before bed routine : ฉบับนักเรียนนักศึกษากับ items ราคาไม่เกิน 500 บาท

สวัสดีค่ะสาว ๆ จ๋าก็ทำกระทู้แต่งหน้ามาเยอะแล้วเนอะ แต่ไม่เคยลองได้แบ่งปันการล้างเครื่องสำอางและการดูแลผิวเลย วันนี้เลยอยากมาแชร์ item ที่จ๋าใช้ในการทำความสะอาดหน้า และบำรุงอีกนิดหน่อย ซึ่งทั้งหมดใช้มาค่อนข้างนานเลยทีเดียว ที่สำคัญเป็นรีวิวฉบับราคานักศึกษา เพราะทุกชิ้นราคาไม่เกิน 500 บาทค่ะ

เริ่มจากขั้นตอนแรก หลังจากกลับมาถึงห้อง จ๋าจะเริ่มล้างเครื่องสำอางด้วย

Biore moisture cleansing liquid

ตัวนี้ราคา 400 กว่าบาท ใช้มาประมาณ 2 - 3 เดือน

วิธีใช้ : นวดออยลงบนใบหน้าที่แห้โดยใช้มือที่แห้ง เพราะถ้ามีน้ำมาผสมระหว่างการล้าง ออยนี้จะล้างเครื่องสำอางไม่ออกเลย แต่ถ้ามั่นใจว่าหน้าแห้ง มือแห้ง รับรองว่าสะอาดแน่นอนค่ะ

เหตุผลที่ซื้อ : เป็นขวดปั๊มใช้ง่าย และไม่ต้อใช้สำลี

ความประทับใจ : ล้างเครื่องสำอางได้สะอาดมาก ๆ แม้กระทั่งมาสคาร่ากันน้ำที่ว่าล้างยาก เป็นคลีนซิ่งที่เหมาะกับคนที่แต่งหน้าเยอะ เพราะถ้าใครที่แต่หน้าประจำวันไม่หนัก แบรนด์อื่นที่ถูกกว่านี้ก็ล้างออกค่ะ และข้อดีอีกข้อที่ชอบมาก คือเราไม่ต้องออกแรงถูกที่หน้ามาก แค่ใช้มือกับออยนวด เครื่องสำอางก็ออกมาหมดแล้ว ไม่ต้องมีแรงเสียดสีกับผิวหน้ามาก 

หลังจากที่ล้างเครื่องสำอางเสร็จแล้ว ก็ตามด้วยการล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำสะอาด และทำความสะอาดผิวหน้าด้วย

 Ziiit wash

ตัวนี้เป็นสบู่เหลวล้างหน้า ที่เหมาะกับคนที่เป็นสิว ราคา 270 บาท

วิธีใช้ : เหมือนสบู่เหลวล้างหน้าทั่วไปเลยค่ะ คือปั๊ม ล้างหน้า แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

เหตุผลที่ซื้อ : ก่อนหน้านี้จ๋าเป็นสิวฮอร์โมนช่วงรอบเดือนเป็นว่าเล่น สังเกตว่าสิวนั้นจะเป็นสิวอักเสบซะส่วนใหญ่ และขึ้นที่บริเวณเดิมซ้ำ ๆ ขึ้นในช่วงก่อน หรือหลังเป็นรอบเดือน พอเราเริ่มมีสิวทุกเดือนก็เริ่มไม่สบายใจ เลยเริ่มใช้เจลแต้มสิว แต่ผลที่ได้คือดันเป็นสิวถี่ขึ้น ทีนี้สิวไม่ได้มาแค่ช่วงรอบเดือนแล้ว แต่ขึ้นตลอด ไม่สบายใจจนเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิว ซึ่งตัวแรกที่สองคือ Ziit wash ตัวนี้ เพราะเคยได้ยินชื่อแบรนด์ในสเปร์ฉีดสิว

