ดราม่าเพื่อผิวสวย เสียตังค์ซื้อน้ำแร่เซรั่มกันทำไม?

สวัสดีพี่น้องทั้งหลายมาแล้วเพ็กกี้มาแล้วค่า ทีนี้เลิกมาแบบมึนๆ เราค้นฟ้าคว้าดาวจนเจอแล้ว

"เฮ้ นี่ชั้นมาถึงจุดนี้ได้ยังไงกันนิไม่น่าเชื่อเลย"

ตกลงว่าไง? เอ่อนั่นดิ(ตึ่งโป๊ะ)

อ่ะๆๆตกลงว่ากี้คิดแล้วว่า กี้มีปัญหากับการดูแลผิวมวาก เนื่องจากเป็นคนผิวแห้ง ซึ่งมีที่ยืนในสังคมบิวตี้น้อยมาก. ผลิตภัณฑ์ Make up ส่วนใหญ่มุ่งตรงไปที่ชนกลุ่มใหญ่ ใส่ทุกอย่างเพื่อคุมมัน !!

แล้ววววว แล้วดิชั้นล่ะผิวแห้ง ระดับ10 ด้วยอาชีพเป็นแอร์อีก หูยบินไป แห้งไป บินไปแห้งไป

เรียนตามตรงเป็นแอร์มา12ปี ไม่เคยมีกระดาษซัยมัน เคยเห็นคนอื่นใช้ อยากใช้บ้าง ซื้อมา เก็บจนหายไม่รู้จะใช้ตอนไหนดี

สรุป ต่อจากนี้ไปกี้จะพยามสรรหา Skin Care Make Up ที่เหมาะกับผิวแห้งๆของกี้

แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณๆที่ผิวผสมผิวมันจะต้องเมินกี้นะคะ กี้จะหาผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว ไม่ใช่ เพิ่มเยิ้ม นะคะ

สเปรย์น้ำแร่ผสมเซรั่มทั้งหลาย ยังมีอีกหลายยี่ห้อที่ขายๆกันอยู่แต่3ตัวนี้เป็นตัวที่กี้ใช้อยู่และเป็นตัวที่บางคนอาจจะเคยเห็นและไม่รู้จักเลยเอามารีวิวกัน

ทำไมเราควรมีไว้?

ตอบ: เพราะกี้คิดว่าเราทาครีมตอนเช้าก่อนไปทำงานกลับบ้านมาอีกทีอาบน้ำล้างหน้าทาครีมนอน ช่วงระยะเวลา กว่า12ชม กลางวันที่หน้าเราต้องเจอมลภาวะแสงแดด ฝุ่น(สำหรับกี้หนักหนามากอยู่บนเครื่องบินตลอดความชื้นไม่มีน้ำในผิวค่อยๆจากไป)

เราไม่ได้บำรุงอะไรเพิ่มเลยระหว่างวันจะทาครีมก็ยาก หน้าแต่งแล้ว. เลยคิดว่าเจ้าสเปรย์พวกนี้หล่ะตอบโจทย์เอาไว้ฉีดยำรุงระหว่างวันเพื่อเพิ่มการบำรุงให้มากขึ้

มาเริ่มกันที่ตัวแรกเลยค่ะ Mongnis ตัวนี้มาจากแดนกิมจิแต่ได้รับการค้นคว้าที่อเมริกา

ส่วนผสมมาจากพืชพรรณหายากแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน

ส่วนใหญ่แล้วสเปรย์น้ำแร่เซรั่มก็จะเน้นไปทางด้าน Anti oxidants ต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะมาทำร้ายผิว และช่วยบำรุงผิวไปในตัว. ตัวนี้ก็เช่นกันค่ะ

ราคาประมาณ 2000กว่าบาทที่เกาหลีนะ 50 ml

ฉีดแล้ว น้ำเหมือนน้ำป้าเจี๊ยบคือไม่เบา ไม่ใส มีเหนียวเบาๆ นีสๆ ฉีดทับบนเมคอัพ นี่ต้องระวังนิดนึง มีแฉะเนื่องจากสเปรย์ออกมาได้ปริมาณค่อนข้างเยอะตอนนี้กี้เลยเก็บไว้ใช้ที่บ้าน หรือวันไม่แต่งหน้าค่ะ

