เลือกโรลออน ยังไงดีน้า มาดูกัน!

สวัสดีค่าสาวๆ วันนี้จะมาแนะนำเรื่องโรลออน หรือ ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นใต้วงแขนค่า

เรื่องมีอยู่ว่า เราไปเลเซอร์รักแร้ เพราะไม่อยากให้มีขนขึ้นและ มีรักแร้เนียน ไม่ดำ แล้วก็ได้ยินคำแนะนำเรื่องการใช้โรลออนจากหลายๆคนมาว่า ถ้าไม่อยากเต่าดำต้องใช้โรลออนที่ ไม่มีแอลกอฮอล์ เราก็เลยพยายามจะหาโรลออนที่ไม่มีแอลกอฮอล์ แต่พอเห็น โรลออนตัวนึง เขียนว่า Aluminium Free เราก็สงสัยว่า มันจะต่างจากโลออนที่ Alcohol Free มั้ย ใช้แล้วจะเต่าไม่ดำเหมือนกันมั้ย เราก็ได้รับคำตอบมาว่า โรลออนทีมีสาร aluminium นี่อันตรายกว่า โรลออนที่มีแอลกอฮอล์อีกนะ!! แล้วโรลออนที่เขียนว่า alcohol free มักจะมี aluminium ผสมอยู่ (เท่าที่เช็คดูจากหบายยี่ห้อ) แต่ถ้าเป็นโรลออนที่เขียนว่า alcohol free กลับมี aluminium ผสมอยู่ เราก็เลยเกิดความลังเลว่า จะเลือกอันไหนดีหล่ะทีนี้? ก็เลยไปหาข้อมูลในอินเตอร์เนตเพิ่มเติม ซึ่งพออ่านดูจากในหลายๆเว็บไซต์ก็พบว่า โรลออนที่มีอลูมิเนียมอยู่นั้น มีส่วนเป็นสารก่อมะเร็งได้ และเป็นส่วนทำให้เต่าดำจริงๆ++เราขอยกข้อมูลที่เราไปเจอมาเว็บนึงมาให้ดูกันค่ะ

"ผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่ายมีให้เลือกหลายรูปแบบ โดยหลัก ๆ จะเป็นผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ ซึ่งจะมีตัวยาช่วยระงับไม่ให้น้ำเหงื่อไหลออกมาได้ มีชื่อเคมีคือ อลูมิเนียมคลอไฮเดรท ความเข้มข้นที่ใช้ประมาณ 30-50%

รูปแบบของผลิตภัณฑ์มักจะเป็นโรลออน (Roll On) กลไกการระงับเหงื่อของสารดังกล่าวคือสารอลูมิเนียมจะไปอุดรูขุมขนเพื่อมิให้น้ำเหงื่อไหลออกได้นั่นเอง ซึ่งเกลืออลูมิเนียมอาจรวมตัวกับน้ำเหงื่อและเชื้อจุลินทรีย์และแทรกตัวอุดตันรูขุมขน หากมีการใช้ผลิตภัณฑ์เป็นประจำและบ่อย จะมีผลทำให้เกิดการสะสมและตกค้างของสารอลูมิเนียมบริเวณใต้วงแขนมาก ทำให้เห็นเป็นรอยด่างดำ

ดังนั้นการโฆษณาชวนเชื่อในสินค้าเหล่านี้ในช่วงหลัง จะมีการผสมสารทำให้ขาว "ไวท์เทนนิ่ง" ซึ่งทำให้เด็กวัยรุ่นฮือฮามาก ความจริงผิวหนังบริเวณใต้วงแขนนั้นไม่ได้รับแสงแดดและผิวหนังไม่มีโอกาสสร้างพิกเม้นท์หรือเม็ดสีให้ผิวหนังเลย ที่เห็นเป็นความคล้ำดำเพราะสารตกค้างของเกลืออลูมิเนียมนั่นเอง

