เรื่องจริงเตือนภัยสาวนักช๊อปด้วยบัตรเดบิตค้า

        สวัสดีค่ะสาวๆ วันนี้มีเรื่องจริงของตัวเมย์เอง ที่เกิดจากการช็อปปิ้งแล้วจ่ายเงินด้วยบัตรเดบิตจะมาเล่าให้ฟังค่ะ 

เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ณ เซ็นทรัลปิ่นเกล้า  วันนั้นเมย์มาออกงานอีเว้นท์กับทางบริษัทฯ เพื่อต้อนรับเสด็จฯ พระองค์โสม หลังจากงานเลิกเมย์ก็เดินช็อปปิ้งรอคุณแฟนจะมารับกลับบ้าน เมย์ก็ได้ไปซื้อเครื่องสำอางที่เคาท์เตอร์ลุงชู โดยที่ซื้อลิปสติกกับบลัชออน เป็นจำนวนเงิน 1,512 บาท (ลด10%) เมย์ก็จ่ายด้วยบัตรเดบิต แบบทุกครั้ง ก็ไม่ได้มีอะไรแปลก จากนั้นระหว่างทางที่เมย์จะกลับบ้านแถวพระโขนง เมย์ก็ไปแวะจัสโก้แถวบ้านเพื่อจะซื้อหนังสือและกดเงิน แต่พอเมย์จะกดเงินก็เช็คยอดเงินก่อน แต่ก็ต้องประหลาดใจกับจำนวนเงินที่หายไปเป็นจำนวนที่มากกว่าที่ควรจะเป็นคือ เงินควรจะหายไป 1,512 บาท แต่กลับหายไปเป็น 3,024 บาท เมย์ก็เริ่มตกใจแล้วว่าเงินมันหายไปไหนอีกประมาณ 1500 บาท ก็เลยมานั่งทบทวนว่าเราซื้ออะไรหรือกดเงินไปใช้อะไรบ้าง ก็สรุปว่าเราซื้อเครื่องสำอางที่ลุงชูที่เดียว ก็เลยรีบโทรไปที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้าให้เค้าต่อไปยังเคาท์เตอร์ลุงชูให้ 
    ปรากฏว่า พี่บีเอของลุงชู ก็พูดว่าตอนที่รูดเงินนั้น พี่เค้ารูดไป 2 ครั้ง ครั้งแรกรูดที่เครื่องแคชเชียร์ตรงออริจิ้นท์ แต่เครื่องแจ้งว่ารูดไม่ได้ไม่ผ่าน เครื่องเสีย สลิปเงินไม่ออก  พี่เค้าก็เลยไปรูดอีกเครื่องนึง มันผ่านสลิปเงินก็ออกมา 1 ใบ ตามปกติ ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น พี่เค้าก็บอกว่าให้เอาหลักฐานมายืนยัน ก็คือ สมุดเงินฝากธนาคารที่ปรับยอดเงินปัจจุบันแล้วพร้อมกับสลิปเงินที่จ่ายไป พอวันจันทร์เมย์ก็ลางานเพื่อที่จะไปจัดการเรื่องให้เสร็จสิ้น แต่พอเมย์ไปกลับกลายเป็นว่าเค้าขอแค่ชื่อ เบอร์ติดต่อกลับ และเลขที่สลิปที่จ่ายเงินแค่นั้น หลักฐานอย่างอื่นที่เค้าบอกไว้ก็ไม่ดู เราก็เลยปรี๊ดเลยค้า ว่าคุณทำไมไม่ขอชื่อกับเบอร์ ตั้งแต่วันที่เมย์โทรไปแจ้ง ถ้าเรื่องแค่นี้โทรมาบอกให้เมย์ส่งแฟ๊กซ์ไปก็ได้ ไปต้องลางานและไม่ต้องถ่อไปตั้งไกล บ้านเมย์ก็อยู่ตั้งพระโขนง ไกลมาก พนักงานแคชเชียร์กับพี่บีเอลุงชูก็ขอโทษเมย์ แต่มันก็รู้สึกว่านี่มันห้างใหญ่นะถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับลูกค้าอีกละ ห้างคุณจะทำยังไง 
    สุดท้าย เมื่อวานหัวหน้าแคชเชียร์ก็โทรมาขอโทษและแจ้งว่ามันเป็นที่ความผิดของเครื่อง ตอนนี้ได้ส่งเรื่องไปที่ธนาคารแล้ว จะดำเนินการคืนเงินให้ประมาณ 2 อาทิตย์  แต่เมื่อสักพักนี่เองค่ะธนาคารโทรมาแจ้งเมย์ว่าต้องทำการประมาณ 30 วัน ถึงจะคืนเงินให้ได้ แต่ถ้ากรณีต้องการเงินเร่งด่วนจะทำการให้เร็วกว่านั้น
   เมย์ก็ขอให้เรื่องนี้เกิดกับเมย์คนเดียวละกันนะค่ะสาวๆ เวลาใช้บัตรเดบิตอิเลคตรอนก็ต้องดูให้ดี ทางที่ดีใช้เงินสดจะปลอดภัยกว่าค่ะ
   ขอบคุณที่ทนอ่านเรื่องของเมย์นะค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคน  บาย ค้า

