My Favorite 2015-2017 2ปีมีครั้ง รวมทุกสิ่งที่ใช้แล้วชอบ

สวัสดีครับ  เต้ ลาเต้นะครับ  เต้ไม่ได้ทำ My Favorite ออกมานานเลย ครั้งสุดท้ายคือปี 2013 นานลื้มมม ไหนๆก็ผ่านมาครึ่งปี2017แล้ว ขอรวบยอดเลยแล้วกันครับ เอาแค่ช่วงปี 2015-2017 ดูสิว่า ไอเทม สกินแคร์ เมคอัพ ในช่วง 2ปีนี้ เต้ชอบอะไรบ้าง คือได้ลองเล่นหลายสิ่งอย่าง เยอะมากจริงๆ  งานนี้ไม่มีสปอนเซอร์ ไม่มีใครมาจ้างให้หน้าม้าแน่นอน สบายใจได้เบ่บี๋  แต่ของทั้งหมด จะมีทั้งที่ซื้อมาเอง และแบรนด์ส่งมาให้ครับ แม้ของจะมีอยู่มากมาย แต่ตัวเราก็ยังเสียทรัพย์ไม่หยุดเช่นกัน  คนนั้นว่าดี คนนี้ว่าโอเค โอ้ยยย เสียเงินนนน  วันนี้เรามาแชร์อะไรที่มันโอเคแบบสุดๆสำหรับเต้ อันไหนใช้แล้วหน้าแหกเราจะไม่พูดถึงให้สะเทือนใจ เพราะนี่คือ My Favorite !!มันคือสิ่งที่ชอบในช่วงสองปีนี้ ดังนั้นวันนี้ ยาวมาก เป็นมหากาพย์แน่นอน!!  ใครขี้เกียจอ่าน เต้เสียใจด้วย เราไม่มีแบบวิดีโอ เต้กลัวมันจะยาวเกินชั่วโมง 55555 เลือกอ่านในหมวดที่สนใจได้เลย ทั้งกระทู้นี้ดาวน์รถได้เลยเธ๊อออออตั้งใจปล่อยกลางเดือน เพราะถ้าปล่อยมาต้นเดือน เรากลัวทุกคนเสียเงินเสียทองแบบบ้าคลั่ง แฮ่กลับมาแต่ละที หน้าก็ไม่ค่อยเหมือนเดิม (ไหว้หมอ 5555)

*ดอกจันทร์ไว้ก่อน สภาพผิวเต้คือ ผิวมัน มันทั้งหน้า รูขุมขนกว้างมาก แพ้ง่าย เพราะเมื่อก่อนเคยผ่านการเลเซอร์ และดูแลผิวผิดวิธีมาเยอะครับ ผิวจึงแดงง่าย และไวต่อแดด มาๆ เข้าเรื่อง เดี๋ยวจะหนีกันไปก่อน  เต้จะขอเรียงเป็นหมวดแล้วกันนะครับ ง่ายดี

เริ่มที่ Cleansing

1. MizuMi Smooth Cleansing Water (319 บาท)ตัวนี้เค้ามีวางขายตั้งแต่ปีที่แล้ว เต้จะซื้อช่วงที่มีโปรนะครับ ตอนนี้ Cleansing Water คู่แข่งเยอะทีเดียว เต้ชอบตัวนี้ เพราะว่า มันลื่นดี อ่อนโยน หาซื้อง่าย เช็ดสำลีกี่แผ่นก็ไม่ฝืด ไม่แสบหน้า ดูดเมคอัพสิ่งสกปรกออกค่อนข้างดี ราคาน่ารักด้วย เต้เช็ดทุกวันเช้าเย็นเลย เพราะผิวเต้อุดตันง่าย สะอาดไว้ก่อน หน้าไม่แห้ง เลิศศศ 

2. Avene Cleanance Cleansing Gel (900-990 บาท)เป็น2ปีที่เปลี่ยนเจลล้างหน้าเยอะมาก ชอบแบรนด์ไหนเค้าก็เลิกผลิต =_= ใครชอบแบบโฟมฟองแน่นๆ ขอให้ข้ามตัวนี้ไป ใครชอบแบบเจล สบู่เหลว Sensitive Skin แวะมาอ่านก่อน เพราะเรารักมากกกกก 

เต้ซีเรียสกับการล้างหน้ามาก เพราะแพ้โฟมล้างหน้าบ่อยสุด พยายามหาที่อ่อนโยน ผิวที่สะอาด บำรุงอะไรเข้ามาก็ง่ายขึ้น ไม่อุดตัน ไม่สิว และเราก็หากันจนเจอ Avene เจลล้างหน้าตัวนี้มันดีงาม เพื่อนที่เป็นสิวแพ้ง่ายไปซื้อตามกันหลายคน ใครบอกเจลโฟมยี่ห้อไหนก็เหมือนกัน นี่ขอเถียง ไม่เหมือนนน เป็นเจลที่ล้างแล้วรู้สึกผิวสะอาดมากมาย ไม่แห้งตึง ลื่นๆเพลินๆ สะอาดเกลี้ยง หาซื้อง่าย เป็นเวชสำอางจากฝรั่งเศส สำหรับผิวแพ้ง่ายอย่างแท้จริง *ส่วนตัวไม่ชอบพวกวิปโฟมครับ 

3.Purevivi   Cleansing Sheet  (ราคา 3XX บาท)ในวันที่รู้สึกว่ารีบร้อน ง่วงนอน หรือการไปต่างจังหวัดต่างประเทศ คลีนซิ่งแบบแผ่นทิชชู่นี้สะดวกมากครับ แผ่นใหญ่ ล้างสะอาดดี ตัวนี้มีติดกระเป๋าไว้ตลอด เผื่อต้องกลับบ้านดึก ก็เช็ดๆได้เลย สะดวกดี 

4.ทิชชู่เปียกสูตรน้ำเกลือ : Klean&Kare ทิชชู่เปียกเป็นอีก1สิ่งที่ขาดจากกระเป๋าไม่ได้ ผ้าของเค้านุ่มมากกกกกก มีขายในร้านขายยา ทิชชู่เปียกหลายๆแบรนด์ เต้รู้สึกว่ามันเหนอะหน้า มีส่วนผสมนู่นนี่มาเพิ่มความเหนอะหรือรบกวนผิว คืออยากได้แค่ผ้าสะอาดๆที่ไม่ต้องบำรุงอะไร และมั่นใจว่าเราจะไม่แพ้ ตัวนี้ตอบโจทย์ เป็นเป็นน้ำเกลือ ที่อ่อนโยนกับผิวเรา จะเช็ดหน้าหลังฟิตเนส หรือเวลาเหงื่อออกมากๆ สะอาดดีครับ พกเข้าห้องน้ำก็สบายใจ

