รีวิว creme de lamer + new intensive revitalizing mask ในวันที่เร่งรีบ ตื่นมาหน้าเด้ง

เคยเห็นคนรีวิวcream de lamer มาหลายคนบ้างก็ว่าดี บ้างก็บอกไม่ดี สิวขึ้น แพ้ง่าย ทีนี้เลยลองไปซื้อใช้เองดูบ้าง เพราะเริ่มเข้าใกล้หน้าหนาวแล้ว ตัวcreme de lamerน่าจะตอบโจทย์ สำหรับการให้ความชุ่มชื้นสำหรับผิวแห้งๆอย่างเรา..........

แต่แล้วทะว่า จากการนั่งserchหาข้อมูลดูแล้ว มีอีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจ คือnew intensive revitalizing mask ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ เปล่งประกาย

โดยปกติเราเป็นคนใช้skin care เยอะหลายตัวมากหลายขั้นตอน ดังนี้

น้ำเกลือล้างหน้า>>มาร์คสมุนไพร(มะขาม+น้ำผึ้ง+มะเขือเทศ+ขมิ้น)วันเว้นวัน>>ล้างหน้าด้วยนมสด>>ล้างหน้าสบู่เหลวธรรมดา>>น้ำแข็งก้อนนวดหน้า>>โทนเนอร์>>เซรั่ม>>ครีมบำรุง>>บางทีอาจใช้มาร์คแผ่นโปะมันไปอีกที

คือเยอะ เหนื่อยมาก แต่ว่าถ้าไม่ทำก็จะไม่สบายใจ ขนาดเขียนยังเหนื่อยเลย555 เวลาจะทาครีมทีค่อนข้างขี้เกียจ ต้องทำใจนานหลายนาที เหอะเหอะ ซึ่งเราเลยตัดสินใจเปลี่ยน โดยลองใช้2ตัวแค่cream de lamer+new intensive revitalizing mask

ตอนนี้เราเหลือขั้นตอนแค่มาร์คสมุนไพร>>สบู่เหลวล้างหน้า>>new intensive revitalizing mask >>creme de lamer ซึ่งรู้สึกว่ามันให้ผลพอกันกับที่เคยทำเลยอะ

เริ่มที่ตัวแรกเลยนะค่ะ

new intensive revitalizing mask

ส่วนประกอบ

Miracle Broth(with two new ingredients the Vitality Ferment and the Purifying Ferment)

the vitality ferment ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์

the Purifying Ferment ปกป้องมลพิษที่ทำให้ผิวเหี่ยวย่น ผิวชุ่มชื้น

ลักษณะเนื้อเป็นแบบครีมเหลวๆหน่อย ออกจะคล้ายครีมเบบี้จอห์นสันขวดๆที่ทาตอนเด็กๆค่ะ ดังนั้นมีความเห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม ใช้ได้หมดค่ะ

เนื้อครีมเกลี่ยง่ายมากๆ จนอาจทำให้ใช้จำนวนมากโดยไม่รู้ตัว (เปลืองนั่นเอง)

วิธีการทาคือ ทาเหมือนครีมทั่วไปได้เลย ถ้ามีแท่งเหล็กที่ใช้นวดหน้า เอาไปแช่เย็นแล้วนำมานวดร่วมกัน เนื้อครีมจะซึมยิ่งไวขึ้น หลังจากนั้นรอ8นาที สังเกตทาเนื้อครีมเส็ดก็จะเรียบไปกับผิวเลย (แทบไม่เห็นความต่าง ไม่เลยดีกว่า555) แต่เมื่อลองทากับหน้ามันจะให้ความรู้สึกชุ่มชื้นแทนที่จะเป็นหน้ามันๆนะค่ะ

อันนี้เป็นภาพเทียบก่อนทากับหลังทาในวันเดียวกันนะค่ะ ปล.รูปโทนแสงต่างกันเล็กน้อย ขอโทษด้วยนะค่ะเพราะพวกรูปที่แสดงผิวหน้าจะไม่ได้ใช้แอฟ หรือแต่งรูปใดๆทั้งสิ้นทุกรูป แต่อาจมีย่อ crop ภาพเท่านั้นนะค่ะ เพื่อให้เห็นภาพสมจริงที่สุด ตอนถ่ายเช็คดูแล้วว่าโอเค พอมาดูในคอมมันเห็นสีต่างพอควร แงแง

มาให้คะแนนกันดีกว่า(หลังจากใช้ประมาณ1เดือน)

ความชุ่มชื้น 9.8/10 อันนี้เห็นผลมาก ตอนทา หน้าจะนุ่มเป็นก้นเด็ก ชุ่มชื้นแต่ไม่มัน

