(เห่อลองของใหม่) กระทู้ขี้เห่อ ผลิตภัณฑ์ The Saem แบรนด์ออแกนิกส์จากเกาหลีค่ะ

สวัสดีค่า สวัสดีเพื่อนชาวจีบัน

ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าตาพึ่งจะรีวิวที่นี่เป็นครั้งแรก ด้วยความเห่อ หลังจากด้อมๆ มองๆ ด้วยความกล้าๆ กลัวๆ มาหลายที เห็นเพื่อนๆ รีวิวกันแบบมืออาชีพมาก ตาเลยไม่ค่อยกล้า แต่เนื่องจากได้ฤกษ์งามยามดี ช่วงนี้ค่อนข้างว่าง เลยได้เวลาช้อปปิ้งความงาม และมีผลิตภัณฑ์ที่ได้ซื้อมาลองใช้ เอามารีวิวแบบคนขี้เห่อค่ะ

เอาเป็นว่า มาเปิดตัวพวกเค้ากันเลยดีกว่าค่าาาา

ทั้งหมดมี 5 ชิ้นนะคะ

ตัวแรกเลย คือเจ้า The Saem Power Ampoule Hydra Hyaluronic Acid-5

ทางแบรนด์เค้าเคลมมาว่า มันเป็นเอสเซนส์บำรุงผิวเนื้อบางเบา ซึมซาบสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วและล้ำลึก พร้อมด้วยสารสกัดบริสุทธิ์จาก Hyaluronic Acid ทั้ง 5 ชนิด

สำหรับตัวนี้ ตาว่าเนื้อเอสเซนส์จะค่อนข้างใส มีกลิ่นหอมอ่อนๆ มองด้วยตาเปล่าจะคล้ายๆ น้ำเปล่าแต่รู้สึกว่ามันจะค่อนข้างข้นกว่าตัวฮาดะลาโบะมากทีเดียวค่ะ หรือถ้าใครเคยลอง ZA True White Ex เอสเซนส์ จะให้ความรู้สึกว่ามีเนื้อสัมผัสใกล้เคียงกัน ซึ่งตาเองก็แอบตกใจเล็กน้อย เนื่องจากกลัวว่าจะทำให้หน้ามันค่ะ

แต่พอได้ลองทาแล้วกลับให้ความรู้สึกค่อนข้างต่างค่ะ เพราะมันจะรู้สึกเย็นๆ ลื่นๆ แป๊บเดียวก็ซึมเข้าสู่ผิวได้หมดแล้ว ส่วนผลหลังจากใช้ นอกจากเรื่องความชุ่มชื่น ส่วนอื่นยังไม่เห็นผลเท่าไหร่ค่ะ เพราะเพิ่งจะลองใช้ได้ 2 คืนเอง ^^

ตัวถัดมา ขวดเขียวๆ ที่หลบมุมด้านหลัง คือเจ้า The Saem Urban Eco Harakeke Toner

ทางแบรนด์เคลมว่า เป็นโทนเนอร์บำรุงผิวสูตรเข้มข้น พร้อมส่วนผสมของ Harakeke พืชสมุนไพรขึ้นชื่อจากประเทศนิวซีแลนด์

แรกพบสบตา เจ้าตัวนี้มาพร้อมกับขวดสีเขียวสวยงามมากทีเดียวค่ะ เป็นโทนเนอร์ที่ใช้แบบไม่ต้องใช้สำลีค่ะ เนื้อของโทนเนอร์จะค่อนข้างต่างจากโทนเนอร์ทั่วไปเล็กน้อย เพราะเจ้าโทนเนอร์ตัวนี้จะค่อนข้างข้นค่ะ รู้สึกจะข้นกว่าเจ้าเอสเซนส์ด้วย และสีไม่ใสเท่าไหร่ กลิ่นจะใกล้เคียงกับเอสเซนส์ตัวแรกมากกกก

ส่วนเนื้อสัมผัสก็จะให้ความรู้สึกเย็นๆ ตามสไตล์ของโทนเนอร์ทั่วไป และเหมือนว่าจะไม่มีมีแอลกอฮอล์นะคะ เพราะไม่ได้กลิ่น และเมื่อสัมผัสบนหน้าก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีแอลกอฮอล์ค่ะ

หลังทาแล้วก็รู้สึกเหมือนทาเอสเซนส์ หรือเซรั่มบำรุงผิวทั่วไปค่ะ จะรู้สึกผิวนุ่มๆ ชุ่มๆ ขึ้นมา (ถ้าใครต้องการทาโทนเนอร์โดยที่ไม่ต้องการทาครีมบำรุงต่อ แนะนำเลยค่ะ ตัวนี้น่าจะตอบโจทย์)

ตัวที่ 3 มาที่เจ้า The Saem Urban Eco Harakeke Firming Seed Sleeping Pack

มาสก์หน้าบำรุงผิว ที่ทางแบรนด์เค้าเคลมว่า บำรุงผิวสวยยามค่ำคืนสูตรเข้มข้น อุดมด้วยสารสกัดจาก Harakeke พืชสมุนไพรขึ้นชื่อจากประเทศนิวซีแลนด์

เปิดกระปุกออกมาดู เค้ามีไม้พายไว้ตักครีมมาให้ด้วย 1 อัน ถือว่าสะดวกดีทีเดียว ส่วนเนื้อครีมจะค่อนข้างข้นมาก ให้ความรู้สึกคล้ายกับปิโตเลียมเจลลี่ของวาสลีนเลยค่ะ เพียงแต่เจ้าตัวนี้จะไม่มีความมันวาวเท่านั้นเอง และมีกลิ่นหอมค่อนข้างหอมแรง ออกแนวกลิ่นเปรี้ยวนิดๆ ให้ความรู้สึกสดชื่นค่ะ กลิ่นจะคล้ายกับพวกครีมหรือเซรั่มวิตามินซี ของโอเรียลทอล ปริ้นเซสเลยค่ะ (ส่วนตัวตารู้สึกว่ากลิ่นมันน่าจะเหมาะกับครีมทาตอนเช้ามากกว่ามาสก์หน้านอนนะคะ)

