Review แป้งทานาคา (Thanaka)
Chutiya Krm1210สวัสดีค่า!!!! หลังจากที่หยกห่างหายไปนานพอสมควรเนื่องจากงานค่อนข้างยุ่งมาก มีของหลายชิ้นมากที่อยากจะมารีวิว แต่วันนี้ขอเลือกตัวแป้งทานาคามาก่อนแล้วกันน้าาา
เริ่มจากตัวของตลับแป้งก่อนนะคะ สวย ดูดี และดูทนทานพอสมควร หยกซื้อมาในราคา 250 บาท ซึ่งราคาถือว่าไม่แพงมาก ตัวเนื้อแป้งค่อนข้างละเอียด ทาแล้วรู้สึกบางเบา หยกใช้เบอร์ 02 Natural ส่วนคุณสมบัติของแป้งตัวนี้ที่ทางแบรนด์เค้าเครมไว้ คือ
-สูตรอ่อนโยนพิเศษ ปราศจากน้ำมันและน้ำหอม และได้ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังว่าไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
-เนื้อแป้งละเอียด ปกปิดเนียนเรียบ
-ควบคุมความมัน ผิวกระจ่างใสเป็นธรรมชาติ
-ปกป้องผิวจากแสงUVAและUVBด้วย SPF20 PA+++
-มีสารสกัดจากธรรมชาติ ช่วยดูแลผิวคุณ ให้ผิวคุณเปล่งประกายอย่างมีคุณค่า
-สารสกัดจากทานาคา ช่วยควบคุมความมันและป้องกันแสงแดด
-ลดการ สร้างเม็ดสีเมลามิน
-วิตามินซีช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ผิวหนัง-
-บำรุงผิวที่มีจุดด่างดำและรอยหมองคล้ำ ให้ดูจางลง
-วิตามินอีบำรุงผิวให้ชุ่มชื่น ไม่แห้งกร้านอันเป็นสาเหตุหนึ่งการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
เรามาพิสูจน์กันดีกว่าว่าจะตรงตามคุณสมบัติที่กล่าวมารึเปล่า !!!!!!!
Thanaka - 02 Natural
ตัวเนื้อแป้งค่อนข้างละเอียด ทาแล้วรู้สึกบางเบาดีค่ะ จริงๆแล้วตัวนี้เป็นแป้งผสมรองพื้นที่ทาแล้วไม่รู้สึกว่าเป็นแป้งผสมรองพื้นเลย โดยปกติแป้งผสมรองพื้น จะให้ความรู้สึกที่หนา และค่อนข้างหนักหน้า เวลาที่ทาจะรู้สึกเลยว่าโบกมา แต่ตัวนี้ ไม่เลยค่ะ หลังจากลองใช้มา 1 สัปดาห์เต็มๆนั้น หยกมองว่าไม่ได้ช่วยในการลดสิว แต่ไม่ทำให้เกิดสิวเพิ่มขึ้น และไม่มีการอุดตันเลย ซึ่งข้อนี้หยกปลื้มมากค่ะ
ภาพนี้คือหยกแต่งหน้าเสร็จตั้งแต่ 7 โมงเช้าเพื่อออกไปทำงาน ในเรื่องของการออกแดดนั้น ประมาณ 45นาทีค่ะ เพราะหยกต้องเดินมาขึ้น 2 แถว และนั่ง 2 แถวต่อมา BTS ซึ่งเวลาตั้งแต่เดินกว่าจะถึง BTS นั้น ประมาณ 45 นาทีค่ะ และกว่าจะถึงที่ทำงาน ประมาณ 1 ชม. 30 นาที โดยทั้วไปทำงานในออฟฟิต นั่งห้องแอร์ ฉะนั้น จะสมบุกสมบันในช่วงเช้า และช่วงเย็น ในเรื่องของการเดินทางที่ทั้งร้อน และมีเหงื่อ
ภาพนี้ประมาณ 13.00 หลังจากได้พักทานอาหาร และออกไปตากแดด นั่งทานอาหารในพื้นที่ๆร้อน และค่อนข้างแออัด จะสังเกตได้ว่ามีความมันช่วง T zone แต่เป็นความมันที่ไม่หนักมาก หน้าดูฉ่ำๆ ค่ะ ไม่เป็นคราบ และสียังไม่ดรอปค่ะ
ภาพนี้ประมาณ 17.00 น. หลังจากที่่ทำงานมาทั้งวัน และไม่ได้ผ่านการซับหน้าเลย เพื่อจะดูว่านางจะเยิ้มไหม ปรากฏว่า ไม่ค่ะ แต่มีความมันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจาก 13.00-17.00 หยกนั่งในห้องแอร์ตลอดและไม่ได้ออกไปไหน สังเกตว่าค่อนข้างออกแนวมันหนืดๆ แล้ว ถึงเวลาสมควรแก่การซับเมือกออกแล้วค่า
และเมื่อซับเมือกมันบนหนังหน้าของเราออกแล้วนั้น 5555555555 !!!! นี่คือผลที่ได้ค่ะ
หน้าเนียนเหมือนพึ่งแต่งหน้าอกจากบ้านเลย ไม่เป็นคราบกองบนหน้าผาก หรือปีกจมูก สีไม่ดรอปเลยทั้งวัน ยังคงเด้งอยู่ ค่า เลิศศศศศศศ !!!!!!!!
