in-depth review: My Best Facial Masks .. รีวิวเชิงลึก มาส์กนี้ ใช่เลย~!!
MaeMhor113สวัสดีค่าา วันนี้นกจะมารีวิวหนึ่งใน skincare ที่นกชอบมากที่สุด... เรียกว่า เสพติด หรือ บ้า เลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ Facial Mask หรือ "มาส์ก" นั่นเองค่ะ
ต้องขอบอกก่อนว่า นกเป็นคนชอบมาส์กหน้า ใช้มาส์กมาเยอะมาก ลองไปเรื่อย... เมื่อก่อน ก็ลองตามกระแสรีวิวบ้าง กระแสโฆษณาบ้าง ตามความน่ารักน่าสนใจของแพคเกจจิ้งบ้าง เรียกได้ว่า เป็นการลองไปเรื่อยเปื่อย
จนกระทั่งหลายปีหลังมานี่ ที่นกเริ่มศึกษาเรื่องเคมี และสูตร skincare... นกก็ถึงได้เริ่มเลือกซื้อและลองใช้ผลิตภัณฑ์จากการดู Ingredients หรือ ส่วนประกอบของฉลากด้านหลังบรรจุภัณฑ์ค่ะ ... ซึ่งก็ได้ลองมาหลายยี่ห้อ ส่วนมากก็ดี แต่ไม่ได้ถึงกับ ว้าว!
จนกระทั่งมาได้เจอมาส์ก 2 แบรนด์นี้ ที่เรียกว่า ได้ใจไปเต็มๆ ... ทั้งโครงสร้างสูตรที่ดูดี และความรู้สึกหลังการใช้ที่มัน "ใช่!!"
วันนี้เลยอยากมารีวิวเชิงลึก คือจะพูดลงไปถึงโครงสร้างของสูตร และคุณสมบัติของสารออกฤทธิ์ที่มีอยู่ในสูตรของผลิตภัณฑ์แต่ละตัวเลยนะคะ
โดยนกจะรีวิวสองส่วน ... ส่วนแรก คือ รีวิวทั่วไป พูดถึงราคา สถานที่ขาย สูตรเขาเน้นเรื่องอะไร และความรู้สึกเวลาใช้/หลังการใช้ ... จากนั้น ส่วนที่สอง นกจะรีวิวลงลึกในรายละเอียด ซึ่งส่วนนี้ ถ้ารู้สึกว่า เยอะไป ละเอียดไป ก็ข้ามไปได้นะคะ ;))
โอเคค่ะ เกริ่มกันมาซะนาน ไปลองดูที่ตัวแรกกันเลยดีกว่านะคะ :))
แบรนด์แรกที่ชอบเลยนะคะ คือ LuLuLun มาส์กหน้าแบบอ่อนโยน แต่แน่นไปด้วยสารบำรุงผิวจากธรรมชาติ
คอนเซปต์ที่เกร๋กว่าใคร คือ เขาจะมีแผ่นมาส์ก 7 แผ่นอยู่ในซองเดียว สำหรับให้ใช้ได้ทุกวัน ติดต่อกันเป็นเวลา 7 วันเลยทีเดียว ตรงกับสโลแกนของเขาคือ "มาส์กทุกวัน สวยทุกวัน"
ตัวนี้ เป็นมาส์กนำเข้า จากประเทศญี่ปุ่นค่ะ ... หลักๆแล้ว หาซื้อได้ที่ Watson, Eve and Boy, และ Lashes ราคา 195-2xx บาท แล้วแต่ร้าน แล้วแต่สูตรค่ะ