เมื่อทาบนหน้า เนื้อครีมค่อนข้างเกาะบนหน้าได้ดีทีเดียว (ก็แน่สิ มันเป็นมาสก์นี่^^) ทาวนๆ สักครู่เนื้อมาส์กจะเริ่มใสขึ้นมาหน่อยนึง และหนืดไปกับหน้าจนเกือบจะหายไปกับผิวก็ทิ้งไว้แบบนั้นเลยค่ะ จนถึงเช้าเมื่อล้างออกก็จะรู้สึกว่าหน้านุ่มมากกกกกกกกกก ให้ ก.ไก่ล้านตัวเลย ถือว่าปลื้มมากค่ะสำหรับตัวนี้ ถ้าปรับปรุงเรื่องกลิ่นให้อ่อนกว่านี้ตาจะให้ก.ไก่ไปอีกเท่าตัวเลยค่ะ

ตัวต่อมา ตัวที่4 คือเจ้า CHAGA Anti-aging Cream with fermented chaga extract

ครีมบำรุงผิว เพื่อยกกระชับใบหน้า ที่ทางแบรนด์เค้าเคลมว่า เป็นครีมที่ใช้น้ำสกัดจากเห็ด 100% แทนน้ำเปล่า ซึ่งจะช่วยให้ผิวกระจ่างใส และชุ่มชื่นอย่างยาวนาน

ตัวกระปุกมาด้วยสีอึมครึม ตามสไตล์ครีมเพื่อสาวมีอายุ (หนูเปล่าน๊าาา) ฝาพลาสติกลายไม้เช่นเคยค่ะ เนื้อครีมค่อนข้างจะเข้มข้นเกือบเท่าตัวมาสก์หน้าเมื่อกี้ และกลิ่นก็คล้ายกันเลยค่ะ คือออกแนวเซรั่มวิตามินซีทั่วไป หลังจากที่ทาที่ผิว ก็รู้สึกว่าหน้านุ่ม ชุ่มชื่นดีค่ะ

ส่วนเรื่องความกระจ่างใส ยังคงต้องรอดูอีกสักพักใหญ่ๆ เพราะตาเองก็เพิ่งจะใช้ได้ไม่นาน เพราะต้องสลับใช้กับเจ้าตัวเอสเซนส์ตัวแรกค่ะ เพราะเป็นคนหน้ามัน ตอนกลางคืนเลยไม่อยากโบกครีมที่เข้มข้นทับกัน มันรู้สึกเหนอะหน้า

และชิ้นสุดท้าย กิ๊ฟเซ็ท ฮาราเกเก ที่เป็นขนาดพกพา ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์อยู่ทั้งหมด 3 ตัวคือ

1. URBAN ECO HARAKEKE TONER

2.URBAN ECO HARAKEKE CREAM EX

3.URBAN ECO HARAKEKE EMULSION

ซึ่งทางแบรนด์เค้าเคลมว่า เป็นเซ็ตบำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมจากพืชฮาราเกเก จากนิวซีแลนด์ โดยใช้น้ำสกัดจากพืช 100% แทนน้ำเปล่า ช่วยแก้ปัญหาผิวเสียและคงความชุ่มชื่นให้แก่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวนี้ถือได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าลองมากค่ะ เพราะเป็นขนาดเล็ก พกพาง่าย ราคาสบายกระเป๋า และที่ซื้อมาเพราะความน่ารักของผลิตภัณฑ์ล้วนๆ เลยค่ะ

โดยเจ้าตัวแรกก็ตามที่รีวิวไว้ข้างบนเลยค่ะ ส่วนตัวที่ 2 และ 3 ตายังไม่ได้ฤกษ์แกะมาลองใช้ เนื่องจากว่ามันค่อนข้างจะซ้ำซ้อนกันกับตัวเอสเซนส์ และตัวครีมที่กำลังใช้อยู่ เลยไม่ได้ลอง แต่คิดว่าน่าจะเน้นเรื่องของให้ความชุ่มชื่นตามสไตล์ของไลน์ผลิตภัณฑ์ค่ะ ไว้ลองแล้วอาจจะมีรีวิวหลังใช้มาให้ชมอีกรอบนะค้า

หมดแล้วค่า ถ้ามีโอกาส เดี๋ยวเอาไว้ลองใช้นานๆ แล้วจะมารีวิวให้ชมอีกทีนะคะ ว่าเห็นผลในระยะยาวแค่ไหนค่า ^^

Discussion (17)

@DarkBlue ดูรายละเอียดช้อปในเฟซบุ๊กแบรนด์ได้เลยค่ะ หรือถ้าจะลองสั่งออนไลน์ก็มีหลายเว็บอยู่เหมือนกัน
@joobukiss joobukiss เห็นเค้าอ่านกันว่า เดอะแซมค่ะ ไม่รู้ถูกหรือผิด 
น่าสนใจมากค่ะ
ชอบเครื่องสำอางคออแกนิค ตอนนี้ใช้ innisfree อยู่
ว่าแต่ชื่อแบรนด์อ่านออกเสียงว่าไงคะ? แหะ แหะ
แพคเก็จสะดุดตาทุกนางเลยคะ