 Skincare Routine เข้าสู่การบำรุงผิวหน้า

ยิ่งอายุมากขึ้น หลายสิ่งที่เราเคยคิดว่าไม่จำเป็น เราได้รู้ซึ้งแล้ว ว่าเราขาดคุณเค้าไม่ได้ หมวดสกินแคร์จะเยอะหน่อย เพราะเต้ค่อนข้างเสียเงินกับสกินแคร์เยอะ เจ็บมาเยอะ พังก็เยอะ ของดีมันช่วยเราในวัยใกล้30ได้จริงๆนะคุณณณ

ทั้ง Essence และ Emultion ปีนี้เต้ขอมอบมงให้ BIOTHERM รักมาก แบรนด์ให้มาลอง ตั้งแต่ยังไม่วางขาย สติ๊กเกอร์ยังแปะอยู่เลย ปรากฎว่าเรารักมาก หมดไปครึ่งขวดอย่างที่เห็น เหมาะเป็นสกินแคร์ Routine ที่ช่วยให้ผิวเต้ดีขึ้นตอนตื่นในทุกวัน

เต้ขอพูดรวมๆสำหรับสองตัวนี้

5. BIOTHERM LIFE PLANKTON EMULTION (1,900 บาท)

6. BIOTHERM LIFE PLANKTON ESSENCE (รุ่นออริจินอล 2,500 บาท)

สำหรับครั้งแรกที่ใช้ตัวน้ำตบแพลงก์ตอนขวดฟ้า บอกเลยว่ายังไม่ได้ชอบ รู้สึกเหมือนผิวมันแปลกๆ เหมือนจะแพ้ จึงพักไปก่อน แล้วก็ได้ตัวอิมัลชั่นขวดขาวมา เป็นสูตรสำหรับผิวแพ้ง่าย ลองใช้มานานกว่า3เดือนแล้ว หมดไปแค่นั้นเองงงง  เต้ชอบตัวอิมัลชั่นมาก ประทับใจในผิวที่แข็งแรงขึ้นแบบชัดเจนมาก อาการแพ้ง่ายลดลงเยอะเลย

แล้วกลับมาใช้ตัวน้ำตบขวดฟ้าได้แบบไม่รู้สึกระคายเคืองแล้ว อ่ะงงเหมือนกัน กันแดดที่เคยใช้ละเหมือนจะแพ้ ก็ไม่แพ้แล้ว  เหมือนผิวเราแข็งแรงขึ้นจริงจัง เวลาเป็นสิวก็หายเร็วขึ้น  ใช้สองตัวนี้คู่กันแล้วผิวโดยรวมดีขึ้นมาก แข็งแรงขึ้น พอบวกตัวน้ำตบแพลงก์ตอนเข้าไป ตื่นมาผิวใสฟูเหมือนนอนมา18ชั่วโมง ซื้อใช้ต่อเรื่อยๆแน่นอน  รักมาก 100 คะแนนเต็ม กราบบบบ

มาที่แบรนด์โปรดอีกแบรนด์ ตัวแทนจากเกาหลี ซื้อเยอะพูดถึงเยอะจนเหมือนเค้าจ้างมา

เรียกว่ากลับมาสนใจแบรนด์เกาหลีอีกครั้ง หลังจากไปเที่ยวเกาหลี4ปีติด แล้วพบความนวัตกรรมมากมายที่น่าสนใจ แพคเกจ ส่วนผสม เกาหลีมาแรงมากทีเดียว แล้วแบรนด์นี้เค้าได้รางวัลตามนิตยสารชั้นนำในเกาหลีเยอะเลย

2ตัวนี้ เป็นไลน์ขายดีของแบรนด์ Innisfree แบรนดืที่เน้นความธรรมชาติออแกนิก เต้เลยไว้ใจ เต้เห็นผลเรื่องความชุ่มชื้น ผิวอิ่มน้ำ ค่อนข้างชัด ใครหวังผลเรื่องสิว ริ้วรอย ขอให้ผ่านไป แต่ถ้าต้องการผิวอิ่มน้ำ ชุ่มชื้น ลองดู

7. Innisfree the green tea seed serum (ราคา 6XX บาท)

ตัวนี้เต้ใช้หมดไป2ขวดแล้ว มันชุ่มชื้นมากกกก แต่บางเบา งงมั้ย คือผิวชุ่มชื้นมากมาย แต่ไม่มัน เนื้อเซรั่มไม่หนัก ซึมเร็ว เค้าเรียกเซรั่ม3วิ คือแค่3วิก้ซึมแล้ว สารสะกัดจากเมล็ดชาเขียวช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีมาก  ตัวนี้ได้รางวัลเยอะเลย เพื่อนเกาหลีแนะนำให้ใช้ แล้วเราก็หลงรักในหลายสิ่งของ  Innisfree และเปิดใจกับสกินแคร์แบรนด์เกาตั้งแต่นั้นมา เรื่องความชุ่มชื้น ขาดน้ำ เต้ยกให้ตัวนี้

*ผิวขาดน้ำกับผิวมัน ไม่เหมือนกันนะครับ น้ำคือน้ำ น้ำมันคือน้ำมัน น้ำมันทดแทนการขาดน้ำไม่ได้

8. Innisfree the green tea seed oil

เป็นออยขวดเดียวที่มี เพราะปกติไม่ใช้ออย แต่ช่วงไหนที่ผิวมันแห้ง มันลอก มันหนักหนาจริงๆ ออยตัวนี้ปลอบประโลมผิวได้ดีมาก คนผิวมันไม่แนะนำให้ใช้ทุกวันครับ ส่วนตัวถ้าใช้บ่อยผิวเต้จะอุดตัน เพราะเต้บำรุงก่อนนอนแน่นมากแล้ว ช่วงที่หน้าขาดความชุ่มชื้นจริงๆ แตก ลอก เป็นขุย เต้จะใช้ตัวนี้ตบท้าย 