ความประทับใจ : Ziiit wash มีข้อดีคือ pH balance ทำให้เป็นสบู่เหลวที่ไม่รุนแรงเกินไปสำหรับผิวหน้า ไม่เป็นกรด ไม่เป็นด่างเกินไป เมื่อเทียบกับ pH ของผิวหน้า เพราะบางตัวจะเน้นความเป็นกรดเพื่อจัดการสิว ซึ่งทำให้ผิวเราบางลง ข้อดีที่เห็นได้ชัด ๆ หลังจากใช้คือผิวหน้าไม่แห้งตึงเลย จะคงความลื่นไว้นิดนึง หลังจากล้างออก แต่ไม่เป็นผลเสีย ส่วนตัวที่ลองใช้มา สิวรอบเดือนที่เคยเป็นก็ไม่มีแล้ว สังเกตบริเวณที่เป็นสิวซ้ำ ๆ ตอนนี้น่าจะหายขาดแล้ว แต่เพื่อความอุ่นใจจ๋าก็ยังมีติดไว้ เพราะซื้อซ้ำได้บ่อย ๆ ราคาไม่แรง เราจะเห็นว่าเวชสำอางเพื่อรักษาสิวเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มที่ราคาค่อนข้างแพง แต่ตัวนี้ก็ดูแลสิวได้ดีเหมือนกัน แต่เป็นราคาที่จับต้องได้ ไม่ต้องกังวลว่า พอหมดแล้วต้องเดือดร้อนกระเป๋า ใช้ได้ไม่ขาดช่วง 

หลังจากทำความสะอาดหน้าเสร็จเรียบร้อย ก็ซับหน้าให้แห้งแล้วเริ่มบำรุงค่ะ ตัวหลัก ๆ ที่ช่วยเรื่องคามชุ่มชื้นคือ

ZA perfect solution moisturizer

moisturizer ตัวนี้ราคา 399 บาท เป็น moisturizer ในเซ็ท ZA perfect solution

วิธีใช้ : ใช้ทาให้ความชุ่มชื้นหลังล้างหน้า เนื้อครีมสีขาวขุ่น ไม่เหนียวเหนอะหนะแน่นอนค่ะ

เหตุผลที่ซื้อ : ตัวนี้เราซื้อตามพี่กุ้งอินเตอร์ เพราะตอนนั้นมีปัญหาหน้าแห้ง แต่ไม่อยากซื้อทั้งเซ็ทเลยเลือกลองตัวนี้

ความประทับใจ : หลังใช้ประมาณ 2 สัปดาห์ ผิวละเอียดขึ้นจนรู้สึกได้ และไม่มีปัญหาหน้าแห้งลอกเป็นขุยเวลาลงรองพื้นเหมือนก่อนใช้ แต่เป็นความชุ่มชื้นที่สมราคา คือไม่ได้ให้ผิวที่นุ่มฟูเหมือน The history of whoo แต่ก็ไม่ได้แย่จนเสียดายเงิน กลายเป็นว่าตอนนี้เรื่องหน้าแห้งดีขึ้น แต่จ๋ากลับมีปัญหารอยดำจากสิวแทน จากตอนที่บอกว่าเป็นสิวฮอร์โมน คือตัวนี้ช่วยเรื่องของความชุ่มชื้นดีจริง แต่ไม่ช่วยเรื่องรอยสิว หรือเรื่องอื่น ๆ ดังนั้นถ้าจะใช้ยาว ๆ อาจจะต้องหาตัวอื่นมาเสริม หรือถ้าเจอตัวที่ช่วยทั้งเรื่องหน้าแห้งและรอยสิวในขวดเดียวก็คงไม่ซื้อต่อ แต่ตอนนี้ยังไม่เจอก็ถือว่าเป็น moisturizer ที่ดี และคุ้มค่าขวดนึงค่ะ เพราะไม่รู้ว่าเลิกใช้หน้าจะกลับมาแห้งไหม

หลังจากที่ลง moisturizer ไปแล้ว จ๋าจะลงบำรุงอีกตัวนึง เป็นตัวสุดท้ายของสกินแคร์รูทีนของจ๋าแล้วนั่นคือ

Nature republic Aloe vera

ราคาร้อยกว่าบาทเองค่ะ ซื้อช่วงโปร

วิธีใช้ : เจลนี่มันอเนกประสงค์มาก แต่จ๋าใช้กับผิวหน้า บริเวณจมูก เพื่ออะไรดูข้อต่อไปค่ะ

