Toxic Relationship

ส่วนข่าวหย่าสุดฉาวที่มาชนเอากับหนัง Alice Through the Looking Glassmี่เดปป์รับบทเด่นนั้น ถูกทำนายไว้ก่อนว่าแป้กแน่นอน  จากที่ภาคแรกฟันกำไรไปอย่างมโหฬาร  แต่อลิซภาคนี้ทำรายได้ในอเมริกาไปต่ำมากค่ะ ทุนสร้างอยู่ที่ 170 ล้านเหรียญ  แต่รายได้ในอเมริกาทำได้เพียง 77 ล้าน  แม้จะรวมรายได้รอบโลกไปอีก 222.2 ล้านทำให้รายได้รวมสูงเกือบ 300 ล้านเหรียญนั้น  แต่มีรายงานว่าดิสนีย์ต้องควักเนื้อที่ต้องขาดทุนที่รายได้ตกต่ำลงไปในการฉายในอเมริกาถึง 65 ล้านเหรียญ ก่อนที่หายใจหายคอได้รายได้จากการฉายรอบโลกมาช่วย

เป็นเรื่องปกติที่หนังภาคต่อมาจะรายได้ตกนะคะ แต่ความสำเร็จของภาพแรกที่ทำเงินไปทั่วโลกมากกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญนั้น (ได้กำไรไปแล้วจากรายได้ในอเมริกา 300กว่าล้าน จากทุนสร้างพอๆกันกับภาคต่อ) ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า นอกจากหนังจะไม่สนุกเหมือนเดิม  ข่าวคราวเสียหายของเดปป์ก็พลอยทำให้เสียความนิยมจนผู้ชมไม่อยากสนับสนุนและทำรายได้น้อยลงมากที่อเมริกา

มีการทำนายไว้ว่าหนังโจรสลัดภาค 5 ที่จะลงโรงกลางปีหน้านั้นอาจจะได้รับผลกระทบไปด้วย  หนังเรื่องนี้มีสร้างกำไรมหาศาลมาทุกภาคค่ะ แม้แต่ภาคที่แล้วที่ว่ากันว่าความสนุกดรอปลง แต่ก็ทำรายได้ไป1045ล้านเหรียญทั่วโลก   เกือบทุกภาค (ยกเว้นภาคแรกที่ลงทุนน้อยสุด) ทำรายแตะพันล้านเหรียญ   ทั้งการหวนคืนจอของออร์แลนโด้ บลูมและปั้นดาราสดใหม่บวกกับนักแสดงทีมเดิมที่การันตีฝีมือ โลเคชั่นก็ไปถ่ายทำกันไกลถึงออสเตรเลียแน่นอนค่ะว่าภาคนี้ต้องหวังรายได้สูงปรี๊ดเหมือนทุกครั้ง

แต่เมื่อนักแสดงหลักที่เป็นหัวใจของเรื่องมีข่าวพัวพันกับการทำร้ายร่างกายภรรยา  ก็ได้ขัดกับภาพฮีโร่ในใจเด็กๆ  กลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กและไม่ได้เสพข่าวฮอลลีวู้ดนั้นมีเยอะ แต่ก็ยังมีผู้ชมวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ที่อาจตัดสินใจเลิกติดตามผลงานของพระเอกหนุ่มใหญ่คนนี้



หลายคนอาจจะเห็นความเห็นโจมตีแอมเบอร์ว่าเป็นนักขุดทองที่ฉวยโอกาสสร้่างเรื่องที่เกินความจริงจากการวางแผนมาเป็นอย่างดีเพื่อฟ้องหย่าเรียกเงิน  แต่มีคนอีกมากมายที่เชื่อหลักฐานของแอมเบอร์  จากที่เราสำรวจมามีการให้เหตุผลตามนี้ค่ะ

 เพราะเหตุใดจึงไม่มีการแจ้งความลงบันทึกเป็นหลักฐาน หรือเปิดเผยใบรับรองแพทย์
- มีการยกตัวอย่างเหยื่อในความรุนแรงในครอบครัวหลายกรณีที่ยังรักและให้โอกาสผู้กระทำ หรืออับอายหากต้องแจ้งความแล้วเรื่องไปถึงสื่อ ทำให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำกันหลายครั้ง

เพราะเหตุใดคนรักและคู่ครองของเดปป์ในอดีตจึงกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาไม่เคยมีพฤติกรรมรุนแรงกับพวกเธอ
- เราเห็นการวิเคราะห์ของคนที่เชื่อฝั่งแอมเบอร์ว่าเดปป์อาจจะใช้เงินและอิทธิพลปิดปากคนเหล่านั้น 

เพราะเหตุใดแอมเบอร์จึงมักแสดงสีหน้ามีความสุขเมื่ออยู่ต่อหน้ากล้องกับสามี ทั้งๆที่ระบุว่าชีวิตแต่งงานตกอยู่ภายใต้ความหวาดกลัวว่่าจะเป้นอันตรายถึงชีวิต