ในส่วนของกระดาษที่หยกใช้ซับมันนั้น สามารถเห็นถึงความมันบริเวณ T zone ได้อย่างชัดเจน มีเนื้อสีของแป้งติดออกมาด้วยส่วนหนึ่ง แต่ที่แปลกคือในขณะที่หน้าเราดูมันนั้น ไม่รู้สึกถึงความเยิ้ม หรือความรำคาญ เลยแม้แต่น้อย พูดง่ายๆคือถ้าไม่ส่องกระจก ก็ไม่รู้สึกว่าหน้ามันเลยค่ะ
ภาพนี้ประมาณ 19.45 น. เมื่อเรานั้นถึงบ้าน ไม่รู้จะถ่ายยังไงให้เห็นความมัน 5555555555 เอาแบบนี้แล้วกันเนอะ อารมณืของสภาพผิวหลังจากซับหน้าไปตอน 5 โมงเย็น รู้สึกว่ายังมีความมันออกมาอยู่ แต่ไม่มากค่ะ หน้ายังดูดี ผิวดูฉ่ำ สีไม่ดรอป เครื่องสำอางค์อื่นๆ ไม่เคลื่อนที ซึ่งถ้าเราใช้แป้งที่ไมคุมมัน ป่านนี้หน้าเราคงจะเยิ้ม และเยินไปแล้วไม่ว่าจะเป้นในส่วนของหางคิ้งที่จะหายไป อินไลน์เนอร์ หรือบริเวณขอบตาที่จะเยิ้มเปลอะลงมาที่ใต้ตา ส่วนหนึ่งเพราะแป้งด้วยค่ะ แต่ตัวทานาคานี้เอาอยู่
*** หยกไม่ได้เติมแป้งเลยแม้แต่นิดเดียวตั้งแต่ 7 โมงเช้าที่แต่งหน้าเสร็จ *** ใช้เพียงกระดาษทิชชู่ซับหน้า 1 ครั้งเท่านั้น เรามาให้คะแนนกันดีกว่า
คุมมัน 9/10
เนื้อแป้งละเอียด 9/10
สีไม่ดรอป 10/10
ปกปิด 7/10
ไม่ก่อให้เกิดสิว 9/10
คุ้มค่าคุ้มราคา 9/10
สำหรับใครที่สนใจอยากลองเอามาใช้สามารถหาซื้อได้นะคะ อาจจะหายากสักหน่อย แต่หยกบอกก่อนนะคะ ว่าการ Review นี้ เป็นความเห็นส่วนตัวจากการใช้จริงของหยกเท่านั้น เนื่องจากหยกเป็นคนที่ผิวแห้ง-ผสม มักจะมันช่วง T zone คนผิวมันอาจจะใช้ได้แต่อาจจะไม่คุมมันนาน 12-13 ขม. เหมือนหยก ทั้งนี้ประสิทธิภาพของแป้งนั้น ต้องมีส่วนของการใช้รองพื้นมาประกอบด้วย หากคุณใช้รองพื้นไม่คุมมัน+แป้งคุมมัน การคุมมันก็จะประสิทธิภาพลดลง ยังไงฝากรีวิวนี้ด้วยนะคะ หากผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยด้วยค่าาาา
Discussion (10)