SWATCHES & REVIEW : LA SPLASH LIP COUTURE ลิปเนื้อแมต สีแน่น ติดทน กับ 4 ลุ๊ค เป็นใครจะอดใจไหว
Kiss me Sunday163สวัสดีค่ะ
เพลินกลับมาพร้อมสว๊อซลิปสติกอีกแล้วค่าาาา หลังจากห่างหายจากการสว๊อซไปนาน วันนี้กลับมาพร้อมลิควิดลิปสติกจากฝั่งอเมริกากันบ้าง มันดีจริงๆ เป็นหนึ่งในลิปที่เราปลื้มมากกกกกก เราขอนำเสนอ La Splash Lip Couture เมื่อปีที่แล้วตอนเบื่อๆเราก็ดูนู่นนี่บน instagram ไปเรื่อยๆจนไปเจอรูปลิปสติกจากแบรนด์นี้ ต้องบอกเลยว่าอย่างกับ Love at first sight คือเห็นแล้วปิ๊ง ตามันวาวเป็นประกาย เราก็เลยตามไปดูจากเวปไซส์ของเค้า โหววววว ละลานตามาก ตั้งแต่สีนู้ด จนเข้ม จนสีแปลกๆอย่าง เขียว น้ำเงิน เทา น้ำตาล เราก็จัดการ add to basket ไปซะหลายแท่ง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้อ เพราะทำใจเสียค่าส่งไม่ได้ จนเมื่อไม่กี่เดือนที่แล้ว เวปขายเครื่องสำอางค์ที่อังกฤษก็นำเข้ามาขาย เรานี่ดีใจจนเนื้อเต้น คือเลือกไม่ถูกเลยว่าจะเอาสีไหนก่อนดี ไม่กล้าสั่งมาเยอะเพราะเท่าที่มีอยู่ก็ใช้ได้จนชาติหน้า สรุปเราเลยได้มา 4 แท่ง (นี่ขนาดไม่กล้าสั่งเยอะนะ)
ต้องบอกตามตรงว่าเราไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าที่ไทยขายไหม อาจจะต้องพรีออเดอร์ แต่ถ้าใครมีโอกาสไปอเมริกา หลังจากอ่านรีวิวแล้วถ้าชอบก็อย่าลืมสอยมาเชยชม (ใช้คำได้บ่งบอกอายุอีกละ -__-")
เอาหล่ะมาเริ่มรีวิวเลยดีกว่า อย่างแรกเลยก็คือแพกเกจจิ้ง จริงๆมันก็เป็นตามสไตล์ liquid lipstick ทั่วไปที่เป็นแท่งๆ ถึงราคาจะอยู่ในโซนกึ่งดรักสโตว์ ตกแท่งละ £9.5 หรือประมาณ 500 บาท แต่เค้าก็ทำออกมาดูดี ไม่ได้ดูก๊องแก๊ง ตัวฝากับชื่อแบรนด์บนแท่งทำจากสีทอง เลยทำให้ดูหรูขึ้นมาอีก พอหมุนเปิดออกมาก็จะเจอตัวแปรงทาแบบฟองน้ำตามรูปด้านบน ด้วยความที่หัวมันมน บางทีการทาบริเวณมุมปากอาจทำให้เลอะได้ ถ้ารู้สึกไม่ถนัดเราแนะนำให้ใช้พู่กันทาปากแทน หรืออาจจะลงลิปไลเนอร์ก่อนก็ได้ แต่ด้วยความขี้เกียจ เราก็ฟาดจากแปรงฟองน้ำของมันไปเลย 55555
เราได้มาทั้งหมด 4 สี คือสี Poison apple, Forbidden, Summer bliss และ Hidden desires สีสันสดใสเหมาะกับใช้ในช่วงหน้าร้อน ส่วนคุณสมบัติของตัวลิปนี้หน่ะหรอ อย่างแรกที่จะสัมผัสได้ตอนที่ทาลงบนปากคือ กลิ่น เป็นอย่างเดียวที่ไม่ประทับใจ กลิ่นค่อนข้างแรง ออกแนวเหมือนกลิ่นเคมีๆ แต่ก็ยังดีที่กลิ่นมันอยู่ไม่นาน หลังจากทาไปไม่นานพอลิปเริ่มแห้งกลิ่นก็จะหายไป