ว่าด้วยเรื่องของ “การเขียนคิ้ว cute cute”สำหรับมือใหม่หัดขับ

ว่าด้วยเรื่องของ "การเขียนคิ้ว cute cute"สำหรับมือใหม่หัดขับ ตอนที่1 รู้จักอุปกรณ์เขียนคิ้ว

เวลาที่ไก่ไปแต่งหน้าให้ลูกค้าจะเจอคำถามยอดฮิตว่า "ในการแต่งหน้าตรงส่วนไหนยากที่สุด" ซึ่งคำตอบของไก่ทุกครั้งก็คือ การเขียนคิ้วยากที่สุด ทั้งๆเป็นส่วนที่มีบริเวณเล็กมากในใบหน้าแต่ส่งผลกับภาพรวมมากที่สุด วันนี้ไก่เลยมาทำทั้งรีวิวและฮาวทูเกี่ยวกับคิ้ว ซึ่งก่อนที่จะรู้วิธีการเขียนคิ้ว เรามารู้จักอุปกรณ์ต่างๆกันดีกว่า

อุปกรณ์ที่ไก่นำมารีวิวต่อไปนี้เป็นของๆไก่เองซึ่งผ่านการใช้งานมาพอสมควรดังนั้นจะดูเก่าเล็กน้อย แต่เป็นของพื้นฐานที่อยากให้รู้จักกันก่อน

1 แปรงเขียนคิ้ว

แปรงเขียนคิ้วจะมีหลากหลายขนาดและหลากหลายแบรนด์ ตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักร้อย สำหรับมือใหม่หัดขับที่ยังไม่มีไว้ในครอบครองอาจจะลองหาซื้อตามตลาดนัดก็ได้นะคะ มาฝึกใช้ให้เก่งก่อนแล้วค่อยขยับขยายไปอันแพงๆตามต้องการ โดยวิธีดูคือ ให้ดูขนาดพื้นที่คิ้วของเราว่ามันเล็กหรือใหญ่ก็เลือกขนาดให้เหมาะสม ขนแปรงไม่แข็งหรือนุ่มจนเกินไป ถ้านุ่มเกินเวลาใช้จะทำให้ฝุ่นเขียนคิ้วฟุ้งเลอะส่วนอื่นที่เมคอัพไว้แล้ว

2 ที่เขียนคิ้วแบบฝุ่น

เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่เคยใช้เลย หรือไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับที่เขียนคิ้วแบบฝุ่น อาจจะเพราะว่าใช้ยาก ไม่ทันใจเท่าดินสอสีไม่คมชัด และบางทีใช้และฝุ่นเลอะเทอะลงมาที่ตาต้องมาคอยเก็บงานอีก แต่ไก่อยากแนะนำให้ลองใช้ดูนะ เพราะว่าข้อดีของมันคือ คิ้วจะดูเบาเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งหรือเข้มจนโดดออกมามากเกินไป วิธีการเลือกซื้อนั้นควรดูที่โทนสีเป็นหลัก ซึ่งจะมีโทนออกน้ำตาล และโทนแดง ซึ่งจะดูจากสีผมด้วย ตามปกติสีคิ้วควรจะสีอ่อนกว่าสีผมหนึ่งระดับ

3 ดินสอเขียนคิ้ว

อุปกรณ์พื้นฐานที่ทุกคนรู้จัก มีทั้งแบบดินสอใช้เหลา แบบหมุน แบบเจลและหลากหลายโทนสีให้เลือกใช้ เวลาไก่เลือกจะเลือกที่สีชัด เนื้อแน่น เวลาเขียนต้องไม่ออกมาเป็นก้อน เวลาใช้จะต้องเบามือมากถึงมากที่สุดเพื่อให้สีไม่เข้มจนเกินไป ปกติใช้เติมส่วนที่ฝุ่นเขียนคิ้วเก็บได้ไม่หมดเช่นหางคิ้ว หรือส่วนแหว่งๆไม่มีขนคิ้ว

4 แปรงเบลนเดอร์

หลายคนอาจจะไม่คุ้นสักเท่าไหร่ แต่ไก่อยากจะบอกว่าแปรงเบลนเดอร์เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คิ้วเป็นธรรมชาติไล่สีอ่อนกลางเข้มได้สวยเนียน และทำให้เขียนคิ้วง่ายขึ้นด้วย