Discussion (20)

สรุปได้คืนไหม
น่าฉงฉาน...หวังว่าเรื่องต่างๆ คงจะคลี่คลายได้เงินคืนในเร็ววันนะจ๊ะ
แต่ไอ้ตรงที่ว่าเราต้องลางานแล้วถ่อจากพระขโนงมาปิ่นเกล้า เพื่อแค่ทิ้งชื่อกับเบอร์ไว้เนี่ย...เป็นพี่ได้ปรี๊ดดดแตก เม้ง วีนอยู่ตรงนั้นแน่
'ใช้เดบิตแต่สมัครบริการ sms ด้วยค่ะ รูดปั๊บ sms เข้าทันที แจ้งจำนวนเงินและยอดคงเหลือด้วย เวลาวอยเงินคืนก็แจ้งเหมือนกัน สบายใจขึ้นอีกระดับ' โอ้วิธีนี้แจ๋มจิงๆนะค้า แต่ส่วนตัว เวลาไปทำบัตรเอทีเอม แร้วเขาถามว่าทำเดบิต จะตอบว่าไม่ตลอดเรยคะ เพราะว่าอันตราย เวลาบัตรหาย คนเอาไป เขาเอาไปรูดซือ้ของได้เรย แร้วก้อตัดเงินไปเรย แร้วเวลาผิดพลาดก้อยุ่งยากอะคะ ใช้เครดิตการ์ดน่าจะปลอดภัยกว่า แต่ก้อเหนด้วยนะคะ เงินสดดีที่สุด แต่ก้อพกมากไม่ได้อยู่ ดีเวลาไปกดเงินออกมาเยอะ ก้อต้องระวังคนที่คอยดักดูอยู่อีก ลำบากจิงๆเนอะสมัยนี้
ถึงพี่เมย์คะ หนูก็เคยโดนเรื่องบัตรเดบิตเหมือนกัน จำได้ว่าตอนนั้นซื้อ missha ไป1604 บาท ในบัญชีมี13108 บาท พอไปเชค ปรากดว่าในบัญชีเหลือ 9100บาท งงมากเพาะปกติจะใช้บัตรซื้อเครื่องสำอางเท่านั้น อย่างอื่นจ่ายสด และเมย์ก็เพิ่งเชคยอดก่อน จ่ายแค่ไม่กี่ชั่วโมง เลยให้ป๋าไปจัดการ ปรากฎว่าเจอแบบพี่เลยคะ แล้วขอบอกพวพี่นะคะว่าบัตรเครดิตก็เกิดเหตุการแบบนี้ได้ เพราะว่าป๋าเคยไปซื้อซีดีที่ ร้านแห่งหนึ่งที่เซนทรัลพระรามสาม เจอแบบนี้เหมือนกัน ดีนะคะที่ป๋าเอะใจโทไปถามกับทางธนาคารว่าเค้าตัดยอดรึเปล่า ป๋าเมย์วกรถกลับไปที่ร้านให้เค้ารับผิดชอบ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ทั้งกับบัตรเดบิต และบัตรเครดิตคะ ถ้าพวกพี่ๆเห็นว่าผิดปกติเค้ารูดสองรอบ หรือเค้าบอกว่าerror ขอรูดใหม่ ขอให้พี่ๆโทเชคยอดกับทางธนาคารตามเบอร์ที่อยู่หลังบัตรนะคะ เพื่อความสบายใจ แต่ทางที่ดีใช้เงินสดคะชัวร์สุด

พอจะทราบเรื่องนี้มาบ้างเหมือนกัน ที่เคยอ่านมาคือ บัตรเดบิตเนี่ย ถ้ารูดไปแล้ว ถึงมันจะขึ้น
error แต่จริงๆ มันตัดยอดไปเรียบร้อยแล้วคะ ถ้าเป็น แคชเชียร์ ที่มีประสบการณ์ เค้าจะไม่รูด
ครั้งที่สอง เลยคะ ^^

แต่จริงๆ แนะนำให้ใช้บัตรเครดิตดีกว่านา ปลอดภัยกว่า ไม่ก็เงินสดไปเลย ชัวร์ดี