Black Friday ปีนี้สติหลุดไปกับอะไรบ้างน้านนน เชิญมามุงค่ะ

สวัสดีค่ะ สาวๆจีบัน กระทู้เห่อแรก(ของ account ใหม่ account เก่าอยู่ๆก็เกิดความจำเสื่อมจำ password ไม่ได้ขึ้นมา อ่อยยยย) ก่อนอื่นต้องแนะนำตัวก่อนนะคะว่าแม่หมีคนนี้เป็นแม่บ้านลูกหนึ่ง ที่ย้ายตามสามีมาอยู่ที่สวิสเซอร์แลนด์ได้ราวๆครึ่งปีแล้วค่ะ ยังต้องปรับตัวอีกมากแต่แม่หมีทนได้ค่ะ ไม่ว่าจะลำบากขนาดไหนก็สู้ตาย แต่มีความลำบากชนิดนึงที่ไม่ดีต่อใจมากที่สุดคือ การช้อปปิ้งเครื่องสำอางค์ค่ะ ถ้าเทียบที่นี่กับเมืองไทยแล้วเมืองไทยมีความหลากหลายกว่ากันมากๆ ทั้งแบรนด์ฝั่งอเมริกา เอเชีย หรือยุโรป ทั้งเคาท์เตอร์ ทั้งร้านรับหิ้ว ไม่มีเวลาไปช้อปปิ้งก็ไม่ใช่ปัญหาเปิดเนตสั่งผ่านเวบ ผ่านไอจี หรือเฟสบุ๊คก็ได้ เตรียมแค่กระเป๋าตังค์ให้พร้อม เรียกว่าเมืองไทยนี่ทันทุกกระแส ซื้อง่ายขายคล่อง แต่สำหรับที่นี่มีแบรนด์ค่อนข้างจำกัด แบรนด์จากฝั่งอเมริกานี่มีน้อยมาก แบรนด์เอเชียไม่ต้องพูดถึงค่ะ หมดสิทธิ์เลย จะสั่งออนไลน์ส่งข้ามทวีปก็เตรียมตัวจ่ายภาษีได้เลย โดนอ่วมแน่ๆ ไม่คุ้มๆ

แต่ที่ว่ามาทั้งหมดนี้ไม่ใช่ว่าไม่เคยไปได้ไปโดน คสอ ราคาน่าคบหาของแบรนด์ฝั่งยุโรปนี้นะคะแม่บ้านขาช้อปอย่างแม่หมีก็พอจะหาความเพลิดเพลินกับการช้อปได้บ้างแหละตามกำลังทรัพย์และศรัทธา (แต่บางทีกิเลสที่ว่าหนาเจอราคาเข้าไปนี่ต้องรีบเลยนะคะ รีบวางกลับ ตีเป็นเงินไทยแล้วรีบคว้ายาดมจากมาด้วยความสง่างาม ไม่ได้กินฉันหรอกแกรรร แพงดีนักรอตอนลดก็ได้ เช๊อะ!) และแล้วสวรรค์ก็เห็นใจแม่บ้านขาช้อปอย่างเรา ว่ะฮ่าๆ ให้ปีนี้ร้านรวงที่นี่ให้ความสนใจกับ Black Friday มากขึ้นเทียบกับปีก่อนๆ (คุณสามี AKA "พ่อหมี" บอกมาอีกที) ถึงอาจจะไม่ลดใหญ่ลดเยอะลดกันทั้งบ้านทั้งเมืองแบบที่อมริกาแต่ส่วนลดที่ติดหน้าร้านก็พอที่จะสะกดจิตแม่หมีให้เดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ได้พอสมควร ร้านส่วนใหญ่ที่นี่ก็ลดกันตั้งแต่ 15-70% แล้วแต่ประเภทสินค้า แต่ที่แม่หมีพุ่งไปละลายทรัพย์มานั้นมีแค่ร้านสกินแคร์กับคสอ เท่านั้นขร่ะ!! ถ้าจะรอเห่อหรือรีวิวเครื่องชงกาแฟ หรือสินค้ามีประโยชน์อื่นๆเชิญป้ายหน้าค่ะ ฮ่าๆๆ ไม่ใช่ทางของแม่หมีจริงๆ (อ้อ หลังคริสต์มาส เดี๋ยวก็มีเซลรอบใหญ่กันอีกรอบนาจา ถึงตอนนั้นต้องตั้งสติแล้วรีบพุ่งตัวออกไปช้อป เหอๆ)