ในซองมีเซรั่มอยู่เยอะ และแผ่นมาส์กของเขาจะค่อนข้างบาง แต่ไม่ถึงกับฉีกขาดง่ายเวลากางออกมาค่ะ ... ตอนแรก ส่วนตัว กังวลเหมือนกัน เรื่องความสะอาด เพราะในหนึ่งซอง มีตั้ง 7 แผ่นและเราก็ต้องใช้ตั้ง 7 วัน ไม่ได้ฉีกซองแล้วใช้แล้วทิ้งอย่างมาส์กทั่วไป
แต่จากที่ลองใช้ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรค่ะ... ภายในซองเขาพับแผ่นมาส์กมาให้เป็นระเบียบ 7 แผ่น แต่ละแผ่นก็หยิบออกมาได้ง่าย ไม่มีอาการดึงแล้วติดออกมาสองแผ่นสามแผ่นค่ะ ... และเมื่อใช้เสร็จแล้ว เราก็เก็บไว้ในตู้เย็น ก็ถือว่า โอเคอยู่
ของแบรนด์นี้ มีหลายสูตรอยู่เหมือนกัน หลักๆรู้สึกจะมี 3 สี คือ สีม่วงเข้ม เน้นเรื่องริ้วรอย, สีชมพู ดูแลเรื่องความชุ่มชื้น ปรับสมดุลของน้ำในผิว. และสีขาว ดูเรื่องชุ่มชื้น กระจ่างใสค่ะ ... นอกจากนี้ ก็จะมีสีอื่นๆที่ออกมาเป็นช่วงๆ พิเศษตามฤดูกาลหรือเทศกาลต่างๆ เช่น ช่วงนี้ก็มีออกสีชมพูเข้ม ที่มีส่วนประกอบเป็นสารสกัดจากกุหลาบ รับวันวาเลนไทน์ค่ะ
สำหรับนก นกเคยลองอยู่สองสูตร คือ สีชมพู เพื่อผิวชุ่มชื้น ปรับสมดุลน้ำในผิว ... และ สีขาว เพื่อผิวชุ่มชื้น กระจ่างใส นะคะ
ส่วนตัว ประทับใจกับสีชมพูมากกกก ใช้แล้วรู้สึกว่าชุ่มชื้น ซึมซาบสู่ผิวได้ดี ... หลังจาก 15-20 นาทีแล้ว ก็ไม่รู้สึกเหนอะหนะ ไม่ได้รู้สึกว่าตัวมาส์กกองอยู่บนผิว... ใช้เสร็จแล้วก็ไม่ต้องล้างออกได้ค่ะ แค่ล้างหน้า เช็ดโทนเนอร์ ทาเซรั่มใสๆตัวที่ใช้ประจำอยู่แล้ว แปะมาส์กตัวนี้ ทิ้งไว้ 15-20 นาที เอาแผ่นมาส์กออก แล้วนอนได้เลย
ส่วนสำหรับสีขาว ขั้นตอนการใช้ก็คล้ายกัน คือ ล้างหน้า เช็ดโทนเนอร์ ทาเซรั่ม แปะมาส์กทิ้งไว้ 15-20 นาที ... แต่เมื่อนำแผ่นมาส์กออกแล้ว สำหรับสูตรสีขาว ก็จะไม่ได้รู้สึกชุ่มชื้นมากมาย ส่วนตัว นกจะต้องทา night cream อีกตัว ถึงเป็นอันเสร็จพิธีค่ะ
เอาล่ะค่ะ มาดูกันที่สูตรนะคะ ... อันนี้เป็นของตัวสีขาว (เพื่อผิวชุ่มชื้น กระจ่างใส) ค่ะ ...
