซึ่งก็จะมาแนว ส้มๆชมพูๆ เหมาะกับช่วง spring-summer นี้จร่ะ

นี่เป็นครั้งแรกที่ทำกระทู้เลย ยังไงก็ติชมได้น่ะค่ะ ^^

ว่าแล้วก็อ่านโลดจร้า !!!

ชิ้นแรกว่าด้วยลิปสติก Revlon Lustrous Lipstick เบอร์ 415 ( Pink in the Afternoon) คร่ะ

• สีนี้ชอบมาก ชมพูธรรมชาติสดใสคร่ะ ไม่ได้ cool tone ออกชมพูฟ้ามากจนทำให้หน้าหมอง หรือ ฟันเราดูเหลืองๆคร่ะ ทาได้ทุกวัน
• เนื้อสีครีมมี่ มีความเงาเล็กน้อย แต่ไม่มีชิมเมอร์
• วิธีการทาที่ชอบโดยส่วนตัวแล้ว คือ พอทาบนริมฝีปากแล้ว จะให้นิ้วมือนี่หล่ะคร่ะในการตบๆเกลี่ยสีให้ดูเป็นสีปากเรา จะดูธรรมชาติมว๊ากกกกกก
• ราคาไม่แพงคร่ะ ประมาณร้อยกว่าบาทคร่ะ คุณภาพคุ้มราคาคร่ะ

ต่อไปเป็น Hightlight Concealerจาก Cezanne คร่ะ

• Concealer เนื้อครีมมี่คร่ะ ไม่เป็นคราบ แต่สำหรับเราไม่ได้ปกปิดน้องแพนด้าสุดๆน่ะคร่ะ ที่ช่วยก็จะเป็นเรื่องความ bright คร่ะ เพราะสีมันจิออกชมพูนิดๆคร่ะ
• สำหรับวันเบาๆ ไม่ได้อยากปกปิดมาก ดูตื่นๆ ใช่ตัวนี้ตัวเดียวคร่ะ
• ถ้าวันไหนอยากให้น้องแพนด้าตายไปเลย เราก็จะใช้คอนซิลเลอร์ที่ปกปิดหนาหว่านี้คร่ะ กดๆแท้บๆลงไป แล้วก็ใช้เจ้าตัวนี้ในการเพิ่มความสว่างคร่ะ บางทีก็ให้เป็นไฮไล้ใต้โหนกคิ้ว สันจมูก หน้าผาก คาง ล่องแก้ม เพิ่มเพิ่มมิติให้ใบหน้า ผ่องๆจร้า
• ตัวนี้ได้มาตอนไปญี่ปุ่นคร่ะ จำราคาไม่ได้เลย แต่ไม่แพงฮะ

Clinique Cheek Pop #08 (Melon Pop)

• เรื่อง packaging นี่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคร่ะ เค้าทำมาเป็นลายดอกไม้ฟรุ้งฟริ้ง ใช้หลายรอบมากๆแล้วลายดอกไม้ก็ยังไม่หายไปน่ะคร่ะ ไม่เหมือนกับปัดแก้มบางตัวที่พอเอาแปรงปัดๆไปครั้งสองครั้ง ก็...อ้าว ไปแล้วหรา !? หลอกดาวหนิ 555 ตลับใสๆก็เลิฟคร่ะ จะได้เห็นสีข้างในง่ายๆเลยไม่ต้องเปิดดู
• เนื้อสีน่าสนใจน่ะคร่ะตัวนี้ คือมันเป็นแป้งใช่ป่ะคร่ะ แต่เวลาเอานิ้วเราไม่ถูๆ มันให้ความรู้สึกไม่ได้เป็นแป้งมาก ครีมมี่นิดๆ แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นเนื้อครีม (งงมั้ยคร่ะ TT)
• เม็ดสีไม่ได้แน่นขนาด Nars Mac น่ะคร่ะ ออกจะ sheer คร่ะ แต่ไม่ได้มาก สามารถเพิ่มได้ ซึ่งส่วนตัวชอบคร่ะ เราสามารถค่อยๆเติมได้ ดูเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญคือ บรัชตัวนี้ไม่ได้มีชิมเมอร์น่ะคร่ะ แต่สามารถให้ sheen ที่สวยแก้มดูมีมิติไม่ต้องพึ่งไฮไลต์คร่ะ ชนะเลิศ
• ใช้แปรงปัดบนแก้ม ออกมาจะชมพูพีชๆ คร่ะ สีน่ารักมาก ทาได้ทุกวันดูสุขภาพดี
• ราคาตัวที่ห้าง 900 บาทคร่ะ

