Review - All I used skincare "SKINFOOD"

เย้!!!!!! ในที่สุดก็รวบรวมสิ่งสิ่งนี้ออกมาเขียนได้ซะที นั่นคือออ..

"All I used skin care Skinfood" หรือ skin care ของ Skinfood ทั้งหมดที่เคยใช้มา

ขอบอกก่อนเลยว่าเรารู้จัก Skinfood ตอนประมาณ 8 ปีที่แล้ว ซึ่งตอนนั้นคือ อยู่แค่ม.ต้นเอง(มีความเด็กน้อยเว่อ)

มันเริ่มจากที่ตอนนั้นที่บ้านชวนไปเที่ยวเกาหลี คือตอนนั้นยังเป็นเที่ยวแบบจองทัวร์ฮิตๆ อยู่เลย

คิดดูว่านานขนาดไหน ตอนนั้นนี่ก็ไม่รู้จักแบรนด์นี้หรอก แต่พอดีว่า ไกด์ทัวร์แนะนำ บอกว่า "เนี่ยใครมาเค้าก็ฝากซื้อบ้าง ซื้อฝากบ้าง" เราก็แบบ "เฮ้ย ถ้ามันขนาดนี้ก็ต้องลองปะ" ณ จุดนั้น อีนี่ยังไม่รู้จักคำว่า "แต่งหน้า"เลยจ้าาาา ฮ่าๆ

(ช่วง grossip ข้ามได้นะ ถ้าขี้เกียจ อิอิ)

จำได้ขึ้นใจเลยว่า ตอนนั้นอยู่ในช็อปย่านเมียงดง พนักงานขายคนเกาหลี นางพูดภาษาไทยได้จ้าาา

อีนี่ก็ประทับใจมากกกกก... ในใจนี่แบบ เฮ้ย สุดยอดอะ ชื่นชมมากเลย แล้วสิ่งที่หยิบมาก็คือ..

"เบสเมคอัพที่มันเป็นพีช แป้งฝุ่นกระปุกกลมๆ โฟมล้างหน้ากาแฟ ยาทาเล็บสีใส(ฮ่าๆๆๆ) ครีมอาบน้ำ

แล้วก็ครีมคาเวียร์(ฝากที่บ้าน)"

ดูความเด็กน้อยของเราซิ ลิปสติกยังไม่หยิบเล้ยยย ฮามั้ยละ ถ้าเป็นตอนนี้ไปซื้อนะ อื้อหือออออ....

แล้วพอหลังจากกลับมาไทย เราก็ได้ลองใช้ครีมคาเวียร์ที่ซื้อมาฝากที่บ้านด้วย พอใช้แล้วแบบ

เออ.. มันก็ดีอยู่นะ นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่เราเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์หลายๆ อย่างของทางแบรนด์นี้

เข้าประเด็นกันเลยดีกว่า เดี๋ยวจะเสียเวลานาน..

เราเป็นคนผิวผสม มันช่วงทีโซน ส่วนรอบนอกนั้นเป็นผิวธรรมดา เพียงแต่บางช่วง ช่วงทีโซนจะทั้งมันทั้งลอก

งงในงงกับผิวมาก แถมมาพักหลังๆ นี่คือ เริ่มเกิดอาการระคายเคืองง่ายด้วย (คุณพระ!!! )

1 Black Sugar: honey mask wash off

ของเราหาซื้อมาได้เป็นลายสนูปปี้ด้วย ลายน่ารักมาก อันนี้เราใช้แล้วชอบมาก เนื้อสคับมันเป็นเหมือนเกร็ดน้ำตาล

กลิ่นหอมๆ หวานๆ แบบน้ำผึ้งผสมน้ำตาล แต่เม็ดสครับมันจะหยาบๆ หน่อย ทำให้บางทีมันเจ็บๆ เวลาถูหน้า

หลังล้างออกคือ หน้ามีความชุ่มชื้น สิวเสียนก็ขัดออกนะ แต่ออกไม่เยอะ ออกบ้างนิดหน่อย แต่ชอบกลิ่นสุดละ