รอยเหี่ยวย่น 8/10 เห็นไม่ค่อยชัดมาก แต่ว่าหน้าจะเด้งขึ้น ทำให้เห็นรอยน้อยลง

ผิวขาวกระจ่างใส 9/10 รู้สึกว่าขาวใสบวกอมชมพูขึ้นนิดส์นึง

ราคา 8.5/10 ราคาอยู่ที่6XXX ที่เคาท์เตอร์ ซึ่งเรารู้สึกว่าพอสู้ไหวบวกส่วนลดต่างๆบัตรเครดิตอีก ยิ่งถ้าซื้อที่duty free เราเลยคิดว่าราคาสูงกว่าราคาทั่วไปแต่ไม่ได้ดูว่าเว่อมากเกิน เพราะmaskส่วนใหญ่ราคาหลายบาทอยู่แล้ว

packaging+ความสะดวกสบาย 6/10 คือเป็นหลอดโดยทั่วไปเลยซึ่งเนื้อครีมมันค่อนข้างเหลว ฝาเปิดง่ายมาก ทำให้เวลาบีบครีมออกมาเยอะ และเลอะที่ฝาจำนวนมาก บวกกับไม่สวยเลย ถ้ามีแท่งนวดหน้าแถมมาน่าจะดูสมราคากว่านี้555 ข้อเสียแถม1ข้อ ต้องรอ8นาที ซึ่งบางคนอาจขี้เกียจรอ รีบ ไม่ได้จับเวลา เป็นต้น

สรุป เราให้ 9 นะ จะซื้ออีกแน่นอนค่อนช้างชอบ ใช้ก่อนนอน ตื่นมารู้สึกผิวหน้าแข็งแรงดี แต่ว่าจะซื้อต่อเมื่อมีโปร ลด10% หรือduty free เป็นต้น5555

ตัวต่อไปเลย

creme de lamer

ความตั้งใจตอนแรกคือจะซื้อ the limited edition creme de la mer ขวดสีpink gold แต่ไม่มีของเลย ไม่เป็นไรเพราะครีมแบบเดียวกันต่างแค่กระปุกแค่นั้น งั้นจบไปอิอิ

เปิดกล่องออกมาก็จะมีช้อนตักสีขาวให้ แพจเกจสวยงาม

เนื้อครีมเป็นก้อนครีมที่ค่อนข้างเเข็ง คือเวลาตักออกมาเป็นก้อนๆแบบเนยตอนแช่เย็นได้เลยค่ะ

วิธีการทา ตักครีมเท่าเม็ดถั่วเขียวพอ (เนื้อครีมเข้มข้นมากใช้นิดเดียวก็พอ) แล้วใช้3นิ้ว(กลาง นาง ก้อย)ถูเข้าหากัน จนเป็นเนื้อน้ำๆ จากนั้นค่อยๆแตะลงไปบนหน้าให้ทั่ว

คะแนนโดยรวม

ความชุ่มชื้น9/10 รู้สึกหน้าชุ่มชื้นแต่ไม่มาก คหสต.เราว่าไม่ค่อยชุ่มชื้นเท่าที่เคยใช้ตัวอื่น มันเหมือนเป็นน้ำๆทาหน้า(ซึ่งต่างจากคนอื่น) แต่สบายหน้าเบาๆดี

รอยเหี่ยวย่น 8.8/10 รู้สึกหน้าเรียบเนียนขึ้น แต่ยังไม่เห็นชัดเท่าไร

ผิวขาวกระจ่างใส 8.8/10 เรื่องความขาวไม่ค่อยชัด แต่ดูหน้าfresh สดชื่นใสขึ้น

ราคา 8/10 แพงเกินไป ราคาอยู่ที่12XXX

packaging+ความสะดวกสบาย9/10 แพคเกจสวยงาม แต่วอร์มครีมค่อนข้างยากไม่รู้ว่าแบบนี้ใช้ทาได้ยังเลยต้องวอร์มนานหน่อย(กัวอุดตัน) แต่ก็ในข้อเสียก้อมีข้อดีอยู่คือใช้ครีมเพียงเล็กน้อย

สรุป เราให้ 8.8โดยภาพรวม อาจเพราะใช้ไปแค่2weeksยังไม่ค่อยเห็นผล แตที่ประทับใจในcreme de lamerอย่างหนึ่ง อย่างที่ทราบดีเนื้อครีมที่ดูเหนียวแน่นมันมากแต่พอทาบนหน้า เหมือนน้ำ กระจายละลายหายไปบนหน้าหมดเลย5555 ไม่ค่อยเห็นแตกต่างอย่างชัดเจนแต่ที่รู้สึกคือ หน้าสบายเบาหน้ามากๆ สบายใจบอกไม่ถูก อาจเพราะกลินหรือไรไม่รู้ทาแล้วสดชื่นงะ แค่่นั้น55 อันนี้คือสิ่งที่ชอบแบบจับต้องไม่ได้ ไม่รู้เป็นเหมือนกันมั้ย 555

เทียบผิวหน้าหลังทาphysiogel cream>givenchy le soin noir cream>creme de lamer ตามลำดับ

