REVIEW : เปิดประสบการณ์น้ำแตกกกกก !!!! 18+ 555
semisp189อ๊ะๆ ๆ อย่าพึ่งตกใจกับชื่อกระทู้กันนะคะ เพราะที่บอกว่าน้ำแตก ก็แตกจริงๆค่ะ แต่!แตกที่ว่าเนี่ยหมายถึงครีมน้ำแตกนะคะ ไม่รู้ว่าสาวๆในนี้คิดไกลกันไปถึงไหนแล้วน้า หรืออาจจะแอบผิดหวังที่กระทู้ไม่ใช่อย่างที่คิดเอ่ย 555555ก็เห็นว่าช่วงนี้อากาศร้อนเนอะ เลยอยากจะตั้งชื่อกระทู้ให้สาวๆกระชุ่มกระชวยกันสักนิสสส! พูดถึงหน้าร้อนก็ใกล้สงกรานต์แล้ว สาวๆจีบันหลายคนก็คงอยากรีบประทินผิวหน้าของตัวเองให้ขาวสวย เป๊ะปัง ท้าลมท้าแดด เอ๊ะ! หรือจะเอาไว้อวดหนุ่มๆกันน้าเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ครีมน้ำแตกที่เราพูดถึงเนี่ย หลายๆคนก็คงจะเคยได้ยินได้รู้จักกันมาบ้างแล้ว เพราะมีหลายแบรนด์เชียวล่ะ ที่ผลิตครีมที่ว่านี้ออกมาให้ได้ลองกัน ซึ่งเนื้อครีมเนี่ยจะมีคุณสมบัติที่เมื่อทาวนๆแล้วจะแตกตัวออกมาเป็นน้ำ! ฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อค่ะ วันนี้เราก็เลยอยากจะมาแชร์ให้ทุกคนดูกันว่าตัวไหนเป๊ะ ตัวไหนปัง ไปดูกันดีกว่า เริ่ม !
...
1.Dr.Jart Whitening Water Dropเริ่มกันที่ตัวแรกนะคะ ต้นตำรับครีมน้ำแตกที่เป็นเจ้าแรกในท้องตลาด ซึ่งสาวๆต้องรู้จักกันเป็นอย่างดี และแน่นอนว่าเป็นตัวแรกที่เราลองใช้ด้วยนะจ๊ะ ด้วยสรรพคุณที่ให้ความชุ่มชื้นและช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใสทันทีที่ใช้ พร้อมทั้งมอบความสดใสและกระชับผิวหน้าให้ดี๊ดียิ่งขึ้น หูยฟังแค่นี้ก็อดใจไม่ไหวจนต้องรีบซื้อมาใช้ทันใดเลยค่ะ อ้อ!แอบบอกก่อนว่าตัวที่เอามารีวิวเป็นขนาดเล็กเนอะ เหตุผลก็ไม่ใช่อะไร งบน้อยจ้ะงบน้อยT^T 5555 คือก่อนหน้านี้เราก็ใช้หลอดใหญ่อ่ะแหล่ะ แต่จะให้ซื้อใช้ตลอดก็สู้ราคาไม่ไหวขอกระเถิบงบลงมานิสนึงง
...
2. Cathy Doll : Water Splash Essence With L-Glutathioneตัวต่อมา ครีมน้ำแตกจากค่าย Karmart แบรนด์Cathy Doll อันนี้แอบติดตามตั้งแต่เค้าทำการตลาด รู้สึกจะเคยมีพลอย เฌอมาลย์เป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วยแหล่ะ แถมยังเน้นเรื่องความขาวกระจ่างใสทันที แล้ววัยรุ่นที่รักความขาวใสอย่างเราจะทนทานไหวได้ยังไงล่ะคะ!! ตัวนี้ทางแบรนด์เค้าเคลมไว้ว่าเป็น 3in1 คือ ครีม+เซรั่ม+เอสเซนต์อณูน้ำ ซึ่งทาแล้วช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสทันที นอกจากนั้นยังช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวจากน้ำแร่ออนเซนอีกด้วยนะเนี่ย พอแอบส่องด้านหลังเค้าเขียนว่า Made In Korea ด้วยแหล่ะเธ๊ออ
...
