[Ha-Too: หากจริงจังโปรดหลีกเลี่ยง] เมื่อเกิดอยากมีความเป็นสาวฮาวาย(เอี้ยน)กับเค้าบ้าง by KissAhoLicGal

อยากบอกก่อนจะลงว่า...ทำไว้ตั้งแต่เมื่อวานละ แต่เน็ทที่บ้านล่ม T  T

แต่ปะป๊าสอนให้ัใจสู้สิบทิศ พยายามใหม่ก็ด๊ะ ^^

------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฮาวทูแรกในชีวิต(ที่มีรูป เคยทำฮาวทูมาก่อนแล้วนะ แล้วไม่มีรูปลง โดนด่าสิฮะ ๕๕)

อันที่จริงควรจะเรียกให้ถูกว่า How not to มากกว่า ด้วยความแบ๊บ....โปรเพสชั่นแน่นสูงมากกกกกก ก๊ากกกกกบอกเลยนะว่าคิสเล่นคสอ.มาตั้งแต่เรียนปีหนี่ง นี่ก็นับว่าผ่านไปสิบกว่าปี ถ้าเทียบกับวงการพระเครื่อง คิสก็เกจิดีๆนี่เอง วันนี้คิสจะมาเปิดเผยทุกเคล็ด ทุกเม็ด ทุกอณูที่คิสมีในตัวเลยทีเดียว

 ขอเล่าที่มาก่อนว่า ทำไมถึงต้องมาทำเป็นสาวฮาวาย(ที่สุดท้ายแล้วออกมาเหมือนหน้าพิซซ่าฮาวายเอี้ยนมากกว่า)คำตอบคือคิสผิวเหลืองมากกกกกกกกกกกกกกก มองไกลๆนี่นึกว่ามาสคอคกล้วยหอมทอง อะไรมันจะเหลืองได้ขนาดนั้น แล้วผิวที่เป็นแทน สีน้ำผึ้งจริงๆนั้นเป็นผิวของสาวฝรั่งอันเดอร์โทนชมพูที่โดนแดดทะเลอาบ ให้ฟีลครู๊ซเบาๆ ดูโกลว มีมูลค่า พอหันมาดูเบ้าหน้าตัวเองแล้วก็จิตตก คือถ้าเอาให้คล้ำ มันไม่ได้ฟีลสาวโกลด์โคสแน่ๆ คงกลายเป็นไก่ดำแก้บนมากกว่าเท่าที่เค้นไอเดียออกมาได้เลยนึกได้แต่สาวฮาวายที่ผิวไหม้แดด แต่อันเดอร์โทนแบบสาวเอเชีย(กึ่งฟิลิปปินน่า กึ่งยุ่น) ต้นทุนเบ้าหน้าก็อาซิ่มเกินกว่าจะไปเป็นสาวแทนอย่างคนอื่นเค้า สรุปเลยมาลงที่ฮาวายนะฮะ นี่ยังไม่ได้ทำไรหมดไปหนึ่งพารากราฟตบมือสิฮะ ขอกำลังใจ กะเหรี่ยงก็มีหัวใจนะเทอ

เอาจริงๆละนะตัว ส่วนอุปกรณ์ข้าวของที่ใช้เดี๋ยวค่อยลงให้ข้างล่างเนอะ ตอนนี้ร้อนวิชาอยากลงละก่อน อื่นก็หน้าดิบ ที่ผ่านการบำรุงแล้ว(สาบาน) ใจลึกๆอยากบอกว่าลงอะไรไว้บ้าง แต่กลัวแบรนด์จะส่งคนมาตามเก็บที่บ้าน โทษฐานเป็นตัวกาลกิณีทำให้ขายไม่ออก ขอผ่านไปเลย กันแดดไม่ได้ทานะวันนี้ กะว่าไปตายเอาดาบหน้า ไหนๆก็จะฟีลไหม้แดดแล้ว เอาให้สมจริง ไหม้จริง เห็นมั๊ยแค่เริ่มก็วินละ เต็มไปด้วยทักษะและการวางแผน ชั้นคิดก่อนทำนะ

 ก่อนจะเริ่มลงไพรมเมอร์ ก็มาลง Illamasqua – Hydra veil เค้าบอกว่าให้ใช้ 1 scoop เพื่อฟรีซคสอ.ให้สดใหม่อยู่เสมอตลอดทั้งวัน แต่ตั้งแต่คิสซื้อมายังไม่ได้ใช้ applicator มันเลยสักครั้งเดียว คือมันดูเล๊กกกกเล็กเหมือนช้อนยาหอมตราเจดีย์คู่(?? ใช่ปะ ไม่แน่ใจว่ายี่ห้อถั่วหรือยาหอม) เวลาใช้คิสใช้นิ้วควักเอาตามอำเภอใจค่ะ ปาดๆไปให้ทั่วใบหน้าอันสวยงาม

