Review | APARA (อะพาร่า) น้ำตบยางพารา ลองแล้ว 2 สัปดาห์ ลดมัน ผิวเด้ง หน้าดีขึ้นจริง

สวัสดีค่ะสาวๆชาวจีบัน วันนี้มีของแปลกใหม่มา Review ให้ดู นั่นคือ APARA (อะพาร่า) "เอสเซ้นส์น้ำตบยางพารา" เป็นของดีจากฝีมือและงานวิจัยของคนไทย ที่ใช้ทรัพยากรอันโดดเด่นของไทยอย่าง "น้ำยางพารา" ซึ่งเต็มไปด้วยสารบำรุงผิวมากมายเลย  ขอบอกเลยว่าคุณสมบัติและสารบำรุงนั้นดีไม่แพ้ของแบรนด์ของนอกเลย (แอบเชียร์คนไทยและของไทย)***คุยกันก่อนอ่าน - รีวิวนี้แบรนด์ส่งของมาให้ลองนะจ๊ะ ก็ลองกันไปตามเนื้อผ้าเหมือนเดิมนะ เราพยายามเก็บข้อมูลละเอียดมาก เพราะมันแปลกใหม่ เราเลยอยากรู้ว่ามันจะเป็นยังไง ดียังไง*** ด้วยความที่ไม่เคยรู้เลยว่า เห้ยน้ำยางพารามันเอามาบำรุงผิวได้ด้วยเหรอ?? เราเลยไปหาข้อมูลมาก่อนจะลองใช้ ก็เลยพบว่ามันมีการวิจัยโดย ม. สงขลานครินทร์ และเคยออกรายการ "เรื่องเด่นเย็นนี้" มาแล้วว่า ต้นยาง และน้ำยาง มันมีประสิทธิภาพในการเยียวยา และมีสารที่ช่วยในการฟื้นฟูผิว และสารบำรุงผิวดีๆอีกหลายตัวเลย ใครสนใจลองไปหาดูใน google ได้เน้อ

เอาล่ะ มาดูคุณสมบัติ และสารบำรุงกันก่อนดีกว่า ว่ามีอะไรบ้างเนื้อผลิตภัณฑ์ - บางเบา ซึมซาบเร็ว มอบความชุ่มชื่นให้ผิวหน้า โดยไม่ทำให้ผิวเหนียวเหนอะหนะ

คนผิวบอบบางแพ้ง่ายก็ใช้ได้ เพราะปราศจากการแต่งกลิ่น, สี, แอลกอฮอล, สารกันเสีย (Paraben), สารที่ก่อให้เกิดการอุดตันผิวไม่ทดสอบกับสัตว์ (Not Tested on Animals) ด้วยล่ะเออ ดีต่อใจ

สิ่งที่จะได้จากเอสเซ้นส์น้ำตบยางพาราตัวนี้ ตามคำเคลมของแบรนด์คือ

  1. ลดและควบคุมความมัน
  2. กระชับรูขุมขน นอกจากสารสกัดจากเซรั่มยางพารา ทางแบรนด์มีการเพิ่ม Witch Hazel ลงไปด้วย ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยเรื่องกระชับรูขุมขน
  3. ลดการเกิดสิว หลังใช้ไป 3 เดือนสิวเกิดใหม่จะลดลง 100% เลย (อ้างอิงผลจากการวิจัยของ ม. สงขลานครินทร์)
  4. ผิวขาวใสขึ้น เพราะสารสกัดจากเซรั่มยางพาราช่วยลดการส่งผ่านเม็ดสีผิว (เมลานิน) และยังช่วยเปลี่ยนเม็ดสีผิวให้มีสีขาวขึ้น นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังเสริม Niacinamind (Vitamin B3) ลงไป ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวขาวขึ้นเช่นกัน
  5. ผิวนุ่มชุ่มชื่น นอกจากสารสกัดจากเซรั่มยางพารา ทางแบรนด์ได้เติม Aloe Vera และ Sodium Pac ที่จะช่วยกันมอบความชุ่มชื่นให้ผิว
  6. ลดริ้วรอย ในสารสกัดจากเซรั่มยางพาราอุดมไปด้วยสาร Anti-Oxidant ที่ช่วยยับยั้งการทำงานของอนุมูลอิสระของออกซิเจน และไนโตรเจน และยับยั้งการสร้างสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เมื่อผิวโดนแดด ใครงงมาทางนี้ >>เราอ่านไปก็งงๆไป เอาเป็นว่า เจ้าสารพวกนี้ คือสารที่ก่อให้เกิดริ้วรอย แล้วสารสกัดจากเซรั่มยางพาราเนี่ย สามารถยับยั้งกระบวนการสร้างและทำงานของสารเหล่านี้ต่อผิวเราได้ เย้!! จบ 555

