Japan Shopping Haul ไปญี่ปุ่นทั้งทีต้องมีการล้มละลาย

สวัสดีค่าาาาาาา NickyOkawa เอง มาเปิดถุงช็อปปิ้งญี่ปุ่นค่ะ จริงๆ ไปมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมแน่ะ

เคยเขียนลงบล็อกส่วนตัวไปแล้ว พอมาสมัครจีบัน ก็เลยเอามาลงที่นี่มั่ง พร้อมรีวิวผลการใช้เพิ่มเติมด้วยค่ะ

เมืองที่ไปคือนารา เกียวโต โอซาก้า แหล่งช็อปปิ้งหลักของนิกกี้จึงเป็นโอซาก้าค่ะ  เน้นที่ชินไซบาชิล้วนๆเรทที่แลกตอนนั้น 100 เยนเท่ากับ 32.70 บาท แพงพอสมควร แถมขากลับค่าเงินตกอีก แลกคืนขาดทุนสุดๆการช็อปปิ้งในสุวรรณภูมิ บัตรสมาชิกคิงพาวเวอร์ ไม่สามารถใช้ลดราคาหลายๆ แบรนด์ได้ เช่น Chanel และเดี๋ยวนี้มีบริการฝากของมาเอาตอนขากลับได้นะคะ สะดวกดี ชอบมากๆ เคาน์เตอร์รับของจะอยู่ตรงข้ามสายพานรับกระเป๋าที่ 16 ขอแค่อย่าลืมเป็นพอ แต่บางทีก็ฝากเหล้าหรือของบางอย่างที่ซื้อแพ็คคู่ไม่ได้ ต้องถามพนักงานดีๆ ค่ะมาเริ่มเปิดถุงกันเลยเนอะ ช่วงนี้คนไปญี่ปุ่นเยอะ เผื่อเป็นประโยชน์ได้บ้างค่ะ

Estee Lauder Advanced Night Repairขวดใหญ่สุด 100 ML ราคาขวดละ 6,120 บาท เฮือกกกกกซื้อมา 2 ขวด ใช้เองหนึ่ง ให้แม่ไปอีกขวดค่ะ ได้กระเป๋าแดงแถมมา ข้างในมีครีมบำรุงเซ็ตจิ๋วตามสไตล์เอสเต้ กับพวงกุญแจลิปสติกน่าเอ็นดูมันคือเซรั่มกู้ผิวที่ได้ผลดีตั้งแต่ไม่กี่ครั้งแรกที่ใช้เลยค่ะ ถ้าต้องไปงานแต่งหรืองานสำคัญ

ทาทุกวันก่อนนอนติดกันสัก 3-5 วัน ผิวจะดูโอเคมากๆ คนหน้ามันเป็นสิวอย่างเราใช้ได้ค่ะ

ดีทุกอย่าง ยกเว้นราคานี่แหละ หมดทีไรเหงื่อตกทุกที

ส่วนของที่ไม่มีรูปคือ Erb Underarm Mask ราคา 705 บาท กับ Erb Underarm Toner ราคา 645 บาท ซึ่งใครเคยอ่านรีวิวบอดี้แคร์ของเราคงจำได้แต่อยากแนะนำตัวนี้ค่ะ Bobbi Brown Instant Pretty Eye and Cheek Palette ราคา 1,955 บาทเพื่อนฝากซื้อ เลยเอารูปจากในเว็บมาให้ดูแทน ส่วนตัวแอบอยากได้เหมือนกันเห็นมีแต่ที่สุวรรณภูมินะคะ น่าจะเป็น travel exclusive สวยและพกพาง่าย ถ้าใครไม่ได้ไปดิวตี้ฟรี ลองไปดูเคาน์เตอร์ Bobbi Brown ช่วงนี้เค้าออกพาเลตต์ชื่อเมืองต่างๆ

ลักษณะคล้ายๆ แบบนี้เลย มีบลัชออนมีอายแชโดว์ สวยดี ลิมิเต็ดเอดิชั่นครบรอบกี่ปีนี่แหละ

ส่วนการช็อปปิ้งที่ญี่ปุ่น นิกกี้มีเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ มาฝากค่ะ

