รีวิว คุชชั่น M.A.C (M.A.C Lightful C SPF 50/PA++++ Quick Finish Compact)
raydalee227สวัสดีค่าา วันนี้เราจะมารีวิว ผลิตภัณฑ์ที่เราไม่คิดว่า M.A.Cจะทำออกมา
นั้นก็คือ M.A.C Lightful C SPF 50/PA++++ Quick Finish Compact หรือที่เราเรียกกันติดปากว่าคุชชั่นแมค
ช่วงสองปีที่ผ่านมากระแสคุชชั่นมาแรงมาก ซึ่งเริ่มต้นมาจากฝั่งเกาหลีนั้นเองค่ะ
แต่ในช่วงแรกๆมีข้อเสียคือจะมีสีให้เลือกค่อนข้างน้อย ค่อนไปทางผิวขาวถึงขาวมาก (ผิวสองสีอย่างเราแอบอยู่ยาก)
และในช่วงปีนี้ แบรนด์เครื่องสำอางฝั่งตะวันตกก็หันมาออกสินค้าประเภทคุชชั่นกันอย่างคึกคัก
และมีสีออกมาให้เลือกมากขึ้น
เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เรามีโอกาสได้ไปเดินเสียสติอยู่แถวๆโซนเค้าเตอร์เครื่องสำอาง
และถูกแสงสะท้อนจากตลับ M.A.C Lightful C SPF 50/PA++++ Quick Finish Compact สะท้อนเข้าตา
และถูกดึงดูดเข้าไปอย่างขาดสติ55555
เราแอบติดตามมาตั้งแต่งานเปิดตัวแล้ว (พูดง่ายๆว่าอยากได้)
แต่เห็นว่าช่วงนั้นวางขายเฉพาะออนไลน์เท่านั้นก็เลยยังไม่สบโอกาสเสียทรัพย์ซักที
วันนั้นบีเอกระซิบบอกเราว่า"วันนี้เพิ่งวางขายวันแรกนะคะ และมีโปรลด10%ทั้งเค้าเตอร์ด้วย ถึงแค่วันอาทิตย์เท่านั้นนะคะ"
และแล้ว... เราก็ตกเป็นทาสของการตลาด 5555
โดยคุณสมบัติทางแบรนด์บอกมาว่า มีสารบำรุงจากสาหร่ายน้ำลึก และผสมสารกันแดดspf50/pa++++
(แต่เราก็ยังคงลงกันแดดเพื่อความสะบายใจอยู่ดีค่ะ เพราะบ้านเราแดดทะลุทะลวงมาก)
เปิดตลับมาก็จะเจอกับฟองน้ำสำหรับคุชชั่นโดยเฉพาะ (บางแบรนด์เรียก air puff)
โดยเราสามารถเลือกได้ว่า จะใช้ฟองน้ำนี้หรือใช้แปรง197 Duo Fibre Square Brush(ที่ต้องซื้อเพิ่ม ราคาอยู่ที่พันกว่าบาท)
จากการสังเกตุด้วยตา เรารู้สึกว่าฟองน้ำที่กักเก็บคุชชั่นนั้นค่อนข้างจะโปร่งกว่าแบรนด์อื่นๆค่ะ
เวลากดก็เลยทำให้ผลิตภัณฑ์ติดพัฟออกมาไม่เยอะ (ไม่แน่ใจว่าอันนี้คิดไปเองคนเดียวหรือเปล่า)
สีที่เราใช้คิดสี medium ซึ่งเป็นสีที่พอดีกับหน้าเรา ไม่ขาวไปไม่เข้มไป (ในรูปแอบกลืนกับผิวดูยากนิดนึง)
จากทั้งหมดที่มีให้เลือกทั้งหมด 5 เฉดสี ได้แก่ Extra Light/ Light/ Light Plus/ Medium/ Medium Plus
เนื้อครีมที่ปาดออกมาให้ความรู้สึกบางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ เกลี่ยง่ายค่ะ