เอาล่ะร่ายมายาวมากแล้วถึงเวลาสารภาพบาป(ลับหลังพ่อหมี) กันสักทีกับการดึงสติไม่อยู่ บ้าพลังเบอร์สุดไปช้อปปิ้งพร้อมรถเข็นลูกหมีน้อย (ความพยายามเกินล้านนนน สามีรู้สามีคงชื่นชมด้วยการริบกระเป๋าตังค์ เง้อออ) รายการเสียทรัพย์จะมีอะไรบ้างนั้น ไปมุงด้วยกันเลยจ้า

ป.ล.กระทู้นี้ยังไม่ได้รีวิวผลิตภัณฑ์ให้ดูกันนะจ๊ะ เพราะว่าคงต้องใช้เวลาสักหน่อย หมีน้อยลูกชายท่าทางจะไม่ให้ความร่วมมือเท่าไหร่ ติดตามได้ในกระทู้ถัดไปแล้วกันเนอะ

รายการแรกที่เราจะพาไปมุงน้านนน ได้แก่ ผู้เข้าประกวดจากฝั่งอเมริกา Glamglow holidays set แค่ชื่อก็มีความ Hollywood glam กันทีเดียว สาวๆคงรู้จักกันดีว่าเป็น mask ที่บรรดาสาวๆหวีดกันหนักมากในช่วงนี้ (หวีดทั้งความดีงามและราคาก็เช่นกัน) มีความอยากลองมาตลอดแต่ราคาไม่น่าคบหาสักเท่าไหร่แม่หมีเลยปล่อยผ่าน พอมาเจอว่า Black Friday เจ้าตัวนี้ก็ลดด้วยเลยได้ฤกษ์ประเดิม (พร้อมความรู้สึกผิดที่ลดลงไป 30% ตามสัดส่วนของส่วนลด ถ้าให้ซื้อราคาเต็มคงรู้สึกผิด 300% วัดจากอะไร?)

จริงๆน้อง Glamglow เค้ามาด้วยแพ็คเกจแบบนี้แต่บังเอิญว่ามีความรีบเลยฉีกทิ้งไป โยนทิ้งไป อาศัยรูปจากอินเตอร์เน็ตแทนแล้วกันเนอะ

Glamglow Coremud Kit เซตนี้ประกอบด้วย mask ตัวเด็ดตัวดัง 4 สี 4 สรรพคุณ ตามนี้เลยจ้า

ขอใช้วิธีแทรกรูปแบบนี้แทนแล้วกันนะคะเพราะว่าเวลามีน้อยเดี๋ยวหมีน้อยลูกชายตื่น (กระทู้นี้อาจจะต้องค้างเติ่งไปอีกนาน)  อย่างที่เห็นค่ะว่าเซตนี้มีความคุ้มค่า ราคาน่าคบหาขนาดไหน โดยปกติ full size ของน้อง Glamglow คือ 50 กรัม แต่เซตนี้ให้มาเลยจ้าหลอดละ 30 กรัม 4 หลอด คูณกันดูเองนาจาว่า 4 หลอดที่ได้ในราคาเท่ากับ mask ปกติกระปุกเดียวนี่มันไม่โดนไม่ได้แล้วจริงๆ เข้าใจแม่หมีกันใช่มั้ย ฮ่าๆ

มาถึงรายละเอียดแต่ละสีแต่ละยอดมนุษย์กันบ้าง ขอบอกคร่าวๆแล้วกันเนอะ

หลอดสีดำ Youthmud สูตรที่รวมทั้งความเนียนนุ่ม กระจ่างใส แค่มาร์สไว้ 10 นาที (อะไรจะเริ่ดขนาดนั้น) ขอตั้งชื่อเล่นว่า mask กระชากวัยนะคะ (อายุอานามขนาดแม่หมีนี้ สิ่งนี้คือที่เราตามหา)