2 Black Sugar: perfect first serum

ตัวนี้เป็นเหมือนน้ำใสๆ ใส่สำลีแล้วก็ทาบลงบนผิวหน้าอีกที ใช้แล้วก็เฉยๆ

3,4 Green Tea Milk กับ Egg With Pore

อันนี้เป็นโฟมล้างหน้าเนื้อเป็นครีมสีขาวๆ กลิ่นดีทั้งคู่ ล้างได้สะอาดแต่ไม่แห้งตึง จุดนี้เป็นสิ่งที่เราชอบมากๆ จากโฟมล้างหน้า 2 อันนี้ ใช้มาหลายหลอดแล้ว สลับๆ กันไปเรื่อยๆ กับ อันที่ 5,6 ประมาณ 2 ปีได้ที่ใช้อยู่ไม่กี่อย่างนี้วนๆ ไป แต่สาเหตุที่หยุดใช้ 2 อันนี้เพราะว่า ปกติเราเก็บโฟมล้างหน้าไว้ที่อ่างล้างหน้าในห้องน้ำ แล้วทีนี้มันเป็นหน้าร้อน อากาศช่วงบ่ายคือมันร้อนมากๆ พอตอนเย็นเราเปิดฝามาจะบีบใส่มือ แต่เนื้อโฟมที่มันควรจะเป็นครีมขาวๆ มันกลายเป็นน้ำสีใสๆ ย้ำ!! ว่าเปลี่ยนจากเนื้อครีมโฟม เป็นน้ำใสๆ เราก็แบบ เฮ้ย!! หลอดนี้พึ่งซื้อมาไม่ถึงอาทิตย์เลย นี่ก็เอาไปเปลี่ยนที่เคาเตอร์ เปลี่ยน 2 รอบเลยมั้ง สุดท้ายก็เป็นเหมือนเดิม เลยเลิกใช้เลย

5,6 Egg White Pore กับ Green Tea Bubble

อันนี้เป็นโฟมล้างหน้าแบบมีที่กดปั้มออกมาเป็นฟองโฟมสีขาว คือใช้แล้วได้ผลลัพธ์แบบเดียวกับ 2 ตัวด้านบน

ต่างกันแค่เนื้อโฟมที่ปั้มออกมาเป็นฟองโฟมนั้นมันจะละเอียดและอ่อนโยนกันผิวมากกว่า

7,8,9 Fresh Apple: spakling pore serum, mild pore peeling gel

(เป็นสครับขัดหน้า),sparkling pore cream

เซ็ท fresh Apple อันนี้มันช่วยควบคุมความมัน กระชับรูขุมขน ตอนเราใช้เราใช้พร้อมกันแค่ 3 ตัวนี้ ไม่ได้ซื้อหมดทั้งเซ็ท อันนี้เราใช้แล้วเห็นผลนะ เนื้อครีมมีความละเอียดซึมเข้าผิวไวมากๆ เหมาะสำหรับคนที่มีผิวมัน เพราะว่ามันจะได้ไม่มันเเยี้มบนใบหน้าหลังทาเสร็จ

ถ้าวันไหนจะแต่ง เราจะทาแค่ spakling pore serum เพราะว่าถ้าเทียบกับครีมตัวนี้จะซึมเข้าผิวไวกว่า เวลาแต่งหน้าก็จะไม่เยื้อม

ส่วน sparkling pore cream อันนี้เราทาตอนเช้าวันที่ไม่แต่งหน้ากับตอนกลางคืน

mild pore peeling gel เนื้อสครับเป็นสครับละเอียดไม่แสบหน้าเลย เราขัดแค่บางวัน นานๆ ทำทีนึง

อันนี้เราใช้ติดๆ กันช่วงประมาณตอนม.6 จน ปี1 ใช้เป็นปีเหมือนกัน ประมาณ 2 เซ็ทได้อะ คือช่วงนั้นผิวมันทีโซน รอบนอกก็ผิวธรรมดา(ถ้าเทียบกันทีโซนมันน้อยกว่าตอนนี้) แต่พอหลังใช้ติดๆ กันไม่เปลี่ยนครีมมันเลยมีอาการแบบ รอบๆ จมูกมันเริ่มลอก เราคิดว่าน่าจะเป็นเพราะการที่ใช้ครีมแบบเดิมๆ ติดกันนานๆ บวกกับมันเป็นครีมที่ควบคุมความมัน เลยทำให้ผิวมันไม่มีความ balance หลังจากนั้นเราเลยเปลี่ยนครีม

