Bangkok Haul ไปละลายทรัพย์ที่พระนครบางกอก

สวัสดีค่า ชื่อนิกกี้นะคะ เพิ่งสมัครจีบันวันแรก หลังจากซุ่มอ่านมานานหลายปีอยากมาเปิดถุงที่ไปช็อปปิ้งจากกรุงเทพฯ ให้ชม เผื่อใครจะไปสอยตามกันนะคะ

เริ่มด้วยรูปรวมก่อนค้าบบบบ ^^

เพิ่งตั้งกระทู้ครั้งแรก เลยยังงงๆ นิดหน่อย จะพยายามทำให้อ่านง่ายที่สุดนะคะ

เริ่มต้นด้วยของกระจุกกระจิกจากหลากหลายร้าน

Etude House Tint Brow Gel เบอร์ 1 เข้าไปในร้าน Etude House สาขาสยาม แล้วซื้อชิ้นนี้ชิ้นเดียวเลยค่ะ กลัวสติหลุดไปมองอย่างอื่นราคาดีงาม 400 บาท ถูกกว่าพรีออเดอร์ที่เคยซื้อ (เพราะเคยซื้อพรี พอรวมค่าส่งแล้วตกที่ 430 บาทต่อแท่งแน่ะ)ถ้าใครไม่รู้จัก มันคือที่ทาคิ้วก่อนนอน ตื่นเช้ามาให้ลอกออก จะเหมือนการสักคิ้วเลยค่ะอยู่ได้นาน 3-7 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนและความทนของแต่ละยี่ห้อด้วยเคยใช้จนหมดไปแล้ว 1 แท่งค่ะ คงใช้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะเป็นไอเท็มช่วยชีวิตสาวคิ้วบางอย่างเราเคยใช้ตัวอื่น แต่คิดว่า Etude House สำหรับเราทนที่สุดค่ะ แต่เสียตรงแพ็คเก็จไม่แข็งแรง ปากตรงตัวแท่งหลอดมันหลุดง่ายมากค่ะ 

Victoria’s Secret Sheer Flavored Glossราคา ไม่ทราบค่ะ เป็นของฝากจากอเมริกา เพื่อนไปเที่ยวมายังไม่ได้ใช้ แต่เพื่อนบอกว่าเป็นลิปกลอสใสๆ มีกลิ่นหอม ดมๆ แล้วโอเคทุกกลิ่น แต่ก็เลือกอันนี้มาค่ะตอนที่ดมภูมิแพ้กำเริบพอดี จำกลิ่นไม่ได้แล้วว่าเป็นยังไงบ้าง 55555

Golden Rose Longstay Liquid Matte Lipstick สี 11ราคา 299 บาท ก่อนหน้านี้ซื้อไปแล้ว 2 สีค่ะ เบอร์ 2 กับเบอร์ 5 ซึ่งมันเข้มมากกกกกกกกกกกกกกกดูรีวิวบล็อกเกอร์คนอื่นมันไม่เข้มขนาดนี้ เบอร์ 2 ไม่เท่าไหร่ แต่เบอร์ 5 ทุกคนทาออกมาเป็นสีม่วงเข้ม เรามาออกมาเกือบดำเลยค่ะแต่ชอบเนื้อลิป ชอบแปรงที่ทาง่าย ชอบราคา 299 บาทที่จับต้องได้พอไปเดินเมกะบางนา ผ่านร้าน Eve&Boy เลยสอยเบอร์ 11 ที่ออกนู้ดส้มมาลองพอทาบนปากเราแล้วพอดีเลยค่ะ ไม่นู้ดเลย ส้มจืดๆ กำลังสวยค่ะ เลยชอบสีนี้ที่สุดแล้ว Bourjois Velvet Rouge Edition เบอร์ 2ราคา 300 ปลายๆ หรือ 400 กว่าบาทนี่แหละค่ะ จำราคาไม่ได้ซื้อที่อีฟแอนด์บอยเมกะบางนาเช่นเดียวกัน เพื่อนสาวแนะนำมาว่า “สีนี้รุ่นนี้ชั้นใช้มา 2 แท่งแล้วนะแกขนาดลิปสติก Bobbi Brown ที่คนว่าใช้ดี๊ดี เค้ายังไม่ชอบเลย จะยกให้แกนะ แต่ตัวนี้ดีจริงๆ”เชื่อเพื่อนค่ะ เลยซื้อตาม 5555555 ยังไม่ได้เปิดใช้เลย