หลอดสีฟ้า Thirstymud สูตรสำหรับเติมน้ำให้กับผิว (แม่หมีผิวขาดน้ำพอดี เยี่ยมๆ)

หลอดสีขาว Supermud สูตรที่ช่วยเรื่องความกระจ่างใส (สีผิว nc 35 ของแม่หมีต้องการสิ่งนี้สินะ โดนใจเรย ชอบๆ)

หลอดสีม่วง Gravitymud แค่ชื่อคงบอกได้ว่าช่วยเรื่องอะไร ขุ่นแม่ลูกหนึ่งอย่างแม่หมีต้องการฟื้นฟูความเต่งตึงเป็นที่สุด อ้อ ตัวนี้เป็น peel-off mask นะคะ

เอาอีกแล้วร่ายมาย้าวยาว ลืมบอกไปว่าเซตนี้ราคาปกติอยู่ที่ 60 CHF (คูณ 35.5 เข้าไปนาจาถ้าอยากรู้ราคาเป็นบาท) แต่ Black Friday ได้ลด 30% เหลือราวๆ 42 CHF จ้า วู้ๆ 

ผู้ผ่านการคัดเลือกว่าสมควรแก่การสอยมาเก็บในคอลเลคชั่นเป็นอย่างยิ่งตัวต่อไปคือเจ้าตัวนี้จ้าา

Biotherm แบรนด์สัญชาติฝรั่งเศสผู้โด่งดังเรื่องนำแพลงตอนมาเป็นส่วนผสมสำคัญ รวมทั้งมีผลิตภัณฑ์สำหรับเติมน้ำให้ผิวเป็นตัวชูโรง งานนี้ลด 30% ด้วย ไม่ได้ไม่โดนคงเสียดายไปจนสิ้นปี (เดี๋ยวต้องช้อปแก้ตัวหลังคริสต์มาสแทน ฮ่าๆ)

ป.ล.เดี๋ยวมี suprise กับราคาของ Biotherm ที่จ่ายจริงๆ ติดตามต่อไปนาจา

ตัวแรกที่จะขอนำเสนอคือ

Biotherm Aquasource 50 ml พร้อมของแถม อันได้แก่ โทนเนอร์ขนาด 30 ml และโฟมล้างหน้าขนาด 30 ml

ราคาปกติของเจ้าตัวนี้ แบบปราศจากวี่แววของแถมใดๆจะเท่ากับเซตที่จัดชุดมาให้แบบนี้เป๊ะ คนฉลาดเลือกอย่างแม่หมี (หรือเรียกสั้นๆว่า งก) สาวๆคงไม่ต้องเดาว่าจะเลือกแบบไหนใช่มั้ย สนนราคาค่าเสียหายอยู่ที่ 50 CHF ลดไป 30% เหลือ 35 CHF จ้า

สำหรับตัวนี้เป็นที่อื้ออึงของสาวๆว่าเป็น overnight mask ที่ดีงามจริงๆ

Biotherm Aquasource Night Spa 50 พร้อมขนาดทดลอง 20 ml (ถ้าจะให้ทดลองขนาดนี้แถมไซส์จริงมาเลยดีกว่า ฮ่าๆ) ตัวนี้ก็เช่นกัน full size พร้อมของแถม ราคาเท่ากับแบบที่ไม่ได้จัดเซต ค่าเสียหายอยู่ที่ 58 CHF ลด 30% เหลือ 41 CHF จ้า 

ไอเทมตัวต่อไป Biotherm Aquasource Everplump 40 ml พร้อมของแถมตัวอย่างทดลองขนาด 5 ml ครีมต้านริ้วรอยแรกเริ่ม เหมาะกับทุกสภาพผิว เห็นว่าได้คะแนนรีวิวดีเลยจัดมาลองในราคา 39 CHF ลด 30% เหลือ 27 CHF