ม้ามืดตระกูล Whitening ที่เต้รัก

2 ขวดนี้มาจากเกาหลีทั้งคู่ สั่งมาจากเกาหลีเพราะเห็นคนเกาหลีนางฮิตกัน (ตอนนี้รู้สึกจะเปลี่ยนแพคเกจแล้ว แต่ราคาเท่าเดิมนะ)

ตอนซื้อมาไม่ได้หวังผลอะไรมากมาย เห็นเค้าฮิตก็ซื้อตามนึกออกมะ ซื้อทันแล้วรู้สึกชนะอะไรแบบนั้น  ราคาขวดละไม่เกิน 800 บาท  พอใช้แล้วโอ้โหหหหหห ดีงาม สำหรับใครที่ต้องการให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ผลัดเซลล์ผิว รอยดำรอยแดงต่างๆ 2 ขวดนี้ชนะเลิศมาก ชนะทั้งราคา ปริมาณ และคุณภาพ

ผลลัพท์ทั้ง2ตัว เต้รู้สึกว่าไม่ต่างกัน ปริมาณก็เท่ากัน ราคาก็ไม่ต่าง แต่เนื้อผลิตภัณฑ์ต่างกันนิดหน่อยครับ ตื่นมารู้สึกหน้าใสนิดๆ และค่อยๆผลัดเซลล์ผิวเราอย่างอ่อนโยน ช่วงไหนหน้าหมอง จะหยอดสิ่งนี้เพิ่มเข้าไปอีก 1 Step ในขั้นตอนการบำรุง

ส่วนตัวเต้ใช้ทาก่อนนอน เหมือนได้เสริมวิตามินเข้าไป รู้สึกว่าสิวอุดตันน้อยลง ผิวใสขึ้น(มาก) ไม่แสบ ไม่คัน ถ้าทากลางวันอาจจะตึงหน้าหน่อยๆ  เค้าให้ใช้ไม่เกิน4หยด ก็อย่าเกินนะ ใช้เกินขนาดละผิวอาจจะสะเทือนมีการตึงเกินเหตุ อันนี้เตือนไว้ก่อน

9. Skinmiso pore corset serum : เนื้อจะบางเบากว่า ซึมเร็วกว่า ขวดแก้วสีขาวดูแข็งแรงกว่า ทากลางวันได้

10. Klairs Freshly Juiced Vitamin C Serum : ตัวนี้เคลมแรงเรื่องวิตามิน ส่วนผสมโคดดี ขวดคล้ายแบรนด์นึงในเคาว์เตอร์แบรนด์อีก(แซว) เนื้อจะมันกว่าหน่อยครับ แต่ข้อดีคือไม่ต้องตามด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์เยอะแยะ เพราะให้ความชุ่มชื้นได้ดีอยู่แล้ว และขวดเป็นพลาสติก ข้อดีคือไม่แตก ตัวนี้3วันรู้เรื่อง รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง

  • ทั้ง2ตัวนี้ ผลลัพท์ปลายทางเหมือนกัน  อย่าลืมทากันแดดนะครับ เพราะผิวมีการผลัดเซลล์อยู่ เดี๋ยวกระฝ้าจะมาเยือน

Sleeping Mask เปิดพร้อมกันหลายกระปุก ชอบแทบทั้งหมด แต่2กระปุกนี้ คือที่เต้ใช้จนหมด ทั้ง2ตัวนี้ สำหรับผิวมัน ไม่แนะนำให้ใช้ทุกวันนะครับ สองวันครั้งกำลังดี

11. Bonito Cooling Awake Sleeping Mask (ราคา 1,XXX บาท)

นี่ก็ม้ามืดอีกเหมือนกัน ชอบที่มาส์กเวลาเป็นสิวได้โดยสิวจะหายเร็วขึ้น เป็นมาส์กที่กล้าใช้ในช่วงที่ผิวแพ้ง่าย เพราะไม่รู้สึกระคายเคืองเพิ่ม หมดไป2กระปุก ชอบที่เวลาใช้จะเย็นๆผิวด้วย เหมือนทายาสีฟัน ตื่นมาผิวสดใส ราคาตอนลดราคา จะอยู่ที่กระปุกละประมาณ 690 บาทครับ

12. Lancome Energie De Vie Nuit The Overnight Recovery Sleeping Mask (ราคา 3,500 บาท)

เป็น Sleep Mask ที่เนื้อสัมผัสดีเหลือเกิน สมราคาค่าตัว ทาบางๆก็ชุ่มชื้นไปถึงไส้ ช่วยรีเฟรชผิวตอนตื่นให้สดใส ลดอุณหภูมิในผิว ที่เราต้องพบเจอมลภาวะต่างๆ ผิวฉ่ำน้ำดีงาม กลิ่นอะโรม่าหลับสบาย ราคาไม่เบา ฉะนั้นไปลองเทสดูก่อนที่เคาว์เตอร์ แพ้มาห้ามด่าเรานาจาาา

13. Innisfree squeeze mask (30 บาท)

เป็นมาส์กชีทที่ถูกและดี เหมามาจากเกาหลีเป็นร้อยแผ่น ใช้มาตลอดปี แผ่นละสามสิบบาทชิวๆ แนะนำสูตรชาเขียว ข้าว และทับทิม รู้สึกดีมากกว่าสูตรอื่น(ส่วนตัว) Innisfree เป็นแบรนด์ที่ทำมาส์กชีทได้ดีหลายรุ่นเลย รุ่นที่แพงสุดก็ดีสุดเช่นกัน(5555) ทั้งแผ่นมาส์กที่ดูไม่สามสิบบาท  เพื่อนเกาหลีแนะนำมาอีกเช่นกัน พึ่งรู้เค้ามาส์กกันทุกวัน แต่เราเมืองร้อน สองวันครั้งก็โอเคมากแล้ว ไปโดน มันดี ไปลองงง

14. Kiehl's rare earth deep pore cleansing masque (ราคา 1,250 บาท)

มาส์กโคลน ทำความสะอาดรูขุมขนแบบล้ำลึก ลึกจริงอะไรจริง ดูดหลุดออกมาหมดเล๊ยยยย เวลาส่องกระจกแล้วเห็นไขมันอุดตันในรูขุมขน เป็นอะไรที่หงุดหงิดมาก ทาครีมแล้วไม่ซึม มีความอุดตันต่างๆ

