รีวิวรองพื้นระดับการปกปิดfull coverageในกรุ ฉาบปิดให้มิดทุกอณูรูขุมขน
แม่บ้านหน้าปัง2315สวัสดีจ้าแม่บ้านหน้าปังกลับมาแล้ววว ช่วงนี้นกฟอพัสเราป่วยเลยวุ่นวายป้อนยาป้อนข้าวนก ไม่รวมช่วยงานโปรดักชั่นสามีเลยไม่ค่อยได้พอกหน้าดูแลบ่งสิวอุดตัน ผลที่ได้คือเพิ่งมาบีบสิวเอาตอนนี้หน้าพังจากริ้วรอยการบีบตรึมมมมมมมม โปรดอย่าตกใจหน้าbeforeนะคะ ดิฉันขอร้อง
ก็เลยถือฤกษ์หน้าพังเป็นการพลีชีพรีวิวรองพื้นระดับความปกปิดสูงลิ่วเพื่อให้เพื่อนๆได้มาพิจารณากันว่าตัวไหนน่าตำ ตัวไหนฉาบดีสีไม่ตกบ้าง โดยมีรายชื่อดังนี้
hourglass stick foundation #sand
Bobbi Brown's Skin Foundation Stick #4
Dermacol makeup cover #218
burberry fresh glow foundation #26
cle de peau silky cream foundation #BF20
shu uemura petal skin foundation #764
armani power fabric foundation #4
urban decay all nighter liquid foundation #4.0
hourglassตัวนี้เราเลือกสีพอดีกับหน้าเป๊ะ เราชอบใช้เวลาออกแดดธรรมชาติที่ต้องเสียเหงื่อเพื่อความหน้าไม่วอก เพื่อความเป็นธรรมชาติ แต่ปกปิดขั้นสูง เนื้อstickเรียบลื่น finishingแนวเรเดี้ยน สีไม่ดร็อปลงอีก
ให้คะแนน
ความปกปิด 9/10
ความถึกทน 9/10 จบวันมีหลุดนิดหน่อย
ความคุมมัน 7/10 ผิวผสมยังใช้ได้ค่ะ
ความเป็นธรรมชาติ 8/10
Bobbi Brown's Skin Foundation Stick #4 ตัวนี้ก็เลือกสีพอดีกับหน้าอีกเช่นกัน finishingแบบธรรมชาติงานผิวๆ ชอบมากอีกตัว ดูไม่หลอกตาดี แต่ก็ไม่ได้ปกปิดโหดเพราะเป็นงานผิว จบวันมีหลุดบ้าง ตัวนี้มีความคุมมันมากกว่าhourนิดหน่อย
ความปกปิด 8/10
ความถึกทน 9/10
ความคุมมัน 8/10
ความเป็นธรรมชาติ 9/10 ทำได้ดีมากสำหรับรองพื้นแบบแท่ง ที่ไม่ฉ่ำวาวเกินไป หรือแมทเกินไป หรือปกปิดจนไม่ธรรมชาติ
Dermacol makeup cover #218 ตัวนี้นางกลบได้แม้กระทั่งรอยสัก และราคาย่อมเยาว์มาก เราชอบใช้เวลาที่ต้องเจอศึกหนักจริงๆแบบแนวงานประกวด งานกลางคืนต้องเจอสปอร์ตไลท์ งานต้องแต่งสายฝอคอนทัวร์หนักๆ สี218ที่เราใช้มันขาวกว่าผิวเราประมาณเกือบๆ2เฉด แต่หลังคอนทัวร์และเซตแป้งแล้วเราชอบมากกว่าตัวที่เท่ากับผิวเราพอดี ในรูปอาจจะดูสยองในความหนาไปหน่อย แต่จริงๆหลังคอนทัวร์และลงแป้งมันอยู่ยงคงกระพันมาก
ความปกปิด 11/10