ส่วนเรื่องสีในหลอดเห็นสียังไงก็ได้ตามนั้นเป๊ะๆบนปาก ตอนทาอาจจะรู้สึกว่าทำไมมันไม่รู้สึกหนาเหมือนliquid lipstick ตัวอื่น แต่ไม่ต้องห่วงพอมันแห้งจะเห็นสีชัดเจนมาก เม็ดสีแน่น ทารอบเดียวก็เอาอยู่ เราไม่แนะนำให้ทาทับหลายรอบเพราะลิปมันจะจับตัวกันแน่นเกินแล้วอาจจะทำให้ลิปกร่อนออกมาเป็นแผ่นได้ ทาไปไม่ถึงนาทีลิปก็เริ่มแห้ง กลายเป็นเนื้อแมต ความรู้สึกตอนที่มันแห้งก็จะรู้สึกว่าเหมือนมีฟิล์มอยู่บนปาก แต่ไม่ได้ทำให้รู้สึกระคายเคืองอะไร เรากลับชอบนะ เพราะมันทำให้รู้ว่าลิปยังอยู่ดี ไม่ทำให้ปากเราดูแห้งจนเกินไป แถมไม่ตกร่องด้วย ไม่เหมือนตัว MUA velvet lipstick ที่เราเคยรีวิวไปเมื่อนานมาแล้วตัวนั้นแอบตกร่อง แต่ตัวนี้ไม่มีปัญหานั้นเลย นอกจากนี้ทางแบรนด์เค้าเคลมด้วยนะว่าลิปตัวนี้กันน้ำ ซึ่งมันก็จริงอย่างที่เค้าเคลมนั่นแหละ อาจจะมีบางส่วนด้านในปากที่หลุดออกมาบ้างเวลากินอาหาร แต่ก็ไม่ได้ทำให้มีปัญหาจนถึงต้องเติมปาก ถ้าชีวิตโดยปกติไม่ได้ กินของมันมาก เราว่าลิปตัวนี้อยู่ได้ยันเย็น โดยไม่ต้องห่วงว่าต้องเติมระหว่างวันเลยนะ ด้วยความที่มันทนมากปัญหาจะเกิดก็ต่อเมื่อตอนจะล้างออกเนี่ยแหละ จริงๆทางเวปเค้าถึงกับมีตัวรีมูฟเวอร์สำหรับลิปของเค้าเลยนะ แต่เราเราใช้รีวูฟเวอร์ที่มีส่วนผสมของ oil แทน เราว่าพวก micella water มันก็ใช้ได้แหละ แต่มันต้องใช้เวลาในการขัดถูเจ็บปากเปล่าๆ เราเลยใช้ตัวที่เป็นครึ่งน้ำครึ่งออยของ Garnier (ตัวที่เราใช้ไม่น่าจะขายในไทย) ในการเช็ดออกซะเลย เคยมีครั้งนึงเรารีบอาบน้ำมาก แล้วเช็ดลิปไม่หมด ตอนเช้ามายังมีบางส่วนติดบนปากอยู่เลยของเค้าดีจริงๆ
และนี่ก็คือสว๊อซลิปที่สีตัว สีแดง Poison apple นี่จริงๆมันมีกลิตเตอร์ด้วยนะ แต่ถ่ายมาแล้วอาจจะไม่เห็นเพราะมันเป็นกลิตเตอร์เล็กๆ ช่วยกระจายแสง ทาแล้วสวยมากกกก ส่วนจากรูป Forbidden กับ Summer Bliss อาจจะดูสีคล้ายๆกันแต่ Forbidden ความจริงสีมันชมพูแปร๊ดกว่ามาก Summer Bliss จะออกแนวชมพูที่มีส่วนผสมสีส้มๆเล็กๆก็จะดูเป็นชมพูที่ซอฟลงมาหน่อย ส่วนสีสุดท้ายนี่ทาแล้วเกิด สีสวย และแปลกตาดี เราชอบ
ปิดท้ายด้วยลุ๊ค 4 ลุ๊ค กับแว่นตาหนึ่งอัน เห็นม่ะ แค่เปลี่ยนสีลิปสติก ลุ๊คก็เปลี่ยนแล้ว หวังว่าเพื่อนจะชอบรีวิวนี้กันน้า
จบรีวิวแล้ว แฮ่! ถ้าอยากถามเพิ่มเติมหรือสงสัยอะไรก็เข้าไปคุยทักทายได้ที่ Facebook Page น้าา แล้วเจอกันใหม่โพสหน้านะคะ
Mwahhh
xxx
Discussion (3)