ตัวนี้ช่วยได้ มาส์กทิ้งไว้ตามเวลาที่เขาบอกก็พอ นานเกินผิวจะแห้งไปนะจ๊ะ ด้วยความปรารถนาดี รูสะอาดพร้อมรับทุกการบำรุง ราคารับได้ เพราะใช้ได้ครึ่งปี ใครใช้หมดเร็วแปลว่าหน้าต้องใหญ่มากนะ 5555 (แซว)

15. Laneige lip sleeping mask (ราคา  5XX บาท)  

เป็นมาส์กปากแบรนด์เดียวที่ใช้ ตื่นมาปากนุ่มชุ่มชื้นอมชมพู กลิ่นหอมผลไม้ กระปุกนึงใช้กันไปยาวๆครึ่งปี นี่โบกแบบหนักหนาแล้วก็ยังไม่หมด ใครมีปัญหาปากแห้ง ปากซีด ปากไม่น่าจุ๊บ ลองงงงง

ยังคงไม่จบกับสกินแคร์ บอกแล้วว่ามันเยอะ

16. Innisfree Blackberry Energizing Cleanser & Shave (ราคา 3XX บาท)

อินนิสฟรีมาอีกแล้ว ตัวนี้เค้าบอกว่าใช้เป็นทั้งโฟมล้างหน้าและครีมโกนหนวดได้ ซึ่งเต้ซื้อมาใช้เป็นครีมโกนหนวดครับ ฟองมันนุ่มละมุนมาก ช่วยให้โกนหนวดได้ลื่นดี กลิ่นแมนๆเตะบอลครัช แพคเกจสีเทาเท่ๆ ราคาไม่แรงด้วย  

17. Avene Cleanance Solaire Sunscreen (ราคา 9XX บาท)

เป็นครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย ช่วง2ปีนี้ได้ลองแบรนด์อาเวนหลายสิ่งเหมือนกัน ชอบหลายอย่าง เป็นเวชสำอางที่ถูกโฉลกกับเรา ส่วนผสมไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย กันแดดตัวนี้ก็กันแดดได้จริง บางตัวใช้แล้ว เวลาโดนแดดยังแสบผิวอยู่ ตัวนี้เต้ชอบที่กันแดดได้โอเค ไม่แสบผิวเลย ไม่อุดตันผิวด้วย ทาแล้วตบแป้งฝุ่นก็โอเคแล้ว หน้าดูเนียนขึ้นนิดนึง

18. KA Cream Vitamin E (ราคา 2XX บาท)

แบรนด์ที่เราคุ้ยเคยมายาวนาน เวลาสครับผิวเสร็จ เต้ชอบใช้ตัวนี้ ผิวมันนุ่มๆดี ราคาถูกด้วย ตอนนี้ชอบเอามาใช้เป็นครีมทาคอและทามือ ทาทุกวันก่อนนอน รู้สึกคอและมือเราไม่เหี่ยวง่ายด้วย อันนี้คุณแม่เต้แนะนำตลอด ว่าอย่าลืมดูแลคอด้วย มือและคอเป็นส่วนที่ทำศัลยกรรมลำบาก และเป็นส่วนที่ดูออกเลยว่าเราแก่!! หน้าตึงคอเหี่ยวคือไม่เก๋ แม่ว่างี้ 5555

19. Avene thermal spring water (ราคา 2ขวดใหญ่ 990 บาท)

หรือน้ำแร่อาเวนนั่นเอง ใช้อยู่หลายแบรนด์เหมือนกัน แต่แบรนด์นี้เราหยิบมาใช้บ่อยสุด เพราะมันเบสิกดี ส่วนผสมไม่ซับซ้อน ไม่ทำลายทุกอย่างบนหน้าเรา มีติดโต๊ะทำงานไว้ตลอด ซื้อไซส์ใหญ่สุด ขวดใหย่เท่าขวดยากันยุง(5555) เต้จะฉีดตลอด หลังลงสกินแคร์เสร็จ(ช่วยให้ทุกอย่างซึมลงผิวได้ดีขึ้น) ฉีดหลังออกแดด ช่วยให้อุณหภูมิในผิวลดลง ไม่แสบแดง หรือเติมความชุ่มชื้นระหว่างวัน ละอองเค้าเบาดีครับ เทียบราคาแล้ว ไม่แพงจนเกินไปสำหรับสเปรย์น้ำแร่

20. สีผึ่งคำน่อย//สีผึ้งกะทิ (ราคา แพคละ 349 บาท มากันครบทุกสูตร)

เป็นลิปมันแบรนด์ไทยที่ดีงามมาก ทำจากสีผึ้งธรรมชาติ กลิ่นและสีธรรมชาติ ไม่อันตราย กลิ่นเหมือนขนมไทย น่ากินมาก แล้วคือปากเรานุ่มมาก ไม่แห้ง ไม่ลอก ไม่ดำ ยอม ตอนแรกก็รู้สึกว่าราคาแรงไปหรือเปล่า แต่พอไปหาข้อมูลก็พบว่า สีผึ้งดีๆไม่ได้หาง่าย ส่วนผสมเค้าไม่ได้กะโหลกกะลาแบบตามร้านสังฆทานทั่วไป คัดเกรดมาอย่างดี เป็นภูมิปัญญาไทยที่ออกแบบบรรจุภัณฑ์ได้ร่วมสมัยขึ้น มาในกล่องสวยๆ หลอดหมุนได้เก๋ๆ เปิดมิติใหม่แห่งวงการสีผึ้ง

  •  มี 3 แบบ สีผึ้งเนื้อทอง, สีผึ้งกะทิ, สีผึ้งชมพูนุช ชอบทั้งหมดไม่โกหก ลิปมันหลายๆตัว ทำให้ปากเรานุ่มก็จริง แต่เพราะปากมันลอกด้วย แต่สีผึ้งนี่คือนุ่มแบบไม่ลอก ซื้ออออ อย่าขึ้นราคานะขุ่นพี่

มาในส่วนของสิว คนเราต้องเป็นสิวบ้าง  สำหรับ 2 ไอเทมสำหรับสิว ที่เต้ใช้หมดแล้วก็ซื้ออีก คือ