-  มีคนแย้งไว้ว่าเดปป์อาจจะบังคับขู่เข็ญให้เธอแสดงละครและให้สัมภาษณ์ให้คนอื่นเชื่อว่ามีชีวิตคู่แสนสมบูรณ์แบบก็เป็นได้

เพราะเหตุใด เมื่อตกลงตัวเลขกันได้ จึงมีการแถลงการณ์ร่วมที่ฟังย้อนแย้งขึ้นมา

เรื่องนี้หลายคนคาใจ แต่ก็มีความเห็นว่าแอมเบอร์อาจจะเหนื่อยล้ากับการยื้อสู้คดี เพราะตัวเธอเองก็ถูกทนายฝั่งตรงข้ามรวมถึงสื่อขุดคุ้ยเรื่องราวจนเสียชื่อเหมือนกัน  และเธออาจไม่ได้แคร์เรื่องเงินแต่อยากจะให้บทเรียนอดีตสามี จึงประกาศมอบเงินทั้งหมดให้กับการกุศล 



** ตามที่เราเล่าให้ฟังในข้างบนนะคะว่าเงินหย่าจะไม่ได้จ่ายทีเดียวหมด แต่จะจ่ายเป็นงวดๆ  หากมีคนที่ผิดสัญญาที่ตกลงกันไว้สามารถร้องต่อศาลให้ระงับการจ่ายได้   ซึ่งเราไม่แน่ใจว่า เช็คในงวดต่อไปหลังจากที่ทางเดปป์ส่งตรงให้กับหน่วยงานที่แอมเบอร์ประกาศว่าจะบริจาคเงินทั้งหมดให้นั้น เขาจะเปลี่ยนมาส่งให้กับแอมเบอร์รึเปล่า


ในเรื่องเงินนั้น มีความคลางแคลงใจกับตัวแอมเบอร์ตั้งแต่เริ่มต้นฟ้องหย่า  เพราะรายได้ที่เธอกรอกลงไปนั้นน้อยกว่าค่าใช้จ่ายที่ระบุว่าต้องการให้เดปป์ส่งเสียเป็นค่าเลี้ยงดูให้มาก   กล่าวคือ ในปีที่แล้วทำรายได้จากหนัง Magic Mike และ The Danish Girl บวกกับงานอื่นๆรวมแล้วประมาณ 250,000เหรียญ เมื่อหักค่านายหน้าและค่าใช่จ่ายส่วนตัวทำให้เธอเหลือเงินจากปีทีแล้วอยู่ประมาณห้าหมื่นเหรียญ  แต่เจ้าตัวได้ระบุค่าใช้จ่ายต่างๆของตัวเองไว้สูงกว่ามาก(ค่าเช่าบ้าน ค่าหมอ ค่าดูแลสัตว์ ช็อปปิ้ง ทุกอย่างรวมอยู่ในนั้น)    เจ้าตัวเป็นคนระบุiราบได้เองว่าในปีนี้หาเงินได้ประมาณหนึ่งหมื่นเหรียญต่อเดือน  แต่ลงค่าใช้จ่ายยิบย่อยไว้เกือบๆสี่หมื่นสี่พัน



จากข้อมูลที่เธอยื่นต่อศาลนั้น จะเห็นได้ว่าอาชีพนักแสดงไม่ได้สร้างเงินเป็นกอบเป็นกำให้กับเธอ แต่จำนวนเงินที่เธอบอกว่าจำเป็นต้องใช้นั้นกลับสูงลิ่ว

ก่อนที่แอมเบอร์จะแต่งงานกับเดปป์ ยอมรับว่าผิวเผินมากๆ รู้แต่ว่าสวยแบบจับตัวหาได้ยาก ผิวพรรณดีแบบไม่ต้องแต่งยังงดงาม  แต่จำผลงานการแสดงไม่ได้ เมื่อลองค้นหาดู ถ้าไม่เป็นบทสมทบก็เล่นนำหนังที่ไม่เป็นที่รู้จัก

เธอเล่นสมทบ Zombielandนะ 

หลังจากที่แต่งงานกับเดปป์แล้ว บทของหนังที่คาดว่าจะโด่งดังเริ่มเข้าหา  เช่น Magic Mike หรือหนังออสการ์ The Danish Girl 

รวมไปถึงหนังเฟรนไชส์ฟอร์มยักษ์อย่าง Justice League ที่เธอออดิชั่นผ่านก่อนที่จะยื่นฟ้องหย่า  บทMera  ภรรยาของ Aquamanค่ะ  ตอนแรกนั้นเราเคยคิดว่า Wonderwoman เป็นฮีโร่หญิงคนเดียว  ซึ่งบท Mera นี้ยังไม่ปรากฏในเทรลเลอร์ค่ะ   แต่น่าจะเป็นหนังฟอร์มยักษ์เรื่องแรกของเธอ

 