 ต่อมานะคะขุ่นพี่ขุ่นน้อง เราจะได้ลงคสอ.กันจริงๆสักทีค่ะ(หมดไปสามพารากราฟ ๕๕)เบส ปรกติคิสจะใช้หมุนวนไปเรื่อยตามความพอใจ แต่ช่วงนี้หน้าร้อนมหาศาล คสอ.ส่วนใหญ่คิสจะเอาไปเก็บไว้ในตู้เย็น เลือกไว้ในรถเข็นเฉพาะที่จะใช้บ่อยเท่านั้น อากาศเบอร์นี้ ใจไม่ถึงค่ะวันนี้ เลยเอาตัวที่ใช้บ่อยในทุกวันช่วงหน้าร้อนนี้(ซึ่งคิสรู้ โลกรู้ พระเจ้ารู้ ว่ามันร้อนม้ามแตกจริงๆ) คือตัวเบสของ LB และเบสเขียวกีวี่ของ Givenchy คิสใช้เท่าเม็ดถั่ว(ถั่วแดง?? ๕๕ ถั่วอะไรก็ไม่รู้ อ่านตามๆเค้ามา เค้าว่าถั่ว ชั้นก็ว่าถั่ว) ผสมกันในอัตราส่วนครึ่งควบลูก เฮ้ย ชักเล่นเยอะไปละนะ อัตราส่วน หนึ่งต่อหนึ่งฮะ

 

 (จริงๆลุคนี้มันไม่ควรใช้เบสเขียว ใช่ปะ เทอว่าม๊ะ แต่คิสก็จะลงนะ เพราะหน้าคิสแดงกว่าตัวไปหลายสเตป ยังไงก็ขาดไม่ได้ เหมือนผัดไทกะหอยทอด)ต่อมาใช้รองพื้นค่ะ ซึ่งคิสก็มีรองพื้นคู่บุญแค่ขวดเดียวเท่านั้น เพราะใช้หมดก่อนค่อยซื้อใหม่ เฉดที่พกมานำเสนอเลยมีความเสร่อกับลุคนี้มากๆ คือมันสีตรงกับผิวคิสคือ Estee Lauder Double wear Stay in Place – Bone 1W1  มันมีแค่นี้จริงๆ ก็เดี๋ยวค่อยแทนนะ หาแป้งกลบกันอีกที งานโป๊วสีต้องมาก่อน ใจเย็นๆเทอ เดี๋ยวชั้นก็แทนแล้ว 

 เวลาใช้นี่ค่อยๆลงๆนะคะ อย่าได้ใจร้อนเด็ดขาด รองพื้นตัวนี้ให้แก่นธรรมในชีวิตคิสมากมาย ให้ตั้งสติ สมาธิ ปัญญา ก่อนสตาร์ทเสมอ ไม่งั้นหายนะบังเกิดค่ะ เกลี่ยไม่ไปขึ้นมา หน้าด่างเป็นสาวพม่าเลยค่ะ มองไกลๆนีกว่าเอาหน้าไปสไลด์กะต้นทานาคามาก่อน จะจบงานผิว(หลายคนคงสงสัย ตกลงผิวน้ำผึ้งยังไง ผ่านมาสิบนาทีแล้วนี่มันอาซิ่มเหมือนรูปแรกเลยนี่หว่า คือเดี๋ยวเราหาตัวช่วยอีกทีไงคะ โอเค๊)คิสจะเก็บงานด้วย Beauty Blender ค่ะ คิสทำใจสองปีก่อนจะตัดสินใจซื้อได้ และเพิ่งรู้ว่าน่าจะซื้อตั้งแต่มันเปิดตัวแล้ว เพราะมันให้ฟินิช air brush ได้จริงๆ คนที่ซื้อไปแล้วยังไม่เกิดพุทธปัญญา คิสบอกเลยว่าต้องให้มัน damp(ไม่ใช่ soak นะ แค่ชื้นๆพอ) เอาง่ายๆก็ฉีดสเปร์ยที่หน้าก็ได้ แต่วันนี้คิสลืมไว้ที่ออฟฟิตเลยชุบน้ำให้บิดให้แห้ง ทิ้งรอไว้สักครึ่งชม. มันจะกำลังดี แล้วก็ค่อยๆแทปไปทั่วๆหน้า ระหว่างนี้เปิดเพลงรอ ดูสารคดีสัตว์โลก ฟังธรรมวัดธรรมกาย ทำไรไปก็ได้ค่ะ เพราะยิ่งแทปยิ่งสวย ยิ่งดูเป็นงานผิว เหมือนกินคอลลาเจนไปหนึ่งจัมโบ้แบ็ค ดูผิวดี๊ดี

