รวมไมเซล่าที่เช็ดแล้วผิวเวิร์คไม่แห้ง ไม่ตึง
kaimookc45สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้ว่างพอดีเราเลยอยากจะมารีวิวคลีนซิ่งวอเตอร์สำหรับสาวผิวแห้งให้ได้ดูกันค่ะก่อนอื่นต้องบอกว่าเราเองก็เป็นคนนึง ที่เมื่อก่อนมีปัญหาเรื่องผิวหน้าแห้งทำให้แต่งหน้านอกจากจะไม่ค่อยติดแล้วหลังจากที่เราเช็ดเครื่องสำอางออกแล้วผิวมันจะตึงๆ ยิ่งปล่อยนานไปยิ่งทำให้หน้าของเราเริ่มเกิดริ้วรอยขึ้น เราก็ทั้งเปิดเน็ตปรึกษาเพื่อนหาวิธีดูแลหน้า เพราะคิดว่าตอนนี้มันก็ยังไม่สายเกินไปที่เรายังพอจะกู้หน้าให้ดีเหมือนเดิมได้ ทีนี้เราก็ไปเจอว่าการเลือกคลีนซิ่งทำความสะอาดเครื่องสำอางมันสำคัญต่อผิวมากเพราะถ้าเรารู้จักเลือกคลีนซิ่งก็ช่วยให้หน้าเราดีขึ้น ชุ่มชื้นขึ้นได้แต่ถ้าเลือกพลาดไม่เหมาะกับผิวก็อาจทำให้หน้าแห้งยิ่งกว่าเดิมได้ด้วยและคลีนซิ่งทั้ง 4 แบรนด์ต่อไปนี้คือแบรนด์โปรดของเราที่อยากมารีวิวนั่นก็คือ Nivea White Oil Control Make Up Clear MicellarWater , Garnier Micellar CleansingWater , BioreMakeup Remover Perfect Cleansing Water และ Bioderma H2O ทั้ง4ตัวนี้เราใช้เองแถมขอเคลมตรงนี้เลยว่าใช้แล้วหน้าไม่แห้งชุ่มชื้นดูอิ่มน้ำมากๆ
เอาหล่ะ! พูดพล่ามมาเยอะพอควรได้เวลาที่เราจะมาชำแหละ 4 แบรนด์โปรดของเราให้ละเอียดกันไปเลยว่าตัวไหนน่าใช้ และน่าไปตำ ซึ่งรีวิวตัวนี้อาจเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสาวๆทั้งหลายตัดสินใจเลือกใช้คลีนซิ่งได้ค่ะ
1.เปรียบเทียบราคาและปริมาณต่อ ml-Nivea White Oil Control Make Up Clear MicellarWater ราคา 189 บาทปริมาณ 200 ml เมื่อเปรียบเทียบราคาต่อml เท่ากับ0.94 บาท/ml-GarnierMicellarCleansing Water ราคา 239 บาทปริมาณ 400 ml เมื่อเทียบปริมาณต่อ mlเท่ากับ0.59 บาท/ml-BioreMakeup Remover Perfect Cleansing Water ราคา 390 บาทปริมาณ 300 ml เมื่อเทียบปริมาณต่อml เท่ากับ1.3 บาท/ml-Bioderma H2Oราคา 790 บาทปริมาณ 250 ml เมื่อเทียบปริมาณต่อหน่วยเท่ากับ3.16 บาท/ml
2.พูดถึงคำเคลมหลังขวดของแต่ละแบรนด์คำนวนราคาและความคุ้มค่ากันไปแล้วต่อไปเรามาโฟกัสกันที่คำเคลมแต่ละแบรนด์เลยดีกว่าว่า จะดีงามพระรามเก้าเบอร์ไหน-NiveaWhite Oil Control Make Up Clear Micellar : ตัวนี้เขาปูมาเลยว่าดูดจับเมคอัพติดทนเช่น รองพื้น บีบี และสิ่งสกปรกตกค้าง และยังช่วยเติมความชุ่มชื้น รูขุมกระชับลดปัญหาหน้ามันที่เป็นสาเหตุการเกิดสิวด้วย
- Garnier MicellarCleansing Water : แบรนด์นี้ก็จะคล้าย ๆ กันค่ะช่วยเรื่องทำความสะอาดผิวหน้า ทั้งเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกต่าง ๆ นางจัดการได้หมด-BioreMakeup Remover Perfect Cleansing Water :แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ที่สาวๆ คุ้นชื่อกันอยู่แล้วโดยตัวผลิตภัณฑ์คลีนซิ่งเขาเคลมมาว่าช่วยทำความสะอาดได้ดี แถมผิวยังเรียบเนียนกระจ่างใส ด้วย Smooth Bright Technology นวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากประเทศญี่ปุ่น
