มาสก์หน้าที่ปลื้มมมม....ในปี 2016
LerLinPinGStyle268Say Hello ถึงชาว Jeban ที่น่ารักทุกคนคะ
เวลาหน้าพังๆ หรือพรุ่งนี้จะต้องไปงานพิเศษ สิ่งที่เรานึกถึงก่อนคือการบำรุงอย่างเข้มข้น เราก็ต้องนึกถึงมาร์คกันขึ้นมาเลย ผิงเป็นคนนึงที่บ้าการมาร์คหน้า เวลาไปไหนมักจะลองมาร์คใหม่ๆที่เจอเสมอ มีทั้งพัง และ ดี มาดูกันดีกว่าคะว่าในปี 2016 ผิงชอบมาร์คตัวไหนบ้าง
*** ผิงเป็นคนผิวแห้ง ***
***** ความต้องการของผิงแต่ละคนต่างกัน แพ้ของไม่เหมือนกัน ******
ตัวแรก เริ่ม ที่ Etude House รุ่น Wonder Pore
Wonder Pore เป็นLine Skincare ที่ขายดีของ Etude House เลยทีเดียว ตัวนี้จะช่วยแก้สารพักปัญหาผิวอย่างที่เห็นในภาพ 7 in 1 มาร์คตัวนี้เป็นมาร์ค ดินเหนียวสีขาว ก่อนใช้เจ้าตัวนี้ต้องผสมกับน้ำให้เรียบร้อยก่อนนำมามาร์ค (ในถุงมีถวงตวงมาให้เรียบร้อยเลยคะ) ที่ชอบเพราะ หลังใช้รู้สึกสะอาด ช่วยทำความสะอาดรูขุมขน กำจัดสิวเสี้ยน (ผิงลองใช้ครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นรู้สึกว่ากำจัดสิวเสี้ยนได้โอเคเลยทีเดียว ปลื้มตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้)รุ่นนี้อาจจะมี งงๆกันบ้าง เดี๋ยวทางแบรนด์ก็เปลี่ยนสูตร เปลี่ยนแพคเกจ เดี๋ยวเลิกผลิต เดี๋ยวเอามาขายใหม่ ให้งงกันเล่นๆ
ราคา ไม่เกิน 10000 วอน แน่นอน (ประมาณ 7500 - 8500 วอน)
Innisfree รุ่น it's Real Squeeze Mask
ตัวนี้ เป็นมาร์คที่ทำมาจากส่วนผสมต่างๆตามธรรมชาติ มีให้เลือกหลายสูตรมากแล้วแต่ความต้องการของผิว ที่ผิงมีในรูป 6 รุ่น แต่ของจริงมีเยอะมากๆ ส่วนตัวไหนมีสรรพคุณอย่างไรพลิกอ่านด้านหลังแผ่นมาร์คส่วนตัวชอบ รุ่น กุหลาบมาก ตื่นมาแล้วรู้สึกผิวดี หน้าโกลว์ ทุกรุ่นตื่นมาแล้วเห็นผล แผ่นมาร์คดี ให้เอสเซ้นมาเยอะ
ราคา พันกว่าวอน (ที่ไทยรู้สึกว่าอยู่ที่แผ่นละ 45 บาท)
Innisfree รุ่น Skin Clinic Mask
รุ่นนี้หน้าตาวิทยาศาสตร์ ห้องทดลองมาก ตัวนี้ราคาจะสูงกว่ารุ่น it's Real Squeeze Mask เพราะแผ่นมาร์คบางกว่า/ ทำจากฝ้าย 100%/ แผ่นมาร์คกระชับ/ มาร์คแล้วไม่อึดอัดหน้า รุ่นที่มีให้เลือกก็จะเป็นชื่อ วิตามินต่างๆ คอลาเจน เปปไทด์ เป็นต้น
ข้อดีของมาร์คInnisfreeทั้งสองรุ่น - เอสเซ้นที่ให้มา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย รู้สึกเห็นผลหลังใช้
รุ่นนี้ ราคาที่ไทยอยู่ที่ 80 บาท