• ร้านดรัคสโตร์มีป้ายราคาระบุไว้ 2 ราคา นั่นคือราคาก่อนและหลังบวกภาษี ถ้าจะซื้อของแบบไม่เสียภาษี ใช้เคาน์เตอร์ TAX Free ได้เท่านั้น

• Matsumoto Kiyoshi ของเยอะสุดครบสุดดังสุดและนักท่องเที่ยวเยอะสุด ดองกิโฮเต้คนเยอะพอกันและของถูกมาก แต่ต้องดูสภาพดีๆ มีของใกล้หมดอายุเหมือนกัน ส่วน Sun Drug กับ Tsuruha บางสาขาก็ใหญ่และของครบแถมนักท่องเที่ยวน้อยกว่าด้วยค่ะ

• นักท่องเที่ยวมีสิทธิ์ในการซื้อสินค้าปลอดภาษีหรือ TAX Free โดยสินค้าพวกเครื่องสำอางต้องมีราคารวมแล้ว 5,001 เยนขึ้นไป เครื่องใช้ไฟฟ้ารองเท้าเสื้อผ้าน่าจะ 10,001 เยนขึ้นไป แต่ต้องดูเงื่อนไขของแต่ละร้านอีกทีนะคะ อย่าง ABC Mart ร้านขายรองเท้ารู้สึกจะไม่มี TAX Free

• ซื้อของในห้าง ต้องจ่ายราคาเต็มก่อน แล้วค่อยขึ้นไปขอรีฟันด์ที่แผนกบริการลูกค้าอีกที

• นักท่องเที่ยวชาวจีนมีมากมายมหาศาลและกำลังซื้อสูงส่ง ร้านดังๆ อย่าง Matsumoto Kiyoshi แถวของเคาน์เตอร์ TAX Free ยาว 20 คน และทุกคนถือกันสองสามตะกร้า ใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสามชั่วโมง เราเจอมาแล้วที่ห้างทาคาชิมาย่า โอซาก้า (ห้างที่มีแปรงฮาคุโฮโดขาย) รอรีฟันด์เกินชั่วโมง แต่ยอมเพราะเราซื้อของแพง

• นั่นเป็นเหตุผลที่เราเลือกไปซื้อเครื่องสำอางที่ร้านดรัคสโตร์ Tsuruha ซึ่งมีแถวสำหรับ tax ฟรีเหมือนกัน แต่คนน้อยกว่า ไม่ต้องรอคิวนานสามชั่วโมงเหมือนร้านอื่นๆ ราคาแต่ละร้านแตกต่างกันนิดๆ หน่อยๆ อยู่แล้ว อย่าไปเครียดกับราคามาก

• ที่สำคัญคือ พนักงานของซึรุฮะแพ็กของดีมากกกกกกก พอดีใส่กระเป๋าได้เลย ไม่ต้องรื้อออกมาจัดใหม่ เพราะจริงๆ แล้ว สินค้า TAX Free แพ็กแล้วห้ามเปิดใช้ ถึงเจ้าหน้าที่เขาจะไม่ตรวจก็เถอะ ดูได้จากในรูปด้านบนค่ะ

• ใบ TAX Free ร้าน จะเย็บติดกับพาสปอร์ต อย่าลืมดึงออกตอนผ่านตม. ญี่ปุ่นขาออกนอกประเทศนะคะ

• ซื้อรองเท้าในญี่ปุ่นมีการผิดพลาดเกิดขึ้นเยอะมากกกกกก แนะนำว่าทุกคนต้องตรวจอย่างจริงจังเลยค่ะ ดึงรองเท้าทั้งสองข้างออกมาจากกล่อง ตรวจดูสภาพ (มีคนเคยได้รองเท้าเหมือนคู่ที่ให้ลอง) ตรวจดูสี (เคยมีคนได้รองเท้า Adidas Stan Smith ตรงส้นคนละสี) ตรวจดูเบอร์ทั้งสองข้างว่าใช่เบอร์เดียวกันมั้ย ส่วนของเราเจอหนักสุด คือได้รองเท้าข้างซ้ายมาสองข้าง ข้างขวาไม่มีจ้ะ ต้องเอาไปเคลม ใครเที่ยวเองไม่มีทัวร์ไม่มีไกด์คอยช่วย กลับประเทศแล้วจะเปลี่ยนลำบากมากเลยนะคะ

