มาทำให้หน้าใสไร้สิวกันเถอะ
Athitiyaya169สวัสดีค่าาทุกคน วันนี้เราจะมารีวิวการรักษาสิวของเรา นี่เป็นสภาพหน้าตั้งแต่เดือน ธันวาคมปี 2557 จนถึงประมาณปลายปีที่แล้ว เราเป็นคนผิวผสมค่อนไปทางมัน และแพ้ง่ายมาก มีสิวมาตลอดตั้งแต่อายุ 14 ปี และรักษาที่คลินิกอักษรย่อ k มาตลอด จนถึงอายุประมาณ 20 ช่วงที่ใช้ยารักษาสิวหน้าก็ดีขึ้น แต่พอหยุดใช้สิวก็กลับมาขึ้นเหมือนเดิม เลยคิดว่าออกมารักษาเองดีกว่า ซึ่งตอนนั้น หน้าเรามีทั้ง สิวอักเสบ สิวเสี้ยน สิวผด สิวอุดตัน รวมกันอยู่บนหน้าทั้งหมด เราเริ่มศึกษา skincare อย่างจริงจัง ดูรีวิวของคนอื่นตลอด อันไหนที่ใครว่าดี ก็ซื้อมาทดลองใช้ จนได้ skincare ที่ถูกกับหน้าตัวเอง
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เริ่มกันเลยดีกว่า....
Cleaning water : Bioderma Sensible H20 (500 มล.)ขั้นตอนแรกเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดคือการทำความสะอาดเครื่องสำอางค์ ถึงแม้ว่าเราเป็นคนที่ไม่แต่งหน้า มีแค่ลงกันแดด แป้งฝุ่น และเขียนคิ้ว แต่เรากลัวล้างหน้าไม่สะอาดเลยใช้ตัวนี้ทำความสะอาดก่อนจะใช้โฟมล้างหน้า จนถึงปัจจุบันเราใช้ตัวนี้มาไม่ต่ำกว่า 5 ขวด ซื้อมาหลากหลายราคามาก ตั้งแต่ฝากเพื่อนหิ้วจากฝรั่งเศส (400 บาท) ซื้อในอินเตอร์เน็ต (ประมาณ 600-700 บาท) ซื้อจากร้านขายยา (2 ขวด 1500 บาท) เคยนอกใจไปใช้ของยี่ห้ออื่น หรือใช้ cleasing oil สุดท้ายก็ต้องกลับมาตายรังที่ตัวนี้ทุกทีbioderma สีชมพู จะเป็นสูตรอ่อนโยน สำหรับคนแพ้ง่าย ลักษณะจะเป็นน้ำใสๆ ไม่มีสี ไม่มีพาราเบน (สารกันเสีย) มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เช็ดโดนตาก็ไม่ค่อยแสบตาเท่าไหร่วิธีใช้คือ หยดลงสำลีให้ชุ่มๆ แล้วเช็ดบนหน้าและรอบดวงตา เช็ดหลายๆรอบเลยจนกว่าสำลีจะสะอาด เราใช้ประมาณ 2-3 แผ่น แต่ถ้าวันไหนแต่งหน้า ตัวนี้จะไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ เพราะว่าเช็ดมาสคาร่าและอายไลเนอร์ไม่ค่อยออกต้องใช้ eye&lip remover ตามส่วนวิธีดูของแท้ของปลอมก็ง่ายๆเลย Bioderma ของแท้จะต้องมีสติ๊กเกอร์ติดอยู่ข้างขวดและฝาจะไม่สามารถหมุนได้ ถ้าเพื่อนๆซื้อมาละหมุนฝาออก ก็ทำใจได้เลย ของปลอมจ้าา
ข้อดี : เช็ดหน้าได้สะอาดหมดจด อ่อนโยนต่อผิว ไม่แพ้ไม่แสบตา และทำให้สิวผดลดลงข้อเสีย : ราคาแพงไปนิดนึง
Cleanser : Paula’s Choice Skin Balancing Oil-Reducing Cleanser (473 มล.)ตัวนี้เราใช้หมดไปนานแล้ว เลยไปขอยืมรูปมาจากเว็บ paulaschoice
cleanser ตัวนี้จะเหมาะสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวมัน ขวดใหญ่มากซื้อมาครั้งแรกก็คิดว่าจะใช้หมดมั้ย สุดท้ายใช้ทุกวันเช้า-เย็น ก็หมดภายใน 6 เดือน ลักษณะจะเป็นเนื้อสีขาว ไม่มีฟอง ไม่มีสี ไม่มีน้ำหอม ไม่มีแอลกฮอล์ เวลาใช้ก็ถูๆนวดๆบนหน้า ช่วงที่ใช้แรกๆจะรู้สึกแปลกๆ ไม่ค่อยชินเท่าไหร่ เพราะมันไม่ค่อยมีฟองเลยรู้สึกเหมือนล้างหน้าไม่สะอาด แต่ใช้ไปเลยๆเวิร์คมาก รู้สึกหน้าไม่แห้งตึง ไม่ลอก ไม่มัน ปกติเราใช้ cleanser ตัวอื่นแล้วหลังล้างหน้าจะรู้สึกหน้าเอี๊ยด หน้าแห้ง แต่ใช้ตัวนี้แล้วไม่มีปัญหาเลยข้อดี : ทำให้หน้าไม่แห้ง ไม่ลอก เหมาะสำหรับคนผิวแพ้ง่าย ข้อเสีย : ราคาแพง