9 Gold Caviar: cream (มีความเขียนเลขในรูปผิด ฮ่าๆ)

อันนี้คือครีมบำรุงอันแรกที่เราใช้คือแบบตอนนั้นอยู่ช่วงม.ต้น ผิวก็ไม่ได้แย่อะไร แต่ก่อนเป็นคนผิวธรรมดาด้วยซ้ำ ส่วนครีมสูตรนี้มันเหมาะสำหรับ คนที่เริ่มมีริ้วรอย ซึ่งมันจะช่วยต้านริ้วรอยที่เกิดขึ้น อีนี่ก็เอาของที่บ้านมาใช้ๆ ดู ความรู้สึกหลังใช้คือแบบ "เฮ้ย มันดีเว้ย ผิวหน้ามันรู้สึกฟูขึ้นมา รู้สึกแบบผิวมันอิ่มๆ" แม่เราก็บอกว่าใช้แล้วรู้สึกผิวฟู สรุปว่าตัวนี้ใช้แล้วเริ่ด!! ตอนนั้นที่ซื้อคือตัวนี้เป็นไลน์ผลิตภัณฑ์ตัวท็อปของ skinfood ราคาประมาณ 600 กว่าบาท(ซื้อที่เกาหลี) ฮ่าๆ คิดดูนานขนาดไหน

10,11 Black Pomogranate: toner, cream

สองตัวนี้ซื้อแบบที่เป็นทราเวลเซ็ท 2 เซ็ทมาลอง เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยต้านริ้วรอยกระชับผิว ซึ่งอีนี่ใช้ไปแล้วแบบเฉยๆ มากอะ ถ้าเทียบกับครีมของ Gold Caviar เนื่องจากมันช่วยเรื่องริ้วรอยคล้ายๆ กันมันเลยเกิดข้อเปรียบเทียบ

12 Fresh Juice C: cream(whitening care)

อันนี้เป็นกลุ่ม whitening หนึ่งในไม่กี่อันที่เราเคยใช้ของแบรนด์นี้ เนื้อครีมเป็นเจลใสๆ ซึมง่าย ทาก่อนแต่งหน้าได้หลังใช้ตัวนี้ติดๆกันคือ มีคนทักตลอดว่าหน้าใสขึ้น อีนี่ก็ปลื้มเลยจ้า

13 Watery Berry: emulsion

เป็นขวดแบบเท เนื้อเป็นสีขาวเหลว ช่วงแรกที่ใช้คือแบบ กะไม่ถูกว่าจะเทขนาดไหนยังไง เทเกิน เทหกตลอดเวลา

มันจะช่วยเรื่องของความกระจ่างใส คือตอนแรกก่อนใช้ตัวนี้เราใช้ Avocado rich cream มาด้วย

อารมณ์แบบ Avocado เราใช้ช่วงหน้าหนาว แล้วคือ Avocado มันช่วงเรื่องปรับสภาพผิว เน้นไปทางให้ความชุมชื้น แล้วทีนี้พอเริ่มเข้าหน้าร้อน มาทา Avocado นี่คือแบบหน้าเยิ้มมาก เราเลยหาพวก emultion มาใช้

เพราะว่าเนื้อ emultion มันจะเบากว่า ตัวนี้เราใช้ทาก่อนแต่งหน้า ก็จะทาแบบบางๆ เบาๆ ส่วนกลางคืน

เราจะทาให้มันเยิ้มๆ ตื่นเช้ามาหน้ามันจะรู้สึกชุมชื้นขึ้นมานิดนึง

14 Selmon: brightening eye serum

ทาให้ความชุมชื้นรอบดวงตา ความรู้สึกคือ เหมือนรู้สึกดีกว่าไม่ได้ทาอะไรเฉยๆ คือทาไปก็ไม่เห็นผลเท่าไร แต่ก็เหมือนทาไว้ให้อุ่นใจว่า เราบำรุงรอบด้วงตาแล้ว ฮ่าๆ

15 Avocado: rich cream

อันนี้ช่วงปรับสภาพผิวให้ผิวมีความสมดุลมากขึ้น ส่วนตัวเราคิดว่ามันให้ความชุ่มชื้นได้ดีในระดับนึงเลย

เพียงแต่ถ้าทาตอนเช้าแล้วแต่งหน้าจะรู้สึกหน้าเยิ้ม

16 Grepe Seed Oil: body shower gel

ครีมอาบน้ำกลิ่นองุ่น มีสครับขัดผิวด้วยในตัว สิ่งที่เราชอบที่สุดคือกลิ่น แบบหอมมาก เปิดขวดมาแล้วหอมเลย