เหตุผลที่ซื้อ : จ๋าผ่านการศัลยกรรม เสริมจมูกมาสองครั้ง เพราะรอบแรกมีปัญหา จมูกจะทะลุ เลยไปแก้มาค่ะ หลังจากแก้ หมอแนะนำให้ใช้ aloe vera ช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ เพราะเนื้อจมูกบางมาก จากการที่ร่างกายพยายามกำจัดซิลิโคนออก พอใช้แล้วรู้สึกว่าปลายจมูกดีขึ้น แต่ก็ยังไม่คอนเฟิร์มว่า Aloe vera ช่วยให้มันดีขึ้นจริง เพราะมันอาจจะดีขึ้นเนื่องจากจ๋าเปลี่ยนซิลิโดนมาเป็นอันที่เหมาะกับตัวเองมากขึ้นก็ได้  แต่ยังไงแล้วก็อยากแนะนำตัวนี้ไว้ให้เพื่อน ๆ เพราะเท่าที่จ๋าลองดูแบรนด์ที่เราคุ้น ๆ กัน nature republic มีส่วนผสมของ aloe vera มาที่สุด และแอลกอฮอล์กับน้ำหอมผสมน้อยที่สุด ถ้าไม่รวมกับ aloe vera ที่ขายตามร้านขายยาค่ะ

และมาถึงขั้นตอนสุดท้ายก่อนนอนคือKiss Me Heroine Make. Rotation Eyebrow Rich Serum

ราคาตัวนี้ 420 บาท เป็นเซรั่มบำรุงคิ้ว

วิธีใช้ : พอเราหมุนฝาออกมาจะเจอกับแปรงคล้างลิปจิ้มจุ่ม ก็ปาดลงบนคิ้ว ใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่จ๋าใช้แค่กลางคืน เพราะตอนเช้ารีบ ฮ่า ๆ ถ้าเราลงมาก ก็ต้องให้เวลาเค้าแห้งนิดนึง ถึงจะแต่งหน้าต่อได้ ก็เลยตัดออกไปค่ะ สำหรับตอนกลางวัน

ความประทับใจ : ตัวนี้อาจจะไม่ช่วยให้คิ้วหนาขึ้นจนน่าตกใจแบบเซรั่มปลูกคิ้วปลูกหนวดที่ขายทั่วไปนะ แต่ก็เป็นแบรนด์ที่เชื่อถือได้ ใช้แล้วอุ่นใจ เรื่องความหนา ไม่มากเท่าไหร่ แต่ขนคิ้วยาวขึ้นค่อนข้างชัด ไม่ทำให้คิ้วรก คือคิ้วที่ขึ้นมาใหม่ยังเป็นทรงคิ้วอยู่ ผลิตภัณฑ์เป็นเนื้อเจลใส ไม่มีกลิ่น ไม่เหนียวเหนอะหนะ พอขนคิ้วยาวขึ้นแล้วรู้สึกว่าเวลาปัดมาสคาร่าคิ้วแล้วคิ้วสวยขึ้น เรียงเส้นขึ้น สำหรับใครที่กำลังมองหาเซรั่มที่ช่วยบำรุงคิ้ว ก็แนะนำตัวนี้นะคะ ปลอดภัย ไม่เสี่ยง แถมไม่แพ้ด้วยค่ะ 

จบไปแล้วสำหรับ before bed routine ของจ๋า เป็นขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน เพราะผิวหน้ายังไม่ได้มีปัญหามาก อย่างไรก็ดี ใครที่กำลังอยากลองสิ่งเหล่านี้อยู่ อยากให้พิจารณากับสภาพผิวของตัวเอง และหารีวิวที่คนรีวิวสภาพผิวใกล้เคียงกับตัวเองด้วยนะค้า เพราะจ๋าผิวผสม ไม่แพ้น้ำหอม ไม่แพ้แอลกอฮอล์ เนอะ

หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับสาวๆนะคะ พบกันใหม่หระทู้หน้าค่ะ สวัสดีค่ะ