แชร์ประสบการณ์ Skin care workshop กับ philosophy – Skin care ตัวไหนน่าสนใจบ้างมาดูกันค่ะ

สวัสดีค่ะ วันนี้้บุ๊คก้าขอมาแชร์ประสบการณ์ Skin care workshop กับ philosophy โดย ป้าพิม Blogger ชื่อดังที่คิดว่าหลายๆ ท่านคงรู้จักกันเป็นอย่างดี ว่าด้วยกิจกรรมนี้ได้เปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วม workshop ในวันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยงานจัดขึ้นที่ร้าน Coffee gallery สยามสแควร์

เดินเข้ามาในงานก็เลือกหาที่นั่งกันตามใจชอบ และที่ว่างอยู่ตรงหน้าคือผลิตภัณฑ์ที่จะได้ใช้ในวันนี้

นั่งไปสักพักของว่างก็มาเสิร์ฟ อิอิ philosophy เค้าต้อนรับดีจริงๆ #ของกินเจ้ชอบ

มาแล้วค่ะ คนสวยของเราวันนี้ มาใน Look สดใส ออร่าจับป้าพิมมากๆ ผิวผ่องสุดๆ

พิธีกรก็เปิดงานกันตามระเบียบ

วันนี้บุ๊คก้าแต่งมาพอสมควร เพราะไปทำงานก่อนมา workshop

ก่อนที่เราจะบำรุง เราก็ต้องมาทำความสะอาดเครื่องสำอางกันก่อน ป้าพิมแนะนำว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไม่เหมาะกับการล้างเครื่องสำอางบริเวณตา บุ๊คก้าเลยล้างเฉพาะหน้าและคิ้ว เว้นตาและปากไว้ค่ะ

หลังจากที่นวดผลิตภัณฑ์ทั่วหน้าจนเครื่องสำอางหลุดหมดแล้ว เราก็ใช้สำลีชุบน้ำเช็ด (จริงๆถ้าอยู่บ้าน ตัวนี้คือใช้น้ำล้างนะคะ แต่สถานที่ไม่อำนวนเราก็เช็ดๆ กันไปจนกว่าจะสะอาดค่ะ)

เรียบร้อยแล้ว ต่อไปเราจะเตรียมบำรุงผิวกันต่อค่ะ

สิ่งแรกที่ใช้คือ the microdelivery triple-acid brightening peel แผ่นขัดผิวเข้มข้นด้วยแอคทีฟแอซิดธรรมชาติ ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและต่อต้านริ้วรอยที่จะเกิดขึ้นบนใบหน้าของเรา

วิธีใช้ก็ลูบตามลายรุขุมขน หรือใช้กดๆ ลงบนผิวก็ได้ค่ะ สำหรับเจ้าแผ่นนี้บุ๊คก้าชอบมาก เพราะให้ความชุ่มชื้นสุดๆ ใช้แล้วสบายผิว และหน้านุ่มมากๆ

ถัดมาเราจะมาร์คหน้าด้วย Hope in a jar Hydrating & Refining Lotion (คิดว่าน่าจะจำไม่ผิดนะ 555 เค้าไม่มีขวดวางไว้ให้ถ่ายรูปแต่แช่มาร์คมาให้เลย)

เราก็จัดการมาร์คไปบนหน้า และเทคนิคที่ป้าพิมให้ก็คือ ให้ใช้นิ้วดีดเบาๆ บนแผ่นมาร์ค เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ซึมเข้าผิวได้ดียิ่งขึ้น มาร์คไปสัก 10 นาทีก็เอาออกได้ค่ะ

จากนั้นก็มาต่อกันที่การบำรุงด้วย skin care กันบ้างค่ะ

เริ่มจากตัวขายดีของ philosophy นั่นคือ เซรั่ม Time In A Bottle เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวพร้อมกับผลัดเซลผิวอย่างเป็นธรรมชาติ และช่วยปรับผิวที่ถูกทำลาย พร้อมลดริ้วรอยบนใบหน้า (เขียนซะมีหลักการ 555 ก็ลอกๆ เค้ามา จำได้ไม่หมด)

ความพิเศษของผลิตภัณฑ์ตัวนี้คือ เป็น Vitamin C ที่แยกมาในขวดเล็กๆ แล้วมาเทผสมกับขวดใหญ่เมื่อต้องการเริ่มใช้ โดยเมื่อผสมแล้วจะเก็บไว้ได้แค่ 3 เดือนนะคะ เพื่อความสดใหม่ของ Vitamin C

เราก็แต้มให้ทั่วหน้าแล้วทาให้ซึมเข้าผิวไปเลยค่ะ

ถัดมาอันนี้ลืมถ่ายรูปตอนตามัวแต่ตื่นตะลึง 555 นั่นคือ renewed hope in a jar eye เป็นอายครีมเนื้อมูส บางเบาและนุ่มมากๆ ตัวนี้ชอบมากๆ เลยค่ะ มาแล้วให้ความรู้สึกเหมือนได้ปรนนิบัติผิวด้วยปลายนิ้วตัวเอง นั่น…เดี้ยนใช้ศัพท์สูง ปรนนิบัติ 555

ถัดตาตามด้วยครีมบำรุง renewed hope in a jar เนื้อครีมเข้มข้นแต่ไม่หนักหน้า ให้ความชุ่มชื้น แต่เบาสบาย และช่วยฟื้นฟูผิว ให้ดูสุขภาพดี กระจ่างใสด้วยค่ะ (ที่พูดได้แบบนี้เพราะเคยได้ tester มาลองใช้แล้วชอบมาก แต่ยังไม่ได้ซื้อซะที แฮะๆ )

สุดท้าย เมื่อเราบำรุงเสร็จแล้วก็ต้องทาครีมกันแดด ชอบกันแดดตัวนี้มากๆ เพราะเนื้อครีมไม่เหมือนกันแดดเลยค่ะ แต่เหมือนครีมบำรุงมากกว่า บุ๊คก้าใช้ปริมาณเท่าในภาพ ต่อการทา 1 ครั้ง และทาทั้งหมด 2 ครั้ง เพื่อให้ได้ตามปริมาณที่ป้าพิมพ์เคยแนะนำ สังเกตภาพมุมขวาล่าง ลองทาให้ดูบนหลังมือ ครีมกันแดดตัวนี้ซึมไว ไม่ทิ้งคราบเลยค่ะ ชอบจุง ^_^

หลังจากบำรุงครบทุกขั้นตอนแล้ว เราก็ได้ผิวฉ่ำแบบนี้ค่ะ ดูฉ่ำมาก แต่สบายหน้าสุดๆ ขอบอกว่ากลับมาบ้าน ล้างหน้าเสร็จผิวยังฉ่ำเนียนต่อเนื่อง 555 ของเค้าดีจริงๆ

จบงาน philosophy ยังให้ gift set น่ารักๆ กลับมาลองใช้ที่บ้านอีก 1 set งานนี้ต้องขอขอบคุณ philosophy และป้าพิม มากๆ นะคะ ที่จัดกิจกรรมดีๆ และช่วยแนะนำเทคนิคในการดูแลผิวหน้าใน workshop ครั้งนี้ ^_^

Discussion (1)