จากการวิจัยล่าสุดของนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบสิ่งที่น่าตกใจโดยพบว่าสารตกค้างเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องไม่มากก็น้อยกับสาเหตุการเกิดมะเร็งเต้านมในสตรีเพศ เนื่องจากท่อและต่อมต่าง ๆ ของบริเวณเต้านมมีส่วนเชื่อมต่อกับต่อมเหงื่อและรูขุมขนใต้วงแขน ดังนั้นสารตกค้างที่สะสมมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกลือโลหะหนัก อลูมิเนียม หรือ ซิงค์ จะไปจับกับ "ดีเอนเอ DNA" ของเซลล์ก่อให้เกิดความผิดปกติขึ้น และมีการตรวจพบสารตกค้างของอลูมิเนียมในเนื้อเยื่อจากเต้านมคนไข้"เขียนโดย รศ.ดร.พิมลพรรณ พิทยานุกุล คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล

สรุปก็คือ อลูมิเนียมจะเป็นตัวไปอุดรูขุมขนให้เหงื่อไม่ไหล ซึ่งนั้นทำให้เกิดสารตกค้าง และทำให้ใต้วงแขนมีสีคล้ำอีกด้วย

สุดท้ายนี้สิ่งที่เราอยากจะบอกก็คือว่า บางทีที่เราไปซื้อโรลออนที่เขียนว่า alcohol free แต่มี aluminum ผสมอยู่ นั้นไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่ แต่ควรจะซื้อโรลออนที่เขียนว่า Aluminum Free แต่มี alcohol ผสมอยู่ อาจจะดีกว่า วันนี้ขอฝากทิปส์เล็กๆไว้แค่นี้ค่า ไปก่อนน้า…

Discussion (5)

aluminium alum ที่ว่ามานั้นมันหมายถึง aluminium Chlorohydrate ที่ทำให้เกิดการสะสมเข้าสู่ผิวหนังนะคะ ถ้าเป็น ammonium aluminium alum (สารส้มแท่ง สารส้มน้ำ สารส้มผง)จะไม่ดูดซึมเข้าผิวหนังมีความปลอดภัยสูง แต่เรื่ิองการระคายเคืองแล้วแต่บุคคล
  • ขอบคุณคุณ
  •  Pharmacy นะคะที่ช่วยให้ช้อมูลเพิ่มเติม สรุปยังไง aluminium ก็อันตรายกว่า แอลกอฮอล์ใช่มั้ยคะ ดังนั้นควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผสมอลูมิเนียมอยู่เลยมากกว่า ที่มีแอลกอฮลล์ผสม เพราะคนส่วนใหญ่เข้าใจว่าไม่ควรใช้ที่มีแอลกอฮอล แต่ไม่รู้เรื่องอลูมิเนียม
สรุป อลูมิเนียมจะเข้าสู่เซลล์ และระดับ DNA เพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเซลล์ให้เกิดมะเร็งต้อง ใช้ปริมาณสูง (At high doses, aluminum itself adversely affects the blood–brain barrier, is capable of causing DNA damage, and has adverse epigeneticeffects) คาดว่าตามที่กล่าวอ้าง อาจหมายถึงใช้ความเข้มข้นถึง  30-50 % ของตำรับ เพราะปกติมันจะถูกดูดซึมเข้าเซลล์ได้ต่ำมาก และอลูมิเนียมที่อันตรายที่สุดคือ ในรูปแบบของ อลูมิเนียมคลอไฮเดรต เพราะฤทธิ์ในการระงับเหงื่อและขับเหงื่อมีมากกว่า อลูมิเนียมในรูปอื่นๆ และ สามารถเปลี่ยนเป็นรูป อลูมิเนียมคลอไรด์ ซึ่งจัดเป็น Neurotoxin 

 

Aluminum toxicity[edit]

Aluminum is present most often in antiperspirants in the form of aluminum chlorohydrate.[22] Aluminum chlorohydrate is not the same as the compound aluminum chloride, which has been established as a neurotoxin.[28][29][30][31] At high doses, aluminum itself adversely affects the blood–brain barrier, is capable of causing DNA damage, and has adverse epigeneticeffects.[28][32]

Although research done on aluminium and its carcinogenic effects doesn't provide conclusive evidence, it is still considered a safe practice to use an non-aluminium deodorant, especially for pregnant women or cancer survivors.[33]

