Review : The Saga Of Xiu Jadan Sun Metal Cover Cushion

เชื่อว่าแบรนด์ The Saga Of Xiu น้อยคนที่จะรู้จักเพราะว่าแบรนด์นี้พึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2015 ที่ผ่านมานั่นเองสำหรับแบรนด์นี้นั้น อ่านว่า "เดอะ ซากะ ออฟ ซู" นะคะ

ซึ่ง Saga จะหมายถึง Legend หรือ ตำนาน จากรุ่นสู่รุ่นส่วนคำว่า Xiu มาจากภาษาจีน แปลว่า สวยงาม หรูหรา โดดเด่นโอ้ว….ดูเลอค่าขึ้นมาทันทีพอรู้คำแปลแล้ว ตอนแรกยังเฉยๆนะ ฮ่าๆๆๆๆ

ถ้าดูจากโลโก้แล้ว จะเห็นได้เลยว่า เป็นตัวอักษร จีน ก็เพราะว่า บริษัท LG ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแบรนด์นี้นั้นตั้งใจทำแบรนด์นี้ขึ้นมาเพื่อเจาะกลุ่มตลาดจีนนั่นเองค่ะ

ถ้าดูจาก packaging อาจจะดูคล้ายๆกับ The History Of Whoo ใช่มั้ยคะก็เพราะว่า เป็นแบรนด์ในเครือ LG เหมือนกันนั่นเองแต่ The Saga Of Xiu จะมีความเป็นจีนมากกว่า

ซึ่งสัญลักษณ์ของแบรนด์นี้ก็คือ ดอก Peony หรือ ดอกโบตั๋นนั่นเองซึ่งดอกโบตั๋นนี้ ถือว่าเป็น ดอกไม้ของจักรพรรดิจีนสมัยโบราณสังเกตว่าจะอยู่บน packaging ของแบรนด์นี้แทบทุกอย่างเลยและที่สำคัญ แบรนด์นี้จึงได้นำ สารสกัดจากดอกโบตั๋น เพราะมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงดูแลให้ผิวชุ่มชื่น เปล่งปลั่งนั่นเองค่ะ

เอาล่ะ…พอจะได้ทำความรู้จักกับแบรนด์นี้ไปไม่มากก็น้อยแล้วเนอะมาดูกันดีกว่าว่าส้มเอาอะไรมารีวิววันนี….ซึ่งจะบอกว่า ส้ม ตามล่า กว่าจะหามาได้หาซื้อยากมากกกกกก จนต้องฝากพี่ที่อยู่เกาหลีสั่งผ่านเวป gsshop มาให้จากเกาหลีแล้วส่งมาที่ไทยพอเปิดกล่องพัสดุมา กรี๊ดเลยจ้า สวยมาก จริงๆสั่งมาหลายอย่างนะคะแต่ว่าสิ่งแรกที่หยิบมาใช้คือ ตัวนี้

The Saga Of Xiu Jadan Sun Metal Cover Cushion

คำเคลมจากทางแบรนด์

Jadan Sun Metal Cover Cushion is the 24-house lasting cover cushionwith high coverage and viscosity in a clean metal plate that spreads thinlybut covers flows perfectly. It protects the skin from the sun withthe strong anti-ultraviolet effect and enables flawless make upby covering flaws naturally and seamlessly with high coverageand excellent adherence.Effect & Efficacy: It helps wrinkle care and whiteningand protects the skin from UV rays. (SPF50+ PA+++)

ลักษณะของผลิตภัณฑ์

สวยเนอะ ตลับ cushion ที่สวยเลอค่ามาก สังเกตมั้ยคะว่า ด้านบนมีดอกโบตั๋นด้วย ก็ตามคอนเซปท์เค้าเนอะ ตลับรุ่นนี้จะออกสีชมพูอ่อนนะคะ

อันนี้จะเป็นด้านข้างค่ะ

ในกล่อง ก็จะมี refill ให้ 1 ชิ้นนะคะ

ก้นตลับก็จะมีบอกเบอร์ เอาไว้ กับวันเดือนปีที่หมดอายุค่ะส้มสั่งเบอร์ 21 มานะคะ

เปิดออกมา จะเป็นตลับแบบนี้ค่ะ

ตลับนี้ อย่างที่ชื่อเค้าบอกเนอะว่า Metal ที่แปลว่าเหล็ก มันก็จะไม่เหมือน cushionที่เราใช้กันทั่วไป ที่จะเป็นฟองน้ำ แต่ตัวนี้คือ รองพื้นจะอยู่ข้างใต้แผ่นเหล็กนี้ค่ะ(ถ้าใครเคยใช้ cushion แบรนด์ VDL จะตลับแบบนี้เลยค่ะเพราะแบรนด์เครือ LG เหมือนกัน)

