รีวิวมาส์กหน้าที่มีในกรุ เคล็ดลับผิวสวยเลยจ้าา

มาส์กมีไม่เยอะมากแต่เราว่าเราเจอเนื้อคู่แล้ว(เอ๊ะ เนื้อคู่มีเยอะกว่าหนึ่งนะ อิอิ) รู้สึกปลาบปลื้มกับสิ่งที่มีอยู่เลยเอามาแชร์ต่อ เพราะมันดีต่อผิวจีๆ รีวิวนี้ขอไม่อ่านคำเคลมจากเบรนด์อะไรทั้งสิ้น เอาสิ่งที่เราสัมผัสได้เป็นตัวตั้งอย่างเดียว

The body shop chinese ginseng & rice clarifying polishing mask เป็นมาส์กข้าวกับโสม อู๊ยยยย คุณพระ สบายผิวมาก สัมผัสแรกที่ลงหน้าคือเย็นผิว(แม้ไม่ได้แช่เย็นเลย!) ความเย็นคือไม่ได้เย็นแค่แปปเดียวหรือแวบแรกที่ลงผิวนะ คือเย็นตลอดเวลาจนกว่าจะล้าง ไม่ได้เย็นขั้นแป้งตรางูนะ แต่แบบสบายหน้าอ่ะ กลิ่นแนวผ่อนคลาย เราชอบมาก์สทิ้งไว้ในวันอากาศร้อนๆไรงี้ ทิ้งไว้เกือบชั่วโมงเลย มันเย็นดี ฮ่าๆๆ จะมีเม็ดบีทในเนื้อครีมเวลาล้างออกเราสามารถถูๆวนๆผิวเป็นสครับได้อีก ผลลัพธ์ที่ได้จะได้ความนุ่ม กระจ่างใสเป็นหลักจ้าาา

KENZOKI BELLE DE JOUR Dream Night Mask มาส์กดอกบัวขาวจ้าาา เด่นๆของตัวนี้คือ กลิ่นโคตรรรรรรรรดี แบบจิตใจที่กำลังว้าวุ่นหรือเครียดๆกับงาน พอกเจ้านี่เลยจ้า(หรือผลิตภัณฑ์อื่นในlineนี้) ตอนแรกนึกว่าแต่BAโม้จ้า แต่พอได้ลองแล้วแบบ อ่าาาาาา หอมจุง หอมอ่อนๆ ผ่อนคลายจริงๆ เราเคยเครียดๆเราจะใช้ผลิตภัณฑ์ในlineนี้เลย รู้สึกตัวเองหายใจยาวขึ้นทันตา ส่วนมาส์กหน้าแล้วได้ผลยังไงนั้นต้องบอกเลยว่าจะได้หน้าเนียน นุ่ม ฟู เน้นว่าฟูจริงๆ คือใครไม่เก็ตต้องลองอ่ะ ตอนแรกเราก็งงๆว่าผิวฟูคืออะไร แต่มาใช้ตัวนี้เลยแบบถึงบางอ้อ ถึงแม้ว่ามาส์กตัวนี้เป็นแบบovernightแต่เราแนะนำให้พอกแบบปกติแล้วล้างออก เพราะเนื้อครีมมันบางๆนอนกลิ้งๆไปมาหายหมดแหล่ววว เงินทั้งน้านนนน (นอนพอกตื่นมาไม่ค่อยเห็นผลเท่า พอก30นาทีแล้วล้างออกนาาาา อันนี้เจอมากับตัว) ดีจริง คุ้มเงินจริง แนะนำๆๆๆ

Peter Thomas Roth Irish Moor Mud กาดอกจันไว้เลยค่ะ ว่าไม่เหมาะกับผิวแพ้ง่ายด้วยประการทั้งปวงงงงงงง โอ้ววว ก็อดดดด ร้อนนมากกก มอดไหม้ผิวหน้าขั้นสุด สามีเป็นฝรั่งพอก3นาทีล้างออกมาหน้าแดงแปร๊ดดด แต่สำหรับเรา หึหึหึ สะใจโว๊ยยย (หน้าหนาว่างั้น กร๊ากก) เวลาที่สิวเริ่มปะทุ หน้ามันมากๆ พอกไปเลย สะใจ หน้าจะมันน้อยลง รูขุมขนกระชับขึ้น ผิวใสขึ้นจากการโดนกระตุ้นด้วยความร้อน ฮ่าๆๆ

