#MissJAndMrS 's Diary ความรักกับแฟนฝรั่ง เราเจอกันได้ยังไง?
JellyJune144สวัสดี นี่จูนเองนะคะ ใกล้วาเลนไทน์แล้ว เลยแวะมาแปะเรื่องสั้นๆ(มั้ง) ไดอารี่เรื่องราวระหว่างเราและพี่หมี(แฟนเค้าเอง) เก็บช่วงเวลาดีๆไว้ อีกซัก 10 ปี กลับมาอ่านอีกที คงจะมีความสุข ...อย่าหาว่าอวดผู้งั้นงี้ ประเด็นคือจะเก็บไว้ให้ลูกอ่านตอนโต (มโนแรงงง5555)
สาวโสดก็อ่านได้ จิ้นๆกันไป คิดบวกเข้าไว้ เดี๋ยวโลกก็เหวี่ยงคนที่ใช่ มาให้เอง เชื่อดิ จุ๊บๆ

*เนื้อหาอาจมีคำไม่สุภาพบ้าง ภาษาวิบัติบ้าง แต่เพื่อความเป็นอรรถรสเด้อออ
.
.
เริ่มเลยแล้วกัน... ย้อนกลับไปเมื่อกลางปี2016 หลังจากที่เราเลิกกับแฟนคนก่อน ด้วยความที่อีนี่เป็นพวก "เมื่อมีปัญหาความรัก น้องมักปรึกษาหมอดู"(งมงายสัดๆ55) หมอไหนดี หมอไหนแม่น เราจะ...ตาม...ไป...ดู! ...หลังจากที่ดูมาได้นิดนึง(เกือบสิบคนนี่ถือว่านิดไม๊นะ) แต่ละคนก็ให้คำตอบที่ ไม่เหมือนกันเลยแจ้ T^T
...เฟลมากพี่จ๋า น้องจะเชื่อใครดี?

...แต่สิ่งที่ทุกคนทำนายแทบจะเหมือนกันทั้งหมด คือ... หนูคะ ...หนูเป็นคนมีคู่ค่ะลูก แต่เนื้อคู่หนูไม่ใช่คนไทยนะคะ ผู้ชายคนนี้อายุมากกว่า และเขานิสัยดีมากด้วยค่ะ
.
หู้ยยย คำทำนายดี๊ดีว่ะแก แต่ฟีลตอนนั้นมันไม่ใช่ไง มันยังอาลัยอาวรคนเก่าที่เราผูกพัน ...คนใหม่อะไร ไม่เอ้าาา น้องจะเอาคนเน้!! ...ซึ่งเรามาเจอหมอดูคนสุดท้าย คนนี้บอกเราชัดๆเลยว่า... "เอาอย่างนี้นะคะ ภายใน 12 เดือนนี้ เดี๋ยวน้องก็ได้เจอ คนๆนี้จะเข้ามาเทคแคร์ดูแลเหมือนน้องเป็นเจ้าหญิง(โอโห้ววว)
.
ลักษณะของเขาคือจะตัวสูงมาก สูงแบบว่ายืนด้วยกันนี่น้องจะดูเป็นคนแคระไปเลยT^T (ทำไมร้ายยย)
เขาเป็นคนอบอุ่นแต่มีความเป็นผู้นำสูงค่ะ เป็นนิสัยแบบที่น้องต้องการด้วยหนิ (...งือ รู้ไปอี๊ก)
หน้าที่การงานก็ดีมากนะ คบกันไม่นานก็แต่ง และถ้าน้องได้เจอกับเขาเมื่อไหร่ น้องจะลืมคนเก่าได้แทบจะในทันทีเลย และน้องจะนึกถึงสิ่งที่พี่บอกในวันนี้แน่นอน"
.
โอโห้...พี่เอาความมั่นใจจากไหนมาฟันธงเนี่ยยย เราก็ไม่เชื่อไง ยังคงยืนยันคำเดิมว่า แฟนเก่าคือดีที่สุด (ยังอีก ยังจะรั้นอี๊กกก) ...พี่เขาทิ้งท้ายอีกนิดว่า ไม่ต้องตามหาค่ะ แค่ออกไปเที่ยว ไปเปิดหูเปิดตา ใช้ชีวิตของเราไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เจอ ...พี่คะ ชีวิตหนูทำงานอยู่แต่ที่บ้าน เจอแต่เพื่อนผู้หญิง ไม่ก็เพื่อนสาว ไปงานก็มีแต่สายบิวตี้ หนูจะเจอได้ยังไงT^T
.
...ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ เราก็ไม่ได้เชื่ออะไรกับหมอดูนะ แต่ก็จองตั๋วไปลอนดอนช่วงปลายปีทันที ไปค่ะ ไปเที่ยวววววว
5555555
.
.
*ไม่ต้องหลังไมค์มาถามชื่อหมดดูเด้อ ไปเสริชอากู๋ "หมอดูบางซื่อ MRT" เอาเอง มีข้อมูลเต็มเลออออ