มาดูกันชัดๆกับ Ingredients ดีกว่า
Ingredients : aqua, citric acid, pantago major seed extract, butylene glycol, citrus reticulata peel extract, glycerin, actindia chinensis fruit extract, ascorbyl glucoside, bosaccharide gum-1, dipotassiumglycyrrhizate, disodium EDTA, geranium robertianum extract, hydrolysed pranusdomestica methyparaben, oenotherabennis seed extract, panthenol, PEG-40, hydrolysed caster oil, phenoxyethanol, patassium hydrolysed, propanediol, prunus yedoensis leaf extract, sodium citrate, sodium hyaluronate, xanthan gum
สำหรับตัวที่ไฮไลท์ไว้ คือ สารออกฤทธิ์ (active ingedients) ของมาส์กตัวนี้นะคะ ที่เหลือก็จะเป็นส่วนเคมีทั่วไปที่เป็นเบส เช่น ตัวฟอร์มเจล, สารสร้างความหนืด, สารกันเสีย อะไรทั่วไปนะคะ
NOTE :: อย่างที่สาวๆหลายคนคงทราบกันดี ว่าการเขียนฉลากชี้บ่งส่วนประกอบที่ด้านหลังผลิตภัณฑ์นี้ เป็นกฎที่จะต้องเขียนส่วนประกอบที่มีมากที่สุดในผลิตภัณฑ์ไว้ลำดับแรก และรองๆถัดลงไปในอัตราส่วนตามจริง
ดังนั้น แปลว่า ถ้าเราเห็นสารออกฤทธิ์ (ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวก extract หรือ สารสกัด ต่างๆนั่นล่ะค่ะ) อยู่ในลำดับต้นๆ ยิ่นต้นมากเท่าไหร่ ก็แปลว่า ผลิตภัณฑ์มีสารออกฤทธิ์อยู่ในปริมาณมากเท่านั้นค่ะ
โอเคค่ะ กลับมากันต่อที่ LuLuLun สีขาว ตัวนี้นะคะ ... จะเห็นว่า เขามีสารออกฤทธิ์อยู่หลายตัว และหลายๆตัวก็ถูกเขียนอยู่ในลำดับต้นๆ ซึ่งแปลว่า มีอยู่ในปริมาณไม่น้อยเลยทีเดียว
โดยสารออกฤทธิ์ หรือ ในที่นี้ส่วนมากคือสารสกัดจากธรรมชาติ แต่ละตัว โดยมากก็จะช่วยในเรื่องความกระจ่างใส ตามที่สูตรนี้ได้เคลมไว้ค่ะ
มาดูกันไปทีละตัวเลยนะคะ (ถ้าส่วนนี้ สาวๆคนไหนรู้สึกว่าลึกไป ก็ข้ามไปได้เลยนะคะ)
Citric Acid หรือ กรดมะนาว ตัวนี้เป็นกรด AHA ชนิดหนึ่งได้มาจากผลไม้ตระกูล citrus (พวกส้ม มะนาว ผลไม้รสเปรี้ยวต่างๆ) ค่ะ ... สำหรับในโครงสร้างสูตรนั้น citric acid มีประโยชน์ 2 อย่าง หนึ่งก็คือ ประโยชน์เชิงเคมี และสอง ประโยชน์ในเชิงคุณประโยชน์ต่อผิว ... ในเชิงเคมีนั้น citric acid ใช้เป็นตัวปรับ pH ให้ผลิตภัณฑ์มีค่าเป็นกรดอ่อนๆ เหมาะสมต่อสภาพผิวคนเรา ซึ่งมีค่า pH อยู่ที่ประมาณ 5.5 ซึ่งถือเป็นกรดอ่อนค่ะ ... และสอง ประโยชน์อีกข้อของ citric acid ก็คือ ผลัดเซลส์ผิวหนังที่ตายไปแล้วออก รวมถึงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวกระจ่างใสและยืดหยุ่นแข็งแรงค่ะ ..... และสำหรับตัวนี้ ถือว่า ดีงามมากค่ะ เพราะในสูตรนั้น มี citric acid ตัวนี้อยู่ถัดจากน้ำเลย ซึ่งถทอว่า เยอะมากค่ะ ... รับรองว่า ใส เด้ง แน่นอน
