5 สเต็ป บอกพ่อแม่ว่ามีแฟน ต้องเริ่มยังไง

มีแฟนแล้วบอกพ่อแม่ดีไหม ...  บอกยังไงดี ... บอกแล้วจะได้อะไร ... ไม่บอกดีกว่าไหม ... ไม่อยากให้พ่อแม่มายุ่งเรื่องส่วนตัว แต่ก็ไม่อยากปิดบัง เพราะถ้าเขารู้เองทีหลัง เดี๋ยวก็โดนบ่นอีกว่าทำไมไม่บอก ... ชิงบอกก่อนเลยดีไหม ... !

โอ้ยยย!!! กำลังสับสนอยู่ใช่มั้ยล่ะ แหม่ ... ก็เรื่องพ่อแม่กับความรักของเรา นี่มันช่างซับซ้อนและสับสนจนกลายเป็นปัญหาคาใจที่สาวๆ หนุ่มๆ หลายคนถามเข้ามามากเลยทีเดียว

วันนี้พี่เอแคลร์ เลยจะมาแชร์ "5 สเต็ป บอกพ่อแม่ว่ามีแฟน" จากประสบการณ์ตรงล้วน ถ้ายังไม่รู้ว่าต้องเริ่มยังไง ตามมาดูกันเลย

1. ชิงบอกก่อน

จากประสบการณ์แล้ว ชิงบอกก่อนได้เปรียบทุกประตู พอบอกไป พ่อ-แม่ อาจจะอึ้ง สตั๊นไปเล็กน้อย แอบผิดหวังเล็กๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรมากหรอก ก็มาบอกแล้วหนิ ไม่ได้ไปแอบคบกันซะหน่อยหลังจากนั้นก็ใช้วิธี ค่อยๆ แพลมเรื่องแฟนให้เค้ารู้ทีละนิด ละหน่อย เอาแต่เรื่องดีๆ นะ เรื่องไม่ดีอันนี้เก็บไว้เถอะ อย่าง แฟนติวเลขให้ด้วย เค้าอยากเข้าวิศวะ นี่ตั้งใจอ่านหนังสือมากมายเลยนะ ให้พ่อแม่เห็นว่า แฟนเราเป็นเด็กดีที่สุดในโลก พ่อแม่จะได้สบายใจ แฟนเราต้องมีข้อดีอะไรสักอย่างสิน่า หามาให้ได้สักข้อ สองข้อสิ

2. บอกตอนอารมณ์ดี 

ลองหาเวลาที่ พ่อ-แม่ อารมณ์ดีๆ แล้วบอกเรื่องนี้สิ เรื่องลูกมีแฟนอาจจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องดีๆ ของพ่อแม่ก็ได้ ใครจะไปรู้ แต่ก็เข้าใจนะว่าหาเวลาเหมาะๆ ยากมากกก พอเป็นวัยรุ่นระหว่างเรากับพ่อแม่เริ่มมีช่องว่างมากมาย ไม่ได้สนิทกันมากขนาดปรึกษาได้ทุกเรื่อง แต่ถ้าถามว่าบอกพ่อแม่ว่ามีแฟนจะดีไหม เราว่าดูตามสถานการณ์ดีกว่า แต่ควรบอกนะ เพราะถึงไม่บอก เชื่อสิ พ่อแม่ต้องหาทางสืบรู้จนได้นั่นล่ะ!

3. ทำให้เค้าเชื่อใจ

ถ้าตั้งใจจะบอกแล้วล่ะก็ ช่วงก่อนหน้านั้นลองทำตัวดีๆ ทำตัวให้น่ารัก พยายามพรีเซ้นส์ตัวเองให้พ่อแม่เห็นหน่อย ว่าช่วงนี้เราตั้งใจเรียนมากขึ้นนะ แถมจริงจังกับเรื่องมีสาระมากเป็นพิเศษ เพื่อให้พวกเค้าไว้ใจถ้าบอกด้วยตัวเอง พ่อแม่จะเชื่อใจเรามากขึ้นด้วย แต่ถ้าปล่อยให้รู้เอง เค้าจะไม่ไว้ใจเราอีกเลย การกล้าหาญบอกเค้าไป จะทำให้เราดูเป็นผู้ใหญ่ในสายตาพ่อแม่มากขึ้นไปอีก