ต่อไป ขอพูดถึง bronzer บ้างคร่ะ ตัวนี้เลย Bronzing Power #02 (Fair Matte) จาก Body Shop

• ตัวนี้ใช้ทุกวันมาเกือบปีล่ะคร่ะ ยังไม่หมดเลยคร่ะ คุ้มดีๆๆ
• สีน้ำตาลน้ำผึ้งๆแเนื้อแม็ตตามชื่อเลย ไม่มีชิมเมอร์คร่ะ
• เราว่าสำหรับสาวๆที่ผิวขาวหน่อย สามารถเอามาทำ shading ได้คร่ะ เพราะว่าตัวนี้สีแต่ไม่ได้เข้มมากเท่า Nars Laguna หรือ Benefit Hoola คร่ะ ส่วนสาวที่ผิวเข้มขึ้นมานิดก็สามารถใช้ปัดเพื่อให้ดูผิวโกลวสีน้ำผึ้ง ดูสุขภาพดีคร่ะ
• สารพัดประโยชน์คร่ะตัวนี้ เป็น bronzer, shading-contour, หรือจะเป็น สีคัดเบ้ายังได้เลยคร่ะ
• ราคาตอนที่เราซื้อ 790 บาทคร่ะ (ไม่รู้ราคาตอนนี้เปลี่ยนรึเปล่าคร่ะ)

ชิ้นที่ห้าคร่ะ Rimmel London Stay Matte Long Lasting Press Power สี 001 Translucent

• ตัวนี้ถือว่าเป็นแป้งโด่งดังคร่ะ เราก็ซื้อมาลองเพราะกูรูในยูทูปเค้าชอบกันคร่ะ (ติ่งคร่ะ เชื่อคนง่าย) ซึ่งเราว่ามันดีคร่ะ ใช้หมดไปสามอันแล้วคร่า 555
• เนื้อแป้งละเอียดดีคร่ะ ไม่มีสี ปัดไปแล้วสีเบส หรือ รองพื้นที่ทาไปไม่เปลี่ยนคร่ะ ไม่ได้ปกปิดวันไหนขี้เกียจก็ คอนซีลเลอร์ ตามด้วยตัวนี้เลย
• เรื่องคุมมันนี้ก็ระดับนึงคร่ะ แต่ไม่เท่า laura mercier translucent power คร่ะ
• พกพาง่ายคร่ะ ไม่เป็นแป้ง translucent ที่มาเป็นผงๆใส่กระปุกมา (ไม่เลอะเทอะคร่ะ เพราะแต่งหน้าในรถตอนเช้า)
• ฝากน้องซื้อกลับมาจากอังกฤษคร่ะ ราคาที่นั่นไม่แพงจร่ะ

ชิ้นสุดท้ายแล้วคร่า (ใครอ่านถึงตรงนี้ ขอบคุณน่ะคร้า TT)Fairy Grops Mascaraคร่ะ

• ปกติแล้วขนตาเราดื้อด้านมากคร่ะ ส่วนใหญ่ปัดอะไรก็ตกหมดคร่ะ ดัดให้งอนก็ย้ากยาก
• เอาจริงๆตัวนี้ก็ตกน่ะคร่ะ แต่ตกช้ากว่าตัวอื่นที่เคยใช้มาคร่ะ ขนตางอนๆเด้งๆดีคร่ะ ทนน้ำดีคร่ะ ไม่ค่อยแพนด้าเท่าไหร่
• ราคาจำไม่ได้จริงๆคร่ะ แท่งที่สามล่ะคร้า

วันนี้ขอจบการรีวิวไว่เท่านี้น่ะคร้า หวังว่าเพื่อนๆจะชอบนะคร่ะ ซารางเฮ !!!