 

 คราวนี้มาที่ตัวช่วยคิสแล้วค่ะ ใครยังอ่านได้อยู่ถึงบรรทัดนี้ได้ เอาถ้วยไปเลย ๕๕คิสเอา fluid ของ Make up Revolution – Malibu มาใช้แทนรองพื้นสีเข้ม แต่คิสไม่ได้ผสมกับรองพื้นแต่แรก เพราะกลัวมันจะเกิดหายนะ เพราะเนื้อฟลูอิดมันแยกตัวได้ด้วย คิสไม่รู้ว่ามันเป็นมิตรกับเอสเต้แค่ไหน แยกกันดังดีกว่าค่ะ

อะ ปาดเข้าไป แรกๆก็กะไม่ถูก ทาบางๆ ยิ่งทายิ่งไม่รู้สึกอะไร รู้สึกแค่เสียดายตังค์ สุดท้ายบีบใส่อุ้งมือแล้วตบๆๆๆๆๆ งานแทนต้องมา โอมจงแทนนนนนนน ผ่านไปจะครึ่งขวดแล้วก็ยังไม่ดำ แล้วตั้งขื่อ Malibu มาได้ไงไม่รู้ พลาดมากค่ะ ไม่เป็นไร คิสคิด plan B plan C ทุกอย่างรอไว้แล้ว คิสจบ BBA นะคะ จะให้มาตายน้ำตื้นได้ยังไงกัน

 ต่อมา ทาคอนซีลเลอร์ งงละสิ ทำไมเพิ่งมาทา ลืมไง มัวแต่หาวิธีดำ ลืม แต่ไม่เป็นไร หม่ามี๊สอนไว้แต่งหน้าเป็นงานศิลปะ ไม่มีกฎ ไม่มีผิดถูกฮะ คิสเอา Nars creamy concealer – custard มาแตะบางๆแค่สามจุดใต้ตา ปรกติจะปาดเยอะกว่านี้แต่นี่ไม่กล้าลงเยอะ เพราะไม่รู้ว่าวันนี้ต้องดำกันขนาดไหน เอาแค่ให้ดู neutral พอ กดๆเบาๆ เอา Beauty Blender มาใข้งานอีกรอบ

 ก่อนจะฟินาเล่ก็ลงแป้ง ซึ่งแป้งตัวนี้คงไม่ต้องระบุอะไร คิดว่าสาวๆครึ่งจักรวาลต้องตกเป็นทาสของมัน แต่คิสลงบางมากกกกกกกกกกกกกกก เบามาก และไม่ใช่ฟองน้ำลงแป้งกับหน้าตรงๆ แต่ใช้พัฟมาวนแป้งที่ฝ่ามือ วนๆๆๆให้แป้งเสมอกัน และบางที่สุด แล้วค่อยเอามาประคบหน้าทีละส่วน ภาคเหนือ ตะวันออก ตะวันตก ภาคกลาง แล้วเอานิ้วกดๆในส่วนที่เป็นมุมอับสัญญาณต่างๆบนหน้า เพื่อให้ดูไม่ cakey เราเป็นสาวชาวเกาะ ไม่ใช่ลิเกแก้บนนะฮะ ลงบางๆพอ เห็นม๊ะ ชั้นมีเทคนิคแพรวพราว

 

 ก่อนจะไปลำดับถัดไป คิสขอสารภาพก่อนว่า คิสไม่สามารถใช้แปรง Zoeva คู่บุญของคิสได้เลย เพราะคิสเพิ่งล้างแปรงตอนเข้า และไม่ได้คิดจะทำฮาวทูแต่แรก(โดนเพื่อนบอกเลิกนัด เพื่อนอีกคนที่หมายหัวไว้ก็ดันเรียกตัวไปปรับทัศนคติที่ญี่ปุ่นเมื่อคืน ชีวิตหักเหค่ะ โดนสังคมแบนกะทันหัน เลยมาทำฮาวทูโดยมีทุกอย่าง ยกเว้นความพร้อม แต่....ใจชั้นสู้นะ ชั้นมีองค์ความรู้มากว่าสิบปีเชียวนะ อย่านะ อย่าเพิ่งปิดหน้าต่างคิสสสสสส อย่านะเว้ยยยยยยย)

 เราก็มาดู Plan D ของคิสกันต่อค่ะ ในเมื่อแปรงใช้การไม่ได้ ก็หาแปรงพวก retractable กะแปรงง่อยมาใช้แทน คิสมีแปรง Muji retractable ขนกระรอก(ที่มันนิ่มซะจนใช้การอะไรไม่ค่อยได้ ไม่รู้ว่ายังขายอยู่มั๊ย นิ่มเกิ๊น) และแปรงพกจิ๋วของ canmake ที่คิสซื้อเพราะว่าอยากแตกแบงค์(คือคิดไม่ออกว่าซื้อไรจริงๆ ไม่ได้อยากได้อะไร แปรงอันนี้ดูน่ารักคิ้วๆเหมือนคิสดีเลยหยิบมา คาวาอิ๊) แต่มันดีงามมากกกกกกกกกกกกก เป็นแปรงขนสังเคราะห์นะคะ ใช้งานได้แก้ขัด แก้เคล็ดได้ดีทีเดียว