จากที่เราติดตามมา เดปป์ดูไม่เหมือนคนที่สร้างภาพให้ตัวเองเป็นคนอบอุ่นแบบพระเอกแสนดีที่รักทุกคน  เขาจะนิ่งๆ มึนๆ บางคนถึงกับงงในสำเนียงการพูดว่าฟังดู high ตลอดเวลา   แต่อันที่จริงแล้วแฝงความตลกร้ายแบบพูดออกมาแล้วฮากระจาย   เวลาไปออกรายการ talk show ดังของอังกฤษนั้น จะเห็นได้ชัดว่าอารมณ์ขันของเดปป์นั้น dry  ถูกใจคนอังกฤากันมาก  ภาพไม่ได้ดูเป็น perfect man แต่อย่างใด ใส่รองเท้าหัวเป็นรูดูเก่าราวกับไปย่ำโคลนมากับสูทแลเสื้อผ้าboho  แต่ครั้งหนึ่งเราเคยสัมผัสความอบอุ่นจากคำพูดของเค้าว่าทำไมจึงทำดีกับเด็กๆ จากเหตุการณ์เลวร้ายของชีวิตที่เกือบจะเสียลิลี่ โรสไปจากอาการป่วยหนักถึงขั้นไตวาย ทำให้เค้าอยากจะช่วยเหลือเด็กๆที่เจ็บป่วยในโรงพยาบาล

เมื่อแอมเบอร์และเพื่อนๆของเธอออกมากล่าวหาว่าเดปป์ใช้ความรุนแรงขนาดทำให้เลือดตกยางออกขนาดนั้น มันทำให้เราสับสนมากค่ะ  นอกจากข่าวที่มีเรื่องกับพาพาราซซี่เมื่อเมื่อนานมาแล้ว  ทำไมเราไม่ได้ยินข่าวเรื่องการใช้กำลังกับผู้หญิง ทั้งๆที่เขาคบหาผู้หญิงมามากหน้าหลายตา  



คนในอินเตอร์เน็ทวิพากษ์อย่างเผ็ดร้อนว่า ที่ลุกมาเป็นหนุ่มใหญ่เจ้าปัญหานั้น เพราะเจอวิกฤติวัยกลางคนรึเปล่า  จากเรื่องราวคล้่ายๆกันจากคนดังที่เริ่มแก่ตัวลงหลายคนก็มามีปัญหาคล้่ายๆกัน อย่างเมล กิ๊บสัน  พอล แม็คคาร์ธนีย์ ล่าสุดก็ต้องแบรด พิทท์  เดปป์ที่อยู่ในความสัมพันธ์จริงจังกับวาเนสซ่าได้ 14 ปี จนอายุเกือบจะ 50อยู่แล้วหันมาเดทกับสาวงามบาดใจอายุห่างกันครึ่งค่อนนั้นก็ทำให้เขาถูกจัดเข้าไปอยู่ในคนดังที่มีวิกฤติวัยกลางคนจริงๆค่ะ   เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างปุบปับดูเร่งเร้าไปหมดนั้นทำให้หลายคนทำนายไว้แต่แรกว่า ยังไงชีวิตแต่งงานของคู่นี้ก็ไม่จีรังยั่งยืน  การที่ภรรยาสาวลุกมาฟ้องหย่าและเรียกค่าเลี้ยงดูนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดในวงการ  ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่าเป็นสาเหตุของการหย่านั้นเป็นจริง 100% หรือไม่ ก็ยังต้องงงงวยต่อ   อย่าว่าแต่ไปที่ศาลเลย เดปป์ไม่ออกมาออกความเห็นใดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นหน้าที่ทนายทั้งหมด  

จบกระทู้แล้วเหรอคะ

เรายืนยันสุดชีวิตว่าต่อต้านการใช้ความรุนแรง  และยึดมั่นไว้ว่าถ้าเจอกับตัวอย่างไรก็จะไม่ทน แม้อีกฝ่ายจะไปบำบัดรักษาอาการให้ควบคุมโทสะได้แล้วก็คงสูญเสียความรู้สึกกันไปหมดแล้ว (พอๆกับเรื่องนอกใจ)  แต่ที่คาใจอยู่คือความ "ไม่เคลียร์"

ตอนที่ริริถูกคริส บราวน์ตีจนบอบช้ำไปหมดนั้นใช้เวลานานพอสมควรในการขึ้นโรงขึ้นศาลและกว่าจะยอมรับผิด  ตัวริริเองไม่ได้ปล่อยภาพมาด้วยซ้ำ (เธอปิดปากเงียบไปนานด้วยความอับอาย) แต่เป็นสื่อที่ไปขุดคุ้ยเอาภาพรอยแผลที่ถูกทุบตีมาปล่อยในอินเตอร์เน็ท  แต่การใช้สื่อเป็นสื่อกลางจากฝ่ายที่บอกว่าเป็นเหยื่อความรุนแรงตอบโต้อีกฝ่ายที่เป็นคนดัง A List ที่มีทรัพย์สินมั่งคั่ง+อิทธิพลจาก connectionระดับบิ๊กนั้น เรายังไม่ได้พบเห็นมากนัก