#เปรียบเทียบคุชชั่น #YSL2รุ่น Touche Eclat Le Cushion VS Le Cushion Encre De Peau

หลังจากใช้คุชชั่นYSLตัวเก่าหมดไปได้เกือบๆปี กำลังตัดสินใจจะซื้ออันเดิมใช้อีกดีมั้ยน๊าาาา….

ก็ได้ข่าวมาว่าYSLกำลังจะออกคุชชั่นตัวใหม่ออกมาพอดี เลยรอลองของใหม่ดีกว่าผิวหน้า : เป็นคนผิวผสม มันเฉพาะทีโซน ผิวแข็งแรงดี ไม่ค่อยแพ้อะไร ปกติก็ใช้คสอ.สำหรับผิวธรรมดาบ้าง,  ผิวมันบ้าง, ผิวผสมบ้าง,ผิวแพ้ง่ายบ้าง เลือกใช้แล้วแต่โอกาสและฤดูกาล  แต่ช่วงนี้มีสิวขึ้นที่คางประปราย >___<#YSL Touche Eclat Le Cushion SPF50 PA+++

ราคาเคาเตอร์ 2,500 THB ราคาแรงมาก เจ็บปวด!!

ทีแรกBAที่พารากอนหยิบเบอร์10ให้เอามาลองที่หลังมือ มันก็เหมือนกลืนๆไปพอดีนะ แต่มันขาวไปมั้ยคะพี่!  -_____- ;

เลยขอลองที่กรอบหน้าดีกว่า เพราะหลังมือเราขาวกว่าหน้าเฉดนึง

ก็สรุปว่าได้เบอร์20มา ซึ่งจะขาวกว่าผิวนิ๊ดดนึง เผื่อสีดร็อประหว่างวันด้วย

เค้าบอกว่ารุ่นใหม่นี้ ตัวคุชชั่นเป็นตาข่าย Micro net เพื่อควบคุมปริมาณคุชชั่น ให้ออกมาในปริมาณที่พอเหมาะ และเพื่อป้องกันไม่ให้คุชชั่นแห้งเร็วด้วย

รุ่นใหม่นี้พิเศษกว่ารุ่นเดิมตรงที่ พัฟที่ให้มามีลักษณะ2แบบในอันเดียว

โดยแบ่งครึ่งพัฟเป็น2ฝั่ง

ตอนแรกใช้ก็จะงงๆนิดหน่อย เวลาใช้ก็จะดูตรงสติ๊กเกอร์ตรงกระจกอีกที ว่าใช้ถูกด้านรึเปล่า 55

จากสติ๊กเกอร์ตรงกระจก จะเห็นว่ามีลูกศรชี้ไปด้านซ้าย และขวา

และมีเขียนกำกับไว้ว่า พัฟด้านซ้าย ไว้ใช้สำหรับให้ต้องการfinish lookเป็นแบบNatural finish

และด้านขวา ไว้ใช้สำหรับให้ต้องการfinish look เป็นแบบ Intense finish (แต่ตรงกระจกเขียนไว้ว่า Sophisticated finish ล่ะ)เออ มันเกร๋กู๊ดมากอะ! ชอบบบบ!

ฝั่งซ้าย จะแบนกว่า เวลากดคุชชั่นก็จะได้ปริมาณขึ้นมาไม่เยอะ ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมชาติ เบาๆ ปกปิดไม่มาก

ฝั่งขวา จะฟูกว่าเล็กน้อย เวลากดคุชชั่นออกมาก็จะได้ปริมาณที่มากกว่า เพื่อลงคุชชั่นได้เยอะขึ้น และให้การปกปิดที่มากขึ้น

เพื่อไม่ให้งงเวลาใช้งาน มีพิมพ์ “YSL”ติดไว้ที่สายคาดพัฟไว้ด้วย เอาไว้เทียบกับรูปที่สติ๊กเกอร์ในกระจก ว่าจะใช้พัฟข้างไหนดี ^^