4. แก้เกม ถ้าบอกแล้วพ่อแม่โวยวาย

ถ้าบอกไปแล้วพวกเค้าเกิดไม่พอใจ อารมณ์เสีย ไม่อยากให้มีแฟน โวยวายสั่งห้าม บ่นว่าเราอีกต่างหาก ถ้าผลออกมาแบบนี้ คงต้องทำใจแล้วล่ะ ต้องเข้าใจว่าพ่อแม่ห่วงเรามากแค่ไหน เค้าคงไม่ต้องการให้เราเสียใจผิดหวัง ไม่ต้องการให้เรามีปัญหาเรื่องรักระหว่างเรียน 

วิธีแก้เกมคือ ลองกลับไปที่สเต็ปที่ 3 ทำให้พ่อแม่เชื่อใจช่วงนี้เราต้องทำตัวดีๆ ให้พ่อแม่เห็นว่า มีแฟนมีแต่เรื่องดีๆ ทำให้เราดีขึ้น การเรียนดีขึ้น ตั้งใจเรียนมากขึ้น แถมแฟนเราก็สนับสนุนแต่เรื่องดีๆ ทุกเรื่อง ทำให้พ่อแม่เห็นว่ามีแฟนนี้มีข้อดีมากมาย ไม่ได้มีแต่ข้อเสียอย่างที่เข้าใจ

5. สลายความนอยด์ของพ่อแม่

หน้าที่ของเราคือ ทำอย่างไรให้พวกเขากังวลใจน้อยที่สุด ช่วงนี้ต้องทำตัวเงียบสงบ หมั่นพรีเซ้นส์ชีวิตดี๊ดีของเราให้พ่อแม่ได้รับรู้บ้าง เช่น ทำรายงานแล้วครูชม ทำข้อสอบได้ดี อยากไปเรียนพิเศษเพิ่ม นัดติวกับเพื่อน อะไรที่ดีๆ ทำให้พ่อแม่เห็นให้มากที่สุด ความนอยด์ของท่านจะลดลงไปเอง ให้เวลาท่านหน่อยนะ

เรื่องพ่อแม่นี่ละเอียดอ่อนนะ สำหรับคนที่คุยกับพ่อแม่ได้ทุกเรื่อง พวกเธอโชคดีมากนะที่มีพ่อแม่ที่เข้าใจ แต่สำหรับคนที่พ่อแม่ที่ไม่ได้เข้าใจมากนัก ก็ไม่ต้องน้อยอกน้อยใจไปหรอกนะ เพราะเราอาจเป็นคนที่เข้าใจท่านได้ดีที่สุดก็ได้ 

ถ้าเราเข้าใจท่านให้มากๆ วันนึงพ่อแม่จะเข้าใจเรามากขึ้นเองล่ะ

ใครมีประสบการณ์บอกพ่อแม่เรื่องความรัก เรื่องแฟน ใครเคยได้รับคำแนะนำดีๆ จากพ่อแม่ ก็เข้ามาแชร์ให้ฟังกันหน่อยสิ หรือใครที่กำลังจะบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ เข้ามาคุยกันได้ เพื่อนๆ ในนี้อาจจะให้เทคนิคการคุยกับพ่อแม่ที่เวิร์คๆ ก็ได้นะ

Discussion (6)

