[ไปญี่ปุ่นซื้ออะไรดี?] Ep.1 รองพื้น, แป้ง, คอนซีลเลอร์, BB cream, CC cream

สวัสดีค่ะ จิงโจ้นะคะ ^^ วันนี้จิงโจ้เอาเครื่องสำอางค์ที่ซื้อมาจากญี่ปุ่นมารีวิวฝากเพื่อนๆกันค่า คือจริงๆไปญี่ปุ่นกลับมาหลายเดือนแล้ว เลยได้มีเวลาลองเครื่องสำอางค์ที่ซื้อมาอย่างไม่ค่อยมีสติและอย่างบ้าคลั่ง ^^! แล้ว เลยคัดมาเฉพาะตัวที่เราลองแล้วรู้สึกว่า มันดี! มาให้เพื่อนๆดูกันค่า

ใครที่อยากดูเป็น VDO ก็คลิ๊กด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ หรือถ้าจะตามลงมาอ่านด้านล่างก็ เลื่อนลงมาเล้ย~~~

มาเริ่มที่ตัวแรกกันเล้ย มาจากแบรนด์ INTEGRATE ค่ะ หลายคนอาจจะไม่คุ้นหูหรืออาจจะเพิ่งเคยได้ยิน แบรนด์นี้มีการรับรองในเรื่องคุณภาพเพราะอยู่ในเครือของ Shiseido ค่ะ ตัวนี้คือ Shiseido InterGrate Mineral Water Foundation Liquid (30 ml)

  • ขนาดเล็ก เบา พกพาง่ายสะดวกไม่ต้องกลัวแตกเพราะขวดเป็นพลาสติกแบบยืดหยุ่น
  • มีสีให้เลือก 4 เฉด [OC 00, 10, 20, และ 30] ขนาดโจ้เลือก 00 เบอร์ขาวสุดมา แต่มันกลืนไปกับผิว ไม่วอกและไม่ขาวมาก เพราะฉะนั้นสาวไทยใช้ได้หายห่วงเรื่องสีจะขาวจะวอกเกินไปได้เลยค่า ที่สำคัญสีจะออกโทนเหลืองด้วยค่ะ เหมาะกับสาวเอเชียไทยๆอย่างเรามาก

  • เมื่อทาไปแล้ว ตัวเนื้อรองพื้นมีความเหลวมาก (ห้ามสะกดตก "ห" กันเลยทีเดียว) ดูได้จากภาพที่ 2 เนอะ มีน้ำผสมอยู่มาก แต่สามารถปกปิดรอยแดงได้ และ ตัวรองพื้นไม่ฝังลงในรูขุมขนนะคะ (คนที่รูขุมขนกว้างก็ใช้ได้ค่ะ ถ้าโจ้ใช้ได้ - -)
  • ทาแล้วเนียนไปกับผิว แต่จะมีความหนึบๆนิดหน่อยนะคะ สาวๆที่ผิวมันอาจจะไม่ชอบเท่าไหร่ เพราะไม่ได้คุมมัน
  • ปกปิดได้ดี ระดับกลาง
  • ช่วยปรับสีผิวให้สว่างขึ้นมาแบบไม่วอก

ตัวถัดมานะคะ คือ Candy Doll Liquid Foundation ( 34g) ค่ะ 

ตัวนี้ก็เช่นกันค่ะ

  • ขวดเบา เป็นพลาสติกยืดหยุ่น ไม่แตกง่าย พกพาสะดวกค่ะ

  • ตัวนี้เป็น foundation ที่เกือบ full coverage เลยค่ะ หนากว่าตัวแรก สังเกตจากรูปในช่องที่ 2ตรงกลางนะคะ เนื้อมีความเป็นครีมข้น
  • มีตัวเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวด้วย Hyaloronate
  • สีออกโทนเหลืองเช่นกันค่ะ และที่สำคัญสีไม่ขาวมาก ทาแล้วไม่วอกค่ะ