หลังจากได้ลองใช้มาประมาณ10วัน ……. ชอบนะ

✽ ให้คะแนน : 7/10 คุชชั่นตัวใหม่นี้มีความฉ่ำวาวมากกว่ารุ่นเดิม แต่ก็ไม่ได้ฉ่ำโกลว์มากเท่ากับคุชชั่นเกาหลีทั่วๆไปนะ มันให้ความฉ่ำที่กำลังดี แบบผิวสวยฉ่ำๆมีน้ำมีนวล ดูไม่เยิ้ม ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวในปริมาณที่กำลังดี และให้สัมผัสที่บางเบา สบายผิว♪ การปกปิด : เนื่องจากรุ่นนี้ มีพัฟมาให้เลือกใช้ได้2แบบ ตามความต้องการ ด้านพัฟ Natural finish แบบแบนก็จะบางเบา ไม่ค่อยปกปิดเท่าไหร่ เหมาะกับคนที่ผิวดีอยู่แล้ว ตบเบาๆก็สวย แต่คนที่ต้องการการปกปิดที่มากขึ้นหน่อย ก็ใช้พัฟด้าน Intense finish ที่ฟูกว่า กดๆปาดๆลงไป (ด้านฟูนี่ใช้วิธีการปาดได้นะ ลองแล้ว ไม่เป็นคราบ แต่เนื้อคุชชั่นที่ลงมันก็จะบางลงนิดนึง) มันก็ช่วยปกปิดได้มากขึ้นเล็กน้อย แต่ถ้าคนมีรอยสิวรอยดำเยอะ ก็เอาไม่อยู่ ต้องใช้คอนซีลเลอร์ช่วย เพราะมันก็ปกปิดได้แค่ในเลเวลของคุชชั่นทั่วๆไป

♬ ความคงทน : หลังจากลองเปรียบเทียบแบบ ใช้แล้วนั่งindoorในห้องแอร์(อุณหภูมิประมาณ22-25องศา) กับindoorไม่มีแอร์(อุณหภูมิประมาณ28-30องศา) โดยก่อนลงคุชชั่น ได้ลงเบสควบคุมความมันก่อน และหลังลงคุชชั่นก็ลงแป้งฝุ่นทับอีก1ชั้น

indoor ห้องแอร์ – จะอยู่ได้ราวๆ5ชม. โดยไม่ได้ซับหน้ามันเลย ซึ่งถือว่าค่อนข้างคุมมันได้ดีเลย (สำหรับผิวผสมแบบเรา)

indoor ไม่มีแอร์ – จะอยู่ได้ราวๆ3ชม. หลังจากนั้นหน้าก็จะเริ่มมันตามสเต็ป แต่ไม่เป็นคราบ ถ้าจะเปรียบเทียบกับคุชชั่นรุ่นเดิม คือรุ่น Le Cushion Encre De Peau SPF23 PA++  ตลับกลมสีดำ

รุ่นเก่า ออกเมื่อช่วงต้นปี2016 พอออกปุ๊บ ก็Out of stockไปตามระเบียบ

ตลับนี้ไปได้มาจากสนามบินNarita ในราคาประมาณ 1,900THB (ราคาเคาเตอร์ในไทย 2,300THB)

แต่ใช้หมดเกลี้ยงแล้ว และพัฟก็เยินมากจนทิ้งไปแล้ว เหลือแต่ตลับสวยๆไว้ดูต่างหน้า

รุ่นเก่านี้ ทางแบรนด์เคลมไว้ว่าเป็นคุชชั่นที่ให้Finish lookแบบแมทท์ ไม่ฉ่ำ ไม่วาว (Flawless coverage, Shine free)

ใช้แล้วหน้าไม่เยิ้ม คุมมันได้ค่อนข้างดี ไม่เป็นคราบด้วย (แต่มีเพื่อนที่หน้ามันใช้แล้วไม่รอดนะ บอกว่าแป๊บเดียวก็เยิ้มแล้ว … อันนี้ก็แล้วแต่ผิวของแต่ละคนด้วยนะ)

ส่วนตัวแล้วค่อนข้างชอบแบบแมทท์มากกว่า เลยเทคะแนนไปให้รุ่นเก่ามากกว่านิดนึงล่ะถ้าให้เปรียบเทียบความชอบของรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ ….

ชอบรุ่นเก่ามากกว่า ทั้งเนื้อคุชชั่นและตัวตลับ ตลับสีดำเงา แต่ไม่เลอะง่าย

แต่รุ่นใหม่ดีกว่าตรงที่เนื้อตาข่ายคุชชั่นเป็นแบบ Micro net และพัฟมี2ด้านในตัวใครชอบรุ่นไหน แบบไหน ก็ไปลองเทสสีดูที่เคาเตอร์นะจ๊ะ ^^ปล. รุ่นเก่า Made in Korea แต่รุ่นใหม่ Made in Franceล่ะ**อนึ่ง พื้นฐานผิวหน้าแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้น เครื่องสำอางแต่ละอย่าง อาจจะให้ผลลัพธ์ต่างกันไปตามแต่ละบุคคล  กรุณาใช้วิจารณญาณในการรับชมนะจ๊ะผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ^^

Discussion (5)

รีวิวละเอียดมากค่ะ ชอบๆๆๆ


ชอบรีวิวคุณ อยากไปซื้อตามเลย ดีงามๆๆๆๆๆ


งูยยยย อยากได้เลยค่า