รีวิว Oil สารพัดประโยชน์ AMIRA 97% ORGANIC ARGAN PLUS C+

สวัสดีค่า วันนี้เราจะมาแนะนำเซรั่มน้ำมันแบรนด์คุณภาพดีให้เพื่อนๆได้รู้จักกัน แต่ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้เราไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่อย่างใด เนื่องจากมีพี่ผู้หญิงใจดีท่านหนึ่งได้ส่งผลิตภัณฑ์มาให้เราทดลองใช้ดู ซึ่งปกติแล้วเราจะมีผิวมันช่วง T-Zone และมีผิวแห้งช่วง U-Zone หรือเรียกได้ว่าเป็นคนผิวผสมค่ะ เท่านั้นยังไม่พอ ... เนื่องจากกรรมพันธุ์ของเราเป็นคนจีน ซึ่งพิเศษตรงที่มีรอยกระจางๆตามสไตล์ 555 บอกตามตรงว่าดูแลยากมาก จะใช้สกินแคร์ตัวไหนต้องเลือกแล้วเลือกอีก เลือกผิดชีวิตจบ 555 เราผ่านสมรภูมิเรื่องครีมมาเยอะ เป็นสิวนิดหน่อยพอมือซนไปแกะปุ๊บ รอยดำก็อยู่นานแสนนาน T^T

สาเหตุที่ทำให้สนใจในแบรนด์ AMIRA คือเป็นแบรนด์ Natural Skincare ซึ่งผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมจากธรรมชาติ เป็นที่สนใจของกลุ่มหญิงสาวที่ใส่ใจในเรื่องของผิวพรรณโดยเน้นการใช้สารสกัดจากธรรมชาติ ที่สำคัญคือเป็นผลิตภัณฑ์นี้เป็นตัวชูโรงของแบรนด์ AMIRA ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูซ่อมแซมและปรับสภาพผิวที่ถูกทำลายที่มาจากธรรมชาติ คือ ฝุ่นละอองต่างๆ และจากสภาพอากาศที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดสิว รวมไปถึงสารเคมีรุนแรงจากการใช้ครีมต่างๆที่มีสารอันตราย อาทิเช่น สารปรอท ค่ะ

แต่เนื่องจากเราเป็นคนละเอียดในเรื่องส่วนประกอบมากๆ เราจึงไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งทำให้ได้ทราบถึงสรรพคุณของน้ำมันได้ดังนี้ค่ะ

1. Linolenic Acid), Omega 6 (Linolenic Acid), Omega 9 (Oleic acid), Arachidonic Acid และ Alpha มีคุณสมบัติ Anti-inflammatory ช่วยลดการอักเสบของผิวและมีความสำคัญต่อความสมดุลของระบบภูมิคุ้มกันช่วยเร่งกระบวนการซ่อมแซมผิวตามธรรมชาติฟื้นฟูเนื้อเยื้อของผิวหนังปกป้องเซลล์ต้นกำเนิดระดับหนังแท้เสริมสร้างคลอลาเจนและอีลาสติน

2. Vitamin E เป็นสารอาหารที่สำคัญที่ชวยต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ Anti-Oxidant และช่วยให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวปกป้องผิวจากความแห้งกร้านและริ้วรอยบำรุงผิวให้เนียนนุ่มแลดูอ่อนเยาว์ลดรอยหมองคล้ำเช่นฝ้ากระรอยด่างดำอีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการป้องกันและซ่อมแซมผิวจากอันตรายของแสงแดด

3. Anti-Aging ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในการปริมาณสูงมากจึงป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว

4. Sterols ช่วยป้องกันผิวจากการรบกวนจากสิ่งแวดล้อมที่อาจก่อให้เกิดอาการอักเสบของผิวเป็น Skin Barrier และ Anti-Inflamation ป้องกันผิวแก่ก่อนวัยและเป็น Moisturizer ให้ความชุ่มชื่นกับผิวคืนความเปล่งปลั่งและทำให้ผิวดูมีสุขภาพดี

