❥ Review : 2 รองพื้นขั้นเทพ
Kanya Lifestyle3131สวัสดีอีกครั้งค่าา สาวๆชาวจีบันทุกคน
กลับมาตามสัญญาจากกระทู้ที่แล้ว ที่รีวิวเครื่องสำอางที่ถูกและดี๊ดีของ Mistine ไป
http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=201148
ขอบคุณมากกับผลตอบรับที่ดีมากๆเลยนะค่ะ
วันนี้เป็นการหยิบยกรองพื้นในตำนาน 2 แบรนด์มาเจอกัน
เป็นรองพื้นที่สาวๆทุกคนน่าจะรู้จักเป็นอย่างดี
เพราะมีทั้ง beauty blogger และ makeup artist
ยกให้รองพื้นสองตัวนี้เป็นรองพื้นขั้นเทพเลยก็ว่าได้
จะเทพหรือไม่เทพ ตามมาดูกันเลยดีกว่าค่ะ
แท๊แด
Estee Lauder Double Wear และ Revlon Colorstay (หรือรองพื้นฝาดำในตำนาน) นั้นเอง
ขอพูดถึงรองพื้นสองตัวนี้ก่อนนะคะ ก่อนจะรีวิว
มาที่ตัวแรกเลยนะคะ นั่นก็คือ
Estee Lauder Double Wear
แค่ขวดก็น่าใช้แล้วว ^_^
คุณสมบัติของตัวนี้ก็คือ สามารถอยู่ติดทนนานบนใบหน้าได้ถึง 15 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ไม่ว่าจะโดนน้ำ โดนเหงื่อ ก็ยังคงอยุ่ (มันเลิศตรงนี้แหละ)
และช่วยปกปิด รอยแดงจากสิว รวมไปถึงริ้วรอยบนใบหน้าได้อีกด้วย
นอกจากนั้นยังสามารถควบคุมความมันบนใบหน้าของเราด้วยค่ะ
คนหน้ามันใช้ได้ค่ะ ไม่ต้องกลัวเยิ้มเลยค่ะ
มีหลายโทนมากกกกกกกกกกกกก
ไม่ว่าจะผิวขาว ผิวเหลือง ผิวสองสี หรือผิวเข้ม นี่มีครบค่าาาา ปลื้มปริ่ม ❤
ต่อมานะคะ
Revlon Colorstay หรือที่รู้จักกันในนาม เรฟลอนฝาดำนั่นเอง
ด้านบนจะเป็นรุ่นเก่า ด้านร่างจะเป็นรุ่นใหม่ ซึ่งแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนนน
ตัวนี้สาวๆหลายคนคงจะเคยลองใช้กันมาบ้างแล้วสินะ ^_^
เพราะชื่อเสียงมันโด่งดังมากกกกกกกกกกกกกก
เค้าบอกว่ารองพื้นตัวนี้ติดทนนานถึง 24 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว (นานไปไหน)
แต่เราว่าอย่าปล่อยให้นานถึง 24 ชั่วโมงดีกว่าหน้า เพราะหน้าอาจจะพังได้ 55
อีกอย่างที่เค้าบอกกันมา คือรองพื้นตัวนี้สามารถคุมมันได้ดี
รวมทั้งการปกปิดที่ยอดเยี่ยมมากๆ
เป็นรองพื้นที่มีให้เลือกหลายสีเหมือนกันค่ะ
แต่ว่าในไทยจะมีอยู่ประมาณ 5 โทนสีนะคะ (ถ้าจำไม่ผิด)
ต่อมามาดูรีวิวที่เราได้ทดลองด้วยตัวเองเลยค่า
เนื่องจากเราเป็นคนผิวสองสีนะคะ รองพื้นที่เลือกมาจะเป็นสีกลางๆค่ะ
Estee ตัวนี้ เป็นเบอร์ 2W0 Warm Vanilla #82
ตัวนี้มี SPF 10/PA++
Revlon ตัวนี้เป็นเบอร์ 240 Medium Beige
ซึ่งรู้สึกพลาดค่ะตอนที่ลองที่ห้างคือทาแล้วดีอ้ะค่ะ แต่พอมาเจอแดดแล้วมันหมองๆ
เพราะเราผิวออกเหลือง แต่รองพื้นมันออกชมพู 555555555 พลาดดดดดด
แต่ก็โอเคค่ะ นานๆหยิบมาใช้สักครั้ง
ตัวนี้มี SPF 15 ค่ะ
ลองมาดูเนื้อรองพื้นกันดีกว่า......