21. Scagel Acne Spot Gel : ตัวนี่เหมาะมากสำหรับสิวอักเสบ หนอง บวมๆ ตื่นมายุบลงเยอะมาก อย่าทาทั้งหน้านะตัวเอง ใช้แค่ส่วนที่สิวอัดเสบก็พอ มันเปลือง และมันคัน

22. Pan Anti Acne Type II : ครีมแต้มสิวจากแพน ตัวนี้เต้เป็นสิวแพ้ สิวผดผื่น เต้จะทาตัวนี้บางๆ เนื้อครีมไม่ทำให้ผิวแห้งด้วย ใช้หมดมาหลายหลอดแล้วเช่นกัน

Eye cream แบรนด์เดียวที่ใช้มาตลอดปี ส่วนตัวเต้ใช้อายครีมแบบเนื้อเจล เพราะไม่มีปัญหาเรื่องรอยคล้ำ จะเน้นบำรุงให้ความชุ่มชื้น กลัวตาเหี่ยวครับ

23. Oguma Ion Complex Elite Eye Energy (1,490 บาท)

อายครีมจากไต้หวัน ตัวนี้เป็นเนื้อเจลใสๆเลย ไม่เหนอะหนะ ช่วยให้ความชุ่มชื้น และช่วยริ้วรอยเส้นบางๆรอบดวงตาให้ตื้นขึ้น เรื่องรอยคล้ำตาดำนี่เต้ไม่รู้นะครับ เพราะส่วนตัวตาไม่คล้ำ ขวดนึงใช้จนลืม เพราะมันใช้นิดเดียวก็กระจายตัวได้ทั่วแล้วจริงๆ

จบ......สำหรับสกินแคร์แคร์   แค่สกินแคร์ก็ปาไป 23 ไอเทมแล้ว หายใจเข้าลึกๆ แล้วเรามาต่อกันที่หมวดเมคอัพ

มาต่อกันที่เมคอัพ นะครับ นี่ก็ว่าเยอะไม่แพ้กัน บางสิ่งก็ไม่จำเป็นต้องมีกับเค้า แต่มีเว้ย!! 55555 อะไรดีอะไรเลิศ กุมกระเป๋าตังไว้แน่นๆ ลุย!!

มันก็จะมีความงงๆหน่อย ว่าทำไมต้องมี NAKED HEAT

24. URBAN DECAY NAKED HEAT (2,190 บาท)

บอกตรงๆว่าปกติไม่เคยสนใจพาเลทอายชาโดว์ใดๆเลย จนกระทั่งมีคนรีเควสลุคโอปป้าตาแดง เราก็เลยเห็นว่าพาเลทนี้มากันครบทุกแดงที่เราต้องการ สักพักก็หลงรักในโทนสี มันแดงแบบผู้ดี แดงธรรมชาติเปลวเพลิงดั่งไฟสุมทรวง ทาแล้วรู้สึกถึงความโอปป้าตาไฟ ลงเบาๆก็เก๋ดี  สีน้ำตาลในพาเลทก็เอามาไล้ดั้งได้แบบสวยงามเนียนๆ เต้ใช้ได้อยู่ประมาณ 6 สี ถือว่าคุ้มแล้วแหละ  เต้ใช้เฉพาะโทนสีแมทนะครับ ลงเบาๆไม่ต้องคัดเบ้าเด้อพ่อหนุ่ม สีชิมเมอร์นี่อยากแกะไปขายเพื่อนมาก ไม่ได้ใช้ 5555  รักสีแมทในพาเลทนี้มาก  ยอมมมม

มาต่อกันที่รองพื้น งานผิวที่เราประทับใจ 

ชอบที่สุดคือ 4 ตัวนี้25. Estee Lauder Perfectionist Foundation (จำราคาไม่ได้แล้ว นานมาก)

เป็นรองพื้นที่ชอบมาก ชอบที่สุดในดวงใจ เหมือนเค้าจะเลิกผลิตไปแล้ว(รึป่าว) มันไม่หนา ไม่หนักหน้า ปกปิดกลางๆกำลังดี ระหว่างวันสีไม่ดรอป และดูฉ่ำผิวดี แอบงอนนะถ้าเลิกผลิต

 ส่วนตัวผิวมันแต่ไม่ชอบรุ่น double wear รู้สึกมันแมทและหนาไป ล้างยากไป ชีวิตเต้ไม่ต้องการกันน้ำขนาดนั้น ใครรู้ว่ารุ่นนี้ยังมีขายที่ไหนบอกเค้าที เห็นว่ามีที่ Outlet ซึ่งไกลจังเลยยย

มาต่อกับคุชชั่น หรือรองพื้นนั่นแหละ ที่บรรจุในแบบตลับ หลายคนจะทราบว่าเต้บ้าคุชชั่นมาก มีเกิน10ตลับ ชอบในความสะดวกใช้ ปาดๆสองสามนาทีเสร็จ และแทบทุกแบรนด์จะมีกันแดด SPF 50 +++

คุชชั่นที่เต้ชอบ มี 3 ตัว เนื้อ 3 แบบ ใช้จนหมดทั้ง 3 ตลับแล้วครับ

26. IOPE Cushion (ราคา 900-1,400 บาท) ได้รีฟิลด้วย

เป็นแบรนด์แรกๆที่ทำคุชชั่นออกมาขาย และทำได้ดีมาก ความเกาหน้าเงาที่แท้จริง  ฮิตทั่วเกาหลี เลยลองมั่ง เนื้อบางเบา เน้นปรับสีผิวแต่ไม่ปิดความนูนสิวนะครับ ติดทน แล้วไม่อุดตัน งงมาก ทาแล้วเย็นผิวนิดๆ มีส่วนผสมของน้ำแร่ เป็นคุชชั่นที่สบายผิวที่สุดตั้งแต่เคยใช้มา เงากำลังดี ทุกครั้งที่ใช้คุชชั่นตัวนี้เพื่อนจะทักว่าผิวดี ดูนอนมาเยอะ ป่าวววว ทาคุชชั่นมาเว้ย  ถถถถถ  ข้อดีเค้ามีเยอะ แต่สีค่อนข้างน้อย เช็คสีกันดีๆนะครับ