ส่วนตัวเป็นคนผิวธรรมดา แห้งบ้างในบางฤดู (แต่บำรุงด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์หนักทั้งปี)
ในส่วนของผิวช่วงนี้ ไม่มีปัญหาสิวและรอยดำ
แต่อาจจะมีเรื่องของสีผิวไม่สม่ำเสมอและรูขุมขนกว้างประปราย ตามวัยที่มากขึ้น
ขออนุญาตปรับโทนสีผิวใต้ตาด้วยสีแดงก่อนนะคะ
เนื่องจากเราเป็นคนขอบตาดำมากกกกกกกกกกกกก
ถ้าปกปิดด้วยวิธีทั่วไปก็จะยังเห็นรอยอยู่ค่ะ
ฝั่งซ้ายมือในรูปคือฝั่งที่ทาแล้ว ส่วนฝั่งขวาคือยังไม่ได้ทา
จะสังเกตุได้ว่า ฝั่งที่ทาสีผิวจะดูสว่างขึ้นนิดนึง ดูสีผิวเท่ากันกว่าฝั่งขวา
และนี้คือผลลัพธ์ที่ได้ค่ะ (ยังไม่มีการลงแป้งหรือซับความมันใดๆนะคะ)
งานผิวดูไม่แมท แต่ก็ไม่ฉ่ำเกินไป
มีการกระจายแสงเกิดขึ้น หน้าดูสว่างและผิวดูสม่ำเสมอมากขึ้น
สำหรับการปกปิดรอยสิวและรูขุมขนนั้นอยู่ในระดับ น้อยถึงปานกลาง(และแต่การลงหนาบาง)
ให้ลุค ใสๆเบาๆ ผิวจริงไม่โบ๊ะ
ขอนอกเรื่องนิดนึง...
เมื่อพูดถึงคุชชั่นสาวๆก็มักจะถามว่าควรจะลงแป้งทับดีไหม ?
จากประสบการณ์ของเรา ในวันที่เราอยู่ในภูมิประเทศที่มีอากาศต่ำกว่า 15 องศา
คุชชั่นจะเป็นเพื่อนแท้ที่ดีกับผิวหน้าเรามาก นางเป็นฮีโร่ในวันที่เราอากาศแห้ง ผิวแห้ง
เราสามารถใช้งานนางได้โดยไม่ต้องลงแป้งทับ นางก็จะคงสภาพติดทนไม่เยอะไม่หลุด
แต่.... ในวันที่เราอยู่ในประเทศที่มีอากาศร้อนชื้น
การลงแป้งฝุ่นด้วยแปรง เป็นเรื่องที่ช่วยเราได้มากจริงๆ เพราะจะทำให้ตัวคุชชั่นเซ็ทไปกับผิวเราและติดทนมากขึ้น
ถ้าถามว่าลงแป้งผสมรองพื้นทับได้ไหม ?
ตอบ.... ตำรวจคงไม่จับ555 แต่เรารู้สึกว่ามันจะเป็นการหนักหน้ามากเกินไป ถ้าต้องการการปกปิดมาก แนะนำให้เปลี่ยนจากคุชชั่นไปใช้เป็นรองพื้นที่แบบจริงจังมากกว่า
นี้คือสภาพหลังจากลงแป้งฝุ่นและไปใช้ชีวิตประจำวันมาแล้วประมาณ6ชั่วโมง(ไม่ได้ซับหน้าเพิ่ม)
งานผิวยังคงคิดทน ไม่มัน ไม่ดร็อป
สรุป
M.A.C ออกผลิตภัณฑ์ตัวนี้ออกมา ไม่ทำให้เราผิดหวังเลย
ช่วงนี้หยิบออกมาใช้บ่อยมากก แทบจะลืมคุชชั่นตัวเก่าไปเลย รัก <3
ราคาแอบสูงนิดนึง เมื่อเทียบกับคุชชั่นตัวอื่นในท้องตลาด แต่ถ้าเทียบกับเค้าเตอร์แบรนด์ถือว่าปกติแล้ว
แต่ถามว่าซือต่อมั้ย ?//ก้มหน้ามองพื้นพร้อมพูดเบาๆว่า"ซื้อค่ะ" 555555
แวะเข้ามาแก้ไขเพิ่มเติมในเรื่องของราคาที่มีคนถามกันเข้ามาเยอะมากเลยนะคะ
ราคาอยู่ที่ 1750฿ ส่วนสาวๆที่อยากได้รีฟิวเพิ่ม สามารถซื้อได้ในราคา1300฿ค่ะ
^_______^
Discussion (7)