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดกับ Biotherm biosource daily exfoliating cleansing melting gel 150 ml เจลล้างหน้าผสมสครับส์ละเอียด 2 สูตร ที่เลือกมาทั้ง 2 หลอดเพราะตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอาตัวไหน ในเมื่อตัดสินใจไม่ได้แม่หมีเลยขอสองเลยจ้า หลอดสีเงินต่างจากหลอดสีม่วงตรงที่ล้างคสอได้ด้วย ราคา 28 CHF ลด 30% เหลือ 19 CHF เลยจ๊ะ

นอกจากแม่หมีจะช้อป skin care ของ Biotherm ได้ในราคาลด 30% แล้ว ในฐานะสาวกคนหนึ่งที่ได้เข้าไปตอบแบบสอบถามของเวบไซต์ Biotherm Switzerland เลยได้บัตรกำนัลเป็นส่วนลดเพิ่มมาอีก 20 CHF งานนี้ตอนจ่ายจริงเลยถูกลงไปอีก ปลื้มปริ่มอิ่มใจมากขร่ะ 

สุดท้าย (จริงๆแร่ะ) กับคอลเลคชั่น Biotherm ทั้งที่ใช้อยู่ก่อนหน้านี้ (ที่รักมากก กล่องยังไม่ทิ้งอ่ะคิดดู) และตัวล่าสุดที่เพิ่มเติมเข้ามาในคอลเลคชั่น เอาไว้โอกาสหน้าจะจัดรีวิวชุดใหญ่ไฟกระพริบ เผื่อจะช่วยสาวๆจีบันตัดสินใจเลือกสกินแคร์ชิ้นใหม่ในคอลเลคชั่นได้ง่ายขึ้น ส่วนค่าเสียหายทั้งหมดทั้งมวลนั้นยิ่งกว่าล้มละลาย บอกเลยค่ะ

Clinique คงเป็นยี่ห้อที่สาวๆรู้จักกันดี สำหรับที่นี่ Clinique เป็นแบรนด์อเมริกันหนึ่งในไม่กี่แบรนด์ที่หาได้ง่ายแต่ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับที่เมืองไทย ดังนั้นเมื่อ Clinique Pep-Start ตัวใหม่ล่าสุด เข้าร่วมรายการลดราคาครั้งนี้ด้วย แม่หมีคำนวณแล้วว่าคุ้มค่าแน่นอนเลยไม่ขอพลาดด้วยประการทั้งปวง 

Clinique Pep-Start มีด้วยกัน 2 สูตรค่ะ กระปุกสีเหลือง Pep-Start Hydro rush ช่วยเรื่องเติมน้ำให้ผิวพร้อม spf 20 ป้องกันแสงแดด ในส่วนของสูตรนี้แม่หมีว่าแม่หมีมีผลิตภัณฑ์ของ Biotherm ที่ช่วยเรื่องนี้ได้ดีอยู่แล้วเลยยังไม่ขอลอง ปล่อยผ่านไปก่อน

กระปุกสีฟ้า ที่แม่หมีตำมานั้นคือ Pep-Start Hydro blur moisturizer เหตุผลที่อยากลองผลิตภัณฑ์ตัวนี้เพราะเห็นบรรดาบล๊อคเกอร์หลายคนรีวิวกันว่ามันเป็น moisturizer ที่ 2 in 1 นะยูว์ นอกจากจะให้ความชุ่มชื้นแล้วยังทำหน้าที่เป็น primer ได้ดีอีกด้วย แค่นั้นแหละจ๊ะ กิเลสก็เกิดเลย ฮ่าๆ Pep-Start กระปุกนี้ 50 ml (มีขนาด 30 ml ด้วยนะจ๊ะ) ราคา 33 CHF ลด 30% เหลือ 23.5 CHF จ้า

ส่วนรายการของแถมในเซตนั้นเว่อร์วังอลังการมากค่ะ ตามนี้เลยเนอะ

Pep-start eye cream ขนาด 5 ml

Pep-start 2 in 1 exfoliating cleanser ขนาด 30 ml เป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของ Clinique เหมือนกันค่ะ full size ขนาด 125 ml

กระเป๋าใส่คสอ สีส้ม-ชมพูสดใส

ส่วนโฟมล้างหน้าขนาด 10 ml นั้นทางร้านแถมมาให้ค่ะ พร้อม Clinique moisture surge ขนาด 7 ml ลิปกลอสและมาสคาร่าขนาดทดลองแต่ว่าน้องสาวสอยต่อไปแล้วเลยไม่มีรูปให้ดูกัน