Plantago Major Seed Extractเป็นสารสกัดจากเมล็ดของพืชที่มีชื่อเป็นภาษาไทยว่า ผักกาดน้ำ หรือ หญ้าเอ็นยืด ... ซึ่งคงไม่ค่อยคุ้นหูเราเท่าไหร่นัก แต่เจ้า Plantago Major นี้พบได้ทั่วไปทั้งในยุโรปและเอเชีย มีสรรพคุณทั้งทางยาและทางเครื่องสำอางค่ะ ... ในทางผิวหนัง Plantago Major นี้จะช่วยในเรื่องของ wound healing หรือแปลตรงตัวว่า รักษารอยแผลเป็น ... แต่โดยทั่วไป มันก็คือ ช่วยในเรื่องของปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอ ลดเลือนรอยด่างดำต่างๆค่ะ
Citrus Reticulata Peel Extractหรือ สารสกัดจากเปลือกส้มแมนดาริน ตัวนี้จะมี Vit.C สูง ซึ่งเมื่อพูดถึงวิตามินซี แน่นอนว่าก็จะช่วยให้ผิวที่ดูเหนื่อยล้า หมองคล้ำ จากมลภาวะและการถูกทำร้ายอื่นๆ (เช่น การทำงานอยู่หน้าจอมากเกินไป, การนอนดึก ฯลฯ) ให้ผิวที่ถูกทำร้ายนี้ดูกระจ่างใส มีชีวิตชีวาขึ้นค่ะ
Actindia Chinensis Fruit Extractชื่อมาซะยากเลยนะคะ ที่จริงแล้วเจ้า Actindia Chinensis ก็คือ กีวี่ (Kiwi) ที่เราคุ้นเคยกันนี่เองค่ะ ... เจ้ากีวี่นี้ ที่จริงเป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีต้นกำเนิดมาจาก New Zealand ค่ะ เขาจะอุดมไปด้วย Vitamin C, Vitamin E, และสาร anti oxidant ซึ่งจะช่วยให้ผิวเราเปล่งปลั่ง กระจ่างใสค่ะ
Geranium Robertianum Extract หรือ สารสกัดจากดอกเจอร์เรเนียม ... เจ้าดอกไม้ชนิดนี้ นอกจากไว้ใช้ไล่ยุง เป็นกลิ่นหอมที่คนรักยุงเกลียดแล้ว เขายังมีประโยชน์ต่อผิวเราด้วยนะคะ ... ถ้าเป็นน้ำมันที่คั้นออกมาจากดอกเจอร์เรเนียม เขาจะช่วยปลอบประโลมผิว ลดอาการแพ้ สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่ายค่ะ และในกรณีนี้ ที่เป็นสารสกัด เขาก็จะช่วยในเรื่องของปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และลดอาการระคายเคืองค่ะ
Oenothera Biennis Seed Extract ก็คือ สารสกัดจากเมล็ดของเจ้า Oenothera Biennis หรือก็คือ Evening Primrose นั่นเองค่ะ... ซึ่ง อีฟนิ่ง พริมโรส นี้ เขาเป็นอาหารผิว เขาจะช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ลดเลือนรอยฝ้า กระ รวมถึงริ้วรอย ต่างๆด้วยค่ะ