Toner : Paula’s Choice Skin Balancing Pore-Reducing TonerToner ตัวนี้จะเหมาะสำหรับคนผิวผสมถึงผิวมันอีกเช่นกัน ราคาประมาณ 850 บาท มีลักษณะเป็นน้ำสีใสๆออกเหลืองนิดๆ ไม่มีน้ำหอม ตอนที่ซื้อเพราะคำเคลมของตัวนี้บอกว่าใช้มีสารบำรุงอัดแน่น ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับใบหน้าอีก แถมยังช่วยลดรอยแดงจากสิวได้ระดับหนึ่ง เลยตัดสินใจซื้อมาลอง ใช้ช่วงแรกๆรู้สึกเหมือนร้อนผ่าวๆที่หน้า ก็ตกใจคิดว่าจะแพ้หรือเปล่า แต่พอใช้ไปสักพักเหมือนผิวหน้าจะปรับใช้ชิน เลยไม่ค่อยรู้สึกอะไรใช้แล้วจะรู้สึกเหมือนมีอะไรมาเคลือบผิวบางๆ แต่ก็ไม่ได้หนักหน้ามากนัก แถมช่วยทำให้หน้าชุ่มชื้นอีกด้วยวิธีใช้ก็ง่ายๆ แค่หยดลงบนสำลีให้ชุ่มๆแล้วเช็ดให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้รอให้ซึมซักพัก แล้วตามด้วย skincare ตัวอื่นต่อ
Paula’s Choice Skin Perfecting 2% BHA Liquid (118 มล.)ตัวนี้ช่วงแรกๆใช้บ่อยมาก เวลาไปค่ายไปนอนต่างจังหวัดก็เอาไปด้วยทุกครั้ง จนหายไป T_T
ตัวนี้จะช่วยในเรื่องสิวอุดตัน ราคาอยู่ที่ประมาณ 900 บาท เราใช้เวลาตัดสินใจนานมากกว่าจะซื้อมาลอง ใช้ เพราะเคยได้ยินหลายคนบอกว่าใช้แล้วมันจะผลักพวกสิวอุดตันแล้วสิวจะเห่อออกมาก่อนประมาณ1-2 เดือน แล้วสิวถึงจะค่อยๆหายไปลักษณะจะเป็นน้ำใสๆ เทใสสำลีแล้วเช็ดให้ทั่วหน้า เว้นรอบดวงตาไว้ เวลาทาก็จะรู้สึกคันๆยิบๆ ก็มโนอีกแล้วว่าจะแพ้หรือเปล่า แต่ก็ทนใช้ต่อไป เวลาใช้ก็ทาแล้วทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาทีแล้วค่อยลง skincare ตัวอื่นต่อ ใช้เฉพาะตอนกลางคืนอย่างเดียวใช้มาซักพักก็นับวันรอว่าเมื่อไหร่สิวจะเห่อขึ้นมา ปรากฎว่าไม่มีสิวเห่อขึ้นมาเลย สิวอุดตันก็ลดน้อยลง ช่วงแรกๆกดสิวก็มีออกมาประปราย หลังๆมาไม่มีสิวอุดตันเลย แต่ตอนนี้ไม่ได้ใช้แล้ว เพราะทำหาย T_T
Pre serum : Biotherm Life Plankton Essence (125 มล.)ตัวนี้ซื้อเพราะกระแสแรงมากประกอบกับคำเคลมจากทางแบรนด์ที่ว่า ผิวดูเด็กลง 3 ปีใน 8 วัน และด้วยความที่มันเป็นน้ำตบที่มีส่วนผสมของแพลงตอนถึง 5% เลยตกเป็นทาสการตลาด ไปสอยมาในราคา 2,300 บาท ด้วยความหวังว่ามันจะทำให้หน้าเด็กลง ฮ่าๆลักษณะเป็นน้ำสีขุนๆออกเหลืองนิดๆ กลิ่นแอบเหม็นตุๆ เบาๆ ของแพลงตอนผสมกับน้ำหอม เนื้อเหมือนเป็นฟิล์มบางๆเคลือบผิวไว้เวลาใช้ต้องเขย่าก่อนเพื่อให้แพลงตอนที่หลับนิ่งอยู่ที่ก้นขวดลอยขึ้นมาผสมกับน้ำ แล้วทาให้ทั่วใบหน้าประมาณ 5-6 หยด ตบๆหลายๆทีให้มันซึม ทาแล้วซึมลงผิวง่าย แต่ยังมีความรู้สึกหนืดๆบนใบหน้าเล็กน้อยเหมือนมันเคลือบผิวไว้หลังใช้ได้ซักพักรู้สึกว่ารอยแดงบริเวณแก้มลดลง สิวอักเสบก็ลดลง ช่วยกระชับรูขุมขน ผิวหน้าดูเนียนละเอียดและ แข็งแรงขึ้นเวลาไปกดสิวมาก็แดงแค่แป๊ปเดียว