 เอาละ งานแทนจะมาละนะ เอาละ ว่าตาม...อิมานิ...ไม่ใช่!! ใครตามทันมั๊ยคิส ก็คุ้ยว่าคิสมีอะไรช่วยให้แทนได้บ้าง เจอสองตัว แต่มันคนละหน้าที่กันเลย ตัวแรกเป็นบรอนเซอร์ Nars Laguna ที่หลอนคิสมาก ปัดทีไรเหมือนฝ้าวัยทองขึ้นทุกที จับมือทำงานร่วมกับ Marc Jacob instamarc – 40 mirage ที่เป็น Contour Kit ที่มันเริศมาก มีบ้านขายบ้าน มีรถขายรถค่ะ บอกเลยว่าต้องมี เพราะสีมันเหมาะคนเอเชียมากกกก ไม่ส้ม ไม่โดด เสียข้อเดียวคือหาซื้อยากราวกับแอร์เมสหิมาลายาก็เท่านั้น แทบจะกราบ sephora thailand อะบอกเลย รอของนานมากกกก

 

 คิสใช้ Laguna มาเป็น Key หลักของงานนี้ และคิสไม่ผิดหวังที่เรียกใช้เลยค่ะ เพราะดำสมใจสักที ปาดตรงไหน หมองตรงนั้น สุดยอดจริงๆ ตอนปาดก็ขำ เพิ่งรู้นะเนี้ยว่ามันดำได้ขนาดนี้ ปรกติคิสจะใช้แค่บางๆตรงข้างขมับ เพราะสีแรงมาก ปัดทีไรโดนแซวตลอด ดูหน้าเอาได้ว่าดีใจแค่ไหน ในที่สุดก็ค้นพบอัญมณีที่มีค่า

ปาดไปครึ่งหน้าก่อน แน่ใจว่าดำชัวร์แล้วค่อยเดินหน้าต่อ คิสกะว่าขั้นตอนนี้จะใช้เวลาเนิ่นนานราวกับโปรเจคอุโมงค์มไหศวรรย์ แต่ผิดคาดมาก นาทีเดียวก็ดำเหมือนโดนราหูอมแล้ว เยี่ยม เว้นปากไว้ก่อน ไว้ลงทีหลังสุด

ได้ลุคอินเตอร์เนอะ เนชั่นแน่นจิโอกราฟฟิกต้องสนอกสนใจแน่นอน

 

 เป็นไงกันบ้างคะ เล่อค่าเนอะ ปสก.ที่สั่งสมมากว่าสิบปีบรรลุผลวันนี้เอง(ที่ เว้นปากเอาไว้ทีหลังไม่ได้อยากให้ตัวเองดูตลกนะ หน้าคิสไม่ต้องทำอะไรก็แย้อยู่แล้ว แต่เพราะคิสเป็นพวกบ้า ถ้าอะไรใกล้ปาก คิสใช้ทีเดียวต้องล้างหมด ทาทีหลังค่ะ)ส่วน contour kit สุดท้ายเลยใช้แค่ตัวแป้งสีเหลือง เอามาลงที่ใต้ตาและแก้ม หน้าผาก ส่วนที่ต้องให้สว่างกว่าเล็กน้อย ทาบางๆ เบลนด์ๆให้เป็นธรรมชาติ ชั้นเกิดมาก็ผิวแทนงี้ละเธอ ไม่ได้ทำไรเล๊ยยยย

 มาทีคอ กลุ้มใจ เพราะตัวเหลืองจริงๆ เลยเอา W7 bronzer อะไรสักอย่างที่เป็นsolid cream มาลง ตัวนี้คิสเคยใช้แค่ครั้งเดียวแล้ววางนิ่งสนิท เพราะรู้สึกใช้งานยากไปหน่อย สีก็ส้มเหลือกินเหลือใช้ ทาออกมาเปลี่ยนจากกล้วยเดินได้เป็นแครอทต้มแทน ใช้งานกับคิสไม่ได้ค่ะ แต่ตอนนี้เอามาใช้แล้ว โบกกกกกกก จนถึงเนินที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง(คือคิสไม่มีนมจริงๆ วัตถุพยานมันฟ้องชัดเนอะ) คิสก็ปาดค้างๆคาๆ เพราะยังไม่รู้เลยว่าจะใส่ชุดอะไร ยังไม่ได้คิด แต่คิสไม่ห่วงค่ะ ฮาวายไม่ฮาวายมันอยู่ที่ inner เดี๋ยวสร้างได้ค่ะ ไปกันต่อเถอะ

