Please Bring J - Wave Back! เหตุผลที่อยากให้อุตสาหกรรมบันเทิงญี่ปุ่นกลับมาบูมเหมือนเดิม

หลังจากที่กระแส Hallyu หรือ Korean Wave ได้ครอบครองอุตสาหกรรมบันเทิงในหลายประเทศทั่วเอเชียมานานกว่าทศวรรษ และกระแสนี้ได้สร้างความสนุกสนานประทับใจให้กับแฟนๆ อย่างไม่หยุดยั้ง


แต่มีบางสิ่งที่ทำให้พวกเราใจหายมาหลายปี คือความซบเซาของกระแสบันเทิงญี่ปุ่นในบ้านเรา จากที่เคยติดตามเรื่องราวของศิลปินดาราจากแดนพระอาทิตย์ตามแม็กกาซีน จากที่ต้องพุ่งตรงกลับบ้านมาดูซีรีย์ที่ฉายตอนบ่าย 3 ช่อง 3 หรือหลังจากนั้นมาหน่อยก็ต้องเป็น ITV ต้องตามดูซีรีย์หลังข่าวที่ทำให้ติดงอมแงมจะได้เอาไปเม้ากับเพื่อนที่โรงเรียนในวันรุ่งขึ้นได้ จากที่อินกับเพลงญี่ปุ่นมาก แม้ว่าในตอนนั้นจะไม่มีใครทำ subtitle ให้เข้าใจความหมาย และก็ไปเสาะหาเนื้อร้องมาร้องตามได้เฉยเลย 


แม้ความนิยมในบันเทิงญี่ปุ่นจะไม่ได้ลบเลือนไป แต่ก็เปรียบเทียบกับความเฟื่องฟูในอดีตไม่ได้ มันทำให้เราโหยหา ... ขอร้องจะได้ไหม ... ขอ J wave ให้กลับคืนมาอยากจะเสพแบบไม่ต้องภาวนาให้คนแปล subtitle มาแจก อยากจะเปิด Netflix หรือช่องออนไลน์ก็มีให้เลือกดูเป็นพรืด มีรายการแนะนำเพลงให้พวกเราได้อัพเดทกันเหมือนแต่ก่อน ... ถ้าได้แบบนั้นคงจะเติมเต็มแบบฟินเต็มที่


มาชมกันค่ะว่าเพราะอะไรเราจึงอยากให้ บันเทิงญี่ปุ่นกลับมาบูมเหมือนเดิม

หนังและซีรีย์ดราม่าสะท้อนสังคม ที่ให้ข้อคิดและเสียน้ำตาพร่าวพรูในเวลาเดียวกัน

มีคนบอกเราว่า สังคมญี่ปุ่นนั้น แม้จะมีการพัฒนาเรื่องเศรษฐกิจ เทคโนโลยีไปกว้างไกล แต่ก็ยังมีความเป็นอนุรักษ์สูง จะไม่ยอมรับเรื่องที่ดูผิดแผกไปจากแบบแผนและกรอบความคาดหวังทีคนหมู่มากตั้งเอาไว้


ซึ่งคำกล่าวนี้จะจริงสักแค่ไหน เราก็คงยังไม่รู้ชัด แต่ที่รู้คือ สิ่งที่อุตสาหกรรมการแสดงที่ญี่ปุ่นได้นำเสนอมาตลอด ได้ก้าวออกมาจากกรอบเดิมๆ มาตั้งนานแล้ว พวกเขาสามารถจิกกัดสังคมได้อย่างเจ็บแสบผ่านบทพูดแบบตลกร้าย และดูไม่หวั่นที่จะตีแผ่ปัญหาสังคมที่มักจะถูกปัดกวาดไปซุกซ่อนใต้พรม  



ซีรีย์สะท้อนปัญหาสังคมที่โดนใจมากๆ และทำเรตติ้งสูงคือ Last  Friends เรื่องนี้ได้เสนอมุมมองของความรักที่แตกต่างออกไป แคแรคเตอร์เด่นในเรื่องจะเป็นตัวแทนของ ความรัก การปลดปล่อยตัวตน ความเจ็บปวดที่เก็บกดไว้ ความอ้างว้างโดดเดี่ยว และความขัดแย้ง