ข้อดี : ช่วยลดการอักเสบของผิว ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ทำให้รูขุมขนเล็กลง ผิวหน้าแข็งแรงขึ้นข้อเสีย : มีส่วนผสมของน้ำหอม ใครที่แพ้น้ำหอมก็ต้องระวัง
Serum : Kiehl’s Clearly Corrective Dark Spot Solution (30 มล.)Serum ตัวนี้เคลมว่าช่วยลดรอยดำ รอยแดงจากสิว ลดความหมองคล้ำ ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ มีส่วนผสมของวิตามินซีเข้มข้น ซื้อมาในราคา 2600 บาท ตอนไปซื้อ BA ที่ร้านใจดีมาก ให้ tester มาลองใช้เพียบ พอใช้ผ่านมา 1 เดือนก็โทรมาติดตามผลว่าใช้แล้วแพ้มั้ย เห็นผลเป็นไงบ้างลักษณะผลิตภัณฑ์จะเป็นเจลสีใส เนื้อเบาบาง มีความหนืดเล็กน้อย มีกลิ่นอ่อนๆของน้ำมันลาเวนเดอร์ มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ ทาให้ทั่วหน้าประมาณ 3-4 หยด ทาแล้วซึมไว พอใช้ได้ประมาณ 1-2 เดือน รอยดำจางลงอย่างชัดเจน ส่วนรอยแดงยังไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ แต่ที่เห็นผลชัดเจนคือหน้ากระจ่างใสมากขึ้นจนมีแต่คนทักว่าไปทำอะไรมาทำไมถึงขาวขึ้นแบบนี้
ข้อดี : ช่วยทำให้หน้ากระจ่างใส รอยดำรอยแดงจากสิวลดลงข้อเสีย : ราคาแพง บรรจุภัณฑ์เป็นแบบเป็นขวดใสทำให้เนื้อเซรั่มเสื่อมได้ และตัวดรอปเปอร์อาจจะทำให้มีสิ่งสกปรกปนเปื้อน มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ
ยาแต้มสิว : Tomei Anti-Acne Creamเป็นยาแต้มสิวที่ขาดไม่ได้เลยจริงๆ ใช้มาเกือบ 10 หลอดแล้ว ซื้อได้ตามร้านขายยาแถวบ้านได้เลย ราคาอยู่ที่ประมาณ 165-175 บาท แล้วแต่ร้านลักษณะเป็นเนื้อครีมเข้มข้นสีขาว เวลาทาไปแล้วหน้าไม่แห้ง ไม่แสบ ไม่คันผิวเลย ทาแป้งแล้วไม่เป็นคราบ อเมซิ่งมากใช้แต้มบริเวณที่เป็นสิว สิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวหนอง ใช้ได้หมดทุกสิว แต่ก่อนช่วงที่เราเป็นสิวหนักมาก เราก็โบกมันทั่วหน้าเลย หลังจากนั้นสิวก็จะค่อยๆยุบลง แต่ก็ต้องใช้เวลา ทาปุ๊ปยุบปั๊ปเป็นไปไม่ได้หรอก แต่ถ้าแต้มตรงที่สิวกำลังจะขึ้น สิวก็จะไม่ขึ้นเลย คือดีงามมากกก
ที่รีวิวมาทั้งหมดนี้อาจจะไม่เห็นผลกับทุกคนเสมอไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง และสภาพผิวหน้าของแต่ละคน สิ่งที่สำคัญที่สุดนอกจากการดูแลผิวจากภายนอกแล้ว พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันก็เป็นสิ่งสำคัญมาก ไม่ควรเอามือสกปรกจับหน้า เอาหน้าซุกหมอนเพราะหมอนสกปรกเป็นแหล่งรวมของเชื้อโรค ใช้กระดาษทิชชู่เช็ดหน้าหลังล้างหน้าแทนผ้าเช็ดตัว กินอาหารที่มีประโยชน์ หมั่นออกกำลังกาย ที่สำคัญคือล้างหน้าให้สะอาดแค่นี้ก็ช่วยได้เยอะในระดับนึงแล้ว เป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวย สู้ๆน้าทุกคนนนนนน eiei <3
Discussion (9)