 ลงไฮไลท์เบาๆบางๆด้วย Becca – Moonstone ตรงโหนกแก้ม โหนกคิ้ว nose bridge ให้ดูโกลวๆ หน้ามีมิติ จากหน้าแบนเป็นแอ่งสกล ก็ดูมีมิติงดงามเล่นแสงเล่นไฟเหมือนมีสายเลือดคาร์เดเชี่ยนผสมอยู่ 

 

 จบงาน base make up ละ มาที่ point make upค่ะ เริ่มด้วยทาอายไพรมเมอร์ก่อน คิสใช้ Prestige ปาดออกมานิดเดียว(อย่าใช้เยอะ เปลือง ๕๕ ไม่ใช่ละ คือมันจะทำเมคอัพพังค่ะ) คิสบีบลงทิปฟองน้ำทาตาไปเลย แล้วค่อยๆปาด ไม่ได้ใช้นิ้ว ใช้ทีไร มันจะเป็นรอยนิ้วเหมือนหลักฐานขโมยขึ้นบ้าน ทุกที ไม่รู้ทำไม งงมาก

 ต่อมาใช้สีน้ำตาลอ่อนจาก Dior Palette ลงที่เบ้าตาตามเส้นขนตา เพราะเดี๋ยวเราจะลงเจลอายไลเนอร์กัน ส่วนใหญ่คนมักจะใช้อายแชโดว์แพคสีทีหลัง แต่คิสถนัดเรื่องพลิกโอกาสเป็นวิกฤตเลยเอามาลงก่อน เพราะเปลือกตาคิสมันมากกกกกกกก ลงแค่บางๆพอค่ะ ให้เจลไลเนอร์ลงแล้วติดทน ให้ฟินิชแมททันทีเท่านั้น

 ใช้เจลอายไลเนอร์ของ Bobbi Brown คิสใช้สี sepia กับแปรงของ Zoeva(ที่มันก็ยังไม่แห้งหรอก แต่คิสทิขชู่กดๆเอา) ปาดตรงกลางเบ้าตาก่อน เพราะถ้าเราเริ่มที่หัวตา หัวตาจะเข้มมาก คิสชอบเขียนให้จบแล้วค่อยกลับมา wrap up ที่หัวตาค่ะ จะได้ดูไม่แข็ง ไม่หนักไป ปรกติคิสจะเขียนให้หางตกๆนิดหน่อย แต่ครั้งนี้เราเป็นสาวฮาวาย ไม่ต้องหางตกเป็นหางหมา หางแมว อะไรทั้งนั้น เขียนแค่พอดีกับหางตาจริงพอ ดูตาคมขึ้นแบบไม่มีเหตุผล ก็ชั้นเป็นสาวฮาวายนินะ ไม่ใช่ซั่วเถา ใครว่าชั้นซั่วเถานาทีนี้ ตบปากตัวเองเดี๋ยวนี้ 1 2 3 ปฏิบัติ

 เพิ่มกิมมิคให้ตาด้วย eye pigment แบบอภิมหากลิตเตอร์ แต่ก่อนที่จะลง เราต้องลงแป้งใต้ตาก่อน เพราะมันเป็น loose form ปัดที่หน้างี้วิ๊งเป็นกระทงงานกพอ.เลยค่ะ คิสเอาแป้งของ rimmel ที่แบบ(ใครมีไอนี่บนโต๊ะแต่งหน้ามั๊ย ขอดูสภาพหน่อย อยากรู้จังว่าเก็บรักษากันยังไง คิสวางไว้บนโต๊ะเฉยๆ ไม่ได้พกพาอะไรเลย ฝาแตกเหมือนผ่านสงครามเวียดกง ยังไม่พอค่ะ แพนมันหลุดจากตัวฐานได้ด้วย โอ๊วววววว ใช้กาวเซินเจิ้นติดหรือเอาน้ำลายแปะไว้กันแน่ อะไรมันจะโปลิโอได้ขนาดนั้น) เราเอามาลงใต้ตา แบบไม่ต้องกดแป้ง เดี๋ยวจะได้ปัดทิ้งได้

 แล้วก็จัดหนักกับ Eye pigment คิสใช้ของ inglot AMC ค่ะ มันดีงามมากกกกกกกกกก รอให้มาเปิดตัวในเมืองไทย ดีแต่หาซื้อยากเหลือเกิน ทาไปให้ทั่วเปลือกตา พอดีกล้องคิสมันทำได้ทุกอย่างยกเว้นใช้ถ่ายรูป เลยมองไม่เห็นความงามของมันค่ะ เนื้อและสีมันสวยงามมากจริงๆนะขุ่นพี่ขุ่นน้อง