เรามีแฟนแล้วแต่ไม่กล้าที่จะบอกพ่อปม่เพราะเขาคิดเสมอเลยว่าคนมีแฟนจะต้องท้องก่อนเสมอเราก็พยาขามบอกแล้วว่าเราจะไม่ทำแบนั้นจะตั้งใจเรียนให้จบแต่จะคบกับแฟนแบบนี้ไปเรื่อยๆก่อนเขาก็เถียงสุดใจเลยค่ะว่าคนมีแฟนตอนเรียนจะไม่ได้ดีกันทุกคนแบบนี้เราควรทำยังไงดีคะ
อยากให้แม่เข้าใจว่ามีแฟนได้เราอยากได้กำลังใจ😔😔
คือแฟนผมบอกว่าจบม.3อยากมาอยู่กับผมส่วนตัวผมอายุ17แล้วเดือนสิงหาก็18คือรักกันมากจนอยากอยู่ด้วยกันอ่ะครับผมคบเด็กที่อายุห่างจากผม3ปีจะติดคุกมั้ยครับล่ะแม่แฟนผมก็รู้แล้วด้วยว่าผมคบกับคนนี้ผมไหว้แม่แฟนแล้วด้วยแต่ผมไม่รู้จะบอกพ่อแม่ผมยังไงดีเพราะผมเคยบอกว่ามีแฟนแต่ไม่บอกว่าเขาจะมาอยู่ด้วยนะแล้วพ่อแม่ก็โวยวายด่าผมแล้วก็เตือนผมว่าจะทำอะไรก็ระวังหน่อยนะผมก็ตอบว่าครับผมจะระวังครับ แต่คนปัจจุบันเขารักผมมากผมก็รักเขามากเช่นกัน เลยคุยกับแฟนผมว่ามาไหว้แม่เค้ามั้ยแฟนผมก็ตอบว่าไปสิ แล้วผมควรบอกพ่อแม่ยังไงดีครับถ้าผมอยากให้แฟนผมมาอยู่ที่บ้านผมด้วย ช่วยบอกผมทีครับ ถ้าอ่านแล้วรู้สึกมึนๆก็ขอโทษด้วยนะครับ
เราไม่กล้าบอกเท่าไหร่เลยอ่ะ เพราะมันดูน่าอายอ่ะ ขนาดเรื่องส่วนตัวเรายังคิดอยากเลยว่าจะบอกยังไง เพราะพ่อแม่เราจะเป็นคนที่จะเป็นคนที่เข้าใจเราอยากมากกก
คบกับแฟนมาเกือบปีแล้ว ฝ่ายเขาก็รู้ฝ่ายเราก็รู้แค่ครอบครัวฝั่งแม่ ละก็ตัวแม่เขาด้วย แต่คือเราไม่กล้าบอกพ่อ เพราะครั้งนึงเคยมีมาแล้วพ่อเขาไม่ชอบเขากลัวนั้นนี้แต่บางทีมันมากเกินไปมันก็ทำให้เรารู้สึกอึดอัดละไม่กล้าที่จะบอกอะไรในหลายๆอย่างจนเราต้องมาคุยกับแม่เรา ใช่ว่าแม่จะยอมฟังเกือบทุกอย่างก็จริงแต่ยังไงในในของเขาก็กลัวพ่ออ่ะ คือการทีเราจะมีแฟนทั้งที่เราโตแล้วจะทำงานแล้ว แต่เขาก็ไม่ยอมรับสักที ข้อดีของแฟนเราก็พูดให้ฟัง ละข้อเสียก็พูดให้ฟัง แต่ส่วนพ่อไม่กล้าเปิดใจคุยด้วยเลย ความรู้สึกแย่มากอ่ะ ที่ไปไหนกับแฟนแถวบ้านทีก็ต้องมาระแวงพ่อ แค่คนเดียว มันอึดอัดไปสะทุกอย่าง
คือเรามีเเฟน เเล้วไม่อยากปิดบังเเม่อยากทำให้ เเม่ เเละตัวเราสบายใจด้วย ตอนไม่บอกนี่อึดอัดมาก เเอบคุยกัน เลยตัดสินใจบอกเเม่ เเต่พอบอกไปเเม่ก็โวยวายใหญ่ ไม่ฟังอะไรเราเลย บอกห้ามอย่างเดียวเเถมด่าเราซ้ำ บอกว่ามีเเฟนอะไรไร้สาระ รอให้เรียนจบก่อน ค่อยมี เเม่บอกเเม่มีตอนอายุ23 เเล้วเรา่ต้องรอตอนอายุ23เลนหรอ เเม่บอกผู้ชายหลอกเอาอย่างเดียว คือมันก็ไม่ใช่กับทุกคนตอนนั้นเราเถียงสุดใจเลย เราควรทำยังไงให้เเม่เข้าใจเรา มันก็มีข้อดีข้อเสียของมัน เเต่เราก็พยายาม ทำให้มันดีขึ้น ทั้งการเรียน  งานบ้าน นิสัยก็ปรับให้ดีขึ้น เเต่คือเเม่เร่เจอเเต่คนหลอกมาทั้งเลย ไม่อยากให้เราเจอเเบบเเม่ เราก็เข้าใจเเม่ เเต่เเม่ก็ต้องเข้าใจเราบ้างสิ  เราควรทำยัง ไงดี โอ้ยย~ ?