Hydrolysed Caster Oilตัว caster oil นี้ ก็คือ น้ำมันละหุ่ง ซึ่งตัวนี้เป็นน้ำมันละหุ่งที่ Hydrolysed มาแล้วค่ะ (การ hydrolysed ก็คือ การทำให้โมเลกุลมีขนาดเล็กลง และเบาขึ้น ซึ่งจะทำให้ซึมลงไปสู่ผิวได้มากกว่าเดิมค่ะ) ... น้ำมันละหุ่งนี้ ช่วยให้ความชุ่มชื้น มีคุณสมบัติที่เรียกว่า Humectant หรือ คุณสมบัติที่จะมีความสามารถใหชนการพาความชื้นจากอากาศเข้าสู่ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น ลดความแห้งกร้าน อันเป็นสาเหตุของผิวดูไม่มีชีวิตชีวา และริ้วรอยก่อนวัยอันควรค่ะ
Pranus Yedoensis Leaf Extract สำหรับตัวนี้นะคะ ชื่อเขาก็ยากเกินค่าตัวอีกแล้ว เพราะ Pranus Yedoensis นั้นก็คือ ซากุระ นั่นเอง และสารสกัดตัวนี้ ก็เป็นสารสกัดจากส่วนใบของเขาค่ะ ... ซึ่งเขาจะมีสาร anti oxidant สูง ช่วยลดเลือนริ้วรอย และ จุดด่างดำ นะคะ
Sodium Hyauronate ตัวสุดท้ายค่ะ... สำหรับตัวนี้ จริงๆแล้ว ถ้าพูดถึง Hyaluronic Acid สาวๆคงจะคุ้นหูกันมากกว่านะคะ ... และสำหรับ Sodium Hyaluronate ก็คือเวอร์ชั่นที่เป็น เกลือ (หรือ ด่าง) ของเจ้า hyaluronic acid นั่นเองค่ะ ... และเขาก็ทำหน้าที่ให้คุณประโยชน์ต่อผิวคล้ายกัน คือ ให้ความชุ่มชื้นแบบ Humectant (ดึงความชื้นจากอากาศเข้าสู่ผิว) เพียงแต่ว่า ในเวอร์ชั่นของ sodium hyaluronate นั้น จะช่วยในส่วนโครงสร้างของสูตร โดยการช่วยทำหน้าที่เป็น lubricant หรือ สารหล่อลื่น ด้วยค่ะ
สรุปโดยรวม ก็จะเห็นว่าทิศทางส่วนใหญ่ของ active หรือ สารออกฤทธิ์ที่เขาเลือกมาเล่นนี้ ก็จะเป็นไปตามที่ทางแบรนด์เขาเคลมสำหรับสูตรสีขาวนี้ ก็คือ จะเน้นไปที่เรื่องของความกระจ่างใสนะคะ อาจจะมีตัวที่ช่วยปลอบประโลมผิว หรือช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้นเล็กน้อย เพื่อไม่ให้กัดผิวจนเกินไป เพื่อให้สาวๆที่ผิววบอบบางใช้ได้ด้วยค่ะ :))
เอาล่ะค่ะ ... หายใจเข้าลึกๆ แล้วไปต่อกันที่สูตรต่อไปของ LuLuLun ซึ่งเป็นสูตรที่นกชอบมากทีื่สุดเลยนะคะ
เริ่มกันที่ ซูมๆเข้าไปที่ส่วนประกอบกันดีกว่าค่ะ
Ingredients : aqua, honey,citric acid,aloe barbadensis leaf extract, butylene glycol, citrus reticulata peel extract, glycerin, glycosphingolipids,hydrated lecithin, lysolecithin, melia azadirachta leaf extract, methylpaaben, niacinamide,panax ginseng root extract, PEG-40, hydrogenated caster oil,persea gratissma fruit extract, phenoxyethanol, plantago major seed extract, propanediol, sodium citrate, sodium hyaluronate, sodium hydroxide, sodium PCA, vaccinium myrtillus leaf extract, xanthan gum
