เทียบกันจะๆ 4 รองพื้นเทพที่ควรมีเป็นศรีโต๊ะเครื่องแป้ง
nithi_3013ตั้งแต่กระแสคูชั่นถาโถมอย่างหนัก ชีวิตก็ใช้แต่คูชั่นไม่ค่อยได้กลับมาใช้รองพื้นเลยค่ะ
เพราะความบางเบา ใช้แล้วดูผิวดีไม่หนาหนัก หน้านวลๆผ่องๆ
คือโจทย์ของเนยเวลาจะเลือกใช้รองพื้น
และตัวที่ตอบโจทย์ทั้งหมดก็หาไม่เจอซักที แต่ๆๆ แน่นอนว่าตอนนี้เจอแล้วค่ะ ลุ้นกว่าเนื้อคู่อี๊กก เนยเพิ่งจะเจออยู่ตัวหนึ่งค่ะที่ถูกใจใช่เลย ตรงสเป๊กสุดๆ แต่ขออุบไว้ก่อน เพราะเนยมีรองพื้น 4 แบบด้วยกัน ที่คิดว่าเป็นรองพื้นเทพสำหรับเนย
1.shu uemura the lightbulb (ประมาณ 2000 บาท)
บอกก่อนว่าเนยเป็นคนผิวแห้งค่ะ อะไรคุมมันนี่ไม่รอดเลย เลยชอบใช้รองพื้นที่ได้ finished ออกมาค่อนข้างฉ่ำ อย่างเช่นตัวนี้เลยค่ะ shu uemura the light bulb ความประทับใจแรกเลยคือ
เป็นรองพื้นที่มีเฉดสีให้เลือกเยอะมากค่ะ เนยใช้ 774 ออกเหลือง
แต่มันเหลืองกว่ารองพื้นทั่วไปมาก ดีตรงมันช่วยพลางรอยแดงบนใบหน้าค่ะ
แต่ถามว่ามันคงทนมั้ย เยิ้มมั้ย ขนาดเนยหน้าแห้ง ก็ยังมีเยิ้มบ้างนะคะ
แต่ไม่ได้เยิ้มมันน่ากลัวขนาดนั้น เนยจะชอบใช้ตรงบริเวณกึ่งกลางใบหน้าค่ะเพราะเป็นรองพื้นที่เมื่อเซตตัวแล้ว กระจายแสงได้ดีมากค่ะ ดูนวลผ่องมาก เหมือนพกไฟส่องหน้าส่วนตัว
แต่ใช้เวลานิดนึงค่ะกว่าจะเซตตัว เซตตัวแล้วก็จะมีความหนึบๆนิดๆอยู่บนผิวค่ะ
ซ้าย ผิวจริง – ขวา ใช้รองพื้น shu uemura the lightbulb
2.Givenchy teint couture balm (ซื้อที่ดิวตี้ฟรีประมาณ 1700 บาท)
รองพื้นเนื้อบาล์มจากจีวองชี่ อภิมหาความโกลว ผ่อง ต้องตัวนี้เลยค่ะ คือผิวจะเรียบเนียนแต่กระจายแสงได้ดีมากค่ะ และด้วยความที่เป็นเนื้อบาล์มตัวรองพื้นค่อนข้างยืดหยุ่นไปกับผิวค่ะ ไม่ตกร่อง ไม่คราบ และอยู่ทนพสมควรเลย แต่เสียดายมากเนยไปลองมา เค้าให้เนยใช้เบอร์ 4 (มีทั้งหมด 6 เบอร์) มันเข้มไปค่ะ แง T T ก็เลยไม่ค่อยได้ใช้บ่อยทั้งๆที่ชอบ ใช้ได้แค่กรอบๆหน้าเองเสียดายมาก
ซ้าย ผิวจริง – ขวา หลังใช้ Givenchy teint couture balm
3. cle de peau beaute (ประมาณ5,000 บาท)
ยานแม่มาค่ะ ตัวนี้บอกเลยว่าเป็นรองพื้นที่เนื้อนุ่มนวลมากกกก แต่สีที่เนยซื้อมาค่อนข้างเหลืองและคล้ำไปนิดนึงค่ะ (มีปัญหากับการเลือกสีรองพื้นตลอด T T)