  • เห็นมั้ยคะ ข้างที่ทาจะขาวขึ้น เนียนและผ่องขึ้น แต่สีก็ไม่ได้ต่างกับข้างที่ไม่ได้ทามากนัก 
  • แต่ตัวนี้จะไม่ได้คุมมันค่ะ และมีความเหนอะใช้ได้เลย ถ้าใครที่ผิวมันมาก น่าจะไม่ปลื้มเท่าไหร่
  • รองพื้นตัวนี้ก็หนาใช้ได้เลยค่ะ 
  • แต่ว่า เกลี่ยได้ง่ายและเนียน กลืนไปกับผิว และปกปิดได้ดีเลยค่ะ

ต่อไปเป็นตัวรองพื้นที่โจ้ชอบมากมากกค่ะ คือ Calypso Magic Foundation (26 g) ค่ะ แล้วก็จะขอพ่วงพูดถึง concealer ของยี่ห้อนี้ไปด้วยกันเลยนะคะสารภาพเลยค่ะว่าตอนอยู่ญี่ปุ่น ซื้อเพราะภาพหน้าคุณน้องหน้าผีครึ่งหน้าบนกล่องเลยค่ะ เห็นแล้วรู้สึกว่า เค้าใช้แล้วทำให้เปลี่ยนได้มากขนาดนี้มันต้องโดน แล้วก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลยค่ะ

ทั้งสองตัวนี้จะมี 2 สีให้เลือกนะคะ package สีส้ม คือ สี salmon beige เหมาะสำหรับผิวสีค่อนข้างเข้มและผิวผสม ส่วนสีชมพูคือ สี pink beige สำหรับผิวที่ขาวขึ้นมาหน่อยค่ะ

  • เนื้อครีมจะค่อนข้างหนาเพราะเป็น full coverage foundation นะคะ แต่ไม่เหนอะเท่าตัวของ candy doll ค่ะ ทั้งที่ตัว magic foundation อันนี้ปกปิดได้เนียนและดีกว่า แต่ไม่เหนอะเลยค่ะ ปลื้มมมม
  • เจ้าตัว foundation นี้เค้ารับประกันว่าจะช่วยปกปิดรอยดำ จุดด่างดำ พรางรูขุมขน รอยคล้ำใต้ตา และ ปกปิดริ้วรอยร่องแก้มได้! (โจ้ไม่เคยมีรองพื้นที่ปกปิดริ้วรอยได้มาก่อนเลยเพื่อนๆ ตื่นเต้นๆ)
  • ใช้แล้ว ชอบมากกก คือ ปกปิดได้เนียนเรียบ สมกับที่เค้าโฆษณาไว้เลยค่ะ แล้วก็ให้ความชุ่มชื้นกับผิวหน้าด้วยค่ะ

โจ้มีใช้เจ้า calypso แต่งไปบายเนียร์ด้วยนะคะ เผื่อเพื่อนๆอยากดูว่าแต่งออกมาแล้วจะเป็นยังไง ^^

  • ส่วนเจ้า concealer ก็ดีมากๆเหมือนกันค่ะ เกลี่ยง่าย ปกปิดรอยคล้ำได้เนียนและดีมากๆ ทาแล้วไม่ดูหนาหรือ cakey เลยค่ะ

  • จะเห็นได้เลยว่า ข้างที่ทา concealer รอยคล้ำหายไปเลย รูปตาถึงกับเปลี่ยนไปเลย 555

ต่อมาเป็น BB cream ค่ะ Baby Pink BB Mineral Cream (20 g) หรือ บีบีหน้าเด็กนั่นเอง ตัวนี้ก็อีกเช่นเคยนะคะ

  • ขนาดเล็ก พกพาง่าย

ตัวนี้ก็อีกเช่นกันค่ะ ซื้อเพราะหน้าเด็กเบบี๋บนกล่องค่ะ 555 ให้ความรู้สึกว่า ทาแล้วจะผิวเนียนใสเหมือนเด็กได้แน่ๆ 555 (เชื่อโฆษณาง่ายมากๆโจ้เอ้ย) แต่ค่ะแต่ ตัวนี้มันดีจริงๆค่ะเพื่อนๆ!!