...หลังจากที่เริ่มห่างหายไปจากสังเวียนดูดวง(เพราะหมดเงินไปเยอะแล้ว) น้องสาวคนสนิทจากแดนไกล ก็เสนอไอเดียว่า ...เล่นแอปไม๊พี่จูน แอปหาคู่ไง เขาเล่นกันเยอะแยะ เนี่ยๆๆๆ น้องกับสาก็เจอกันที่นั่นแหละ
.
... เอาจริงดิ มันจะเวิร์คเหรอ มันดูน่ากลัว ดูบับ... หาคู่นอนป่ะว่ะ ใครจะมาจริงใจกันในแอปแบบน้านนน ...แต่หลังจากที่วางหู ก็โหลดแอปลงเครื่องทันที
55555555

โหลดมาแล้ว ก็ลองเข้าไปส่อง เหมือนเราไปยืนงงๆในดงเสือ คือมันเล่นยังไงเหยอ?
สุดท้ายก็ค้นพบว่า กรอกข้อมูลทิ้งไว้ แล้วค่อยให้ผู้ชายทักมาเอง เวิร์คสุด และง่ายสุด
หลังจากลองเล่นไปเรื่อยเปื่อย เวลาผ่านไปเป็นเดือนๆ ก็ไม่มีอะไรคืบหน้าเลยข่ะ! วันๆทำแต่งาน ให้เวลากับตัวเอง เสริมสวยช็อปปิ้งโน่นนี่ หาความสุขให้ตัวเองไปเรื่อย ...โอ้ยยย หมอดงหมอดู หมอเดาแล้วแหละ
จากที่เห่อเล่นแอปช่วงแรกๆ ก็ไม่ได้แตะอีกเลยเพราะเบื่อ(และมีแต่พวกโปรไฟล์ประหลาดๆ) จนถึงช่วงที่เราบินไปอังกฤษก็นึกขึ้นได้ว่า
เออ...ลองเปลี่ยนโลเคชั่นเป็นลอนดอนม่ะ? ออกเดทกะหนุ่มบริทิชไรงี้ เกร๋ๆ
...เห้ย มันเวิร์คว่ะ ช่วงนั้นพูดเลยว่าฮ๊อตฉ่ามากเวอร์ ครึ่งปีแรกของ 2017 เราไปเที่ยวตปท.คนเดียว อาศัยอยู่กับเพื่อนเป็นเดือนๆ ช่วงนั้นใครที่คุยถูกคอเราก็นัดเจอเลยนะ
20ปลายๆนี่อย่าลำไยค่ะ เจอๆไปเหอะ55 (นัดร้านข้าวตอนกลางวัน คนเยอะๆ เซฟๆ) คิดง่ายๆว่า ไม่ได้แฟน ก็ได้เพื่อนใหม่ล่ะว่ะ อย่างน้อยๆก็ได้ใช้ภาษาที่ร่ำเรียนมา
และเราจะไม่เลือก “ใครก็ได้" แต่เราจะเลือก “ใครคนนั้น” ด้วยสติค่ะ!
ช่วงนั้นก็เลยไปออกเดทสลับๆกันไป 3-4 คน คือมันก็เหมือนจะดีนะ แต่...มันไม่คลิ้กอะ มันไม่มีใครทำให้เรารู้สึกโลกสดใสเป็นสีชมพูได้เลย จนกลับมาไทยก็ยังโสดอยู่มิเปลี่ยนแปลง ...หรือว่าเราจะเหมาะกับการอยู่คนเดียวมากกว่าว่ะ? ...นี่ถามตัวเองคนที่โสดมาซักพัก หลายคนจะมีอาการเดียวกันคือ อยู่ด้วยตัวเองได้ มันเริ่มชิน เริ่มหันหลังให้ความรัก ...บางคน(เช่นเรา) กลายเป็นคนบ้างาน วันๆคิดแต่เรื่องงาน ...หรือบางที ไม่มีแฟน เน้นมีเงินก็ได้โนะ เดี๋ยวตอนแก่ค่อยซื้อกินเอากร๊ากกกก (จะเทรินตัวเองเป็นสายเปย์ไปอี๊ก)