• เจออะไรแล้วชอบให้ซื้อเลย เพราะวันต่อมาอาจจะขายหมดแล้ว โดยเฉพาะกระเป๋าที่กำลังฮิตและรองเท้ากีฬาดังๆ

พวกเครื่องสำอางจากซึรุฮะและดองกิโฮเต้ ซื้อมาไม่เยอะเท่าไหร่ค่ะ ราคาเราก็จดๆ มา บางอันก็ดูจากบิล ราคาถูกต้องแน่นอนค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่ารวม TAX เข้าไปรึเปล่าร้านซึรุฮะสาขาที่ซื้อคือ ชินไซบาชิ ถ้าหันหน้าเข้าป้ายกูลิโกะใหญ่ มองตรงไปจะเห็นสตาร์บัคส์ ให้เดินไปหาเลยค่ะ ผ่านสตาร์บัคส์ ผ่านร้านที่ขายคอนแทคเลนส์ เดินตรงไปเรื่อยๆ ซึรุฮะจะอยู่ทางซ้ายมือ เห็นป้าย TAX Free ชัดเจนส่วนร้านดองกิโฮเต้ นิกกี้พักที่ IBIS ShinSaiBaShi Osaka ซึ่งห่างจากร้านดองกี้ไม่เกิน 500 เมตรสาขานี้น่าจะเป็นตึก 8 ชั้น ปิดเที่ยงคืน คนเยอะโคตรๆๆๆๆๆๆๆพนักงานบริการดี รวดเร็ว แต่แพ็กของไม่โอเคค่ะ มาเป็นก้อนใหญ่กว่าลูกฟุตบอล ยัดใส่กระเป๋าไม่ได้ ต้องจำใจรื้อออกมาเป็นชิ้นๆ เสียวโดนตรวจอยู่เหมือนกันนะ

ผงแป้งล้างหน้า Kanebo Suisaiราคา 1,512 เยนต่อ 1 กระป๋อง ซื้อแบบแพ็ค 6 กระป๋องมาค่ะเริ่มต้นรายการช็อปปิ้งด้วยความเสล่อสุดๆ คิดว่า 1,512 เยนคือได้ทั้งแพ็ค จริงๆ ราคามันคือ 9,072 เยน ตกราวๆ 3,000 บาทสรุป เจ้านี้ไม่ใช่ของราคาถูกที่ซื้อมาแจกทิ้งแจกขว้างได้นะคะใน 1 กระป๋องมีแป้งจิ๋ว 32 อัน หารไปหารมาตกอันละประมาณ 15 บาทค่ะใช้แล้วโอเคอยู่นะคะ ไม่แพ้ ไม่แห้งตึง เหมาะสำหรับเวลาไปเที่ยวไปค้างนอกบ้านมากๆ

อันนึงล้างหน้าได้สองครั้งแน่ะ พกไว้ไปฟิตเนสก็ยิ่งสะดวก

แต่ชีวิตประจำวันใช้แบบหลอดปกติเหอะ ไม่เปลือง

ซื้อมาใช้เอง คุ้มค่ะ ดีงาม แต่อย่าซื้อไปแจกเลย นิกกี้ว่าแพงเกิ๊นนนนนนน

สเปรย์น้ำแร่ Aveneราคาติดไว้พอดี๊ 1,362 เยน น่าจะไม่รวม TAX ค่ะซื้อเพราะสเปรย์น้ำแร่ตัวโปรดของนิกกี้คือ La Roche-Posay ไซส์เล็กใกล้หมดพอดีสังเกตดูดีๆ เวลาช้อปคือ ยิ่งแพ็คใหญ่ ราคาก็ยิ่งถูก และมีของแถมเล็กๆ น้อยๆ ด้วยค่ะใช้แล้วพบว่า ละอองสเปรย์ไม่ละเอียดเท่าของ La Roche-Posay ค่ะ