พอล้างออกจะยังคงความชุ่มชื้นอยู่ด้วย อารมณ์แบบผิวมันจะลื่นๆ หน่อย(บางคนอาจจะไม่ชอบ) เราใช้จนหมดขวด

สอบรอบ(ไม่ได้ใช้ติดๆ กัน) ไม่มีสิวที่หลังขึ้นมาเลย คือครีมอาบน้ำบางยี่ห้อพอเราใช้ไปได้ขวดนึงมันจะมีสิวขึ้นที่หลังแบบพวกสิวผดอะ แต่อันนี้ไม่ขึ้น

17,18 Mask Sheet: beauty in a food, every day mask sheet

สองแบบนี้ต่างกันตรงที่ แบบแรกจะบางกว่า แล้วก้ความรู้สึกหลังใช้คือชุ่มชื้นกว่าแบบที่สอง

ปล. แบบแรกต้องระวังในการคลี่ดีๆ เพราะว่ามันบางมาก เราทำมันย้วยไปสองรอบ ใช้ไม่ได้เลย ฮ่าๆ

เย้!! จบแล้ว ยาวนานมากๆๆๆๆๆๆๆ คือทั้งหมดนี้เราใช้มาทั้งหมดประมาณ 8 ปี บวกกับเราเป็นพวกขี้เกียจ

บางทีก็ทาครีมบ้างไม่ทาบ้างมันเลยทำให้หมดช้ามากๆๆๆๆ ครีม 1 กระปุกเราอยู่ได้ประมาณครึ่งปี ฮ่าๆ

ช่วงแรกๆ ที่เราใช้คือประมาณม.ต้น คือช่วงนั้นผิวมันก็โอเคกว่าตอนนี้ เพราะฉะนั้นคือใช้อะไรไป

มันก็ค่อนข้างเห็นผลดี แต่พอโตขึ้นเหมือนผิวมันแย่ลงคือครีมบางตัวมันก็ใช้แล้วแบบ.. ไม่เห็นผลอะไรเลยก็มี

แต่นี่ก็ยังคงใช้ต่อเรื่อยๆ มีเปลี่ยนยี่ห้อบ้างอะไรบ้างเหมือนกัน แต่ที่ใช้มานานเพราะว่า อันนี้เป็นยี่ห้อเดียว

ที่เราหยิบใช้แล้วไม่เกิดอาการระคายเคือง เลยรู้สึกแบบ.. สบายใจว่าซื้อมาแล้วไม่เสียตังฟรี ฮ่าๆ

ปล. อาการระคายเคืองขึ้นกับแต่ละคนเนื่องจากสภาพผิวไม่เหมือนกัน ทางที่ดีคือ ควรไปทดลอง

ผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเองจะดีที่สุด

Tips..

คือถ้าให้เราแนะนำเราคิดว่า.. ความชุ่มชื้นในผิวเป็นพื้นฐานของผิวที่ดีได้ เพราะงั้นครีมหลายๆ ตัวที่เราใข้

มันเลยไปในทางให้ความชุ่มชื้น ปรับสภาพผิว มากกว่าพวกขาวกระจ่างใส เอาจริงๆ ครีมที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส

เราเคยใช้ทั้งหมดแค่ 2 ตัวคือ Fresh Juice C กับ Watery Berry: emulsion แค่นั้นเลย

ช่วงหลังหน้าเราเริ่มระคายเคืองง่าย เราเลยไปปรึกษาหมอ หมอบอกว่า สารที่ทำให้ระคายเคืองอาจจะเป็นพวก

whitening คือต่อให้ครีมไม่ได้เขียนว่า "เพื่อผิวกระจ่างใส" แต่โดยปกติแล้ว เค้าใส่สารพวก whitening มาอยู่แล้ว

มากน้อยก็ขึ้นอยู่กับแต่ละสูตร ซึ่งเราก็เลยเน้น skin care ไปในทางเติมความชุ่มชื้น ปรับสภาพผิวซะมากกว่า

Discussion (6)

เราก็ชอบแบรนด์นี้ แต่ชอบสครับข้าว กับ สครับน้ำตาลค่ะ ไว้ลองไปดูตัวอื่นตามบ้างนะค้าาา

เราชอบสครับน้ำตาลอ่ะค่ะ ใช้ดี
ชอบของสกินฟู๊ดเหมือนกันคร่า