 ต่อมางานคิ้วค่ะ คิสชอบมากเลยขั้นตอนนี้ คิสใช้หมดเลยทั้งดินสอ ทั้งแวกซ์ ทั้งฝุ่น จริงๆใช้เจลปิดท้ายด้วย แต่วันนี้ไม่เอาค่ะ กลัวมันจะดูกริบไป(เอาจริงๆงานมันพังมาตั้งแต่แรกละ ๕๕)ใช้ดินสอเขียนคิ้วของ Yves Rocher คิสใช้สองสีเลย สีอ่อนก็ไว้ตรง body แล้วต่อหางด้วยสีเข้ม เขียนบางๆพอ เพราะเรามีแวกซ์รออยู่

 คิสใช้ brow kit ของ sleek อันนี้อันที่สามและกำลังจะหมด ค่อยๆลงทีละนิด ค่อยๆขยับสร้างหัวคิ้วให้มันใกล้กับสันจมูก คิสจมูกบานเป็นเห็ดนางฟ้า ต้องใช้หลักการภาพลวงตามาบูรณาการด้วย คิสจะลงให้จมูกดูแคบลงด้วยหัวคิ้วที่แคบตาม เพราะคิ้วคิสห่างกันเหมือนทะเลแหวก ต้องค่อยๆสร้างภาพค่ะ แปรงคิสใช้ของ sephora เบอร์อะไรก็จำไม่ได้แล้ว แต่มันเป็นแปรงคิ้วที่ดีมาก ทุกวันนี้ใช้แต่อันนี้เนี้ยละ

 เกือบจบงานกับคิ้วละนะ แต่เราต้องเอาแป้งมาฝนทับงานทุกอย่างที่เราสร้างสรรค์ไว้ เพราะมันจะดูเป็นธรรมขาติกว่าไม่ลงมากกกกกกกกกกกกกกก และทำให้คิ้วติดทนตลอดทั้งวันด้วย ใช้แป้งอะไรก็ได้ คิสใช้แป้ง bourjois เพราะซื้อมาสีไม่ตรงกับผิว เน้นที่หัวคิ้ว โบกเลย ไม่ต้องกลัวงานพัง

 

 แล้วเอาแปรง spoolie ที่มากับดินสอเขียนคิ้วของ Soap&Glory มาขยี้แป้งส่วนเกินออก และใช้ดินสอตัวนี้เขียนหาง เพราะเส้นมันเล็กสะใจดี ตัวนี้มีความคล้าย cosluxe มาก แค่แพคเกจดูแข็งแรงกว่าหน่อย เขียนแค่ให้ดูมีหางคิ้ว ไม่ต้องลากยาวค่ะ สาวขาวเกาะบ่แม่นมายารัศมีเด้อ

 ดัดขนตา ขั้นตอนที่สำคัญมากถึงมากที่สุดสำหรับคิส แต่คิสดัดลืมที่ดัดของ gino ไว้ที่ออฟฟิต(อีกแล้ว!!) วันนี้เลยต้องใช้ของ Anna sui กับ model co แทน จริงๆของgino ดีกว่าอีกค่ะ คงต้องไปซื้อมาไว้ติดบ้านอีกสักอัน

 ดัดไปตามสเตปคลาสสิก ระหว่างนี้ทำไรไปด้วย จะเล่น T25 ไปด้วยก็ได้ค่ะ เพราะควรค้างไว้ คิสนี่จะหยอดน้ำตาเทียมรอไว้เลย เพราะคิสใช้เวลานานมาก แล้วค่อยปัดมาสคาร่า คิสใช้มาสคาร่าหลายตัว เพราะตัวเดียวไม่เคยตอบโจทย์ได้ เปลี่ยนไปเรื่อยๆค่ะ สต๊อคมีรอเอาไว้เยอะมาก เวลาใช้รอบนึงก็ใช้สามแบบ(แบบหนาใช้กับโคนขนตา แบบแปรงธรรมดาปัดให้ curl ได้ตลอดวัน และแบบไฟเบอร์ต่อให้ขนตายาว ที่คิสจะใช้หลังที่ดัดขนตาแบบความร้อน ใช้เก็บงานค่ะ ส่วนขนตาล่างใช้สองตัว) ใครอ่านแล้วงงบอกนะคะ คิสจะอธิบายแบบละเอียดได้อีกสองหน้าค่ะ เรื่องมาสคาร่านี่โปรมาก