The Food and Drug Administration, in a monograph dedicated to analysing the safety of deodorants, concluding that "Despite many investigators looking at this issue, the agency does not find data from topical and inhalation chronic exposure animal and human studies submitted to date sufficient to change the monograph status of aluminum containing antiperspirants", therefore allowing their use and vowing to keep monitoring the scientific literature.[34] Members of the Scientific Committee on Consumer Safety (Europe) concluded that "due to the lack of adequate data on dermal penetration to estimate the internal dose of aluminium following cosmetic uses, risk assessment cannot be performed."[35]


 

อลูมิเนียมคลอไฮเดรท (Aluminum chlorohydrate)
ชื่อพ้อง (Synonyms): Aluminum hydroxychloride, Aluminium chlorhydroxide, Aluminium chloride basic, Aluminium chlorohydrol, Polyaluminium chloride
สูตรเคมี (Molecular Formula): Al2Cl(OH)5
 

คุณสมบัติทางเคมีและกลไกการออกฤทธิ์

อลูมิเนียมคลอไฮเดรทมีลักษณะเป็นผงแกรนูลที่ดูดความชื้นได้ สามารถละลายได้ในน้ำ แต่ไม่ละลายในแอลกอฮอล์ สารละลายของอลูมิเนียมคลอไฮเดรทความเข้มข้น 20% มีค่า pH ประมาณ 4.4 ถ้าทำให้เป็นด่างหรือเป็นกลาง จะหมดฤทธิ์การเป็นยาฝาดสมาน (astringents) เนื่องจากเกิดตะกอน trihydroxide และอลูมิเนียมคลอไฮเดรทจะเข้ากันไม่ได้กับโลหะ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงกับการใช้ร่วมกับโลหะ และอลูมิเนียมคลอไฮเดรทสามารถใช้ได้ในรูปสารละลาย สเปรย์ และครีมเป็นต้น
อลูมิเนียมคลอไฮเดรทเป็นยาฝาดสมานอย่างอ่อน (mild astringents) ใช้ต้านการขับเหงื่อในยาระงับกลิ่น โดยเป็นสารที่ออกฤทธิ์ตกตะกอนโปรตีนเฉพาะบริเวณที่ทา ถูกดูดซึมเข้าในเซลล์ได้ต่ำ จึงออกฤทธิ์เฉพาะบริเวณพื้นผิวของเซลล์และช่องว่างระหว่างเซลล์เท่านั้น โดยทำให้เนื้อเยื่อบริเวณที่ทาหดตัว รวมถึงรูขุมขนที่ผิวหนังหดตัวด้วย นอกจากนี้ยังทำลายเชื้อที่เป็นสาเหตุให้เกิดกลิ่นตัวได้

 

ความเป็นพิษและข้อควรระวัง

อลูมิเนียมคลอไฮเดรทเป็นสารที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อตา และอาจมีผลทำลายตาได้ และทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุทางเดินหายใจ ดังนั้นควรใช้ด้วยความระมัดระวังไม่ให้เข้าตา และสูดหายใจเข้าไป ควรฉีดสเปรย์ที่เท้า โดยถือขวดห่างออกมาประมาณ 6 นิ้ว
เกลือของอลูมิเนียมจัดเป็นสารนิวโรท็อกซิน (neurotoxin) ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงการทำงานของเมมเบรนที่สิ่งกั้นสมองกับเลือด (blood-brain barrier, BBB) ทำให้ส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลางและส่วนปลายได้ เนื่องจากอลูมิเนียมคลอไฮเดรทเป็นสารที่ใช้เฉพาะบริเวณผิวหนัง ถูกดูดซึมเข้าในเซลล์ได้ต่ำ จึงมีความเป็นพิษต่ำแต่ควรใช้ด้วยความระมัดระวังและใช้ในบริเวณที่ควรใช้  จากการวิจัยไม่พบว่าการใช้อลูมิเนียมคลอไฮเดรทจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมได้

การปฐมพยาบาล

เนื่องจากอลูมิเนียมคลอไฮเดรทเป็นสารที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อตาได้ ในกรณีที่กระเด็นเข้าตา ให้รีบล้างด้วยน้ำสะอาดจนอาการระคายเคืองทุเลา หากมีอาการรุนแรงให้ไปพบแพทย์

เครดิต 
http://www.neutron.rmutphysics.com/chemistry-glossary/index.php?option=com_content&task=blogcategory&id=0&Itemid=85&limit=9&limitstart=18