27. LANCOME TEINT IDOLE ULTRA CUSHION (ราคา 1,700 บาท)

ชอบที่ oil free ไม่ทำให้ผิวมันเพิ่มเป็นสังขยา และ SPF 50/ PA+++

*ความประทับใจส่วนตัว เต้ชอบพัฟที่มันเป็นขนๆ แปลกดี พัฟจิกเนื้อคุชชั่นออกมาได้กำลังดี เกลี่ยได้เนียนและบาง ตัวตาข่ายก็ปล่อยเนื้อคุชชั่นออกมาได้กำลังพอดี ไม่เหนอะไม่เลอะไม่หนา ฝาปิดสนิทแน่นหนา แฮ๊ปปี้ สมกับราคาค่าตัว

ใครชอบงานผิว ปกปิดกลางๆ แนะนำตัวนี้ ใครชอบแมทกว่านี้ เค้ามีรุ่นอื่นด้วย และข้อดีของแบรนด์ คือมีสีให้เลือกเยอะ วันไหนหน้าแห้ง แอบทาแล้วไม่สวยเท่าวันที่หน้ามัน คนหน้ามันแฮ๊ปปี้

28. TER UV Cushion oil control spf 50 pa+++ (419 บาท) ได้รีฟิลด้วย

คุชชั่นเนื้อแมท ที่ปกปิด ราคาน่ารัก แถมเฉดสีอมเหลืองได้ใจ คือเนื้อสัมผัสค่อยข้างดี ใช้แบบสมบุกสมบันมาก เคยทาไปทะเล เหงื่อออกก็ยังอยู่ ยิ่งเซ็ตด้วยแป้งเนื้อแมท ยิ่งติดทนแน่นขึ้นไปอีก

แป้งผสมรองพื้น เนื้อเนียน ปกปิด เต้ชอบอยู่  2 ตัว

29. Cute Press Evory Retouch Oil Control Foundation Powder SPF30 PA+++ (ราคา 359 บาท พร้อมแปรง)

เป็นแป้งผสมรองพื้น ที่เนื้อดีเกินราคามากกกกกกกกก รีทัชได้จริงสมชื่อรุ่น เอาจริงๆ ดีเทียบเท่าเคาว์เตอร์แบรนด์หลายตัวเลย วันไหนหน้าไม่มีรอยอะไรมาก แต่สีผิวไม่สม่ำเสมอ มีรอยแดงๆ ใช้ตัวนี้คือเนียนกริ๊บ กลบความแดงมิดเลย ภาพในกระทู้นี้ก็ใช้แค่แป้งตัวนี้ ไม่ได้ลงรองพื้นครับ เต้ชอบใช้พัฟกดๆมากกว่า จะได้การปกปิดมากขึ้น อยากได้บางลงให้ใช้แปรง เหงื่อออกแล้วหน้าจะฉ่ำสวย เนื้อเป็น semi-matt  กึ่งแมท สีอมเหลืองดี

30. SEPHORA COLLECTION 8 HR Mattifying Compact Foundation (ราคา 6XX บาท)

แป้งผสมรองพื้นเนื้อแมท คุมมัน แป้งเซโฟร่าดีหลายตัวทีเดียว เต้ชอบรุ่นนี้ เพราะเนื้อแป้งนุ่มดี ทาง่าย ไม่เป็นคราบ สีอมเหลือง มีสีให้เลือกเยอะมากตามสไตล์เซโฟร่า รู้ตัวอีกคือใช้หมดตลับไปแล้ว มันใช้ง่ายแบบว่าปาดๆก็สวยแล้ว ไม่ต้องมีทักษะเยอะ เต้ซื้อสีเข้มมาไว้เป็นเฉดดิ้งด้วย และลงช่วงที่เราโกนหนวดที่ผิวจะสีอมเขียวๆ ปกปิดความแดงๆเขียวๆที่พึ่งโกนหนวดได้มิดเลยจ้า รัก ใช้แปรงก็สวยเนื้อแป้งควักไม่ยาก ใช้พัฟก็สวย ตลับแบนๆพกง่าย

มากันที่อุปกรณ์การฟาดรองพื้นและแป้งของเรา

31. IQQU Handcrafted Makeup Brushes เบอร์ 118 (ราคาจำไม่ได้)

เป็นแปรงที่ชอบมาก ใช้มาตั้งแต่ปี  2011 6ปีแล้ว ใช้บ่อยมาก สภาพยังดีมาก เป็นแปรงของมิเชล ฟราน นางทำขายตั้งแต่ตอนสาวๆ(5555) ขนาดมันกำลังดีมาก ใช้ปัดแป้ง ปัดไฮไลท์ ปัดคอนทัวร์ โอเคไปหมด รักเลย  ไม่ต้องไปหาซื้อนาจา คือมันไม่มีขายแล้วววว

32. Beauty Blender (ราคา 6XX บาท)

ฟองน้ำที่เต้ชอบนำมาใช้ลงรองพื้น ลงรองพื้นได้เนียนสวยมากกกกก ออริจินอลที่แท้จริง ความนุ่มของฟองน้ำ ขนาด มันถนัดมือ และซับเนื้อรองพื้นได้เนียนดี ถ้าต้องการปกปิดประมาณนึง เต้ใช้ตัวนี้ เหมือนกับรองพื้นแทบทุกประเภท

33. eSpoir PRO TAILOR CURVE FACE BRUSH (ราคา 800-1,000 บาท) แปรงลงรองพื้นปลายโค้ง มีคนก็อปนางไปเยอะ เราซื้อมาจากเกาหลี ช่วงที่มันหาซื้อยากๆ ส่วนเว้าโว้งมันซอกซอนตามซอกจมูก เบ้าตา คาง ได้ดีมาก วันไหนรีบๆ อยากได้ลุคที่ไม่หนา บางเบา เต้เอาแปรงปาดทั่วหน้าไปเลย  ชอบรูปทรงที่มันจับถนัดมือดี แปรงนุ่มไม่ขูดหน้า 

งานผิวยังไม่จบ แป้งฝุ่นที่เต้ประทับ 3 ตัวนี้หลงรัก ราคาใกล้ๆกัน คุรภาพใกล้เคียง เลือกไม่ถูก