ถ้าได้ไปเที่ยวอีก คงไม่ซื้อซ้ำอ่ะ

ยาหยอดตา รุ่นสีน้ำเงินราคา 210 เยน ซื้อมามากกว่า 10 อันใช้ด้วย ให้เพื่อนด้วย ไอเท็มนี้คนขอมาเยอะสุดอันนี้ถ้าใครมีเพื่อนเยอะๆ หรือทำงานออฟฟิศใช้คอมมากๆ  ซื้อมาแจกเลยค่ะ สนับสนุน

ใช้แล้วเย็นมากๆๆๆๆ ใครไม่ชินอาจจะบ่นว่าแสบ แต่เราชินแล้วค่ะ ^^

Ooshima Tsubaki Hair Oilราคา 1,278 เยน ได้มาแค่ 2 ขวด เพราะเหลือเท่านี้ระวังมีบางยี่ห้อทำเลียนแบบนะคะ แพ็คเก็จคล้ายกันด้วย ต้องดูดีๆอันนี้ซื้อตามในบล็อกคุณแป้ง Kirarista เพราะมันติดอันดับขายดีเปิดมาจะเป็นขวดแก้วแบบมีรู ต้องเขย่าให้น้ำมันมันออกมา ใช้ยากกว่าขวดปั๊มเยอะเลย

และเราว่า ผลิตภัณฑ์มันเฉยๆ มากค่ะ กลิ่นก็ไม่ค่อยมี (หรือมีแล้วเราไม่ได้กลิ่นก็ไม่รู้)

Loretta Base Care Oilสารภาพว่าจำราคาตัวนี้ไม่ได้ค่ะ เลยเข้าไปดูในบล็อกคุณแป้งคิราริ อยู่ที่ 2,730 เยนก็นั่นแหละค่ะ ซื้อตามคุณแป้ง แหะแหะ เหลือขวดเดียวในชั้นวางด้วยสิพอเปิดใช้แล้ว รู้สึกเฉยๆ มากค่ะ การบำรุงดีประมาณนึง ชอบแค่กลิ่นค่ะ

แต่แนะนำตัวนี้มากกว่าตัวบนนะคะ ขวดเป็นพลาสติก เบากว่า หัวปั๊มใช้ง่ายกว่าด้วย

LuLuLun มาส์คหน้าสูตรสีแดงกับสีทองตอนนั้นซื้อมาเพราะมันยังไม่มีขายในไทย และมันก็เข้ามาหลังจากนั้นไม่ถึงเดือน 5555ในห่อมี 7 แผ่น ราคา 400 เยน ซื้อมาอย่างละ 3 ห่อ แบ่งให้พี่สาวกับน้องสาวเราว่ามาส์คมันพอใช้ได้ มาส์คแล้วชุ่มชื่นดี ไม่แพ้ แต่ก็ไม่ได้ว้าวอะไรขนาดนั้นแถมยังไม่ค่อยอนามัยเท่าไหร่ กว่าจะใช้ครบ 7 แผ่นคงเยินพอดูแต่มันดีตรงที่ไม่เปลืองขยะค่ะ เลยคิดว่าใช้สลับกับมาส์คแผ่นเดี่ยวๆ บ้างก็ดี

Media Translucent Powderราคา 845 เยน ซื้อมากระปุกเดียวแป้งฝุ่นที่เราเคยซื้อมาจากฮ่องกง 3-4 กระปุก ใช้กับแม่จนหมดแล้วเนื้อเบาและพัฟนุ่มมาก พัฟนี่ดีกว่าตัวรุ่น Shiseido 123 สุดฮิตอีก เพราะไม่ใหญ่เกินไปแต่เนื้อแป้งไม่คุมมันนะคะ ตอนช่วงหน้าร้อนไม่ชอบเลย เอามาใช้หน้าหนาวค่ะ เข้ากันดีกับคุชชั่นหรือกันแดดสีเนื้อบางๆ 

Canmake แป้งฝุ่นอัดแข็งตลับทองราคา 1,015 เยน ตอนแรกว่าจะกักตุน แต่เห็นเนื้อที่กระเป๋าแล้ว คิดว่าตลับเดียวก็พอแถวบ้านนิกกี้ไม่มีแบรนด์นี้ เลยต้องไปสอยถึงญี่ปุ่น สารภาพว่าตัวนี้ยังไม่เปิดใช้เลยค่ะ

