Review : คุชชั่นเกาหลี 2 ตัวใหม่!! Dr.Althea และ April Skin
fayzereta92อันยองฮาเซโยยยย ทุกๆคนนะค้าวันนี้เฟย์จะมารีวิวคุชชั่นของเกาหลีที่เฟย์ซื้อมาตอนไปเที่ยวเกาหลีครั้งที่แล้วมาฝากค่าซึ่งทุกคนก็คงจะรู้จักตัวคุชชั่นกันดีอยู่แล้วเนอะถ้าจะให้อธิบายง่ายๆมันก็คือ...รองพื้นแบบฟองน้ำ ที่รวมเอารองพื้น+บำรุง+กันแดด+แป้งใช้สำหรับปรับสภาพผิวให้เนียนสดใสในขั้นตอนเดียวโดยเป็นนวัตกรรมจากสาวเกาหลี ซึ่งจะให้ลุคฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลีอีกด้วย
ปัจจุบันมีหลายแบรนด์ทำคุชชั่นกันออกมาเยอะมากถ้าไปเดินเมียงดงและแวะเข้าร้านเครื่องสำอางจะสังเกตุได้ว่าไม่มีร้านไหนที่ไม่ขายคุชชั่นเลยก็ว่าได้ซึ่งเจ้านวัตกรรมนี้ทางแบรนด์ฝั่งโซนยุโรปก็ได้เอาไปทำออกมาตีตลาดกับเข้าบ้างไม่ว่าจะเป็น Lancome, Dior, YSL หรือ Estee Lauder
ซึ่งวันนี้เฟย์ก็ได้เลือกคุชชั่นของเกาหลีที่ยังไม่มีขายในประเทศไทยมารีวิวให้สาวๆได้ดูกันว่า มันจะเริ่ดและดีสมคำร่ำลือรึเปล่านั่นก็คือ Dr.Althea และ April Skin ค่ะ**ทั้งสองตัวซื้อที่ Olive & Young สาขาเมียงดงค่ะ
จริงๆเฟย์อยากเอามารีวิวให้เยอะกว่านี้แต่คราวนี้ขอชิมลางเบาะๆ 2 แบรนด์ก่อนละกันเนอะ ^_^
มาเริ่มกันที่ตัวแรก Dr.Althea, Water Glow Cushion SPF 50 PA+++ (48,000 won) อีกรุ่นก็คือ Luminious Venus Cushion SPF 50 PA+++ (48,000 won) สำหรับโทนสีผิวที่คล้ำลงมาหน่อยสารภาพตรงๆเลยว่าเหตุผลที่เลือกซื้อตัวนี้เพราะว่าแพกเกจล้วนๆ!!คือเค้าออกแบบออกมาได้สวยแบบ Pure Style แนวเทพนิยายเลยอ่ะตอนแรกที่เห็นนึกว่าเป็นรูปซินเดอเรลล่าด้วยซ้ำใช้ดีรึเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่าแค่แพกเกจก็ชนะเลิศแล้ว(โดน packaging หลอกอีกตามเคย 55)
เปิดมาข้างในเราจะพบกับพัฟสีน้ำเงินสำหรับแตะคุชชั่นและลงที่ผิวเราตัวคุชชั่นจะป็นฟองน้ำรูปร่างหน้าตามาตรฐานปกติของคุชชั่นทั่วๆไป วิธีใช้ง่ายๆ แค่กดตัวพัฟลงบนฟองน้ำคุชชั่นเบาๆ 2-3 ทีตัวรองพื้นที่อยู่ในฟองน้ำจะซึมออกมา ให้เอาพัฟค่อยๆแตะ กดเบาๆทั่วใบหน้าและร่องจมูก
เปรียบเทียบให้ดูหลังทา ครึ่งขวาเป็นข้างที่ทาคุชชั่น Dr. Althea เรียบร้อยแล้ว
1. รอยสิว จุดด่างดำจางลงไปในระดับนึง ปกปิดรูขุมขนได้โอเค แอบเป็นคราบบ้าง
2. ได้ลุคเนียนเบา ใส ฉ่ำนิดๆแบบสาวเกาหลี
3. ติดทนปานกลางถ้าเจอเหงื่อที่เมืองไทยหนักๆอาจๆไม่ไหว
4. เฉดสีมีให้เลือก 2 เฉดสี คือขาวสุดและผิวสองสีอาจจะไม่เหมาะกับสาวผิวสองสีสักเท่าไหร่
(เบอร์ขาวสุดเฟย์ทาก็แอบวอกหน่อย)