เปรียบเทียบให้ดูเลยค่ะ เนื้อรองพื้นของ Estee จะเหลว กว่า Revlon นะคะ
ขอบอกว่า Estee ตัวนี้แห้งเร็วมากค่ะ ไม่เหมาะกับการแต้มลงบนหน้า 5 จุดเลยค่ะ
เพราะถ้าเกลี่ยไม่ทัน จะเป็นคราบได้นะคะ
แต่มีเคล็ดลับนิดนึงสำหรับรองพื้น 2 ตัวนี้ แนะนำให้ใช้นิ้วลงรองพื้นให้ทั่วใบหน้าก่อนค่ะ
แล้วค่อยใช้ฟองน้ำชุบน้ำ แล้วค่อยๆกดลงไปให้ทั่วใบหน้าค่ะ
รับรอง เนียนกริ๊บบบบ !
ตามภาพด้านบนนี้ เป็นการทาด้วยนิ้วนะคะ ค่อยๆเกลี่ย
จะเห็นได้ว่า Estee จะเข้ากับสีผิวเราได้มากกว่า Revlon
Revlon จะออกไปทางอมชมพูนิดๆ
ต่อมาเป็นการทดสอบความมันของรองพื้นนะคะ
เราทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีค่ะ
จะเห็นได้ว่า Revlon จะมีความมันมากกว่า Estee นะคะ
สรุปกันเลย
Estee Lauder Double Wear
- เกลี่ยง่าย : 3/ 5
- คุมมัน : 4.5/ 5
- ปิกปิด : 5/ 5
- ไม่เป็นคราบ : 4.5/ 5
- เกลี่ยง่าย : 3.5/ 5
- คุมมัน : 4/ 5
- ปิกปิด : 4.5/ 5
- ไม่เป็นคราบ : 4/ 5
บางคนอาจจะไม่ชอบ แต่ถ้าทนได้ก็โอเคค่าาา
น่าจะเหมาะกับงานที่ต้องท้าแดด ท้าลม ท้าฝน ท้ากล้อง
อย่างเช่น งานรับปริญญาหรืองานเลี้ยงต่างมากกว่า
หาซื้อได้ที่ไหน ราคาเท่าไหร่ ?
Estee Lauder Double Wear :
หาซื้อได้ตามเคาท์เตอร์ตามห้างเซ็นทรัล, โรบินสิน, เดอะมอลล์
หรือสั่งทางเว็บเครื่องสำอางค์ แต่หาร้านที่เชื่อถือได้นิดนึงนะคะ(แนะนำให้ได้ค่ะ) อีกที่นึงคือ Duty Freeที่สนามบินค่ะ
สนามบินสุวรรณภูมิก็มีนะคะ ที่ฝั่งผู้โดยสารขาออก เที่ยวบินระหว่างประเทศค่ะ
ราคาตามกล่อง 1,750 บาท (ตอนนี้น่าจะลดอยู่นะคะ)
ราคาสูงไปนิด แต่คุ้มกับคุณภาพและปริมาณนะคะ เพราะใช้แค่นิดเดียวเท่านั้นค่ะ
Revlon Colorstay :
หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป, Watson, Boots
ราคาอยู่ที่ประมาณ 450-550 บาท
ตัวนี้ถือว่าถูกมากเลยค่ะ ถ้าเทียบกับคุณภาพ คุ้มมากกกก
ขอบคุณที่ติดตามจนจบนะคะ ไว้มีอะไรดีๆเด็ดๆ จะหยิบมารีวิวอีกน้า
ทั้งท้ายด้วยรูปเรา กับรองพื้น Estee Lauder Double Wear ค่าาา
ติดตามผลงานได้ตามลิ้งด้านล่างเลยนะค่าาา
Discussion (31)