 ทนอีกหน่อยนะ ใกล้จบละ ๕๕จะ บอกว่าลืมทาลิปบาล์มแต่แรก(อันที่จริงควรจะทำก่อนไอที่ว่ามาทั้งหมดเลย สภาพตอนนี้ดูเหมือนของขาด ขาดของมาก ๕๕) ซับด้วยทิชชู่แล้วใช้ลิปไลเนอร์เขียนเบาๆ คิสใช้ของ Bobbi brown และ Flormar ตามลำดับ

 ส่วนลิป คิสไปหาพรอพฮาวายก่อนจะทา เพราะยังไม่รู้เลยว่าจะต้องทาสีอะไร เจอ floral crown ของ H&M Coachella คอลเลคชั่นชาติไหนก็ไม่รู้ นานมากๆ สีมัน colorful มากเลยตัดใจเลือก Marc Jacob – Heartbreaker มา สีคอรัลสวย เนื้อดีมากๆ ไม่ต้องลงกรอสอะไรทับ ใช้แปรงทาก็สวยแล้ว แปรงลิปคิสใช้ของยี่ห้ออะไรก็จำไม่ได้ สั่งมาจากเมกา ใช้ดีมากๆ สกรีนยี่ห้อมันหลุดไปแล้ว ชื่อก็แปลกๆ เลยนึกไม่ออก

มาเพิ่มเติมเรื่องแปรงลิปค่ะ พอดีข้องใจมากกกกกว่าเราไปซื้อของอะไรมา

เจอแล้วนะคะของ  bdelliumtools รุ่น Studio 555 Retractable Lip เมืองไทยไม่รู้มีขายรึป่าว -  -"

เห็นม๊ะสีมันสดใส หลับหูหลับตาฮาวายไปได้อยู่

 งานดั้งก็ต้องมา คลาสสิกอีกแล้ว ชั้นรู้เทอก็ใช้ชิป๊ะ ดีเน๊าะ ชอบ ขาดไม่ได้เลย 

 ส่วนแก้ม ว่าจะไม่ปัดเลย เพราะเล่นหน้าดำเบอร์นี้ ปัดไรไปก็คงไม่เห็นอยู่ดี แต่พอดีพรอพสีสันโหดมากเลยจัดเบาๆ ปัดบางๆ ใช้บลัชที่พี่สาวยกให้โดยเสน่หามาหมาดๆผสมกันเป็นสีคอรัลกะสี mauve ใช้คอรัลตรง apple cheek และใช้สีเมริฟปัดให้ฟุ้งไปทางโหนกแก้ม ฟังดูงาน custom made ไม่นะ ชั้นไม่ได้ทำอะไรขอไปที ชั้นมีทริคเยอะมากนะจ้ะ(หรา ตั้งแต่อ่านมามีแต่ลากยาวราวกับวิทยานิพนธ์ป.โท)

 เอาละ ได้ละ หน้าฮาวาย(เอี้ยน)นี่ได้ละ แต่ชุดนี่เหมือนคอสเพลย์หัวหน้าพรรคกระยาจกมาก.....คือเข้าใจกันนะว่าต้อง เปลี่ยนชุดอยู่แล้วไง ใส่ไรมาก่อนไม่ใช่ประเด็นป๊ะ

 เสื้อตัวนี้ของจริงมีรูขาดประมาณห้ารูได้ นิ้วลอดได้ แต่ใส่สบายเว่อร์(ได้ข่าวว่าก็มันเปื่อยยุ่ยจะเป็นปุ๋ยขนาดนี้ไม่สบายได้ไง ๕๕) นิ่มมากกกกกกกกกก ชอบมากกกก กล้าใส่ออกนอกบ้านดั๊วะถ่ายรูป เก็บ portfolio ชั้นรู้ว่าต่อไปมันต้องเป็นของล้ำค่า ใครจะพริ้นท์HDแล้วให้คิสเซ็นก็ส่งมาได้ค่ะ(ห้ามเอาไปแปะหน้าประตูกันผีนะคะ ขอร้อง)ในที่สุด ชั้นก็กลายเป็นสาวฮาวายสไตล์คาวาอิ๊ อิคึอิคึได้แล้ววววว

 แน่นอน สาวฮาวายต้องเบิกบาน ร่าเริงเหมือนเมาหญ้าแห้ง

และเราก็มีท่าประจำเผ่าด้วย แบร่

ชั้นมีความสดใส อุ๊ย โลกสดใส แสงแดดยามเช้า ชั้นรักเค้า

 แต่ชั้นก็ไม่เคยลืมกำพืดตัวเอง ชั้นเกิดมาน่ารัก ก็ต้องทำตัวน่ารักสินะ

(ถามจริง มีใครยังอยู่ถึงตรงนี้มั๊ย ๕๕ อีกนิดเดียวจริงๆนะ)

 

