[REVIEW+HOW-TO]: YSL Touche Eclat Le Teint รองพื้นลูกรักตัวล่าสุด & Go-To Makeup แต่งหน้าสวยเริ่ดฉบับเร่งด่วน

สวัสดีค่ากลับมาพบกันกับ ICEAMORE อีกครั้งแล้วนะคะ

 ครั้งนี้นอกจากไอซ์จะมานำเสนอวิธีการแต่งหน้าสวยด่วนกันแล้ว

 กรี๊ดดดดดดดด... o_O!!

 (อย่าตกใจ) แค่ขอกรี๊ดดังๆให้กับรองพื้นใหม่ล่าสุดของYSL (lol)

 ซึ่งจะเริ่ดเลอแค่ไหนไอซ์จะมารีวิวให้สาวๆเกิดกิเลสกันอย่างแน่นอน

เอาเป็นว่าไม่รอช้ามาชมกันดีกว่าค่ากับการรีวิว + วิธีการแต่งหน้าลุคนี้

STEP1: เตรียมผิวให้พร้อมสวยProduct:     - ยันฮี Vit C Serum- Tender Perfection Serum Daily Care- Dermocare Facial Sun Protective Light Fluid SPF50For Combination To Oily Skin -  Tender Healthy Glow Skin Water Resistant1) ไอซ์ทาแต่ละผลิตภัณฑ์ไล่เรียงจาก ซ้าย>ขวา นะคะเพื่อผลลัพธ์ที่ดี2) ผลิตภัณฑ์แต่ละตัวไม่จำเป็นต้องใช้ในปริมาณที่มากนะคะใช้เพียงแค่พอดีเพื่อเพิ่มมอยส์เจอร์ให้กับผิวก็เพียงพอค่ะ

ก่อนจะไปถึง STEP ต่อไปขอคั่นเวลาด้วยการ REVIEW ก่อนนะคะอิอิ

สำหรับรองพื้นที่ไอซ์จะพูดถึงวันนี้ก็คือYves Saint Laurent Beaute Touche Éclat Le Teint นั่นเอง

ซึ่งต้องขอบอกก่อนเลยว่า สภาพผิวหน้าของไอซ์คือบั่บบบบว่า....."ผิวมันเกือบมันมาก/ รูขุมขนกว้าง/ เป็นคราบง่ายมาก"

หลังจากไอซ์ได้ใช้รองพื้นตัวล่าสุดนี้ของ YSL ติดต่อกันทุกวันเป็นเวลาประมาณ 5 วันได้ค่ะผลลัพธ์ที่ได้คือกรี๊ดแบบกรี๊ดหนักมากไอซ์ใช้รองพื้นตัวนี้แล้วหน้าไม่ได้มันเพิ่มขึ้นมากมายแต่อย่างใด

บางวันไม่ได้เติมแป้งเลยด้วยซ้ำแต่ใบหน้ายังผ่องอยู่

เวลาผิวหน้ามันเพียงใช้กระดาษทิชชู่ซับเบาๆก็รอดแล้ว ไม่เป็นคราบเลยด้วยนอกจากนั้นรองพื้นจะมีความโกลว์เบาๆไม่ได้หนักมาก

หน้าเลยดูมีความเป็นธรรมชาติมากไม่ดูแบนแบบไร้มิติ

ส่วนการปกปิดถือว่าปกปิดได้ตั้งแต่เบามากๆไปจนถึงกลางๆค่อนสูงนะคะ

แล้วก็ติดทนกับใบหน้ามากแต่ไม่หนักหน้าเลยสรุปรองพื้นตัวนี้คือ ลูกรักมากๆ เอาไปเลยคะแนน 9.5/10

STEP2: ลงรองพื้นเพื่อความเนียนเรียบของผิวหน้าProduct:- Yves Saint LaurentBeaute Touche Eclat Le Teint- W7 Power Puff Sponge1) เราจะวอร์มรองพื้นที่หลังฝ่ามือก่อนเล็กน้อย2) แต้มรองพื้นลงบนใบหน้าทีละจุดแล้วใช้ฟองน้ำรูปไข่ (ชุบน้ำหมาดๆ) กดที่ใบหน้าทีละจุด3) ห้ามใช้ฟองน้ำปาดที่หน้าเด็ดขาดเพราะจะเป็นการทำให้รองพื้นหลุดหายไป4) ทำแบบนี้ให้ทั่วทั้งใบหน้าหมายเหตุ: ภาพกลางคือBefore & After ระหว่างใบหน้าครึ่งหนึงที่ทาและไม่ทารองพื้นของ YSL

STEP3: ปกปิดรอยคล้ำใต้ตา + ไฮไลท์ส่วนต่างๆของใบหน้าProduct:- Maybelline Clear SmoothMinerals Healthy Natural Concealer 1) ป้ายคอนซีลเลอร์ที่ใต้ตา / ร่องปาก / ปลายจมูก / คาง2) ใช้ฟองน้ำด้านแหลมกดย้ำเบาๆตรงบริเวณที่เราลงคอนซีลเลอร์เอาไว้ 

STEP4: เติมที่ปัดแก้มเนื้อครีมเพื่อความติดทนนานProduct:- Gino McCray MatteMulti Use Color – No.01 Pink Nude1) วอร์มผลิตภัณฑ์ที่หลังมือก่อนเพื่อป้องกันการเกิดคราบบนใบหน้า2) ใช้นิ้วมือแตะย้ำๆที่แก้มของเราตรงบริเวณที่เราจะปัดแก้มเพื่อเพิ่มความเนียนสวยเป็นธรรมชาติ 

STEP5: เซ็ตเบสเมคอัพให้อยู่ติดทนนานมากยิ่งขึ้น

Product:

- Gino McCray Mineral LoosePowder – No.01 Clear Beige1) ใช้แปรงแป้งปัดที่บริเวณกึ่งกลางของใบหน้าเท่านั้นค่ะ2) ใช้วิธีการกดเบาๆนะคะอย่าลากเพราะการลากจะทำให้เบสเมคอัพที่ลงไว้เป็นรอยหรือคราบได้ค่ะ3) เน้นที่กลางหน้าก็พอค่ะเพราะหน้าจะได้ไม่ไร้มิติแล้วก็ดูโกลว์สวยและเป็นธรรมชาติ

STEP6: ตกแต่งคิ้วให้สวยแบบเป็นธรรมชาติ** ดูจากลิงค์ Youtube ไอซ์ก็ได้นะ อิอิ **

STEP7: เติมสีสันให้กับดวงตาProduct:- Essece I Love StageEyeshadow Base- 4U2 Glow HighlighterPalette- EGLips Apple Fit Blusher – Peachy- Golden Rose Mineral Terracotta Powder – 08 Radiant Highlighter- Wet ‘nWild Trio Brows Kit – Ash Brown1) ทาเบอร์ 1 ให้ทั่วทั้งเปลือกตาบนและล่าง2) ใช้เบอร์ 3 ทาให้ทั่วทั้งเปลือกตาเพื่อความสดใส3) ใช้สีน้ำตาลทองชิมเมอร์เบอร์ 2 มาทาทับขั้นตอนที่ 2 เพื่อเพิ่มมิติ4) ใช้เบอร์ 5 มาสร้างความลึกที่กระบอกตาบริเวณหางตาใต้รอยพับชั้นตา5) ใช้เบอร์ 4 ทาที่กลางเปลือกตาบนเพื่อเพิ่มความป็อบให้เปลือกตา6) ใช้เบอร์ 3 + 2 ผสมกันแล้วเกลี่ยให้ทั่วขอบตาด้านล่างเพื่อเพิ่มมิติให้ดวงตา

STEP8: เติมความคมชัดให้กับดวงตาProduct:- EGLips Natural AutoEyebrow – GrayBrown- Mistine Maxi Black1) ใช้ดินสอไลเนอร์มาเขียนที่Tigh Line (ขอบตาบนบริเวณซอกขนตาบน) เพื่อเพิ่มความคมชัด2) ใช้อายไลเนอร์กรีดขอบตาให้ตาตกเล็กน้อยแล้วไม่ต้องกรีดเส้นใหญ่เพื่อความเป็นธรรมชาติ

STEP9: ดัดขนตามาสคาร่าและติดขนตาปลอมProduct:- L’Oreal Miss Manga FalseLash Waterproof1) ดัดขนตาให้โค้งงอน2) ปัดมาสคาร่าทั้งขนตาบนและล่าง3) ติดขนตาปลอมแบบที่ธรรมชาติมากๆไอซ์ติดแค่เฉพาะหางตาเพื่อเพิ่มความหวานให้ดวงตา

STEP10: ควบคุมความมันให้กับผิวหน้าProduct:

- Physicians FormulaMineral Powder1) ใช้แปรงแป้งลักษณะแน่นๆปลายตัด2) กดแป้งที่บริเวณกึ่งกลางใบหน้าเบาๆเพื่อเพิ่มความคุมมันและทำให้ผิวสวยเป็นธรรมชาติมากขึ้น

STEP11: เติมความสดใสให้กับพวงแก้มProduct:- NYX Illuminator – Chaotic- EGLips Apple Fit Blusher – No.1- Golden RoseTerracotta Blush On1) ใช้สีปัดแก้มจาก NYX ทาที่บริเวณโหนกแก้มเพื่อความเปล่งปลั่งเป็นธรรมชาติ2) ใช้สีจาก EGLips ออนท็อปที่บริเวณหน้าแก้มเพื่อเพิ่มความสดใสให้พวงแก้ม3) ใช้สีชมพูอ่อนจาก Golden Rose ปัดทับสีปัดแก้มเพื่อเพิ่มมิติให้กับสีของพวงแก้ม

STEP12: เติมประกายแวววาวให้ผิวเปล่งปลั่งProduct:- 4U2 Glow HighlighterPalette1) ใช้แปรงทรงพุ่มสำหรับใบหน้า2) แตะผลิตภัณฑ์ให้ทั่วใบหน้า (โหนกแก้ม / จมูก / เหนือส่วนสูงของคิ้ว / เหนือริมฝีปาก / หัวตา)

STEP13: คอมพลีตลุคด้วยสีลิปProduct:- REVLON Matte Lipstick – No.003 Mauve It Over- NYX Soft Matte Lip Cream – London1) ทาลิปสติกจาก REVLON ให้ทั่วริมฝีปาก2) ทับด้วยลิปจาก NYX เพื่อความแมทและติดทนตลอดวัน

และนี่ก็คือ Final Look ของไอซ์นะคะสาวๆหวังว่าเพื่อนๆจะชอบกับลุคนี้ของไอซ์นะคะไอซ์อธิบายไว้ละเอียดมากๆใครที่แต่งมาแล้วอย่าลืมมาบอกกันด้วยนะสำหรับใครที่ไปตำรองพื้น YSL มาเหมือนไอซ์อย่าลืมมาแบ่งปันกันนะว่ารักเหมือนกันไหมอิอิพบกันบล็อกหน้าค่าสาว

Discussion (10)

ไม่เป็นคราบจริงๆหรอคะ น่าลองมาก
สวยจังเลยค่ะ อยากทราบคอนแทคเลนส์ของอะไรค่ะ
@PETITE.MLN 

รีบไปสอยเลยค่า ดีจริงดีจัง
จะสอยเหมือนกันนนนน กรี๊ดดดด