ความถึกทน 10/10
ความคุมมัน 5/10 ผิวผสมยังใช้ได้แต่อาจจะต้องซับมันและต้องใช้คู่กับแป้งที่คุมมันดีๆเท่านั้น
ความเป็นธรรมชาติ 2/10
อ้อ บางทีก็ใช้ปิดรอยแผลเป็นกับรอยแตกลายแต่ใช้เบอร์222
burberry fresh glow foundation #26 มีดีที่ความโกลว์สมชื่อ แต่ต่างจากรุ่นแรกที่ปล่อยมาคือตัวนี้จะปกปิดมากกว่า เนื้อหนาทึบกว่า ยังให้ความหน้าวาวและความเรเดี้ยน แต่ไม่ทำให้หน้ามันมาก ตัวนี้เราก็เลือกพอดีสีผิว พอทาไปออกแสงธรรมชาติแล้วจะได้ความหน้าเกาหลีอยู่นิดหน่อยหลังลงแป้งแบบไม่วอก
ความปกปิด 7/10
ความถึกทน 8/10
ความคุมมัน 7/10
ความเป็นธรรมชาติ 7/10
cle de peau silky cream foundation #BF20 อ่าาาา รองพื้นกระเป๋าฉีกด้วยราคาที่สูงลิบ ทาแล้วต้องมโนว่าหน้าแพง ไม่!!!ไม่ค่อ ไม่ต้องมโน งานเขาดีจริง ตั้งแต่เนื้อสัมผัสของครีม ถ้าคุณใช้มือปาดลงทั้งหน้าจะสัมผัสได้ว่ามันนุ่มเนียนมากกกกกกก อ๊ากกกกกกก ปกติเราชอใช้แปรง รองพื้นตัวนี้ให้งานละเอียดดีงาม ระหว่างวันเงื่อออกแล้วยิ่งผ่องค่ะ(ไม่รู้เกี่ยวกับการเลือกสีไหม เราเลือกสีขาวกว่าหน้าด้วยแหละ) จบวันนี้ชอบมาก ไม่อยากล้างหน้า สวยเหมือนสาวญี่ปุ่น หน้าละมุนเหลือเกินนนน อ้อ ตัวนี้เนื้อครีมตอนบีบแล้วทาแรกๆจะเห็นว่ามันหน้าๆพอกๆ แต่พอเกลี่ยแล้วจะบางลง เคลือบหน้า แต่ก็นั่นแหละ ตัวนี้ไม่เหมาะกับสาวผิวมันด้วยประการทั้งปวง finishingจะให้ความเรเดี้ยนมากกๆๆๆ ผิวผสมพอใช้ได้อยู่แต่ต้องคู่กับแป้งคุมมันดีๆ มันไม่ทำให้ผิวมันขึ้นนะ แต่บางคนที่ผิวผสมแบบเกือบมันแล้วต้องเตือนไว้ว่ารุ่นนี้อาจจะเยิ้มไป สำหรับสาวผิวแห้งลองเลยเราว่าดีงาม เม็ดสีของยี่ห้อนี้เราว่าแน่นนะ เพราะตอนจบการรองพื้นแม้มันดูบางลงแต่ด้วยพิกเม้นท์แน่นๆทำให้ปกปิดได้ดี แต่ผิวดูไม่หนามาก
ความปกปิด 9/10
ความถึกทน 8/10
ความคุมมัน 5/10
ความเป็นธรรมชาติ 8/10
shu uemura petal skin foundation #764 อ่าาาา เมื่อยามอากาศร้อนและหน้าเราพังรองพื้นตัวนี้คือช่วยชีวิตเราได้ เมื่อหน้าร้อนมีนาเมษาที่ผ่านมา เราใช้นางบ่อยมากกกกก เพราะนางแมท แต่ยังคงความผิวอยู่ ปกปิดดี(แต่ต้องแอบพึ่งคอนซีลเลอร์นิดหน่อย เคสคล้ายๆกันของcdpที่เกลี่ยไปแล้วหายไรงี้) เราใช้สีขาวกว่าผิวเพราะกลัวมันดร็อปอ่ะเลยซื้อเผื่อๆไว้ ดีตรงที่สบายผิว คุมมันดี ได้ลุคแมทไม่ต้องกลัวหน้าละลายเร็วไรงี้(เวลาอากาศร้อนๆจะหลอนว่าถ้าใช้แบบดิ้วอี้ๆแล้วมันจะละลาย55555) แต่ช่วงนี้ฝนตกอากาศเย็นขึ้นเราเลยไม่ค่อยได้ข้องแวะนางเท่าไร ฝนตกเราจะเน้นรองพื้นแบบบางเบาหรือถ้าหนาเราก็ใช้แบบcdpได้ ไม่ต้องกลัวละลายเท่าไร