Maybelline Lip Gradation สี Coral และ Redราคา จาก 349 หรือ 399 ที่เคยซื้อ ลดเหลือ 200 ปลายๆ และซื้อครบ 500 ลดไปอีก 10%จากวัตสัน สาขาเอสพละนาดรัชดา ที่ช่วงที่เราไปนั้น สาขานี้มีโปรโมชั่นและของลดราคาเยอะที่สุดตอนแรกเราไปซื้อราคาเต็ม 399 บาทจากโลตัสแถวบ้าน เป็นสี Mauveมีหลายคนที่ไม่ชอบลิปจิ้มจุ่มหรือปากแห้งเกินไปที่จะทาลิปแมตต์ๆ ขอนำเสนอรุ่นนี้เลยค่ะเนื้อมันดีมากกกกกกกก เมย์เบลลีน คุณทำสำเร็จค่ะ ตรงที่ทำให้เราสติแตกอยากซื้อให้ครบทุกสีตอนนี้เรามี Mauve แท่งที่สอง สี Fuchsia, Coral และ Red รวม 5 แท่งแล้ว เหลืออีก 2 สีที่ลังเลว่าจะซื้อดีมั้ย

Mizumi UV Water Serumราคา 690 บาทเป็นกันแดดหน้า ซื้อมาฝากพี่สาวค่ะ รุ่นนี้โฆษณาว่าจะแถมหลอดเล็กสีฟ้าเราเจอที่วัตสันเอกพละนาดเฉพาะสาขานี้สาขาเดียวด้วย งงมาก โปรโมชั่นไม่สม่ำเสมอกันเหรอเนี่ย ที่สยามและอีกหลายๆ ที่ ก็เจอแต่รุ่นหลอดเดียวราคา 690 บาทที่ไม่มีของแถม สงสัยขายดีมากของเลยหมด

สถานีต่อไป Innisfree สาขาสยาม

Mask Sheetทุกสูตรราคาแผ่นละ 50 บาทพนักงานบอกว่าซื้อสูตรเดียวกัน 10 แผ่น แถม 4 แผ่นค่ะ ตกแผ่นละ 36 บาทเท่านั้นได้ฟังแล้วเลยจัดมาส์กกุหลาบ น้ำผึ้ง ชาเขียว และว่านหางจระเข้มาแต่เสียตรงที่เพิ่งมารู้ตอนจ่ายเงินว่าของแถมมีเฉพาะสูตรชาเขียวและว่านหางจระเข้ รู้งี้ซื้อสูตรอื่นๆ มาดีกว่า เพราะตัวแถมเป็นตัวที่เราชอบและจะซื้ออยู่แล้ว เสียดายยยยยยยย

ส่วนนี่คือมาส์คที่แถมมาค่ะ

Rainy Perfumed Body Waterราคา 810 บาทอยากลองมานานแล้วค่ะ เห็นคนร่ำลือว่าหอม เพื่อนที่ไปด้วยปกติจะไม่ค่อยชอบกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงส่วนใหญ่เพื่อนยังบอกเลยค่ะว่าหอม พอดมแล้วโอเค ก็เลยซื้อมาตัวนี้มีขนาด 125 ML. นะคะ อย่าเสล่อเอาขึ้นเครื่องเหมือนเรานะคะที่อ่านสลากข้างขวดผิดเต็มๆดีที่ยังเอากระเป๋าไปโหลดอีกรอบทันเวลาเพราะไปเข้าเกทก่อนเป็นชั่วโมง ไม่งั้นโดนบังคับให้ทิ้งแน่นอน

No Sebum Mineral Powderราคา 250 บาทเป็นแป้งที่เคยใช้แล้วค่ะ ก็โอเค คุมมันดี แต่สารภาพว่าซื้อเพราะอยากให้พอดีกับ 3,000 บาทมากกว่า