Shiseido ที่ล้างแปรงขวดละ 750 เยน ซื้อมาลองขวดเดียวพอพอใช้แล้วชอบอยู่นะคะ ติดตรงหาซื้อลำบาก หมดแล้วก็คงกลับไปใช้ไดโซะไม่ก็อีทูดี้แทน

Shiseido 123ราคา 600 เยน ซื้อมา 3 อัน เพราะพัฟไม่มีวันหมดอายุเร็วเท่าเครื่องสำอาง 55555พัฟใหญ่ในตำนาน นุ่มจริง แต่ก็ใหญ่จริงๆ นะ ใครหน้าเล็กคงตบลงบนหน้าสองทีก็ครอบคลุมพื้นที่แล้ว

กาวติดขนตาปลอม D.UP (ต้องอ่านว่าดีอัพ) รุ่นฮาวาย ลิมิเต็ดเอดิชั่นตัวนี้ซื้อที่ร้านดองกี้ แท่งละ 900 เยน ตอนแรกคิดว่าถูกกว่ารุ่นคิตตี้ ราคานี้ยังไม่รวมภาษีค่ะที่ญี่ปุ่นน่าจะออกมาตั้งแต่เดือนเมษายนเลยค่ะ ที่ไทยเพิ่งเข้า เห็นกรี๊ดๆ กัน

ออกมาพร้อมขนตาปลอมด้วย แต่นิกกี้ไม่ใช้ขนตาแพง เลยไม่ได้สอยมา

ปกติใช้กาวของ Duo ซึ่งเหม็นมากๆ แถมเบื่อกาวที่เป็นหลอดเพราะมันใช้งานยาก

พอเปิดใช้รุ่นนี้ ส่วนตัวว่ามันทนสู้ของ Duo ไม่ได้ค่ะ แต่ใช้สะดวกกว่า เป็นพู่กันป้ายๆ เอา

เหมาะแก่การพกพาไปเติมนอกสถานที่ด้วย ใช้เติมหัวตาเวลาจะหลุดก็เวิร์ค

กาวติดขนตาปลอม D.UP รุ่นคิตตี้ราคา 972 เยน ซื้อมาสองแท่ง ภายนอกแพ็คเก็จคนละสีกัน แต่เนื้อกาวเป็นสีใสเหมือนกันนะคะเนื้อกาวก็คงเหมือนรุ่นฮาวาย

ป.ล. แอบกระซิบว่า กาวติดขนตาปลอมที่ทนที่สุดสำหรับเราคือของ The Face Shop ค่ะ

ทนแบบเคยติดขนตาปลอมลองเข้าไปซาวน่ากับไปว่ายน้ำในสระดู ขนตาไม่หลุดเลยยยยยย

ทนเกินความจำเป็นในชีวิตประจำวันไปค่ะ ล้างก็ยากสุดๆ แต่ใครที่อยากใช้กาวขนตาทนๆ

สำหรับงานรับปริญญา งานพรีเวดดิ้งเอาท์ดอร์อากาศร้อนๆ แนะนำตัวนี้ค่ะ

ขนตาปลอม Ririกล่องละ 880 เยน ซื้อมา 3 เบอร์ แต่ให้คนอื่นไปแล้ว เหลือเท่านี้เห็นเป็นสินค้าแนะนำ แต่ไม่มีป้าย Cosme ส่วนตัวเราว่าขนตาปลอมญี่ปุ่นสวยแต่ไม่ใช่ของถูกซึ่งเราเป็นคนติดขนตาปลอมครั้งเดียวแล้วทิ้งเลยค่ะ เพราะเคยใช้ซ้ำแล้วมีอาการระคายเคือง เลยไม่ซื้อของแพงใช้อีกอันนี้ราคาพอรับไหว ขนตาดูไม่เยอะมาก เลยซื้อมาลอง

Country & Stream Eye Rollราคา 1,080 เยน ซื้อมาแท่งเดียวพอโรลใต้ตาให้ความชุ่มชื้น เป็นของแบรนด์นี้ตัวเดียวที่เราเห็น นอกนั้นไม่เจอเลยค่ะ อดได้ครีมทามือตัวโปรดเลย               ลิปมัน DHCราคา 514 เยน ซื้อมาแท่งเดียว ตอนที่ไปไม่มีลิมิเต็ดเอดิชั่นค่ะ เสียดาย