  • ตัวนี้มี 2 สีให้เลือกค่ะ เบอร์ 01 light color สำหรับผิวค่อนข้างขาว กับเบอร์ 02 natural color สำหรับสีผิวที่เข้มขึ้นมาหน่อยค่ะ
  • ตัวนี้มันเป็นมากกว่า bb cream ค่ะ เพื่อนๆ เพราะ concept มันคือ 8 effects: makeup base, milky lotion, essence, cream, UV protection SPF 44 PA+++, concealer, foundation, และ finishing powder
  • พูดง่ายๆก็คือ ทาแค่เจ้าตัวนี้แต่ได้ถึง 8 เลยค่ะเพื่อนๆ

  • ทาแล้วโจ้ชอบมากๆค่ะตัวนี้ มันเป็นมากกว่าบีบีค่ะเพื่อนๆ เหมือนที่เค้าเคลมไว้ว่า 8 effects จริงๆค่ะ 
  • เนื้อบางเบา ทาแล้วผิวเนียนใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ 
  • ทาแล้วไม่เหนอะผิว และ ไม่มันด้วยค่ะ 
  • แต่ว่าสีมันจะค่อนข้างขาวนะคะ ลองดูความแตกต่างของสีผิวก่อนทาและหลังทาด้านบนได้เลยค่ะ เพราะฉะนั้นคนที่ผิวค่อนข้างเข้มหน่อยลองเลือกสีเบอร์ 02 ดูนะคะ ไม่อย่างนั้นหน้าจะวอกและเทาได้เลยค่ะ
  • แนะนำเลยค่ะ วันไหนรีบๆ ทาแค่ตัวนี้ผิวดูเป๊ะได้ในพริบตาเลยค่ะ

ต่อมาเป็นตัวโปรดของโจ้เลยค่ะ ก่อนหน้านี้ไม่ชอบใช้ cc cream นะคะ แต่พอมาลอง  Sugao air fit CC cream SPF 23 PA+++ (25 g) แล้ว รักเลยค่ะตัวนี้

Sugao CC cream มีอีกสูตรนึงด้วยนะคะเป็นสูตรเพิ่ม moist แต่ที่โจ้ซื้อมาเป็นสูตร translucent ธรรมดาค่ะ

  • ตัวนี้เค้าเคลมว่ามันจะช่วยแก้สีผิวไม่สม่ำเสมอ, ปกปิดริ้วรอยและรูขุมขน ซึมไปกับผิวและบางเบอ ซึ่งมันจริงมากค่ะเพื่อนๆ!!
  • เป็นทั้งครีมกันแดด+เมคอัพเบส+รองพื้น แต่บางเบามาก คือเป็นมากกว่า cc cream ทั่วไปค่ะ ดีมากๆ
  • ไม่มีกลิ่นและไม่มีแอลกอฮอล์

  • ทาแล้วบางเบา ซึมไปกับผิว
  • เป็น powdery finish ค่ะ ไม่เหนอะ ไม่มัน
  • ปรับสีผิวให้ดูสว่างกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติมากๆ
  • เห็นภาพเปรียบเทียบด้านล้างมั้ยคะ คือผิวดูสว่างขึ้นมาก แต่ไม่ดูหนาและวอก นั่นก็เพราะว่า
  • มันมีกากเพชรค่ะ!! ชอบมากที่สุดของตัวนี้คือ มี shimmer แบบละเอียด ทาไปแล้วจะไม่เห็น shimmer ชัดเจนค่ะ แต่มันเป็นตัวช่วยกระจายแสง ให้หน้าเราดูผ่องแบบมีออร่าและไม่วอก! เหมาะกับทุกสภาพผิว สีผิวเลยค่ะ

  • แต่ต้องเกลี่ยดีๆหน่อยนะคะ เพราะมันเป็น powdery finish ถ้าทาเยอะไปแล้วเกลี่ยไม่ดีมันจะเป็นคราบได้ค่ะ แต่ถ้าเราถูดีๆ มันจะซึมไปกับผิว แบบที่ออกกำลังกายเหงื่ออกก็ไม่เป็นคราบค่ะ! ดีมากๆอ่ะตัวนี้ เลิฟมากมาย
  • วันไหนที่อยากแต่งหน้าแบบเบาๆสบายๆ ทาแค่ตัวนี้แปปเดียวก็ได้ผิวเนียนใสธรรมชาติแล้วค่า