มาดูที่ของแถมอื่นๆ ที่ได้เพราะซื้อครบ 3,000 บาทกันค่ะ แถมเยอะ ดีใจมากกกกกค่ะ

Eco Safety No Sebum Sunblock SPF35เป็นกันแดด ยังไม่เคยลองเลยค่ะ

Jeju Volcanic Pore Setเป็นไลน์โคลนภูเขาไฟจากเกาะเชจูที่ทางแบรนด์กำลังโปรโมทพอดี และเราซึ่งลืมซื้อมาส์กรุ่นนี้ให้พี่สาว เลยยกทั้งเซ็ตให้พี่ เป็นการไถ่โทษค่า

My Body Cleanser Trial Kitกรี๊ดตัวนี้ที่สุด เป็นคนบ้าเจลอาบน้ำใสๆ มีสีมีกลิ่นหลายๆ อัน กล่องก็ดีงามมากกล่าวโดยสรุปของการช็อปแบรนด์ Innisfree ครั้งแรก ประทับใจมากค่ะ

ปิดท้ายด้วยความยิ่งใหญ่อลังการ Sephora สาขาสยามเซ็นเตอร์ก่อนอื่นขอรีวิวสถานที่ซื้อเลยว่าไม่โอเค พนักงานมีใจบริการในระดับเดียวกับบีเอขี้เหวี่ยงในตำนานและอย่าไปหวังเรื่องของแถมใดๆ เพราะไม่มีจ้ะ แต่ในเว็บไซต์นี่แจกเอาๆอาจจะเพราะลูกค้าเยอะมาก วุ่นวาย เทสเตอร์พินาศเกือบหมดทุกอย่างโดยเฉพาะลิควิดลิปสติกที่ไม่มีให้ลองพนักงานดูเหนื่อยและขี้เกียจ อยากลองรองพื้นก็ไม่ค่อยเต็มใจลองให้คือเค้าไม่อยากคลีนหน้าให้เราและลงรองพื้นให้น่ะค่ะ เอามาป้ายๆ แค่ที่กราม บอกน่าจะเป็นสีนี้นะคะ จบไปครั้งล่าสุดนี้บอกกับตัวเองเลยว่า ถ้าจะซื้อของใน Sephora จะไปซื้อที่สาขาอื่น(เพราะที่เอ็มควอเทียร์กับเมกะบางนา พนักงานดีกว่ามากๆๆๆๆๆ) ไม่ก็ซื้อในเว็บไซต์เท่านั้น!!! จบแต่เนื่องจากเวลาไม่อำนวย กลัววันอื่นๆ จะไม่ได้ซื้อ อยากลองและซื้อให้มันจบๆ ไปและอยากให้แต้มมันถึง Black Card สักที ก็เลยออกมาเป็นแบบนี้

Hourglass Veil Mineral Primer ขนาด 60 ML ราคา 3,050 บาทไพรเมอร์หมดแล้วอย่างจริงจัง เหลือแต่ของดรัคสโตร์ที่ซื้อมาจากฮ่องกงซึ่งคุมมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ซื้อมาใช้สำหรับการแต่งหน้าจัดเต็มค่ะ ลองเนื้อแล้วชอบ และอยากได้รุ่นที่เป็นหลอดพลาสติกเลยจำเป็นต้องซื้อไซส์ใหญ่ที่สุด ถ้าถามถึงความคุ้มค่า ก็ต้องใช้ให้หมดก่อนวันหมดอายุน่ะค่ะ ถึงจะคุ้ม

Kat Von D Everlasting Liquid Lipstick สี Lolitaราคา 900 บาทลองทาแล้วรอด เลยซื้อมาลอง 1 สีค่ะ เพราะทั้งร้านเหลือประมาณ 4 สี มีสีนี้สีเดียวที่ไม่แฟนซีเกินไปลองพอให้หายอยากด้วยแหละ ถ้าใช้แล้วดีและมีเงินเหลือ สีอื่นๆ จะไปซื้อในเว็บไซต์เอาค่ะแต่หลังจากลองๆ ทาของคนอื่นมาหลายยี่ห้อ เราว่าลิควิดลิปสติกไม่เหมาะกับการใช้ทุกวัน “เลย”เพราะไม่ค่อยมีตัวไหนสบายปากหรอก ต่อให้เป็นตัวเทพราคาแพงหูฉี่ไคลี่เจฟฟรี่แคทวอนดีโดสเดอะบาล์มก็ตาม