ถัดมาตัวนี้ Kiehl's แบรนด์ที่เราคุ้นเคย ตัวนี้มีชื่อว่า ACAI damage-Protecting Toning Mist

ตัวนี้ก็มีคุณสมบัติเดียวกันแต่เค้าเน้นการช่วยซ่อมเซลล์ค่ะผลิตจากน้ำจากลุ่มน้ำอเมซอนกันเลยทีเดียว 180ml ราคา1600บาท

ลักษณะน้ำใสดีหัวสเปรย์กระจายมีกลิ่นส้มๆนิดๆ แต่ด้วยตอนซื้อ รู้สึกว่าเออ อันนี้หล่ะ ฉีดบนเมคอัพได้แน่ จึงลืมเรื่องไซส์. 180ml. คุ้ม ! แต่พี่น้องคะ 180ml นี่กี้จะพกขึ้นเครื่องได้ไง โดนโยนกองรวมณ.จุดx ray แน่นอน สุดท้ายเลยยังไม่ตอบโจทย์ ซ่อมเซลล์อยู่บ้านค่

ตัวสุดท้าย Begin. สเปรย์น้ำแร่เซรั่ม ของไทยเรานี่เองค่ะขวดที่เห็นในรูปนี่ 50 ml ราคา475 บาท(มั้ง) เป็นคนจำราคาไม่ค่อยได้จริงๆ

ราคาสบายกระเป๋าเนอะเมื่อเทียบกับตัวอื่นๆ

ส่วนผสมที่เด่นๆก็มีสาหร่ายสีแดงที่ทางแบรนด์เคลมว่าAnti oxidants กว่าวิตามินซีถึง600เท่าเป็นไงล่ะยังกะมีเกราะแก้วครอบผิวหน้าไว้

เป็นทั้งมอยเจอร์ไรเซอร์โทนเนอร์เซรั่มในตัว. คือขวดเดียวอยู่ ใช้สเปรย์ก่อนแต่งหน้า ระหว่างวัน. หลังล้างหน้าได้หมด

. ลักษณะน้ำเป็นน้ำใสๆเวลาสเปรย์เค้าเขียนมาหลังขวดเลยว่าให้หลับตานะจ๊ะเนื่องจากส่วนผสมมีส้มและผลไม่อื่นที่อาจจะเข้าตาและทำให้แสบตาได้ ฉีดแรกๆยิบๆที่หน้านีสนึง ปกติไม่ต้องตกใจ

. เนื่องจากตัวนี้ฉีดทับบนเมคอัพได้และไซส์พอดีมากเหมาะกับการพกพา อ่อลืมบอกที่เปิดฝาให้ดูเพราะจะบอกว่าเค้ามีฝาพลาสติกอีกชั้นกันหกและเวลาพกพาอิช้านก็เอาไปแค่นั้นไม่ได้เอาฝาไม้ไป อิอิเล็กดี. ใช้บ่อยใช้ตลอดจะหมดแล้วค่ะ

อีกส่วนที่ชอบก็เพราะกลิ่นกลิ่นหอมเหมือนดอกไม้เวลาเหนื่อยๆฉีดแล้วชื่นจายยนฟีลเหมือนอโรม่างิ. (ใครชอบดมยาดมคงเข้าใจ)

ตัวนี้เลยตอบโจทย์กี้ที่สุด ใน3ตัวนะ. ได้ใช้ได้พก และได้บำรุงผิว

อ่ะขอฝากรีวิวในรูปแบบวีดีโอไว้ให้ดูกันเล่นๆนะคะ

แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นและทั้งโน้น. จะบอกว่าถ้ามีสเปรย์น้ำแร่เซรั่มกันแล้วต้องสร้างนิสัยขยันฉีดกันด้วยนะ

แบบพกไว้ให้อุ่นใจนี่ไม่ช่วยให้ผิวดีขึ้นนะคะ. 555

จะแอบบอกว่ากี้ซุ่มทดลองผลิตภัณฑ์อื่นๆอยู่อีกหลายตัวเดวได้ผลยังไงจะมาบอกกันนะ

วันนี้ไปก่อนหล่ะค่ะ. บราย

Pekky The Angel

Discussion (2)

@Abbybaba เอาเลยค้าบบเดวเค้าจะมารีวิว make up Remover น้าาา หุๆๆ
แหล่มมมากกกกค้ะ ผิวผสมขอใช้ด้วยนะค้าบบบบ