The Face Shop รุ่น Hydro gel Mask Sheet
รุ่นนี้เป็นแผ่นมาร์ค ออกจะเป็นวุ้นๆไม่ใช้ผ้า ตัวนี้ให้มาร์คที่เข้มข้นเลยทีเดียว รุ่นในรูปคือ รุ่น Vita E ช่วยเรื่องความชุ่นชื้น ตัวนี้ถ้าหน้าไม่ได้แห้งมากจริงๆ ไม่ได้แห้งจนกระทั่งลอกเป็นขุ่ย เวลาใช้ไปจะรู้สึกไม่เห็นผล แต่พอหน้าแห้งมากๆๆๆ พอใช้ปุ๊บหน้าหายแห้ง หายลอกทันที รู้สึกดีเมื่อผิวแห้งมาก ถึงมากที่สุด
My Beauty Diary
ตัวนี้เป็นมาร์คจากประเทศไต้หวัน ในวัตสันมีขาย เป็นมาร์คขายดีทั้งในญี่ปุ่นและไต้หวัน มีให้เลือกหลากหลายสูตรตามความต้องการ ตัวนี้แผ่นมาร์คดี เนื้อผ้าดี ออกแบบมาให้เหมาะกับรูปหน้าที่หลากหลาย หลังใช้รู้สึกผิวดี(แล้วแต่สูตรไป)
ราคา วัตสันขายกล่องละ 109 บาท ใน 1 กล่อง มี 2 แผ่น
Schaebens
ตัวนี้เป็นมาร์คของ Germany (มีขายในไทยตามพรีออเดอร์) เป็นมาร์คขายดีเป็นอันดับ 1 ในเยอรมัน (เขาว่ากันว่า)ตัวนี้มีให้เลือกหลายสูตรมากๆ (การบำรุงหลังโดนแดดก็มีนะ) แต่ละซองใช้ได้หลายครั้งหลายคน อย่างที่เห็นในภาพ บางซองแบ่งเป็นใช้สองครั้งอีก คุ้มมากๆ เวลาใช้อาจจะไม่สะดวกสบายเท่าใช้แผ่นมาร์ค แต่ให้ผลดีทีเดียว โดยเฉพาะเรื่องชุ่มชื้น(อาจเป็นเพราะประเทศเค้าแห้ง)
ราคา ซื้อที่เยอรมันแผ่นละประมาณ 20-30 บาทไทย(คุ้มมากก) ส่วนพรีออเดอร์ประมาณ 40- 50 บาท
มาร์คผู้หญิงญี่ปุ่น (ไม่สามารถบอกยี่ห้อได้)
ในรูปนี้มีสองสูตร สูตรคอลาเจน กับ สูตรไฮยาลูโลนิค แต สูตรที่ผิงชอบจริงคือ สูตรวิตามิน (ใช้หมดแล้ว) ตัวสูตรวิตามิน เวลาเราไม่ได้บำรุงหน้ามา 6-7 วัน แล้วมาใช้มาร์คนี้ หลังใช้เหมือนกับว่าเค้ากู้ความพังที่เราไม่ได้ลงสกินแคร์ 6-7 วันนี้มาคืนเรา สูตรคอลาเจน ผิงรู้สึกว่าดี เพิ่มความเด้งให้ผิวได้ รอยเหี่ยวๆใต้ตาดีขึ้นสูตรไฮยาลูโลนิค ผิงใช้รู้สึกว่าเฉยๆ ***** แต่เพื่อนผิงที่บอกว่าแพ้สูตรนี้ สิวขึ้นตามมา ******
ข้อดีของมาร์คนี้ แผ่นมาร์คดี เอสเซ้นให้มาเยอะ/ไม่เหนียว กลิ่นดี และทำมาร์คให้เหมาะกับรูปหน้าที่หลากหลาย
ราคา 1 กล่องมี 10 แผ่น ราคา 900-1000 เยน คิดเป็นเงินไทยตกแผ่นละ 35 บาท
จบแล้วคะ กับมาร์คหน้าที่ผิงปลื้มในปี 2016
แบบคลิปก็มีให้ดูนะคะ
วันนี้ไปก่อนคะ บ๊ายบาย
Discussion (8)
มาส์ก เดี่ยวนี้ราคาน่ารักน่าสอยมากกก
Innisfree กับ beauty diary เค้าชอบทุกสูตรเลย อยากให้ลองมาส์กองุ่นของวัตสันน่าาดีเหมือนกันชอบมากเลยย