5 คอนซิลเลอร์+แปรงคอนซิลเลอร์

อย่าพึ่งตกใจว่าทำไมการเขียนคิ้วถึงมีคอนซิลเลอร์มาเกี่ยวข้อง หากต้องการคิ้วคมกริ้บ เฉียบพุ่งกระแทกตาจะขาดคอนซิลเลอร์และแปรงไปไม่ได้ เราจะใช้เก็บงานที่เราทำเลอะเทอะและสร้างคิ้วที่คมสวยขึ้นมา โดยวิธีเลือกสีควรจะเป็นสีเดียวกับสีผิวเพื่อให้ดูเนียนกลมกลืน

ว่าด้วยเรื่องของ "การเขียนคิ้ว cute cute"สำหรับมือใหม่หัดขับ ตอนที2 เขียนคิ้วยังไงให้cute cute

ต่อไปนี้เป็นวิธีเขียนคิ้วของไก่เองซึ่งไม่ได้เป็นรูปแบบที่ตายตัว แต่เป็นวิธีที่ไก่เอามาแชร์แบ่งปันความรู้กัน เขียนคิ้วเริ่มต้นจากตรงไหนดี

1 กันคิ้ว แค่ได้ยินคำนี้สาวๆหลายคนก็จะรู้สึกขยาดขึ้นมาเลย ไก่เชื่อว่าหลายคนเคยมีประสบการณ์คิ้วหาย ชั้นกลายเป็นแม่ชีในทันใด ไม่ว่าจะด้วยการกันคิ้วเองหรือให้ช่างกันให้ ทำให้มีหลายคนที่ไม่ยอมกันคิ้วเด็ดขาด ซึ่งส่วนตัวไก่เองก็เคยโดนมาเหมือนกันจึงค่อนข้างเข้าใจความรู้สึกนี้ แต่อย่างไรก็ตามไก่ก็ยังยืนยันว่าสาวๆควรจะกันคิ้ว เพื่อให้คิ้วมีทรงที่สวยชัดเจนและเสริมใบหน้า ลองหาช่างที่ไว้ใจได้กันคิ้วให้นะคะ อย่าได้คิดจะทำเองเพราะนอกจากจะทำให้คิ้วแหว่งและไม่เท่ากันแล้ว อาจจะได้ทรงคิ้วที่ไม่เสริมใบหน้าด้วย เพราะพื้นฐานได้ทรงคิ้วสวยแล้วย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง

"บางคนอาจจะยังงงว่าคิ้วแต่ละคนมีทรงที่แตกต่างกันยังไง แล้วมันจะเสริมบุคลิคได้ยังไง" ไก่จะยกตัวอย่างให้ฟังเช่น คนที่คิ้วรกๆหนาแล้วบังเอิญว่าเป็นคนหน้าผากกว้าง พื้นที่หน้าผากเหลือเยอะ เราก็ควรจะกันที่ใต้ท้องคิ้วแทนที่จะไปกันด้านบน หากไปกันด้านบนยิ่งเท่ากับเพิ่มเนื้อที่หน้าผากให้ยิ่งกว้างขึ้นไปอีก หรือบางคนคิ้วตกมาก หากไม่กันทิ้งหรือเขียนตามทรงคิ้วเดิมจะทำให้กลายเป็นคนหน้าเศร้าตลอดเวลาเพราะหางคิ้วตกลงมาก ดังนั้นทรงคิ้วจึงเป็นเรื่องที่สำคัญและต้องใช้ประสบการณ์ หากยังเป็นมือใหม่หัดขับไก่เลยอยากแนะนำให้หาช่างที่ไว้ใจได้ดีกว่าค่ะ