- Bioderma H2O :ตัวนี้เห็นหลายคนชอบใช้กัน ซึ่งเขาก็เคลมมาเลยค่ะ ว่าสามารถทำความสะอาดผิวหน้าได้สาวผิวบอบบางแพ้ง่ายก็ไม่ต้องกังวล เพราะเป็นคลีนซิ่งที่อ่อนโยนต่อผิวพร้อมกับจัดการสิ่งสกปรกและเมคอัพได้สบาย ๆ
3.ทดสอบโดยการใช้ไมเซล่าแต่ละตัวเช็ดทำความสะอาดบนหน้าที่แต่งว่าด้วยเรื่องคำเคลมของแต่ละแบรนด์กันไปแล้วทีนี้เรามาเทสกับผิวหน้ากันเล้ย! เรามาลุ้นพร้อมๆกันเลยค่ะว่า ตัวไหนจะเป๊ะปังและเข้าสู่ที่ 1 ในใจของเราครั้งนี้เราจะยอมพลีหน้าของตัวเองโดยแบ่งออกเป็น 4 ส่วนคือ บริเวณตาและแก้มทั้ง 2 ข้างบริเวณหน้าผาก และบริเวณปากและคาง
NiveaWhite Oil Control Make Up Clear Micellar :เริ่มต้นด้วยคลีนซิ่งที่หาซื้อง่ายที่สุด ตัวนี้เราจะเทสบริเวณหน้าด้านซ้ายเช็ดวนๆ กันไป ในสำลีแผ่นแรกก็มีเครื่องสำอางติดสำลีค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวแต่ขอเก็บงานอีกนิดด้วยสำลีแผ่นที่ 2 ไม่น่าเชื่อว่าจะเครื่องสำอางของเราหมดเกลี้ยงเลยหลังจากเช็ดแล้วเรารู้สึกว่าหน้ามันเด้งๆ นิ่มๆ ที่ผิวด้วยแหละ
Garnier MicellarCleansing Water :ไปต่อกันที่หน้าด้านขวาของเราเริ่มจากเทคลีนซิ่งให้ชุ่ม แล้วก็เช็ดวนไปค่ะตัวนี้เราว่าก็โอเคนะเครื่องสำอางติดสำลีพอสมควรเลยหลังเช็ดเรารู้สึกว่าผิวมันตึงๆ นิดนึงแต่ไม่ถึงกับเยอะมากค่ะโดยรวมแล้วถือว่าอยู่ในระดับที่โอเค ซึ่งเราใช้สำลีไปทั้งสิ้น 2 แผ่นเช่นกันค่ะ
BioreMakeup Remover Perfect Cleansing Water :ขยับมาที่บริเวณหน้าผากของเรา คลีนซิ่งตัวนี้เราคิดว่ามันค่อนข้างหนืดและเช็ดเครื่องสำอางออกยากนิดนึง เลยใช้สำลีในการเช็ดทั้งสิ้นไป 3 แผ่นถ้วนหลังจากเช็ดเสร็จแล้วมันค่อนข้างจะแห้งยาก พอทิ้งซักพักผิวหน้าก็ดูนุ่มเด้งค่ะ
Bioderma H2O :ปิดท้ายด้วยการเทสบริเวณปากและคางตัวนี้การดูดซับเครื่องสำอางค่อนข้างดีเลยทีเดียวค่ะ เช็ดปุ๊บหลุดปั๊บคลีนซิ่งตัวนี้เราใช้สำลีไปทั้งสิ้น 2 แผ่นค่ะหลังจากที่เช็ดเครื่องสำอางแล้วเรารู้สึกเฉยๆ นะ ไม่ได้รู้สึกดึ๋งๆ ที่หน้า
หน้าสดแล้วจ้า เทียบให้ดูชัด ๆก่อนเช็ดกับหลังเช็ดเลย ความรู้สึกเราคือผิวหน้าเราไม่แห้งนะ โดยรวมทั้ง 4 ตัวทำได้ดีส่วนเราจะให้คะแนนยังไงนั้น ตามไปดูกันต่อค่ะ
4.ให้คะแนนแต่ละแบรนด์ปริมาณต่อml , ความสะอาด, การใช้สำลี(มาก-น้อย), ความรู้สึกชุ่มชื่นของผิวหน้าหลังใช้พลีชีพหน้าสดลบเครื่องสำอางกันไปแล้วขอรวบรัดเข้าสู่ขั้นตอนการให้คะแนนแต่ละแบรนด์กันเลย
จัดไปแบบรัวๆสำหรับการรีวิวคลีนซิ่งวอเตอร์ 4 แบรนด์ราคาหลักร้อยสำหรับสาวผิวหน้าแห้งพอได้เห็นแล้วพอจะมีตัวไหนที่สาวๆ สนใจและอยากไปตำกันบ้างไหมเอ่ย ?ถ้าเจอแล้วก็ลองไปหาซื้อกันดูค่ะเพราะการทำความสะอาดผิวหน้าเป็นเรื่องที่เราควรใส่ใจมากๆเพื่อผิวหน้าของเราจะได้สวยปิ๊งอยู่กับเราไปอีกนาน สุดท้ายบทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราเพื่อให้ทุกคนได้ลองดูประกอบการตัดสินใจยังไงก็อย่าเพิ่งเชื่อสุดตัวล่ะ แนะนำให้ลองก่อนเด้อเพราะตัวที่ใช่ของเราอาจจะไม่ใช่สำหรับทุกคนก็เป็นไปได้น้า...
Discussion (5)