3. Labstory : Oasis Whitening Water Dropมาถึงตัวสุดท้ายยยย คือแบรนด์Labstory นั่นเองจ้ะ ตัวนี้เป็นครีมน้ำแตกอิมพอร์ตจากเกาหลีกันเลยทีเดียว เราเคยซื้อจากWatsons แต่ตอนนี้ไม่เจอแล้วอ่ะ เลยต้องไปสั่งซื้อตามเว็บออนไลน์แทน คุณสมบัติก็คล้ายคลึงกับตัวอื่นๆคือเมื่อทาแล้วครีมจะแตกตัวเป็นน้ำ และให้ความชุ่มชื้น ลดเลือนจุดด่างดำ ผิวคล้ำเสียต่างๆและลดความมันบนใบหน้าอีกนะจ๊ะ
...สรุปผลรีวิวนะเออDr.Jart ตัวนี้เด่นมากเรื่องความชุ่มชื้น คือใช้แล้วรู้สึกได้เลยว่าผิวชุ่มชื้นขึ้นจริงๆเนื้อครีมซึมไวมากและแตกตัวออกมาเป็นน้ำเยอะมั่กๆ แต่ไม่ค่อยเห็นผลเรื่องความขาวเท่าไรนะกลิ่นก็แอบแรง แต่เรื่องของความชุ่มชื้นและเบาบางต้องยกให้เค้าจริงๆค่ะ ส่วนราคาที่อาจจะแรงเกินไปหน่อย สำหรับคนงบน้อยอย่างเราเป็นต้น T^T ตอนนี้ก็เลยต้องพึ่งไซส์เล็กไปยาวๆค่ะ 555 ก่อนนี้เราเคยซื้อที่ช็อป Central World เป็นประจำ แต่พอตอนหลังมันปิดเลยต้องพรีออเดอร์เอาแทน ตอนสั่งมาราคา 335 บาทเด้อCathy Doll ตัวนี้แอบปลื้มตรงที่ทาแล้วขาวเลยนี่แหล่ะเรื่องความชุ่มชื้นเค้าก็ไม่ทิ้งนะ เนื้อครีมซึมไว กลิ่นหอมอ่อนๆ สาวคนไหนรักความขาวปิ๊งต้องตัวนี้เลยค่ะใช้ในวันเร่งรีบน่าจะเหมาะมาก และด้วยราคาสบายกระเป๋า จะตำกี่รอบๆกระเป๋าก็ไม่แบนนะจ๊ะ ตัวนี้แอบเห็นที่ 7-eleven ซองละ 25 บาทเองอ่ะ ใครสนใจไปลองตำกันดูน้าLabStory ตัวนี้ก็ให้เรื่องความชุ่มชื้นเหมือนกันแม้จะไม่เท่าDR.Jart แถมออกไปทางเหนอะหนะผิว และราคาก็แอบแพง(อีกแล้ว) เรื่องความขาวสำหรับเราไม่เห็นผลคิดว่าน่าจะเน้นไปทางบำรุงมากกว่านะเนี่ย เลยอาจจะดูดร็อปจากสองตัวบนไปบ้าง แต่ว่าถ้าคนที่หน้าแห้งๆมากๆก็แนะนำตัวนี้ค่ะ อย่างเราจะหยิบมาใช้ตอนที่ผิวแห้งมากๆถือว่าได้ผลดีเลยนะ
สำหรับเราช่วงหลังๆก็มักจะใช้ Dr.Jart กับ Cathy Doll สลับกันไปแล้วแต่งบ ณ ตอนนั้น 5555 เพราะรู้สึกว่ามันเด่นเรื่องความชุ่มชื้นกับความขาวอ่ะ แล้วก็น้ำแตกสะใจดี 555 ส่วน Labstory ใช้สำหรับตอนหน้าแห้งและก็เป็นขุยจริงๆถึงจะได้ใช้ แต่สาวๆบางคนใช้แล้วอาจจะถูกกับผิวก็ได้นะ เพราะนี่เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวของเราเนอะ ผลที่ได้อาจจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับผิวแต่ละคน ยังไงก็ลองไปตำกันดูนาจา..แล้วเจอกันใหม่รีวิวหน้า บะบายเด้อ
Discussion (9)