ถ้าเราเอามือลองกดดู รองพื้นก็จะขึ้นมาด้านบนตามรูๆ ที่เห็นบนแผ่นเหล็กนี่แหละค่ะ

เวลาใช้ก็เหมือนกันเลยค่ะ สอดมือเข้าไปในพัฟฟ์แบบนี ้แล้วกดลงเบาๆ

รองพื้นก็จะติดขึ้นมาบนพัฟฟ์ค่ะ

เวลาลง Cushion ก็ให้แต้มจากกึ่งกลางหน้าแล้วก็ค่อยๆเกลี่ยออกนะคะสิ่งที่ประทับใจมากๆคือ บางเบา และเนียนมากกกกกก ปกปิดรูขุมขนกว้างๆได้ค่อนข้างดีเลย

ลองเทียบใบหน้า 2 ข้าง สังเกตได้เลยค่ะว่า ฝั่งที่ลง cushion จะดูขาวกว่า(เพราะส้มเลือกสีผิดเอง ฮ่าๆๆ จริงๆควรใช้เบอร์ 23 )แล้วก็จะดูเนียนกว่าด้านที่ยังไม่ได้ทาอะไร

ความรู้สึกหลังใช้ส่วนตัวหลังใช้มาซักพัก สิ่งที่ชอบคือ ตลับค่ะ สวยมาก ฮ่าๆๆๆๆบอกเลยว่าซื้อเพราะแพคเกจจิ้งล้วนๆแต่คุณภาพเค้าดีด้วยแหละค่ะ อันนี้จริงๆ เสียดายทีเ่บอร์ 21 ขาวกว่าผิวไปหน่อยแต่ก็ยังพอถูไถใช้ได้ โดยรวมส้มชอบความเบาบาง มันไม่หนักผิวเลย ปกปิดได้กลางๆพวกรอยแดงสิวถือว่าปกปิดได้ค่อนข้างดีค่ะแต่จุดด่างดำ ก็อาจจะไม่ถึงกับเนียนสนิท จะมองเห็นจางๆ เรื่องคุมมันคงไม่ได้ช่วยเท่าไหร่นักแม้ว่าทาออกมาแล้วจะฉ่ำกลางๆ ไม่ถึงกับฉ่ำมาก แต่ก็ไม่ได้แห้งจนแมทท์ คือถ้าทา cushion ตัวนี้แล้วลงแป้งฝุ่นบางๆ ก็จะเนียนแล้วก็ได้อารมณ์งานผิวดีนะแล้วก็ถ้าสังเกตจะเห็นว่า มันจะช่วยปรับผิวให้เนียนละเอียดขึ้นพวกริ้วรอยเล็กๆ ก็จะดูจางลง แล้วก็ข้อดีอีกอย่างคือ มีสารกันแดดSPF50+ PA+++ ในตัวเลย มีไม่กี่แบรนด์ที่ทำ cushionแล้วผสมสารกันแดดในปริมาณนี้ เหมาะกับบ้านเราสุดๆค่ะ

ระหว่างวันสีเบอร์ 21 จะดร๊อปลงมานิดนึงค่ะ แต่ก็ไม่ได้ทำให้หน้าเทา ตอนแรกไม่กล้าสั่งเบอร์ 23 เพราะเราไม่รู้ว่ามันจะดร๊อปลงอีกมั้ย กลัวหน้าเทาแต่เอาไปเอามาสงสัยต้องสั่งเบอร์ 23 มาลองละคือบางทีเนี่ย เวลาใช้ cushion สีแต่ละยี่ห้อมันก็ไม่ได้เหมือนกันบางยี่ห้อก็ใช้เบอร์ 21 ได้ บางยี่ห้อใช้เบอร์ 23แต่บางยี่ห้อ ส้มก็ต้องลงทุนซื้อมา 2 สี แล้วผสมกันเอา(ไม่ใช่เอามาเทผสมนะคะ หมายถึงว่่า ทา 2 สีบนใบหน้าโดยการใช้พัฟฟ์แนะตลับสีแล้วเบลนด์เอาบนหน้าเลย)

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านนะคะ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวครั้งหน้าค่ะBeauty By Orangina