34. Cute Press Bye Bye Oil Natural White Powder (ราคา 129 บาท)

แป้งฝุ่น เนื้อบางเบา สูตรคนเป็นสิวใช้ได้ เต้ใช้แล้วสิวไม่ขึ้น สีเนื้อนวล เซ็ตทุกอย่างได้ดี ราคาถูกสุดใน 3 ตัวนี้ แต่ปริมาณน้อยสุดเช่นกัน ใครหาแป้งฝุ่นราคาเบาๆแบบใช้ได้เรื่อยๆเปลืองๆระหว่างวัน ตัวนี้โอเคเลยครับ เบานุ่มเกลี่ยง่าย

35. แป้งฝุ่นศรีจันทร์ ตัวนี้เป็นรุ่น For Men (ราคา 3XX บาท)

เป็นแป้งฝุ่นที่ราคาย่อมเยาว์ และคุมมันได้โอเคในระดับนึงเลย ตลับหมุนปิดไม่ให้แป้งหกเลอะเทอะได้ด้วย คุมมันได้จริงอะไรจริง เซ็ตรองพื้นเนื้อแมทได้เลิศเลอมาก ยอมก็ได้  5555

36. Innisfree No Sebum Mineral Pact (ราคา 3XX บาท)

Innisfree กลับมาอีกแล้ว 555555 เค้าไม่ได้ให้สักอย่างนะ ซื้อเองล้วน

แป้งตัวนี้เคยใช้แล้วตอนเป็นกระปุก ตอนนี้มาแบบอัดแข็ง ใช้ง่ายพกสะดวกขึ้น เป็นแป้งฝุ่นคุมมันที่เบลอรูขุมขนได้เบาๆ คุมมันอยู่ในระดับกลางๆระหว่าง 2 ตัวบน ชอบ ซื้ออีกๆ

งานคิ้ว ที่ผู้ชายใช้แล้วไม่โป๊ะ

37. Golden Rose LONGSTAY BROW STYLING GEL (จำราคาไม่ได้ ขโมยเพื่อนมา แต่แบรนด์นี้ไม่แพงเกินเรื่องแน่นอน)

เป็นมาสคาร่าคิ้วที่ดีมากกกกก ติดทน  สีน้ำตาลดำสวยงาม  ไม่โป๊ะสีไม่ทองแดง แห้งเร็ว คิ้วเรียงตัวสวยงาม ประทับใจตั้งแต่ครั้งแรก หัวแปรงเล็กซอกซอนดีเหลือเกิน

38. Etude House Drawing Eye Brow (ราคา 60-120 บาท)

ดินสอเขียนคิ้ว หัวตัด แบบหมุนๆ เขียนง่าย นิ่ม มีแปรงให้พร้อม ระบบหมุนไม่ต้องเหลา สีน้ำตาลอมเทาดำ สีไม่หลอกหลอนจนชาวบ้านจับได้ ใช้มาจนไม่นับจำนวนแท่งแล้ว ยกโหลไปเลย

มาที่ความหน้าเรียว การเฉดดิ้งกันบ้าง

39. NYX Mineral foundation stick (ราคา 4XX บาท)

วันไหนอยากให้หน้าเรียว แบบชัดๆ แน่นๆ อยู่ทนยันเย็น เต้จะใช้รองพื้นสีเข้มแบบแท่งตัวนี้ ลงสันดั้ง กรอบหน้า เกลี่ยด้วยฟองน้ำ ดีงาม เนื้อนุ่ม เกลี่ยง่าย ไม่แห้งเร็วจนเกลี่ยไม่ทัน  

40. CITY COLOR Conture Effects On-The-Go (ราคาไม่เกิน600บาท จำแม่นๆไม่ได้)

เป็นตลับคอนทัวร์หน้าที่มีสีครบ น้ำตาลอมส้ม อมเทา อมแดง ไฮไลท์ มีครบเลย สีค่อนข้างสวย ตลับเดียวคุ้ม

เพื่อความไม่โป๊ะ ผู้ชายเลือกใช้อย่างนึงพอครับ เดี๋ยวเฉดชัดไปและดูคาบาเร่เฮ่ๆฮาโหล 

เป็นผู้ชายก็ต้องการมีการเซ็ตผม ชายใดเซ็ตผมไม่เป็น ชายนั้นจะดูลุคเดิมจำเจ สำหรับผลิตภัณฑ์ ที่เต้ใช้มาตลอด ก็ประมาณนี้40. LOLANE Hair Spray (ราคา 1XX บาท)สเปรย์เซ็ตผมถูกและดี อยู่ทรง เต้ชอบใช้เวลาเว็ทลุค ละอองกระจายดี ผมไม่ดีดไม่เปียกไม่เป็นคราบ อยู่ทรงในระดับนึง แต่สระไม่ยาก 41. Mandom Long Keep Gel (ประมาณสองรอ้ยบาท)

เจลใส่ผมที่ใช้มาตั้งแต่สมัยมหาลัย เจลเกลี่ยง่าย สางแล้วผมไม่เป็นขุย จะลุคเซอร์ วินเทจ ก็ได้หมด ปาดๆแล้วไดร์นี่อยู่ทรงดีทีเดียว จะใช้ตอนผมหมาดผมเปียกก็ได้หมด

42. Schwarzkopf silhouette pure formula invisible hold (ไซส์ใหญ่สุด ประมาณ 500 บาท ใช้กันไปครึ่งปี)

เป็นสเปรย์ฌซ็ตผมที่อยู่ทนมากกกก อยู่ทรงที่สุดเท่าที่เคยใช้มาในชีวิต เคยฉีดไปเล่นสงกรานต์ โอ้โห สาดน้ำมากระบังเรายังอยู่(555555) ต้องหาซื้อตามร้านขายอุปกรณ์ทำผม จะทรงไหนก็สต๊าฟได้ไม่มีตก ผมดูแมทไม่มันเงาด้วยครับ ใช้มาแสนนาน เลิกนับจำนวนกระป๋องไปเลย

43.  Gatsby Wax สีเทา (ราคาจำไม่ได้) เต้มีทั้งกระปุกเล็กสำหรับพกติดกระเป๋า และกระปุกใหญ่เอาไว้ที่บ้าน ช่วยให้ผมหนึบอยู่ทรง เซอร์ได้ใจ หรือจะเซ็ทวินเทจก็ได้ สารพัดประโยชน์ รุ่นนี้เนื้อแมทไม่เงาเช่นกัน วันไหนผมลื่นเซ็ตยาก จัดตัวนี้ก่อนเลย เกาะกันดีเหลือเกิน