เอาล่ะ มาถึงช่วง Hilight ของกระทู้ นั่นก็คือการลองใช้ และรีวิวนั่งเอง ... เย้!! เราใช้ APARA (อะพาร่า) 2 อาทิตย์ โดยอาทิตย์แรกใช้เดี่ยวๆเลย เช้า-เย็น อาทิตย์ที่ 2 ใช้ร่วมกับสกินแคร์ตัวอื่นๆ ผลจะเป็นยังไงนั้น ตามมาค่ะสาวๆ

เริ่มด้วยสภาพหน้าสดเราก่อนใช้ APARA (อะพาร่า) สังเกตได้ว่าผิวจะดูไม่สดใส ดูมีริ้วๆกร้านๆ มีสิว และรอยสิวที่เกิดจากการแพ้ทิชชู่เปียก (อันนี้เรามีกระทู้เตือนใจแยกออกมาแล้วเมื่อวาน) คือวิบากมาก

วันแรกเราไม่แต่งหน้านะ ทาแค่ APARA (อะพาร่า) อย่างเดียวเลย อยากดูว่าจะช่วยเรื่องความมันได้แค่ไหน เพราะปกติเราหน้ามันระดับเมือกมากๆ ปกติขนาดไม่แต่งหน้า ทาแค่สกินแคร์ บ่ายๆเยิ้มแล้ว กระดาษซับมัน 3-4 แผ่นขึ้นไปตลอด วันนี้ซับไป 1 แผ่น แค่ 1 ครั้งตอนเที่ยงเอง 

รูปนี้ถ่ายตอนเลิกงาน กำลังจะกลับบ้าน สำหรับเราถือว่าเห็นผลได้ชัดเจนเรื่องช่วยลด และควบคุมความมันนะ หน้ามันน้อยลงจริงๆ

วันที่ 2เราใช้ APARA (อะพาร่า) แค่อย่างเดียว แล้วตามด้วยรองพื้น CATRICE 18+ Hrs ALL MATT (ตัวนี้ใช้ดีนะเออ คุมมันใช้ได้ เดี๋ยวจะหาเวลามารีวิวแบบเต็มๆ) ปกติถ้าแต่งหน้า ตอนเที่ยงเราซับมัน 3-4 แผ่นอย่างต่ำอะ แค่ 3-4 ชม หน้าก็เยิ้มแล้ว แต่วันนี้ซับมันแค่ 1 แผ่นก็เอาอยู่อ่ะ เป็นคู่หูงานผิวที่ลงตัวดีมากสำหรับคนผิวมันแบบเรา

ซับมันแค่แผ่นเดียวเองอะ เรานี่ว้าวเลย ปกติขนาดไม่แต่งหน้า ทาแค่สกินแคร์ ยังซับมัน 3-4 แผ่นอะ หลังจากนั้นเราก็ใช้ APARA แบบเดี่ยวๆต่อไปอีกจนครบ 7 วัน

มาดูวิธีใช้กันวิธีใช้ก็ง่ายมาก หยดลงบนฝ่ามือประมาณ 5 หยด (คนหน้าบานก็ใช้เยอะแบบนี้แหละ) แล้วก็ตบๆให้ซึมลงสู่ผิว ตบแป๊บเดียวแหละ นับ 1-10 ก็ซึมเข้าผิวแล้ว เพราะเนื้อมันบางเบา แต่ว่าพอซึมแล้วผิวกลับนิ่มขึ้น ชุ่มชื่นขึ้นนะ มันไม่ทิ้งความเหนอะหนะบนผิว แต่ผิวจะดึ๋งๆ ชุ่มชื่นอะ

ครบอาทิตย์นึง ผิวหน้าก็จะประมาณนี้ คือจากที่ดูกร้านๆ ดูโทรมๆ มันจะดูอิ่มน้ำขึ้น ผิวดูสดชื่น ดูนิ่มๆขึ้น เราชอบมากตอนที่ตื่นมาส่องกระจกตอนเช้า เทียบกับตอนก่อนนอน แล้วพบว่าเห้ยผิวมันดูสุขภาพดีขึ้น ดูอิ่มฟู สดใสกว่าเดิม (ไอ้ที่วาวๆบนหน้าไม่ใช่ความมันนะ เป็นเจลแต้มสิว)