5. แพกเกจจิ้งสวยงาม หยิบออกมาใช้แล้วรู้สึกว่าตัวเองสวยขึ้น 555
คะแนน : 6.5/10 ตัดคะแนนที่แอบเป็นคราบ
ตัวต่อมาคือแบรนด์ April Skin, Magic Snow Cushion SPF 50 PA+++ (48,000 won) เหตุผลที่เฟย์เลือกแบรนด์นี้มาเพราะตอนที่กำลังเลือกว่าจะซื้อคุชชั่นตัวไหนดีก็เหลือบไปเห็นแบรนด์นี้วางเด่นอยู่ และไปสะดุดตาเห็นว่าเค้ามีทั้งหมด 3 โทนสี Light beige, Pink beige และ Natural beige ซึ่งทำให้เฟย์สนใจมาก ...เพราะคุชชั่นของเกาหลีส่วนใหญ่จะมีแค่ 2 เฉดสีเท่านั้นเองจะเลือกเบอร์ 1 ก็ขาวไป หรือเบอร์ 2 ก็คล้ำไปทำออกมาทั้งทีเห็นใจสาวผิวสีกลางๆแบบเราบ้าง T^T
แต่พอเฟย์เห็นว่ามี 3 เฉดสีเลยไม่รอช้าที่จะสอยสี Pink beige มามาดูกันว่าข้างในจะเป็นยังไงกันค่ะ ^_^
ข้างในจะเจอกับฟองน้ำเนื้อละเอียดที่ละเอียดกว่าของ Dr.Althea ส่วนตัวพัฟอันนี้มาแปลกเป็นเนียนๆนุ่ม สีครีมอ่อนๆ เวลาแตะผิวแล้วนุ่มมากกกกพอกดลงบนฟองน้ำรองพื้นก็จะซึมมาที่พัฟ จะสังเกตุได้ว่าtexture ที่ซึมออกมาจะแตกต่างกับของ Dr.Althea ค่ะ
เปรียบเทียบให้ดูหลังทา ครึ่งซ้ายเป็นข้างที่ทาคุชชั่น April Skin เรียบร้อยแล้วส่วนครึ่งขวาเป็นด้านที่ทา Dr. Althea ค่ะ
1. รอยสิว จุดด่างดำจางลงได้ดีพอสมควร ปกปิดรูขุมขนได้ดี ไม่เป็นคราบ
2. ได้ลุคเนียนเบา ใส ปกปิดขึ้นมาอีกระดับ ฉ่ำนิดๆแบบสาวเกาหลี
3. ติดทนปานกลางถ้าเจอเหงื่อที่เมืองไทยหนักๆอาจๆไม่ไหว4. เฉดสีมีให้เลือก 3 เฉดสี คือขาวสุดและผิวสองสีอาจจะไม่เหมาะกับสาวผิวสองสีสักเท่าไหร่(เฟย์เลือกเบอร์ 2 ค่ะ)
5. แพกเกจจิ้งเรียบหรู แบบ Minimal
คะแนน : 7.5/10
เทียบกันจะๆ ระหว่างด้านที่ทา Dr.Althea และ April Skinจะสังเกตุได้ว่าด้านที่ทา Dr.Althea จะเป็นคราบเล็กน้อยช่วงจมูกและการปกปิดจุดด่างดำ April Skin ทำได้ดีพอสมควรถ้าอยากได้ลุคเนียนใส โชว์ผิว แนะนำ Dr.Althea แต่ถ้าเน้นปกปิดรอยและเนียนใสด้วย April Skin โลดค่ะ
ส่วนตัวแล้วเฟย์คิดว่าคุชชั่นเป็นอะไรที่สะดวกรวดเร็วในการแต่งหน้าเลยนะแค่ตบๆแปะๆหน้าก็เนียนใสแล้ว แต่อาจจะไม่ได้ช่วยในเรื่องการปกปิดขั้นเทพมากเท่าไหร่เพราะยังไงมันก็ไม่ใช่รองพื้นหรือบีบีครีมอยู่ดี จะให้เทียบเท่าเลยก็คงไม่ใช่โดยรีวิวครั้งนี้เฟย์ทาแค่ใบหน้าไม่ได้ทาคอด้วย เลยอาจจะดูหน้าวอก เทาๆ ไปบ้างถ้าใครไม่อยากวอกก็แนะนำให้เอาคุชชั่นตบๆช่วงคอไปด้วยนะส่วนใครมีรอยคล้ำใต้ตาเยอะ แนะนำให้ทาคอนซีลเลอร์ด้วยนะค้า
วันนี้ก็ขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่นะคะ สวัสดีค่า
Discussion (2)