เหมือนเดิมเลยค่ะ ... ตัวที่ไฮไลท์ คือ สารออกฤทธ์นะคะ :))
คือ จริงๆตัวนี้ ส่วนตัว นกกรีดร้องตั้งแต่ยังไม่ได้ลองแล้วค่ะ เพราะว่า จากส่วนประกอบแล้ว เห็น Honey อยู่เป็นตัวแรกถัดจากน้ำเลยทีเดียว คือ มันเยอะมาก แปลว่าต้องดี ต้องใช่ ต้องใช่แน่ๆ!! 555
แล้วพอได้มาลอง ก็ดีอย่างที่คือจริงๆ คือ ชุ่มชื้น แน่น มากๆค่ะ ... ว่าแล้ว เราก็ลองมาไล่ดูทีละตัวเลยแล้วกันนะคะ
Honey ตัวนี้ ตรงตัวเลย ก็คือ น้ำผึ้ง นั่นเองค่ะ ซึ่งแน่นอนว่า เขาจะช่วยในเรื่องการสมานผิว อุดมด้วยวิตามิน เป็นอาหารผิว ทำให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น และปรับสมดุลน้ำในผิว ทำให้ผิวดูสดชื่นขึ้น สดใส ไม่อ่อนระโหยโรยแรงค่ะ
Citric Acid ก็คือ กรดมะนาว ตัวนี้ก็เป็นกรด AHA ชนิดหนึ่งได้มาจากผลไม้ตระกูล citrus (พวกส้ม มะนาว ผลไม้รสเปรี้ยวต่างๆ) ค่ะ ... สำหรับในโครงสร้างสูตรนั้น citric acid มีประโยชน์ 2 อย่าง หนึ่งก็คือ ประโยชน์เชิงเคมี และสอง ประโยชน์ในเชิงคุณประโยชน์ต่อผิว ... ในเชิงเคมีนั้น citric acid ใช้เป็นตัวปรับ pH ให้ผลิตภัณฑ์มีค่าเป็นกรดอ่อนๆ เหมาะสมต่อสภาพผิวคนเรา ซึ่งมีค่า pH อยู่ที่ประมาณ 5.5 ซึ่งถือเป็นกรดอ่อนค่ะ ... และสอง ประโยชน์อีกข้อของ citric acid ก็คือ ผลัดเซลส์ผิวหนังที่ตายไปแล้วออก รวมถึงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวกระจ่างใสและยืดหยุ่นแข็งแรงค่ะ (ตัวนี้ในสูตรสีขาวก็มีโน๊ะ แต่มีในอัตราส่วนที่เยอะกว่าค่ะ เพราะสีขาว เขาเน้นกระจ่างใส ไม่เหมือนตัวนี้ที่เน้นชุ่มชื้น)
Aloe Barbadensis Leaf Extract ตัวนี้ก็คือ สารสกัดจากว่านหางจระเข้นี่ล่ะค่ะ หน้าที่ของเขา ที่เราน่าจะคุ้นเคยกันดีก็คือ เป็นตัวให้ความชุ่มชื้นที่ไม่หนักหน้า และยังช่วยปลอบประโลมผิว ทำให้เรารู้สึกสดชื่น ผิวหน้าที่แห้งจากการถูกมลภาวะทำร้ายกลับมาฟู เด้ง ชุ่มชื้น สดใสค่ะ
Citrus Reticulata Peel Extractต่อมา ตัวนี้ก็มีอยู่ในสูตรสีขาวด้วยเหมือนกันนะคะ ก็คือ สารสกัดจากเปลือกส้มแมนดาริน ตัวนี้จะมี Vit.C สูง ซึ่งจะช่วยให้ผิวที่ดูเหนื่อยล้า หมองคล้ำ จากมลภาวะและการถูกทำร้ายนี้ดูกระจ่างใส มีชีวิตชีวาขึ้นค่ะ