Sephora Cream Lip Stain สี 06 Pink Souffleราคา 530 บาทถ้าจำไม่ผิดเหมือนราคาจะปรับขึ้นนะ เมื่อก่อนน่าจะอยู่ที่ 470 บาท แต่เอาเหอะ ซื้อมาแล้วนี่ตอนแรกว่าจะจัดเบอร์ 1 ซึ่งเป็นสีแดงสุดฮิต แต่เบื่อลิปสติกสีแดงแล้วค่ะ ไม่ค่อยได้ทา เลยจัดสีนี้มาแทนตัวนี้ลองทาแล้วค่ะ 2 ครั้งแรกสวย ไม่แห้งไม่แตก พอครั้งที่ 3 ปากเป็นร่องระแหงชัดเจนมาก ก็เลยยังงงๆ อยู่

Beauty Blender สี Nudeราคา 750 บาทเพราะซื้อตัวนี้ ได้สบู่ก้อนสำหรับทำความสะอาดแถมมา 1 อันถ้วน ได้ของแถมมาก็ตัวนี้แหละค่ะเราเรียกว่าบิวตี้เบลนเดอร์รุ่นสีขี้ไก่ เพราะดูเลอะตั้งแต่ยังไม่ได้ใช้เลย แต่ที่ซื้อเพราะแก้ความหงุดหงิดเพราะไม่เคยล้างฟองน้ำไข่สีอะไรออกมาสะอาดเหมือนเก่าเลยค่ะ ให้มันสีนี้ตั้งแต่แรกก็จบเนอะแต่บางทีก็อดคิดไม่ได้นะ ว่าฟองน้ำแต่งหน้าบ้าอะไรแพงได้ขนาดเน้!!!

Estee Lauder Double Wear Stay in Placeสี 1W1 Bone ราคา 1,750 บาทได้รองพื้นตัวนี้มาจากสาขาเมกะบางนา เพราะเผอิญเพื่อนพาไปเดินเล่นอีเกียค่ะและ Sephora ที่นั่นดันมี Estee Lauder ซะด้วย รองพื้นรุ่นนี้ที่มีก็เกือบหมดแล้ว เลยขอลองพนักงานน่ารักมาก ตั้งอกตั้งใจลองให้อย่างดี แต่ทีนี้ สีที่เคยใช้คือ 1N2 Ivory Crème มันไม่มีแล้วทางแบรนด์เค้ารันสีใหม่ทั้งหมด เลยได้สี Bone มา ซึ่งขาวสุดแล้วในบรรดาโทนเหลือง ขาวกว่านี้จะเป็นโทนชมพูแต่ลองแล้วไม่วอกไม่ลอยค่ะ ใช้ได้ ซื้อมาเลย และเสียดายที่ดันใช้เงินที่สาขาสยามไปหมดแล้วใครสนใจของใน Sephora แวะไปสาขานี้เถอะค่ะ มีครบทุกอย่างให้ลองอย่างลิปจิ้มจุ่มของ Stila พอลองแล้วปากเป็นร่องชัดเจนน่ากลัวมากกกกกก ดีนะที่ไม่บ้าซื้อก่อนลองแม้แต่ Benefit Cheekathon พาเลตต์บลัชออนลิมิเต็ดที่หมดไปแล้ว และกลับมาอีกครั้ง ที่นี่ก็มีค่ะ สาขานี้เสียอย่างเดียวคือยังไม่มีแบรนด์ Hourglass

Benefit Cheekathonราคา 2,550 บาทซื้อเป็นของขวัญให้เพื่อนค่ะ นางกำลังจะได้ไปทำงานต่างประเทศ เลยไม่ได้เปิดข้างในให้ดู ขอโทษด้วยนะคะถ้าใครซื้อไม่ทัน บอกเลยว่าปลายปีนี้ เดี๋ยวแบรนด์นี้ และแบรนด์อื่นๆ อย่าง Tarte, Too Faced, Stila ฯลฯก็ออกพาเลตต์สวยๆ มายั่วน้ำลายอยู่ดี หาเงินซื้อให้ทันเป็นพอค่ะ

เป็นอันจบแล้วค่า สำหรับกระทู้แรกของนิกกี้ใน Jeban

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ^^

Discussion (3)

มีความอยากได้ ESTEE อิอิ >"<