ต่อมาจะเป็นประเภทแป้งแล้วค่ะ (ในส่วนนี้ไม่มี Before-After นะคะต้องขอโทษที พอดีว่ามันไม่เห็นความแตกต่างเท่าไหร่พอถ่ายรูปออกมา เลยไม่เอาลงนะคะ)จริงๆโจ้มีซื้อแป้งมาลองหลายตัวมาก เพราะด้วยความที่ราคามันไม่สูงเท่าไหร่ แต่โดนคัดออกไปเยอะเลยค่ะ เพราะเนื้อไม่ดีมั้งหรือสีเข้มไปมั้ง ก็เลยเหลือผู้รอดชีวิตอยู่ 2 ตัวด้วยกัน โดยตัวแรกมาจากแบรนด์ Heroine Make ค่ะ เป็น Heroine Make Smooth cover powder clear mineral (8 g) 

  • แป้งตัวนี้เป็นแบบ mineral คือ ไม่ผสมรองพื้นนะคะ สามารถใช้เป็น setting powder ได้
  • มี SPF 22 PA++
  • ตัวเนื้อแป้งบางเบา สีค่อนข้างขาว ทาแล้วหน้าจะผ่องขึ้น แต่ว่าไม่วอกค่ะ เพราะมันจะกลืนไปกับผิว
  • ทาแล้วหน้าจะดูเนียนขึ้น เพราะตัวเนื้อแป้งนี้จะช่วยพรางรูขุมขนค่ะ
  • แต่ว่าถ้าลองสัมผัสเนื้อแป้งที่อัดแข็งอยู่ในตลับ จะรู้สึกว่าเนื้อมันหยาบๆ สากๆนะคะ ไม่ได้เรียบ

  • นับว่าเป็นแป้งที่น่าซื้อกลับมาลองเลยค่ะ เพราะเข้าได้กับทุกสีผิว เนื้อบางเบา
  • ทาทับไปหลายๆชั้นก็ไม่ดูหนาเลยค่ะ

ต่อไปตัวสุดท้ายแล้วนะคะ คือ Time Secret Mineral UV Powder ค่ะ ตัวนี้เป็น favorite ของโจ้เลยน้า อีกทั้งเจ้าแป้งตัวนี้ได้รางวัล cosme ที่ 1 มาสองปีซ้อนเป็นตัวการันตีคุณภาพด้วย

  • นอกจากจะเป็นแป้งแล้ว มันยังมี essence เป็นส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวให้ความชุ่มชื้น พร้อมกับ SPF50 PA+++ ด้วยค่ะ
  • ทางแบรนด์เคลมว่าเป็นแป้ง mineral ที่สามารถปกปิดริ้วรอยและรูขุมขนได้ค่ะ

  • ตัวนี้คือดีมากค่ะ เนื้อแป้งเนื้อละเอียดมากก เนียนเรียบ คงเพราะมี essence ที่ช่วยบำรุงผิวอยู่ด้วย
  • ทาง่ายมากๆ ตอนทาไม่ต้องคิดอะไรมากก็เนียนได้เอง ทาไปกี่รอบก็ดูไม่หนา เติมได้เรื่อยๆค่ะ
  • ทาแล้วได้ finish ที่ไม่แมทจนเกินไปแต่ก็ไม่มันจนเกินไปเหมือนกัน คือให้ finish ที่กำลังดีเลยค่ะ
  • บางครั้งทารองพื้นแล้วหน้าก็ยังดูไม่เนียน แต่พอทาตัวนี้แล้ว หน้าจะเนียนผ่องแบกำลงัพอดีออกมาเลยค่า ชอบและปลื้มมากๆค่ะตัวนี้ 

จบไปแล้วนะคะกับ Ep.1 หวังว่ากระทู้และวิดีโอนี้จะช่วยเพื่อนๆได้ไม่มากก็น้อยนะคะ ส่วน Ep.2 จะเป็นอะไรนั้น โจ้บอกไว้ในคลิปตอนท้ายแล้วค่ะ อิอิ แล้วเจอกันนะค่า ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน มารับชมค่ะ ~~~

Discussion (4)