Glycosphingolipids ตัวนี้ เป็นไขมันชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของเซลส์ผิวเราค่ะ ตัวนี้เขาก็จะช่วยหล่อลื่น ปกป้องน้ำในผิวของเราไม่ให้สูญเสียไปเมื่อต้องไปเผชิญสภาวะภายนอก รักษาให้ผิวเราชุ่มชื้น เปล่งปลั่งอยู่ตลอดเวลาค่ะ
Hydrated Lecithin และ Lysolecithin สำหรับสองตัวนี้ ขออธิบายรวบไปเลยแล้วกันนะคะ เพราะเขาเป็นสารประเภทเดียวกัน คือ Lecithin (เลซิติน) ซึ่งเป็นสารประเภท phospholpid ซึ่งเป็นไขมันที่เป็นส่วนประกอบหลักของชั้นผิวหนังเรา เขาจะไปช่วยเติมเต็มส่วนที่สึกหรอ ส่วนของเซลส์ผิวหนังที่โดนทำร้ายจากชีวิตประจำวันให้กลับมาฟู เติมเต็ม เนียนเด้ง ไม่แห้งกร้านอยู่เสมอค่ะ
Melia Azadirachta Leaf Extract ตัวนี้ก็เป็นอีกตัวที่ชื่อทางวิทยาศาสตร์พาให้งงค่ะ เพราะที่จริงแล้ว Melia Azadirachta นี้ก็คือ "Neem" หรือ สะเดา นี่เองค่ะ ... ซึ่งเจ้า Neem นี้ (ขอเรียกว่า Neem แล้วกันนะคะ กลัวถ้าเรียกสะเดา เดี๋ยวสาวๆจะพาลหิว เพราะคิดถึงปลาดุกน้ำปลาหวานกันไปซะเปล่าๆ) ทางอินเดีย เขาใช้ Neem นี้ในศาสตร์ของอายุรเวชด้วย ส่วนในประโยชน์ทางผิวหนัง เขาก็จะช่วยให้ความชุ่มชื้น ลดการอักเสบ เหมาะสำหรับสาวๆที่ผิวอักเสบ ผิวเป็นสิวง่าย เพราะเขาจะช่วยปรับสมดุลความชุ่มชื้นของผิว และลดอาการบวมแดงค่ะ
Niacinamide ตัวนี้ ถ้าสาวๆพลิกดู ingredients ของครีมบ่อยๆ คงจะได้เห็นชื่อนี้ผ่านตาแน่นอนนะคะ เพราะมี skincare หลายตัวทีเดียวที่นิยมใส่เจ้า niacinamide นี้ ... คุณคนนี้ เขาคือ Vitamin B3 ค่ะ ซึ่งช่วยคืนความมีชีวิตชีวา (rejuvenation) ให้ผิว ทั้งในแง่ของความเด้ง ชุ่มชื้น และ ความกระจ่างใสเลยค่ะ
Panax Ginseng Root Extract ตัวนี้ ก็คือ โสมเกาหลี นั่นเองค่ะ ... ซึ่งโสมนี้ สาวๆหลายคนคงคุ้นเคยกันดี เพราะ skincare ยี่ห้อดังอย่าง Sulwhasoo เขาก็นำโสมตัวนี้มาเล่นเป็นส่วนประกอบหลักของทางแบรนด์เลยค่ะ ... และอย่างที่สาวๆคงทราบกันดี โสม เขาก็จะช่วยกระตุ้นการสร้าง collagen ของผิวค่ะ ช่วยเติมเต็มร่องริ้วรอย และช่วยให้ผิวแข็งแรง สุขภาพดีค่ะ
Hydrolysed Caster Oilหรือ น้ำมันละหุ่ง ตัวนี้เป็นน้ำมันละหุ่งที่ Hydrolysed มาแล้วค่ะ (การ hydrolysed ก็คือ การทำให้โมเลกุลมีขนาดเล็กลง และเบาขึ้น ซึ่งจะทำให้ซึมลงไปสู่ผิวได้มากกว่าเดิมค่ะ) ... ช่วยให้ความชุ่มชื้น มีคุณสมบัติที่เรียกว่า Humectant หรือ คุณสมบัติที่จะมีความสามารถใหชนการพาความชื้นจากอากาศเข้าสู่ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น ลดความแห้งกร้าน อันเป็นสาเหตุของผิวดูไม่มีชีวิตชีวา และริ้วรอยก่อนวัยอันควรค่ะ (ตามที่เขียนไปในสูตรของตัวสีขาวแหละโน๊ะ)