กลิ่นหอมติดตัว เป็นสเน่ห์อย่างนึงของผู้ชายน้ำหอม 3 กลิ่น ที่เต้ใช้บ่อยๆ

44. Davidoff cool water (ราคา 1,800 บาท)เป็นกลิ่นที่เป็นมิตรกับทุกคนมากๆ เพื่อนผู้หญิงนี่ตามไปซื้อให้ผู้ชายกันหมด มันหอมสบายจมูก กลิ่นดูเป็นผู้ชายเท่ๆ เย็นๆ เซ็กซี่ขี้เล่น ไม่ฉุน  ฉีดทีไรจะมีซักคนทัก กลิ่นติดทนปานกลาง อยากให้เค้าทำแบบติดทน Parfume ออกมา ใช้มากว่า7ปีแล้ว อยากให้กลิ่นติดทนแบบสุดๆกว่านี้ เป็นกลิ่นที่ซื้อซ้ำๆ เวลาไม่รู้จะใช้กลิ่นอะไร เคยเจอผู้หญิงมาถามในลิฟต์คอนโดด้วย สงสัยกลิ่นจะดีจริง เราใช้เองเราจะไม่แน่ใจ จนคนอื่นบอก ว่ามันเข้ากับกลิ่นตัวเคมีของเรา 

45. Bvlgari Aqva Pour Homme (ราคา 2,500 บาท)อีกกลิ่นที่ใช้บ่อย แนวสดชื่น กลิ่นเหมาะกับเมืองร้อนแบบเรา ให้ลุคผู้ชายสดใสเซ็กซี่ขี้เล่น ติดทนกว่ากว่า Davidoff แต่กลิ่นไม่นุ่มเท่า ตะออกแนวสดชื่นกว่า ขวดหรูทรงกลมเหมือนหินที่ริมชายหาด

46. CK Eternity (1,800 บาท)น้ำหอมกลิ่นหล่อๆในตำนาน ขายมานานจนลืม ติดทนระดับนึง ในราคาที่ไม่แพง ใช้บ่อยในวันที่ใส่เชิ๊ตกับยีนส์ รู้สึกมันเข้ากันมากมาย ลุคเซอร์ๆ มีหนวดบางๆ กับแว่นกันแดดเท่ๆ 

สุดท้ายแล้วววววมากันที่ Beauty Gadget 

จะเห็นว่าเต้ไม่ได้ใช้สครับหน้าเลย เพราะเต้ใช้แปรงล้างหน้าแทนการสครับเบาๆ47. Philips Visapure Essential (5,000 บาท) แปรงล้างหน้าที่เต้ใช้แทนสครับผิวหน้า เต้เปลี่ยนหัวแปรงเป็นแบบ Extra Sensitive Skin ใช้สัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอ สะอาดดดด ใช้ทุกวันรู้สึกระคายเคืองเหมือนกันครับ ชอบด้ามจับทรงเก๋ที่จับถนัดมือ กันน้ำ และช๊าตแบตได้ ไม่ต้องใส่ถ่าน มีระบบหยุดเองจุดละ 10 วินาที ทั่วหน้า

มีไว้ประดับบารมี เก๋ไก๋ไฮเทคโนยีมาก 5555

สุดท้ายแล้ว สำหรับเครื่องหนีบผมที่ใช้มาร่วมปี เครื่องก่อนหน้านี้ยี่ห้อดังเคยระเบิดใส่เราไป =_= จึงไปซื้อตัวนี้มาแก้ขัดก่อนเพราะลดราคาอยู่ เอ้าดีกว่าอีกกกกกก

48. Babyliss slim 28mm intense protect (ซื้อตอนลด ประมาณ 800 บาทเอง) เครื่องหนีบผมที่ร้อนเร็วมาก ปรับอุณหภูมิได้ 7 ระดับ หัวหนีบก็เล็กดี เข้าไปถึงโคนผม (ผู้ชายผมสั้นไง) แถมสามารถบิดลอนเกลียวแบบทรงโอปป้าหยักศกได้ด้วย เต้ใช้ความร้อนระดับProtectเส้นผม ผมไม่เสียด้วยครับ อยู่กันมาแสนนาน คุ้มมากเด้อออออ

หมดแล้ววววว ใจจะขาด ทำไมมันยาวอะไรขนาดนี้ เกือบ 50 Items เอาหละ อ่านแล้วสนใจตัวไหน แนะนำให้ไปลองก่อน หรือสอบถามเต้เพิ่มได้ครับ ค่อยๆพิจารณา ติดตามบล็อกเกอร์ท่านอื่นด้วย ทั้งไทยและเทศน์ เผื่อเปรียบเทียบในสิ่งที่เราสนใจครับ เพราะถ้าสอยตามทั้งหมดนี้ ดาวน์รถได้แน่นอน

เต้เอนเอียงไปทางสกินแคร์ค่อนข้างเยอะ เพราะอายุเยอะขึ้นแล้วเราอยากบำรุงให้ดี อยากสต๊าฟผิวไว้ แต่เต้ก็ไม่ได้ใช้20กว่าขวดนี้ใน1วัน ใช้ตามสภาพผิวในช่วงนั้นๆ เพราะปีๆนึงก็มีปัญหาผิวหลากหลายเหมือนกันครับ แล้วนี่ก็รวบยอดของที่ใช้ใน2ปี มันก็เลยเยอะหน่อยผู้หญิงใช้ตามได้ ผู้ชายดูแลตัวเองยิ่งดีมีเสน่ห์ทำบุญสวยชาติหน้า ทำหน้าบำรุงหน้าสวยชาตินี้นะค้าบบบบบวันนี้ไปแล้ว ใครอ่านจนจบคือรักมาก  เขียนตกหล่นบ้างต้องขออภัย เดี๋ยวมาแก้น้า รีบมาก ฝนจะตกแล้ววววว ขโมยเน็ตออฟฟิศใช้ 555555รักนะ ..... ลาเต้

Discussion (16)

เยอะมาก ฟินมากค่ะ


ขอบคุณรีวิวนะคะ



หลายอย่างชอบใช้เหมือนกัน
น้ำตบเเพลงตอน
น้ำเเร่
เเป้งรีทัช ทุกสิ่งคือใช้ดีเวอร์