Nivea ลิปมันแบบแท่งราคา 398 เยน ซื้อมา 2-3 แท่งหา Country & Stream กับ Muji ไม่เจอ เลยซื้อลิปมันพวกนี้มาแทน

Nivea Crème Care ลิปมันแบบกระปุก กลิ่นน้ำผึ้งราคา 598 เยนซื้อเพราะคำว่ากลิ่นน้ำผึ้งแค่นั้นเอง

ของพวงนี้ยังไม่ใช้สักอักนะคะ ยังชอบไม่ได้ว่าดีมั้ย

Nivea Sun Gel ครีมกันแดดทาตัวชนิดถุงเติมราคา 800 เยน ซื้อมา 2 ถุง เพราะกลัวหนักกระเป๋านิกกี้ว่ามันคล้ายๆ ของบีโอเร รุ่นขวดสีเหลืองสีเขียว

ใช้แล้วชอบมากค่ะ เนื้อเบาดี แอลกอฮอล์เยอะพอสมควร ใครแพ้ควรระวังนะคะ

Biore Cleansing Liquid ชนิดถุงเติมราคา 798 เยน ถูกกว่าไทยพอสมควรค่ะ แต่ซื้อมาแค่ 2 ถุงก็พอซื้อเพราะชอบถุงเติม อะไรที่มีถุงเติมได้ก็จะซื้อค่ะลองใช้แล้วก็เหมือนของที่ไทยค่ะ ไม่แตกต่างกันเลย แต่ถูกกว่าเยอะ

อายครีมหลอดสีน้ำเงินราคา 1,013 เยน ซื้อมา 2 หลอด ให้พี่สาวไปอันนึง ให้ญาติไปอีกอันนึงมัตสึโมโต้คิโยชิที่บ้านเราก็มีนะคะตัวนี้ ไปลองหาดูกันได้

ชื่อเต็มคือ Meishoku PlaceWhiter Mediacal Whitening Eye Cream ยาวมาก

ดูมาจากบล็อกคุณแป้งคิราริเช่นกันค่ะ ใครไปญี่ปุ่นต้องอ่านบล็อกคุณแป้งนะ บอกเลย

มาสค์เท้า สูตรพริกราคา จำไม่ได้จริงๆ ค่ะจะมีแผ่นซองยาแบนๆ กับแผ่นผ้าที่เป็นกาวไว้แปะเท้า ใครเคยใช้แผ่นแปะแก้ปวดตราเสือคงนึกออก

มีแบบซองและมีแบบเป็นกล่องให้เลือก ส่วนตัวใช้แล้วไม่ค่อยเวิร์ค ปวดขาก็ใช้ยานวดไปอ่ะถูกแล้ว

มาส์คตา กลิ่นลาเวนเดอร์ราคา 980 เยน ซื้อมาสองกล่องกลับกันกับอันนี้ นิกกี้ชอบมาก ใช้แล้วฟินมากกกกกกก หลับสบายผ่อนคลายสุดๆใครนอนหลับยากเหมือนนิกกี้ แนะนำให้ซื้อมาเยอะๆ เลย แล้วนิกกี้แอบงก ใช้ซ้ำกัน 2-3 ครั้งจริงๆ คืนเดียวมันก็หมดฤทธิ์แล้วค่ะ อาศัยว่าหยดน้ำมันลาเวนเดอร์ที่มีลงไปที่แผ่นมาส์คเอา 5555

เยลลี่องุ่นห่อละ 118 เยน คิดเป็นเงินไทยไม่เกิน 40 บาท ร้านพรีขายตั้ง 80 บาทนี่คือเยลลี่ที่อร่อยที่สุดเท่าที่เราเคยกินมาค่ะ หน้าตาเหมือนเม็ดองุ่น สัมผัสยังนุ่มๆ หยุ่นๆ เหมือนกันด้วยซื้อมา 10 ห่อ ต้องค่อยๆ ถนอมกินด้วยความเสียดาย ไม่แบ่งใครด้วยนะ 55555 มันอร่อยมากค่ะ