...จบจากทริปที่ไปตะลอนฝั่งยุโรป เราก็กลับมาไทย ทำงานปั่นตังค์ต่อ และก็ยังคงเหมือนเดิม ...ไม่เห็นจะเจอใครที่ถูกใจเลย หมอดูแม่งมั่วแล้วแหละ ...อีแอปหาคู่นี่ก็เด้งจัง กลับไทยแล้วฟ้อยยย เปลี่ยนโลเคชั่นกลับมาเป็นกรุงเทพฯดีกว่า ลามคานนน (ตอนนั้นเรากะว่า ให้อีกอาทิตย์เดียวพอ เดี๋ยวจะปิดโปรไฟล์แล้ว น่าเบื่อ ไม่เห็นเวิร์คเลอะ ชิ!)
ตริ๊งงง... มีข้อความนึงส่งเข้ามา หลังจากที่เราเปลี่ยนกลับมาเป็น BKK ได้แค่ไม่ถึงวัน
ถูกต้องค่ะคุณผู้อ่าน ข้อความนั้นมาจากพี่หมี พระเอกของเรานั่นเองงง
ย้อนกลับมาที่ฝั่งนางเอก (เราเองไง จะใครล่ะ)
...พูดเลยว่าดิฉันสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างค่ะคุณขา คือผู้ชายคนนี้เข้ามาในรูปแบบที่แปลกมาก ...ข้อความแรกของฮีนั้นยาวมาก ยาวเหมือนเขียนจดหมาย ยาวจนนี่นึกว่าเรียงความ ...แล้วรูปโปรไฟล์ก็มีความแตกๆเก่าๆ นึกถึงรูปที่ครอปมาจากรูปใหญ่ๆ ซูมแต่หน้าตัวเอง แล้วตัดเพื่อนออกได้ม่ะ นั่นแหละ อย่างนั้นเลย55
...พอเปิดเข้าไปดูด้านใน หนักกว่านั้นอีกว่ะ แกเอารูปใส่สูทติดบัตรมาลงทำม๊ายยย นี่จะมาสมัครงานหรา เอามาลงในแอปหาคู่เฉย เนิร์ดโคดดด

...ปกติที่เคยเจอ คนที่ทักมาก่อน มักจะแบบ... ไฮย์ เราชื่อนี้...เธอชื่อไรอ่ะ?... แค่นั้น เหมือนมาหยอดก่อน ให้เราคุยตอบ ...แต่คนนี้มันไม่ใช่เว้ย ...ฮีมีความทำการบ้าน เข้าไปอ่านในโปรไฟล์เรา ว่าเราทำงานอะไร ชอบอะไรบ้าง แล้วก็มาเขียนตอบว่าฮีก็ชอบเหมือนกันนะ .
เราเขียนในโปรไฟล์ว่าเราชอบยิ้ม เราว่าเรายิ้มสวย ...ฮีตอบมา “ผมว่าผมก็ยิ้มสวยเหมือนกัน"
.
โอ๊ย...จ้า จร้าาาาา
ความเฉิ่มของมุขแบบนี้ นี่ถึงขั้นมองบน55
.
... ก็เหมือนจะไม่ผ่าน แต่ผ่านเว้ย! มาแบบซื่อๆ อ่ะ! แปลกดี...ไหนมาคุยกันหน่อยซิ

...ด้วยความที่ฮีเขียนมายาวๆ(ส่วนใหญ่ก็แนะนำตัวเอง และตอบกลับตามข้อมูลที่เราใส่ไว้ในโปรไฟล์)... ฝั่งเราเองก็ยอมไม่ได้ ตอบกลับไปแบบยาวกว่าว่ะค่ะ5555555555...ทำไปทำไมไม่รู้ ...เมิงบ้าป่าว เขาจะมาจีบ ไม่ได้จะมาแข่งเขียน Essay ว้อยยย
ช่วง 2-3 วันแรก ก็เลยได้แชตคุยกันเยอะอยู่ และพี่หมีเป็นคนที่ตอบไวมาก ทั้งๆที่แชตผ่านแอปนะ ไม่มีการลองเชิง ไม่มีการเพลย์คลูใดๆทั้งสิ้น (ตอนนั้นเรายังไม่ยอมให้ไอดี Whatsapp)
แต่ในส่วนของนางเอกแบบเรานั้น ...ไม่ค่ะ เราจะไม่ตอบทันที เราจะทิ้งไว้ซักพักค่อยมาตอบ จะได้ดูบีซี่ ดูมีงานทำ ตอบไวๆเดี๋ยวมันจะดูไม่ดี ...โอ้ย ลำไยไปอี๊กกกก