2 หยิบแปรงเขียนคิ้วขนาดพอเหมาะขึ้นมาเลยค่ะ จุ่มสีกลาง (สีที่ไม่เข้มไม่อ่อนจนเกินไป)เคาะเบาๆเพื่อให้ฝุ่นส่วนเกินออกไปก่อน แล้วแบ่งคิ้วออกเป็นสามส่วนโดยกะเอาจากสายตานะคะไม่ใช่เอาดินสอไปขีดแบ่งไว้ เริ่มเขียนจากส่วนที่สองถูไปทางหางคิ้วเบาๆและเป็นเส้นตรง พริ้วๆประหนึ่งจิตรกรวาดรูป ส่วนหัวให้ทิ้งเอาไว้ก่อนเราจะมาตามเก็บทีหลัง

ประเด็นสำคัญมันอยู่ที่ว่าเราจะเขียนเฉียงขึ้นประมาณกี่องศา ซึ่งราจะรู้ยังไงว่าต้องเฉียงเท่าไหร่ อันดับแรกให้ดูจากสิ่งที่เรามีอยู่แล้วค่ะ คือคิ้วเดิมเรามันไปในทิศทางไหนก็ให้ตามทิศทางนั้นไป หากเฉียงมากจะทำให้ดูสูงวัยและเหมือนเบิ่งตาตลอดเวลา ถ้าเฉียงน้อยไปหน้าก็จะดูทื่อ แข็ง (เดี๋ยวนี้กำลังฮิตคิ้วทื่อๆตรงๆ) มีข้อดีคือทำให้ดูหน้าเด็กลง แต่ไม่ได้เหมาะกับทุกคนนะคะ ต้องดูองค์ประกอบโดยรวมของใบหน้าเราด้วย

3 เมื่อได้เส้นแรกมาแล้ว ใช้แปรงแตะสีที่เข้มขึ้นอีกหนึ่งระดับ เคาะเบาๆแล้ววาดเป็นแนวเฉียงขึ้นไปเจอจุดหักของคิ้ว ถามว่าจุดหักของคิ้วอยู่ตรงไหนจะรู้ได้อย่างไร? วิธีของไก่คือการแบ่งคิ้วทั้งหมดเป็น 70/30 ค่ะ เราจะได้จุดหักที่สวยงามหรือดูจากหลังตาดำก็จะได้จุดหักที่พอเหมาะดีค่ะ แต่ต้องมองตรงนะคะแล้วเอาด้ามแปรงทาบตรงๆจะได้จุดหักของคิ้วเรา

เมื่อลากเส้นจดถึงจุดหักแล้วให้ลากเป็นโครงเส้นตรงไปทางหัวคิ้วแต่ไม่ต้องสุดนะคะ เราจะยังไม่ยุ่งกับหัวคิ้วจนกว่าจะจบขั้นตอนทั้งหมด เมื่อเราได้โครงคร่าวๆแล้ว ก็ใช้แรปงถมสีให้ทั่วโดยไล่สีให้หางคิ้วเข้มกว่ากลางคิ้ว

4 ขั้นตอนนี้เป็นเทคนิคที่สำคัญสำหรับสาวๆที่อยากได้คิ้วคมกริบพุ่มแทงตาชาวบ้าน โดยการนำแปรงคอนซิลเลอร์แตะเนื้อคอนสีเดียวกับผิวแล้วปาดตัดขอบคิ้วให้คมตามรอยปะเลยค่ะ ถ้าเกิดปัญหาเช่นปาดกินเนื้อคิ้วมากเกินไปไม่ต้องตกใจนะคะ ใช้ฝุ่นหรือดินสอเขียนเติมเข้าใหม่ได้ค่ะ

5 ขั้นตอนสุดท้้ายที่เป็นพ้อยที่ทำให้คิ้วเราดูสวยฟุ้งไม่แข็งก็คือการใช้แปรงเบลนเดอร์เกลี่ยสีจากด้านในให้ฟุ้งออกมาทางหัวคิ้ว แค่นี้ก็ได้คิ้วสวยๆหวานๆเป๊ะกันแล้วค่ะ

ก็จบแล้วสำหรับการเขียนคิ้วในวิธีของไก่ ซึ่งอาจจะเขียนอธิบายค่อนข้างแต่ถ้าจับหลักได้และฝึกทำบ่อย คิ้วสวยๆก็ไม่หายไปไหนแน่นอนค่ะ ใครมีเทคนิคอะไรมาแชร์กันบ้างนะคะ

Discussion (0)