ปล.1 ที่เทียบ3ตัวนี้เพราะphysiogel เป็นครีมที่เคลมว่าสำหรับผิวแพ้ง่ายไม่ก่อสิว ส่วนgivenchy ราคาพอกับlamer จะได้เทียบกันเห็นความแตกต่างค่ะ

ปล.2 รูปที่ถ่ายกับครีมgivenchyนั้น(รูปกลาง)พอดีถ่ายไฟจะออกเหลืองหน่อย กับถ่ายใกล้กว่าอีก2ภาพนะค่ะ อาจเห็นมุมที่ดูชัดกว่าอีก2ตัว ขออภัยณ ที่นี้ด้วย แห่ๆๆ

จะเห็นว่าเนื้อครีมที่มันบนหน้ามากสุดคือ givenchy จะรู้สึกหลังทาจะหน้าดูวาวๆตามภาพเลยค่ะ(แต่ในแง่ความชุ่มชื้นเราให้พอกันหมด โดยphysiogelชุ่มชื้นน้อยสุดค่ะ) เรื่องกระจ่างใสขึ้นตื่นมารู้สึกหน้าfresh ให้lamer>physio=givenchy ส่วนเรื่องอื่นๆเช่นรอยเหี่ยวย่นรูขุมขน พอกันนะค่ะ คือไม่

สังเกตเห็นความแตกต่างได้นั่นเอง ฟังธง!!!

สรุปภาพโดยรวมทั้งหมดที่รีวิว

จากที่ใช้creme de lamer ก็จะดีกว่าครีมอื่นที่ราคาถูกกว่าไม่มาก ซึ่งความจริงควรจะมากกว่าเยอะตามราคา แต่ว่าหากเมื่อใช้ร่วมกับ new intensive revitalizing mask ถึงเห็นความแตกต่างพอควรเลยทีเดียว แบบตื่นมาหน้าจะรู้สึกกระปี้กระเปร่า fresh เอาเป็นว่า ผ่านถ้าใช้2ตัวคู่กัน เหมือนได้รับการฟื้นฟูจริงๆ

ถามว่าจะซื้ออีกไหม คงจะลองซื้อ creme de lamer อีกสักกระปุกดูค่ะ เพราะเค้าบอกว่าลองใช้สัก2ประปุกจะเห็นความแตกต่าง แต่ถ้าผิวหน้าเหมือนเดิม คงลาจากค่ะ5555

แต่ถึงอย่างไรก็ตามค่ะ ช่างน้ำหนักว่ากับการดีขึ้นของผิวหน้าซึ่งอาจจะไม่ได้มากมายหรือเว่อเวินอลังการมาก เราพร้้อมที่จะสู้กับราคาที่เพิ่มมากไหม อันนี้ต้องแล้วแต่คนเพราะบางคนรู้สึกว่า อย่างน้อยมันก็ดีขึ้น ราคาเพิ่มมาก ถือว่าคุ้ม แต่บางคนอาจรู้สึกว่าไม่คุ้ม สู้ไปซื้อตัวบำรุงตัวอื่นเพิ่มซึ่งอาจให้ผลพอกันก็ได้ แต่แต่คนที่ซื้อสบายใจที่สุดว่าอยู่จุดนี้สบายใจ ไม่ซื้อมาแล้วรู้สึกว่าไม่น่าซื้อมา คุ้มไหม กังวลตลอดการใช้ แสดงว่าอาจจะไม่เหมาะกับเราก้อเป็นได้.......

มารายงานผลหลังจากการใช้ไปประมาณ1ปี สำหรับการใช้ creme de lamer ตอนนี้ใช้มากระปุกที่2แล้ว แต่ตอนนี้ได้ตัดสินใจยกให้แม่ไปแล้วเรียบร้อย เพราะเพิ่งมาสังเกตผิวหน้าตัวเองที่ผ่านมาว่าเรามโนมาตลอดว่าชองดีต้องแพง 555 แต่พบว่ามันไม่ใช่เสมอไป ปัญหาที่เราเจอคือ เมื่อใช้กระปุกแรกใน2-3เดือนแรก หน้าโอเค ก้อคือไม่ได้แย่ลง แต่ดีขึ้นหรือป่าวไม่แน่ใจ แต่หลังจากนั้นเรามักมีปัญหาผิวอยู่เรื่อยๆ คือ ลักษณะเป็นตุ่มขึ้นมาที่ไม่ใช่ผื่นแพ้หรือสิว แต่เป็นขลุยแห้งที่แก้ม ถ้ามองเผินๆก็จะรู้สึกว่าหน้าปกติแต่ถ้าสะท้อนแสงที่เห็นชัดเจนจะรู้ว่ามันไม่เหมือนเดิม บวกกับมีสิวขึ้นมาบาง3-4เม็ดสลับไปมา1-2เดือนทีก้อเลยลองหยุดใช้ และรักษาด้วยตัวเอง ก็พบว่าหน้ากลับมาเหมือนเดิมแล้ว เย่

      คงกลับมาใช้อีกทีตอนอายุ40+ค่ะ ขอบคุณค่ะ

Discussion (2)