Tangle Teezerราคาจำไม่ได้ แต่ตกเป็นเงินไทยประมาณ 650 บาทค่ะซื้อมาเพราะคิดว่าถูกกว่าที่ไทย อยากได้มานานแล้วค่ะ Sephora ขาย 850 บาทแน่ะใช้ดีนะคะ เพราะนิกกี้เป็นคนผมยาวและดัดมาจนคลาย มันเลยชอบเป็นสังกะตังใช้หวีอันนี้แล้วไม่เจ็บหัวเลย แต่ผมที่ร่วงแล้วก็ร่วงนะคะ ไม่ถึงขั้นไม่มีผมติดซี่หวีมาเลย บางเจ้าที่พรีออก็โม้เกินป๊าย

สเปรย์กันน้ำให้รองเท้าประมาณ 2,000 กว่าเยนค่ะซื้อเพราะดูจากโมเมวิธยูตอนทำรองเท้าให้น่ามอง รองเท้ายังไม่เจอฝนจังๆ เลยไม่รู้ว่าได้ผลมั้ย

Three Cleansing Oilราคาขวดละ 3,800 เยนเดินจากชินไซบาชิไปห้างทากาชิมาย่าไม่ไกลค่ะ ทีแรกถ่อเพื่อไปดูแปรงฮาคุโฮโด แต่ในที่สุดก็ทำใจซื้อไม่ลงส่วนตัวนิกกี้มองว่าถ้าทำอาชีพแต่งหน้าหรือเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์คงคุ้มค่ะ แต่ทุกวันนี้ใช้นิ้วแต่งตาเป็นหลักถ้าจะซื้อแปรงใช้เอง เอาเงินไปซื้อเซ็ต Zoeva ไม่ก็ Real Technique ดีกว่าแต่ถ่อมาแล้ว อย่าคิดว่าจะเดินออกจากห้างไปโดยไม่เสียเงินนิกกี้ตัดสินใจซื้อ 2 ขวดเพื่อให้ได้ TAX Free และพบว่า ใช้เวลาเกิน 1 ชั่วโมง ได้เงินคืนมา 525 เยนแต่เอาเหอะ คิดเป็นเงินไทย ได้มาในราคาขวดละ 1,166 บาท ก็คุ้มอยู่นะส่วนแฟ้มคิตตี้ ได้ฟรีมาจากการทำรีฟันด์นี่แหละค่ะ โอเคเลย ^^

กระเป๋า Anello นิกกี้ซื้อรุ่นผ้าแคนวาสไซส์ใหญ่ค่ะ เพราะสูง 168 แล้วไม่ใช่คนผอมพอสะพายกระเป๋าเล็กๆ แล้วดูแปลกๆ ไม่ชินตัวเองที่เราเห็นในซินไชบาชิ กระเป๋า Anello รุ่นแคนวาสไซส์ใหญ่จะราคาเท่ากันหมด คือ 4,500 เยน แต่ความแตกต่างคือสีน้ำเงิน ซื้อจากร้าน Love Style ราคา 4,860 เยน เพราะบวกภาษี แงๆๆๆๆๆที่ซื้อเพราะเราเดินย่านนี้สองวัน วันแรกของเยอะมาก มีครบทุกสีทุกไซส์ แต่ตอนนั้นรีบไปกินข้าวเลยไม่ได้ซื้อวันต่อมาเข้าร้านนี้อีกที หมดเกลี้ยง ไซส์เล็กไม่เหลือสักใบ รุ่นสามสีไม่มี รุ่นแคนวาสเหลือสองสี ดำกับน้ำเงิน เราเลยรีบสอยเลยรุ่นสามสีสุดฮิต เดินมาเจออีกที ที่ร้าน WEGO ติดร้านมัตสึโมโต้เลยค่ะ เหลือ 4,050 เยนเอง ถูกกว่าเพราะได้ TAX Freeแต่รวมๆ แล้ว ตกแล้วจะประมาณ 1,500 บาท ไม่เกิน 1,600 บาทค่ะถูกกว่านั้นไม่แนะนำนะคะ เราดูของจริงของปลอมไม่เป็น อาศัยข้อมูลจากในเน็ตเรื่องวิธีดู วิเคราะห์ราคาแล้วก็โอเคค่อยควักเงินจ่ายจริงๆ Anello มีหลายวัสดุค่ะ ทั้งผ้านิ่มๆ ผ้ายีนส์ ผ้าแคนวาส และหนังพียู สวยหมดเลยแต่เราดูลักษณะการใช้งานอันสมบุกสมบันของเราแล้ว ผ้าแคนวาสน่าจะเหมาะที่สุดค่ะเพราะหนังพียูไม่เคยถูกกับเราเลย ใช้ไปไม่นานมีอันลอกทุกใบ อาจจะเพราะใช้บ้างเก็บบ้างมั้งคะ