เอาล่ะ หมวดสกินแคร์จบไปแล้ว ยังเหลือ make up กับน้ำหอม อีกนิดหน่อย ที่ไม่ได้โดนไปเยอะนักเพราะว่าที่นี่ไม่มี Sephora ให้ช้อปคสอ สนุกเหมือนที่อเมริกาหรือไทยแลนด์แดนสยาม ความหักห้ามใจเลยบังเกิด กะว่ารอกลับไปจัดที่ไทยดีกว่าถ้ามีโอกาส ไอ้ที่ว่าได้มานิดหน่อยนั้น มีอะไรกันบ้าง ไปดูกัน 

Naked Skin Weightless concealer ตัวนี้เด็ดดังแค่ไหนสาวๆคงรู้กันอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดอะไรมาก โดนสิคะ ราคา 31 CHF ลด 30% เหลือ 21.7 CHF

ส่วนคสอแบรนด์เยอรมัน Catrice ตัวนี้ไม่ลดนาจาแต่โดนไปเพราะแพ้ทางแพ็คเกจจิ้งล้วนๆ ลิปสติก Holiday Edition สีแดงอมน้ำตาล แพ็คเกจเป็นไม้ไผ่สวยดี ราคาเลยแพงขึ้นจากลิปสติกของแบรนด์นี้นิดหน่อย ราคา 7 CHF เดี๋ยวโอกาสหน้าจะมารีวิวและ swatch สีให้ดูกันเนอะ วันนี้เอาแค่นี้ก่อน ยาวมากแล้วเนี่ย 

สุดท้าย (สุดท้ายจริงๆ สำหรับวันนี้ แสดงว่าจะมีมาอีก ใช่ขร่ะ ถูกต้อง) คงไม่ต้องพูดอะไรกันมาก ให้ภาพเล่าเรื่องก็พอ วันหลัง (อีกล้าวว) จะมารีวิวน้ำหอมให้ชมบ้าง แต่ว่าอย่าคาดหวังอะไรมากเป็นแค่มือสมัครเล่นขร่ะ หุหุ 

Dolce&Gabbana มี light blue โด่งดังมากๆ ในขณะที่ The One ที่สวยหรูดูแพงและหอมแบบแพงๆ ก็แอบดังอยู่เงียบๆ มานานแล้ว เอ๊ะ ยังงัย ฮ่าๆๆ ด้วยสนนราคาปกติที่แพงระยับจับต้องลำบาก เวลาไปที่ร้านทีไรก็ต้องแวะเวียนไปลองบ่อยๆ มาถึงวันนี้โอกาสทองมาเยือนแม่หมีเลยรีบคว้า เป็นราคาโปรโมชั่นของทางร้านที่ลดหนักกว่า Black Friday คือลด 40% กันไปเลย จากราคาปกติของขนาด 50 ml อยู่ที่ 102 CHF ลดลงมาอยู่ที่ 60 CHF ซึ่งมันดีต่อใจมาก ขอสารภาพ

เอาล่ะ สำหรับกระทู้เห่อ(พร้อมสถานะล้มละลาย 8 ตลบที่มาเยือนในบัดดล) ของแม่หมีในวันนี้น้าน ก็ขอจบลงด้วยประการฉะนี้ เอาไว้วันหลังจะมาแก้ตัวกับรีวิวผลิตภัณฑ์หลายๆตัวที่ติดไว้ (ขอให้หมีน้อยให้ความร่วมมือกับแม่หมีทีเถ้อะ เพราะกระทู้ยาวเหยียดนี้เริ่มเขียนจริงๆจังๆตอนบ่ายมาเสร็จเอาตอนตี 2 มีความพยายามเป็นเลิศค่ะขุ่นแม่)

สำหรับวันนี้ขอลาสาวๆไปนอนก่อนนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

Discussion (7)

โอ้ววววววววววววว
น่ารักมากเลยยยค่าาา Clinique Pep-Start น่าลองมากกกกกแอร้ยย