แม้ยูนิเซฟจะเคยประกาศว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีอัตราคุณแม่วัยทีนน้อยที่สุด จากการให้ความรู้เรื่องการรับผิดชอบชีวิตของตัวเองและคนอื่นโดยไม่หลายเป็นภาระสังคม ลบ label เกี่ยวกับการคุมกำเนิดว่าเป็นสิ่งยั่วยุ ยอมรับถึงธรรมชาติของวัยรุ่นแล้วหันมาประชาสัมพันธ์ให้พวกเค้าป้องกันการตั้งครรภ์และโรคติดต่อจากการใช้ถุงยาง  เรื่องของคุณแม่วัยใสจึงดูจะไม่ใช่ปัญหาหลักของสังคมที่จะต้องรีบหามาตรการป้องกันแก้ไขอย่างเร่งด่วน  แต่ก็มีการสร้างซีรีย์ตีแผ่เรื่องราวของสาวน้อยวัย 14 ที่พลาดท้องจากการไม่ป้องกัน  แต่เธอกลับแหวกกระแสสังคมด้วยการยืนยันจะตั้งท้องและคลอดเด็กออกมาเพื่อจะรับบทบาทแม่ทั้งๆที่ยังเป็นเด็กอยู่
Comedy

ถ้าเป็นผลงานสุดฮาจากญี่ปุ่นนั้นจะถูกจริตเรามาก  อันนี้พูดถึงตลกแบบจริงจังไม่ใช่แค่มุกสอดแทรกเบาๆเหมือนรอมคอมหวานแหวว  ผลงานหลายเรื่องทำให้เราเซอร์ไพรส์มากที่นักแสดงหน้าตาดีเวิ่นเวอเค้ารั่วกันได้แบบสุดๆแบบไม่รักษาภาพลักษณ์กันสักนิด


Discussion (7)

ตอนนี้ติด Princess Jelly Fish มาก >////<

ชอบ last friends กับ 14 saino ha ha มากกกกกก ดูเรื่องละหลายรอบมากกก

ขออภัยในความล่าช้านะคะ ตอนนี้ยังขลุกขลักจากการปรับเปลี่ยนอัพเดทเว็บใหม่ค่ะ

^
ขอเพิ่มความเห็นนิดนึงนะคะ
ที่เราชมซีรีย์ญี่ปุ่นไม่เคยขาดแม้ว่ากระแสจะจางลง ต้องไปคอยติดตามค้นหาดูเอาเอง ใน app หรือโรงหนังต่างจังหวัดก็อย่าฝันว่าจะได้อัพเดทกับคนอื่นเค้า  เหตุผลก็คือ  เรารู้สึกว่าเค้าละเอียดละออกับทุกอย่าง   จะ dark ก็ dark หม่นให้สุดเอาให้คนดูตกตะลึง บีบหัวใจแทบจะร้องตะโกนบ้านแตก  จะฮาก็รั่วแบบเต็มที่ไม่มีการรักษาภาพพจน์  ดราม่าเหรอ? พลาดได้ไง น้ำตาไหลเป็นลิตรๆ หรือจะเป็นความจิ้น ก็มีให้ชมทุกรูปแบบ จิกหมอนขาดไปหลายใบ

ทั้งนี้ทั้งนั้น  การแสดงของดาราญี่ปุ่นจะไม่เยอะจนรู้สึกว่าเล่น musical อยู่ตลอดเวลา  ยิ่งพวกนักแสดงชั้นนำที่เก๋าเกมแล้วจะใช้สายตาเก่งมาก  ถึงจะเป็นแคแรคเตอร์ที่ซับซ้อนมีหลากหลายอารมณ์ก็ทำให้เราอินว่าเค้าเป็นแบบนั้นจริงๆ
last friends สนุกจริงๆค่ะ ตอนนางเอกเล่นโนดาเมะ เคยดูแต่ไม่เคยชอบเลย
พอเล่นเรื่องนี้ ผมสั้นบอยๆนั่นก็เท่และน่ารักซะ หนูถึงกับตัดผมตามจูริเลยนะ อายจัง ญี่ป่นทำซีรี่ย์เกี่ยวกับจิตใจได้ดี ตอนอึดอัดก็อึดอัดซะ เรียวจังแรดติก็น่ากลัวอยู่แล้ว เล่นเรื่องนี้กลัวหนักไปเลย
บ้านแชร์เฮ้าส์ในเรื่องก็สวยมาก ชอบมากเลยค่ะ ดูเก็บรายละเอียดสุดๆ