คือสีเยอะมากค่ะ แต่โทนสีทำเอาสับสนพอสมควรค่ะ แต่ข้อดีคือพอลงไปแล้วรอให้เซตตัว
อะหื้มมม นวลผ่องไปอี๊กกก ปกปิดได้ดีทีเดียวค่ะ เกลี่ยง่ายด้วย
แต่ติดอยู่แค่อย่างเดียวค่ะ คือราคาสูงถึงสูงมาก ยิ่งรุ่นใหม่ที่ออกมาแอบลดขนาดลงด้วย
ฮือ เศร้าใจมาก รองพื้นตัวนี้เนยจะใช้แค่ไปงานหรืองานที่ต้องการหน้ากริบๆค่ะ
ไม่กล้าใช้ทุกวันเพราะด้วย finished ที่ออกมาค่อนข้างเนี๊ยบ แน่นนวลผ่อง และราคาที่สูงปรี๊ดด
เลยเก็บนางไว้ออกงานสวยๆค่ะ ฮ่าๆ
ซ้าย ผิวจริง – ขวา หลังใช้รองพื้น cle de peau beaute
4. รองพื้น YSL TOUCHEECLAT LE TEINT (2,400 บาท)
และรองพื้นที่เนยเกริ่นเอาไว้ว่าเหมือนเจอคู่แท้ก็คือตัวนี้นี่เองค่ะ
รองพื้น YSL TOUCHE ECLAT LE TEINT ที่เนยกรีดร้องก็เพราะว่า
เนยหลงรักแบบหัวปรักหัวปรำกับตัว ทุช อิคลา ที่เป็นปากกากดๆค่ะ
ประทับใจมาก เหมือนเป็นคอนซีลเลอร์ที่ลบความผิดพลาดได้กริบมาก
เวลาใต้ตาแพนด้าก็ลบได้ ขอบปากเลอะก็ทำให้กริบได้
และคิดดูซิคะว่า จากรูปแบบปากกาแท่งเล็กๆ กลายมาเป็นรองพื้น!!!!! กรี๊ดด กรีดร้องมากก
มาค่ะจะมาเล่าว่ากรีดร้องอย่างไร เริ่มจาก เนื้อของรองพื้นที่เกลี่ยง่ายมากๆ
และเมื่อทิ้งไว้สักพักรองพื้นจะเซตตัวแมตต์มากขึ้นค่ะ
แต่ finished ที่ได้คือเป็นผิว ไม่ได้แมตต์แบบเป็นแป้งๆหน้าแบนๆ
แต่ได้ผิวหน้าที่ยังคงเล่นกับแสง เหมือนผิวดีตั้งแต่ตื่นนอนอะไรแบบนี้!!
ไม่ต้องถามถึงความนวลผ่องนะคะ เพราะว่ามาเต็ม เนยพอใจตรงที่มันไม่ได้แน่นหนักจนเกินไปค่ะ
ใช้ทุกวันได้สบายๆ แถมไม่คราบ ค่อนข้างทนระดับนึงเลยค่ะ
ซ้าย ผิวจริง – ขวา หลังใช้ รองพื้น YSL TOUCHE ECLAT LE TEINT
ซ้าย หน้าจริง(ไม่ได้ลงผลิตภัณฑ์ใดๆ ) – ขวาหลังใช้ รองพื้น YSL TOUCHE ECLAT LE TEINTและแน่นอนค่ะว่าด้วยความที่มันดีจนกรีดร้อง 10 ตลบ เนยเลยลองใช้กับทั้งใบหน้าและแต่งหน้าดูค่ะ ลุคนี้เนยใช้แป้งผสมรองพื้นเซตแค่ช่วงทีโซนเท่านั้นค่ะ
มาดูความนวล ผ่อง ถูกใจเนยด้วย รองพื้น YSL TOUCHE ECLAT LE TEINTกันค่ะ
หวังว่า รีวิวรองพื้นของเนยครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ในการเลือกซื้อรองพื้นของสาวๆกันนะคะ
ไว้เจอกันกระทู้หน้าค่า บั๊ย บายยย
Discussion (13)