5. Squalene มีส่วนผสมของ Squalene ที่เข้มข้นถึง 310mg./100g. ซึ่งมีส่วนช่วยในการต่อต้านมะเร็งผิวหน้งได้

จากรูปจะสังเกตเห็นได้เลยว่าผลิตภัณฑ์จะซึมเข้าสู่ผิวเร็วมาก และที่สำคัญน้ำมันอาร์แกน มีคุณสมบัติเป็น Non-Comedegenic ซึ่งไม่ก่อให้เกิดการอุตันของรูขุมขน ไม่ทำให้เกิดสิว ช่วยลดรอยดำให้จางลง ตัวน้ำมันมีความบางเบา ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่เหนียวเนอะหนะ ทำให้ผิวแข็งแรงสุขภาพดี ซึ่งครีมทั่วไปจะเคลือบแค่ผิวภายนอกเท่านั้นค่ะ แต่พอเป็นเนื้อออย์ซึ่งจะมีโมเลกุลที่เล็กมาก ทำให้เข้าไปบำรุงได้ถึงรูขุมขน ช่วยซ่อมแซมผิวได้ถึงเซลล์ผิวชั้นในเลยค่า ดีงามไปอีก

ข้อดี

1. เนื้อออย์มีความเบาบางกว่าน้ำมันประเภท Virgin Oil ตัวอื่นๆค่ะ ซึ่งทำให้ซึมเข้าสู่ผิวง่าย

2. ช่วยเรื่องการลดรอยแดง รอยดำ และเรื่องช่วยลดสิวได้อย่างดีมากค่ะ

3. Free Fragrance/ Free paragon ปกติเราแพ้น้ำหอมอยู่แล้ว ขอแนะนำสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่ายจ้า

4. ช่วยลดอาการหน้ามัน และช่วยเป็น Moisturizer ความชุ่มชื้นที่ดีให้กับคนผิวแห้งค่ะ

ข้อเสีย

ถ้าเป็นคนไม่ซีเรียสเรื่องกลิ่นก็ไม่มีปัญหาอะไรมากค่ะ ก็อย่างที่บอกอยู่แล้วว่าเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติซึ่งไม่มีการแต่งกลิ่นใดๆ และเป็นกลิ่นของเมล็ดถั่วตามธรรมชาติของเมล็ดอาร์แกนออยล์ โดยรวมๆแล้วถือว่าเรื่องกลิ่นเป็นเรื่องเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่คุ้มเกินคุ้มจ้า ^^

จากที่เราใช้มาเป็นเวลา 2 อาทิตย์รู้สึกได้ว่าผิวมีความแข็งแรงขึ้นมาก โดยปกติเราจะใช้ทาก่อนนอนเนื่องจากเราเป็นคนผิวมัน เกรงว่าจะให้ลุคดิวอี้เกินไป 555 โดยส่วนตัวเราก็จะปั๊มน้ำมันอาร์แกนลงบนฝามือ 1 ปั้ม ถูฝามือให้อุ่น และค่อยๆชโลมลงใบหน้าให้ทั่ว หากช่วงไหนมีสิวหรือมีปัญหาที่บริเวณไหนเป็นพิเศษก็จะหยดเพิ่มและเน้นย้ำที่บริเวณนั้นอีกทีค่ะ หรือถ้าอยู่ในช่วงวันหยุด เราก็จะใช้น้ำมันนวดผิวหน้าเพื่อเป็น Natural Botox เพราะนางช่วยลดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าและยังทำให้ใบหน้าเรียบตึงได้ค่ะ หากสาวๆคนไหนสนใจวิธีนวด สามารถคลิ๊กดูได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=QUUd5EFvlQY จ้า

สุดท้ายนี้ขอฝากผลิตภัณฑ์ดีๆจากธรรมชาติ Argan Oil Plus C+ ไว้ด้วยนะค้า ลองใช้แล้วจะรักเลย

ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำและคำติชมจากสาวๆจีบันทุกท่านนะคะ สวัสดีค่า :)