ชั้นชอบกิจกรรม ชั้นดูซีรีย์ด๊วะ ชั้นรักอ๊ปป้า

ชั้นมีความเป็นสากล ชั้นชอบวัฒนธรรมที่แตกต่าง ท่าอาบังขายถั่วชั้นก็ทำได้

 ตายละ ชั้นพลาดตั้งแต่คิดคอนเซปแล้วหรอ ไม่ได้ ชั้นสร้างงานมาขนาดนี้แล้ว สุดท้ายเลยคว้าเดรสสี watercolor สไตล์ tie dye ของ Eryn Brinie มาถูๆไถๆไป นี่ละฮาวายสุดละ ที่เหลือก็ใช้จินตนาการเอา ไอสไตน์บอกไว้จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ คิสแค่อยากให้ทุกคนได้ใช้จินตนาการไปร่วมกับคิสค่ะ เท่านั้นเองจริงๆ

ออกมานอกห้องดีกั่ว มืดหยั่งกะไปแอบถ่ายใต้ทางด่วนสะพาน3

ส่วนเบื้องหลังน๊านนนนน  

คิสไม่ได้ลงบรอนเซอร์ที่ตัวจากคอลงมาเลย เพราะบอกตรงๆว่ากลัวชุดจะเปื้อน สีชุดค่อนข้างอ่อนมากๆ

ลองหันหน้าเข้าแสงบ้าง คราวนี้หลอกตา หลอกตัวเองกันสุดๆไปเลย อะไรมันจะฟุ้งได้ขนาดนี้

แต่ บอกแล้วว่างานนี้ต้องใช้จินตนาการ ลองหลับตาแล้วมองคิสใหม่ รู้สึกรึยัง ได้กลิ่นอายถั่วแมคคาเดเมียกันเลยใช่มั๊ยคะ (...ทำไมชั้นได้ยินแต่เสียงแอร์....)

อ่า...สวัสดีค่ะ บั๊ย

คิสพยายามลงใหม่แล้วก็ทำไม่ได้อยู่ดี เลย Print screen มาแปะแทน -   -"

สีหรือรุ่นของบางตัวคิสไม่ได้เลือกตรงกับที่ใช้จริงๆนะคะเพราะไม่มีในตัวเลือก

ขอเพิ่มเติมข้อมูลที่คิสหาไม่เจอตามนี้นะคะ

2. LB Mineral Moist CC cream

3. Givenchy Acti Mine Make Up Base - Kiwi 

6. in Malibu

7. Nars Bronzering Powder - Laguna(original package)

9. in Custard

10. in 40 Mirage

12. in Moonstone

13. Prestige Primed & Read Eye Primer

14. Dior 5 Couleurs Eyeshadow Palettes - Montaigne

15. in Sepia

17. in 79

20. in Light

23. Modelco Turbo Lashwand Heat, Heat Eyelashes(new model)

27. Innisfree Skinny Microcara Mascara in Brown

32. in 602 Heartbreaker

33. in 29 Nude Pink and in 31 Pretty Coral

มือใหม่หัดโพสจริงๆต้องขอโทษด้วยค่ะ

Discussion (7)

อลังการงานสร้างมั่กๆ จร้า
ถ้ากล้องหน้าชัด ให้คะแนนเต็มนะจ๊ะ ตะเอง

@King of Eugenie สู้ๆ ทำมาอีกนะค้าาา
@Katemoko_So young
ขอบคุณมากนะค่า เพิ่งจะเคยทำกะเค้านี่ละฮะ งงมากกกกกก กดผิดๆถูกๆไปหมดเลยค่ะ

@sawhapam
ขอโทษด้วยนะเต๊งงงงงงง คือคิสทำสั้นๆทำดีๆไม่เป็น ๕๕ ทำเอาฮาเนอะ ยาวเป็น IS จริงๆ

@Misiu
โอ๊วววว ขอเสียงตบมือให้ผู้รอดชีวิตจากรีวิวคิสด้วยค่า ๕๕ อ่านจบได้นี่นับถือมากๆ/ คิสเอากล้องมาให้เพื่อนสอนใช้เลยค่ะ(เชื่อมั๊ยว่าคิสใช้กล้องจริงๆ กล้อง Mirrorless ด้วย แต่คิสใช้ไม่เป็น กดให้โฟกัสแต่หน้า แล้วก็ปรับโหมดเป็นถ่ายพอทเทรท เอาความละเอียดสูงสุด แล้วมันออกมาเหมือนรีวิวในม่านหมอกสงครามโซเวียดเลยค่ะ เข้าใจว่าคงปรับโหมดอะไรผิดไป คราวหน้า(ถ้ายังไหว)จะพยายามใหม่นะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ :)



 
โอ้ยยยย อ่านจนจบ เป็น how to ที่ยาวสุดที่เคยเห็น 555 ชอบๆๆๆ ขำดีตรงไปตรงมา อีกนิด รอบหน้าขอสว่างๆนะคะคุณคิส