Persea Gratissma Fruit Extract อีกหนึ่งตัวนะคะ ที่ชื่อยากเกินค่าตัว 555 เจ้า Persea Gratissma นี้ ก็คือ Avocado (อโวคาโด) ที่เราคุ้นเคยสุดๆตัวนี้เองค่ะ เขาเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยไขมันดี และวิตามินหลายชนิด ที่จะช่วยเป็นแหล่งอาหารชั้นเยี่ยมของผิว ช่วยให้ความชุ่มชื้น ฟื้นฟู ให้ผิวกลับมามีสมดุล และมีชีวิตชีวาค่ะ
Plantago Major Seed Extractอีกหนึ่งตัวที่ก็ได้อธิบายไปแล้ว จากสูตรสีขาวนะคะ ... ตัวนี้ เขาเป็นสารสกัดจากเมล็ดของพืชที่มีชื่อเป็นภาษาไทยว่า ผักกาดน้ำ หรือ หญ้าเอ็นยืด ... ซึ่งคงไม่ค่อยคุ้นหูเราเท่าไหร่นัก แต่เจ้า Plantago Major นี้พบได้ทั่วไปทั้งในยุโรปและเอเชีย มีสรรพคุณทั้งทางยาและทางเครื่องสำอางค่ะ ... ในทางผิวหนัง Plantago Major นี้จะช่วยในเรื่องของ wound healing หรือแปลตรงตัวว่า รักษารอยแผลเป็น ... แต่โดยทั่วไป มันก็คือ ช่วยในเรื่องของปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอ ลดเลือนรอยด่างดำต่างๆค่ะ
Vaccinium Myrtillus Leaf Extract ตัวสุดท้ายนี้ก็คือ สารสกัดจากใบของ Bilberry ค่ะ เป็นเบอร์รี่ชนิดหนึ่ง ซึ่งอุดมไปด้วย antioxidant ค่ะ ... ตัวนี้ เขาก็จะช่วยดูแลผิว ลดเลือนริ้วรอยที่เกิดก่อนวัยอันควรเพราะผิวถูกทำร้ายค่ะ
โดยภาพรวม ก็เป็นไปตามที่สูตรนี้เขาเคลมนะคะ ก็คือ ช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้น ปรับสมดุลของน้ำในผิว ... ซึ่งโดยธรรมชาติ เมื่อผิสเราชุ่มชื้น สุขภาพดีแล้ว ผิวเราก็จะแลดูกระจ่างใส และดูอ่อนเยาว์ขึ้น โดยอัติโนมัติอยู่แล้วล่ะค่ะ ^^
วันนี้ก็รีวิวกันมาซะยาวเลย ... ข้อมูลก็ถือว่าแน่นพอสมควร ... เลยขออนุญาต ยกอีกแบรนด์นึงที่นกชอบไม่แพ้กันไปรีวิวในกระทู้หน้านะคะ
สำหรับอันนี้ สาวๆท่านไหนมีความเห็น แนะนำ ติชมอย่างไร ว่ากันมาได้ตามสบายเลยนะคะ เพราะนี่ก็เป็นกระทู้แรก ที่นกอยากลองถ่ายทอดวิ่งที่นกรู้ รวมถึงการเลือกซื้อ skincare แบมุมมองของส่วนตัวนกเองลงไปแทบทั้งหมด ... ก็ไม่รู้ว่าจะละเอียดไปหรือไม่อย่างไร ... ก็อยากฟังความเห็นของสาวๆทุกท่านเลยค่ะ :))
แอบมาโปรยรูปไว้ให้ สำหรับกระทู้หน้า ... แล้วไว้เจอกันนะคะ ^_^
*จุ๊บ จุ๊บ*
ชอบการรีวิวมากเลยค่ะ เป็นพี่เภสัชใช่ไหมคะ 555