ออกกำลังกายคลายนอยด์ ยืดเหยียดแบบไหน ในช่วงแดงเดือด!
พี่ริต้า174หลายคนถามเข้ามาว่า พอถึงวันนั้นของเดือนเราต้องหยุดออกกำลังกายไปก่อนไหม พี่ขอบอกว่าถ้าร่างกายเราไหว ไม่ได้มีอาการอ่อนเพลีย หรือไม่สบายตัวมากๆ เราสามารถออกกำลังกายได้ค่ะ พี่มี 4 ขั้นตอน ที่สาวๆ ต้องเตรียมให้พร้อมสำหรับการไปเวิร์คเอ้าท์ในช่วงที่มีประจำเดือนมาฝากกัน
1. เชื่อก่อนว่าดี
- ยิ่งขยับร่างกาย ยิ่งคลายปวดประจำเดือน
ไม่ต้องกังวลเพราะพี่จะบอกว่า การออกกำลังกายในวันนั้นของเดือนปลอดภัย แถมได้ประโยชน์ช่วยลดอาการต่างๆ เช่น ปวดประจำเดือน ปวดศีรษะ อาการวิตกกังวล หรือความอ่อนเพลียในช่วงวันนั้นได้
- เอ็นดอร์ฟินมา สบายใจไม่นอยด์ง่าย
การออกกำลังกายทำให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน สารแห่งความสุข ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย จิตใจรู้สึกสงบสุข หลังออกกำลังกายส่วนใหญ่เราจะรู้สึกดีขึ้น
- ถ้าเหนื่อยเกินไป ไม่ต้องฝืน
แต่สำหรับบางคนที่ปวดประจำเดือนมากๆ หรือเหนื่อยมาก นั่นร่างกายบอกเราว่าพักผ่อนเถอะ ก็ควรพักนะคะ ไม่ควรหักโหมฝืนทรมานร่างกาย
สำหรับตัวพี่เอง ส่วนใหญ่วันแรกที่ประจำเดือนมา พี่จะยังไม่ออกกำลังกายเพราะรู้สึกๆ เหนื่อยอยู่มาก แต่พอวันที่สอง หรือวันที่สาม ไปออกกำลังกายโลดค่ะ ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นจริงๆ
2. มีพร็อพที่พร้อม
เรื่องเสื้อผ้าเป็นเรื่องสไตล์ของแต่ละคนแล้วล่ะ สามารถเลือกใส่เสื้อผ้าตามที่ชอบ เลือกแบบที่ตัวเองมั่นใจได้เลยค่ะ แค่เลือกเนื้อผ้าแบบที่ระบายอากาศได้ดี แห้งเร็ว ส่วนกางเกงเลือกที่ยืดหยุ่นได้ดี กระชับรูปร่างส่วนเสื้อพี่ยังเน้นสีสดใสรัดรูปโชว์หุ่นสวยๆ เด้งๆ ของพี่เหมือนเดิม เท่านี้พี่ก็รู้สึกสบายและมั่นใจแล้ว
- ผ้าอนามัยเอาให้บางเฉียบเข้าไว้
เลือกผ้าอนามัยคู่ใจที่เหมาะสำหรับการออกกำลังกาย พี่เลือกแบบบางเฉียบ 1 มม. เพราะไม่อยากให้เห็นรอยนูนของผ้าอนามัยบนชุดออกกำลังกายสุดสวยรัดรูปของเรา ผ้าอนามัยแบบบางเฉียบ ก็มีให้เลือกหลายขนาดความยาว ควรเลือกให้เหมาะสมกับสรีระของเรา และที่สำคัญเลือกชนิดที่ซึมซับมากเป็นพิเศษ ที่เดี๋ยวนี้เค้ามีผ้าอนามัยที่ซึมซับได้มากถึง 200 เท่า จะได้หมดกังวลเรื่องซึมเปื้อน ยิ่งถ้าซึมซับได้เร็วก็จะยิ่งทำให้รู้เรารู้สึกแห้งสบาย ไม่อับชื้นจากประจำเดือน ถ้ามีตัวช่วยดีขนาดนี้แล้วก็ออกกำลังกายได้อย่างมั่นใจไม่ต้องรอแล้วค่ะ
เมื่อได้ตัวช่วยดีเหมาะกับเราแล้ว ความมั่นใจก็มา สามารถออกกำลังกายได้อย่างไม่มีความกังวลใดๆ แล้วล่ะ
3. เลือก exercise ท่าที่ปลอดภัยออกกำลังกายได้ก็จริง แต่เราควรเลือกการออกกำลังกายแบบเบาๆ ไม่หนักมากเหมือนวันอื่นๆ
- เลือกออกกำลังกายแบบยืดเหยียด
พวกท่ายืดเหยียดต่างๆ ก่อนออกกำลังกาย หรือท่าโยคะก็ได้ แต่ถ้าทำโยคะ แนะนำว่าช่วงนี้ควรหลีกเลี่ยงพวกท่าที่ต้องเอาศีรษะลงพื้น (Inversion Poses) เช่น ท่ายืนด้วยไหล่ ท่ายืนด้วยศีรษะ แต่ควรทำท่าที่ช่วยให้ยืดเหยียดอย่างผ่อนคลายทั้งหลาย เช่น ท่าแมว ท่าศีรษะจรดเข่า ที่จะช่วยยืดเหยียดกระดูกสันหลัง และกล้ามเนื้อบริเวณหลัง ช่วยคลายอาการปวดต่างๆ ในช่วงนี้ได้ดีมาก
ถึงแม้ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายจะบอกว่า เราสามารถออกกำลังกายได้เหมือนวันปกติ แต่บางทีความรู้สึกเราคือ วันนี้เรามักรู้สึกเพลียๆ ไม่ค่อยอยากทำอะไรมากมาย หรือไปเต้นแอโรบิกแบบสุดกำลังเหมือนเดิม พี่ว่าแค่คาร์ดิโอเบาๆ เช่น วิ่งจ็อกกิ้ง หรือเดินเร็วสัก 30 นาที ให้ได้เหงื่อเล็กน้อย สำหรับพี่แค่นี้พอแล้ว
- ยกเวทก็ยังไหว ถ้าไม่ใช้ช่วงท้อง
เรายังสามารถเล่นเวท ยกน้ำหนักต่างๆ ตามเซ็ตที่ชอบได้นะ โดยเล่นพวกที่ได้บริหารขาและแขนไปก่อน หลีกเลี่ยงท่าเล่นเวทที่ต้องเกร็งบริเวณช่องท้องและหลัง เพราะอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวมากขึ้น
4. ดื่มน้ำให้เพียงพออย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ ระหว่างออกกำลังกายจิบน้ำไปด้วย หลังออกกำลังกายดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อป้องกันอาการปวดศีรษะ และอาการที่เกิดจากการขาดน้ำต่างๆ ซึ่งจะมีผลข้างเคียงต่อร่างกายที่กำลังอ่อนไหวในช่วงวันนั้นของเดือนได้
นั่นล่ะค่ะ ไม่ว่าวันไหนของเดือนก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับสาวๆ ที่พยายามเอาใจใส่ดูแลร่างกายให้ฟิตและเฟิร์มอยู่เสมอใช่ไหมล่ะคะ
Discussion (4)