คราวนี้ก็ลองต่ออีก 7 วัน อยากรู้ว่าถ้าใช้สัก 2 อาทิตย์จะเป็นยังไง แต่คราวนี้เราลองใช้ร่วมกับสกินแคร์ที่เราใช้อยู่เป็นประจำด้วย คือ Shiseido Ultimune และ Clinique Even Better ความดีของเอสเซ้นส์น้ำตบยางพาราตัวนี้คือ มันเหมือน Pre-Serum ที่ช่วยให้ผิวเราเปิดรับสกินแคร์ตัวอื่นๆได้ดีขึ้นปกติเราทาสกินแคร์ที่ใช้อยู่ จะใช้ปริมาณเยอะกว่า และใช้เวลานานกว่าในการรอให้มันซึมเข้าผิว แต่ถ้าเราลง APARA ก่อน มันซึมเข้าผิวเร็วขึ้นอะ แล้วก็ใช้น้อยลงกว่าเดิมด้วยตื่นเช้ามาผิวอิ่มฟู เด้ง ดูมีน้ำมีนวล สดใสกว่าตอนก่อนนอน ชอบผิวตัวเองตอนเพิ่งตื่นมากๆเลย

ผ่านไป 14 วัน มาดูความเปลี่ยนแปลงกันว่า ผิวหน้าเราเป็นยังไงบ้าง

สรุปผลการใช้ตามสภาพผิว และประสบการณ์ของเราตลอด 14 วันที่ผ่านมา

  1. ผิวชุ่มชื่นขึ้น ดูอิ่มน้ำ มีน้ำมีนวลขึ้น ทำให้ดูรูขุมขนเล็กลงจิ๊ดนึงเพราะผิวมันอิ่มฟู ไม่แห้งกร้าน
  2. ผิวนิ่มดึ๋งๆ
  3. หน้ามันน้อยลง ชัดเจนมาก
  4. ผิวดูใสเปล่งปลั่งขึ้น คือไม่ได้ขาวจั๊วะ ขาวโอโม่ แต่มันจะดูโกลว์ขึ้น ดูสุขภาพดีขึ้น
  5. แต่งหน้าง่ายขึ้น เครื่องสำอางติดหน้ามากขึ้น
  6. ใช้ร่วมกับสกินแคร์ตัวอิ่น ทำให้ทาง่ายขึ้น ซึมสู่ผิวไวขึ้น ใช้สกินแคร์ปริมาณน้อยลงกว่าเดิม
ในส่วนเรื่องของกระ รอยด่างดำ และรูขุมขนที่เล็กลงแบบชัดเจนนั้น บอกตามตรงยังไม่เห็นผลแบบชัดๆในระยะเวลา 14 วันนะ แต่เราไม่ซีเรียส เพราะเรื่องรูขุมขน และกระเนี่ย มันเป็นปัญหาโลกแตกของผิวเลย เป็นอะไรที่รักษายาก ต้องใช้เวลา แม้แต่การทำทรีทเม้นท์ในคลินิกก็ยังใช่ว่าจะช่วยให้หาย หรือได้ผลแบบ 100%

โดยรวมถือว่าน่าพอใจสำหรับเรานะ ถ้าถามว่าชอบที่สุดตรงไหน ก็ต้องบอกว่าตรงที่ ช่วยให้หน้ามันน้อยลง เนื้อเอสเซ้นส์บางเบาซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะ ส่วนผสมดี และอ่อนโยน และที่สำคัญคือ แปลก เพราะมาจากสารสกัดจากเซรั่มยางพารา แถมไม่ทดสอบกับสัตว์ด้วย ใช้แล้วสบายใจ

เป็นรีวิวที่ละเอียดมาก เพราะเราพยายามเก็บรายละเอียดให้ได้มากที่สุด เนื่องจากเราเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าใช้แล้วจะเป็นยังไง จะได้อะไรจากเจ้าเอสเซ้นส์น้ำตบยางพาราตัวนี้บ้าง 

หวังว่าสาวๆคงชอบ หรืออ่านจนจบ (ฮา) ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ ฝากเม้นท์ ฝากไลค์ เป็นกำลังใจให้กันหน่อยเน้อ  

Discussion (11)

หาซื้อได้ทางใหนบ้างคะ
@Nupoo Photowindy  เนอะ ของคนไทยด้วย น่าสนับสนุน
ใช้แล้วดีจริงๆค่ะ ปลื้มมาก
@gemmlustre ขอบใจจ้า ละเอียดมากเพราะพี่ก็อยากรู้ว่าใช้แล้วจะเป็นไง มันจะได้อะไรจากเซรั่ม เลยเก็บทุกรายละเอียด
รีวิวละเอียดมากค่ะ
น่าลองจังเลย