ความปกปิด 7/10
ความถึกทน 8/10
ความคุมมัน 8/10
ความเป็นธรรมชาติ 8/10
armani power fabric foundation #4 ตัวนี้ชอบเนื้อสัมผัสเวลาเกลี่ยเสร็จที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนสัมผัสกำมะหยี่บนผิว อ่าาาาาาาา แต่เราไม่ชอบสีนี้อ่าาาา เราเลยซื้อแค่แบบแบ่งมาลองเนื้อและความถึกทนก่อนซื้อของจริงที่เล็งเบอร์4.5ไว้ เราว่าสีมันดร็อปได้นะสำหรับรุ่นนี้ เราทาสีนี้ไประหว่างวันหน้าเราดูดร็อปลง คุมมันปานกลาง ปกปิดดีเลย finishingเป็นกึ่งๆแมทไม่แมทแห้งเกินไป ประทับใจสุดก็คือเนื้อสัมผัสนี่แหละ อืมมม ฟินนน
ความปกปิด 8/10
ความถึกทน 8/10
ความคุมมัน 7/10
ความเป็นธรรมชาติ 7/10
urban decay all nighter liquid foundation #4.0 บอกเหตุผลที่เราขายต่อไปดีกว่า คือเราว่าfinishingมันแมทเกินไป แมทจนหน้าเราดูด้านๆ และต้องรีบเกลี่ยเวลาใช้เพราะมันคราบง่าย ยิ่งเวลาลงแป้งจะเห็นชัด หรือถ้าไม่เปิดแอร์แต่งหน้า อู๊ยยย อย่าให้พูด คราบ คราบ คราบ คราบบบบบ คราบง่ายคราบหนัก หน้าไม่เรียบเนียน ก่อนใช้นางต้องเปิดแอร์เย็นๆๆๆๆๆๆๆ ค่อยใช้และตั้งใจเกลี่ยถึงสวยไรงี้ แต่ข้อดีของนางก็มีเยอะนะ เช่น ปกปิดดี เหมาะกับผิวมันแน่นอน สีสวยมาก(เหลืองเข้ากับคนเอเชียดี) เนื้อไม่หนามากแต่ให้การปกปิดสูง แต่นั่นแหละ หลักๆเราไม่รักfinishingของนาง เราเลยต้องเทนางไป
ความปกปิด 9/10
ความถึกทน 7/10 ถ้าเหงื่อออกมันคราบง่ายอ่ะ
ความคุมมัน 9/10
ความเป็นธรรมชาติ 4/10
โว้วววววว จบแล้วค่ะ มหากาพย์รีวิวรองพื้นปกปิดขั้นสูงในกรุ ลบหน้าทาใหม่วนไปจนหน้าแสบไปหมดแล้ว(ขอให้ผลบุญในการรีวิวครั้งนี้ทำให้หน้าลูกคืนสู่สภาพนางฟ้าเร็วๆด้วยเถิดดด สาธุ 555) หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่ต้องการอำพรางซ่อนเร้นสภาพสงครามนะคะ แล้วเจอกันครั้งหน้า บ้ายบายยย
สนใจ bobbi brown เลย นางอาจจะเหมาะกับหน้าเราสุดแล้ว
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