Peter Thomas Roth 24K gold mask อุตสาห์ซื้อให้สามีจ้าาาา นางรู้ว่ามันแพงนางเลยไม่กล้าใช้ (ตรรกะอะไรกัน-_-") เราเลยเอามาใช้เองเลย ฮ่าๆ อืมมม ตัวนี้เราเฉยๆเลยนะ ที่สัมผัสได้หลังล้างน้ำออกคือผิวนุ่มขึ้นแบบ7/10 ส่วนความชุ่มชื่นให้ 5/10 ทุกสภาพผิวให้ได้ ไม่มีอะไรว้าว ยิ่งถ้าเทียบกับราคาด้วย รู้สึกไม่คุ้ม หมดกระปุกนี้คือจบกัน เห้ออ เห็นว่ามีทงมีทอง นึกว่าแต่จะเกร๋กู๊ด อกหักค่ะงานนี้

Lamer ลาแมรรรรรร์แบะแบะะะะ (เลียนเสียงแพะหน่อย ช่วงนี้เลี้ยงลูกมากจัด ดูแต่การ์ตูนเด็ก สมงสมองไปหมดแล้ว) ตัวนี้เด่นๆเลยหน้าขาวขึ้น(มีสารให้ความขาวแบบเคลือบผิวอ่ะจ้า) เวลาล้างออกจะเห็นเลยว่าหน้าขาวขึ้น กระจ่างใสขึ้น แต่มันก็ไม่ได้ถาวรอะไรนะ แบบซักครึ่งวันไรงี้และเราคงไม่สามารถพอกมันทุกวันได้เพราะมันมีเม็ดบีท เป็นมาส์กแนวสครับค่ะ กลิ่นมิ้นท์อ่อนๆตอนแรกนึกว่าแต่ยาสีฟัน ถามว่าตัวนี้ดีไหม ดีนะใครชอบหน้าขาวแบบปลอดภัยแบบไฮโซแบบเห็นผลทันตา เม็ดบีทก็ไม่บาดหน้าเลยขัดผิวสบายยยย

Fresh vitamin nectar หูวว ดังมากเลยตัวนี้ อยากซื้อมานาน ในที่สุดก็ได้มาตอนsephoraลดราคา ตอนแรกไม่กล้าซื้อเพราะไม่แน่ใจว่าจะใช้ดีไหม พอได้ใช้เท่านั้นแหละ อูววว ฟินมาก ตัวนี้กลายเป็นลูกรักเลย เห็นผลชัดสุดแล้วในเรื่องความกระจ่างใสและผิวนุ่มเนียน จับผิวแล้วนุ่มๆลื่นๆดีมากเลย กลิ่นส้มชอบชื่นใจ แต่ข้อเสียอย่างนึงคือล้างผิวส้มออกจากหน้ายาก ยิ่งพอกนานๆแห้งคาหน้านี่แบบ อร๊ากกก ต้องใช้น้ำอุ่นถูๆล้างๆนานมาก ใครมีฟองน้ำล้างหน้าจะช่วยทุ่นแรงได้มาก ถ้าหมดนี่จะซื้อมาใช้อีกแน่นอน

สรุป

ตัวที่ให้ความกระจ่างใสสูงสุดคือ Fresh

ความนุ่มสูงสุดนี่สูสีๆกับมาคือ FreshกับThe body shop มันต่างกันตรงที่freshจะนุ่มๆลื่นๆเหมือนสัมผัสกำมะหยี่บนผิว ส่วนthe body shopจะนุ่มๆเย็นๆเหมือนเราไปอาบน้ำเย็นมา แต่ถ้าใครชอบผิวโคตรๆๆๆๆๆๆนุ่มแบบขีดสุดพุ่งทะยานจริงๆแนะนำมาส์กสดของlushตัวที่เป็นข้าวโอ๊ตเลยจ้า พระเจ้าาา นุ่มมาก รองๆลงมาก็ครีมล้างหน้าของlushที่เป็นข้าวโพดกับมาส์กสดบลูเบอร์รี่(พวกนี้เราใช้หมดแล้วเลยเอามารีวิวไม่ได้ แหะๆ)

เน้นหน้าขาวแบบเสกได้ต้องพึ่งLamer

กลิ่นผ่อนคลายขีดสุดต้องkenzoki สวรรค์มาก(แนะนำให้แช่ตู้เย็นแล้วเอามาใช้ สบายยย)

หวังว่าเพื่อนๆจะได้ใช้ข้อมูลนี้ในการสอยมาส์กที่เล็งไว้น้าา