ของที่ระลึกจาก Japan Universal Studioเราซื้อเฉพาะของ Harry Potter นะคะ แต่ไม่ได้ซื้อไม้กายสิทธิ์เพราะมันแพง ราคา 8,000 เยนแน่ะ แถมยังทำอะไรไม่ได้นอกจากเรืองแสงอ่อนเบาด้วยพลังถ่านไฟฉาย (--')แม่เหล็กลายเฮ็ดวิก ราคา 700 เยนเยลลี่กับลูกอมรสบัตเตอร์เบียร์ในกล่องเหล็ก กล่องละ 1,200 เยนเท่ากัน ซึ่งแพงมากและได้ขนมน้อยมากกกกก ไม่ถึง 20 ชิ้นทั้งสองกล่อง ต้องแบ่งกันชิมพวงกุญแจรูปแก้วบัตเตอร์เบียร์ ราคา 1,200 บาท ซื้อเพราะชอบบัตเตอร์เบียร์มากแต่ของจริงกินเกิน 1 แก้วไม่ไหวค่ะ อิ่มจนไม่สามารถกินข้าวกลางวันได้เลยเราซื้อแก้วแบบพลาสติกมีหู กินหมดแล้วล้างเอากลับมาด้วยบัตเตอร์เบียร์แบบธรรมดาถูกกว่าและอร่อยกว่า อย่าสั่งแบบ Frozen นะคะ เลี่ยนมากไดอารี่ลายฮอกวอตต์ ราคา 1,000 เยน ใจจริงอยากซื้อแม่ม 5 เล่ม 5 ลาย แต่พอเหอะถ้าใครไปโอซาก้าช่วงวันคริสต์มาส อย่าลืมหาโอกาสไปยูนิเวอร์แซลนะคะเห็นว่าจะจัดแสงสีเสียงฉลองครั้งแรก คงจะสวยน่าดูเลย ^^

ดิวตี้ฟรี ขาออกจากสนามบินคันไซ ได้เวลากลับแล้วค่ะ ซื้อขนมไปฝากญาติๆสิ่งที่แนะนำคือ ป๊อกกี้รสฮอกไกโดเมล่อนค่ะ อร่อยมากกกกกกกกก

Royce รส Ghana Bitter จำราคาไม่ได้แล้ว แต่ซื้อมา 3 กล่องและยอมจ่ายค่าหีบห่ออีก 100 เยนใครซื้อมาฝากที่บ้าน เสียค่าห่อเถอะค่ะ ช็อกโกแลตจะได้คงสภาพได้ในอากาศบ้านเราตั้งแต่ชิมมา ชอบรสนี้ที่สุดแล้วค่ะ ไม่หวานแต่ก็ไม่ขมจนเกินไป

CK Eternity Summer ราคา 8000 เยน ยังไม่ได้ลองใช้เลยค่ะ

CK One Summer ราคา 5,400 เยน ใช้แล้วหอมมากกกกกกกก

แต่ติดไม่ทนเลย ขอใช้คำว่าเลย กลิ่นจางไว อยู่ได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมงค่ะ 

ชอบกลิ่นจริงๆ ค่อยซื้อนะคะ

ที่ซื้อเพราะอยากละลายเงินเยนให้หมด และซื้อครบ 10,000 ได้กระเป๋า CKมา 1 ใบด้วย

เป็นอันจบการเปิดกระเป๋าแล้วนะคะ ไปแล้ว บ๊ายบาย ^^