คุยกันได้ไม่ถึงอาทิตย์ แต่ดูแล้วไม่น่ามีพิษมีภัย(มั้ง) เราก็เลยให้ไอดี Whatsapp ส่วนตัวไป จะได้คุยกันง่ายขึ้น ฮิฮิฮิ ...พี่หมีเป็นคนที่ใช้ภาษาสุภาพตลอด ตอบเราไวมาก(อย่างที่บอก) คอยทักทายตอนเช้า ไปจนถึงกู้ดไนท์ก่อนเข้านอน มีความกุ๊งกิ๊ง ...เราเริ่มรู้สึกว่า... เห้ยแก เขาก็น่ารักดีโน๊ะ (กี๊ซซซ>,<)
.
.
แต่เราเกิดคำถามในใจนะ...คนนิสัยดูโอเค หน้าตาก็ไม่ได้แย่ การงานก็ดี อายุก็เหมาะจะมีครอบครัว ...รวมๆแล้วน่าคบ แต่ทำไมไม่มีแฟน??? ...อย่างงี้ต้องสืบบบ ...เมื่อองค์พ่อโคนันเข้าสิง นี่ก็ตามเจาะข้อมูล เสริชตามโซเชียลตั่งต่าง ก็ปรากฏว่า...
.
.
...ไม่เจออะไรเลยแจ้ (==“)
.
.
เป็นไปได้ไงง่ะ ผู้ชายคนนี้ไม่เล่นโซเชียลเลยเหรอ ...ไม่ว่าจะหาจากชื่อ ไปจนถึงแคปรูปจากในแอปไปเสริชในอากู๋ ก็ยังไม่เจอเลยง่ะ โอ้ย...ลึกลับไปอี๊ก ...เอาไงดี จะมาหลอกเราป่าวว่ะ นี่ไม่อยากเจ็บนะ ...หยุดคุยม่ะ? หรือจะไปต่อ?

ทันใดนั้นเอง เพลงนี้ก็ลอยมา ..."แค่เสียงหัวใจมันบอก อาจไม่ค่อยพอ แต่ฉันก็ยังมั่นใจ ว่าต้องใช่เธอ เสียงหัวใจเรียกร้อง แปลกๆ ให้รู้สึกดีที่มีเธอ” (...เด็กๆที่เกิดไม่ทัน ป้าขอโทษนะลูก)
.
.
โอ้ย... มันหน่วงๆ มันบับ บอกไม่ถูกอ่ะ ...เอางี้ล่ะกัน นัดเจอแม่งเลย คุยกันแมนๆ เดี๋ยวก็รู้แหละว่าอะไรยังไง ...เราก็เลยขอนัดเจอไปเลยจ้าาา
.
.
บอกก่อนว่าตอนคุยกัน เราแชตอย่างเดียว ไม่เคยโทรคุยใดๆนะ จะนัดเจอนี่ก็รู้สึกว่าตัวเองห้าวหาญมาก55

คือช่วงนั้นพี่หมีต้องบินไปทำงานที่ฮองกงในวันเกิดเราพอดี เราก็เลยบอก งั้นมาเจอกันก่อนบินไม๊คะ ฉลองวันเกิดล่วงหน้างี้ ซึ่งแน่นอนว่าฮีตอบตกลง (คริคริ)
.
.
อุ่ย! เอาแล้วจุ่ยยยยย! จะเจอกันล้าวววว
.
.
...ลืมเล่าให้ฟัง ก่อนจะตัดสินใจนัดเจอพี่หมี ตอนนั้นเราคิดไว้เลยว่า สมมติได้เป็นแฟนกัน(มโนตั้งแต่ยังไม่ได้เจอ>,<)...มันจะต้องไม่ใช่รักทางไกลนะ ไม่เอาแล้ว เข็ด! มันทรมานเวอร์ และเสี่ยงต่อการเลิกกันสูงด้วย ...แต่พอได้คุย พี่หมีบอก พี่ทำงานที่ไทยจร้าาา ฮี่ฮี่ฮี่ จริงๆเขาอยู่ไทยมา 3 ปีกว่าล่ะนะ จะมีบินไปดูงานที่ตปท.บ่อย แต่ไปเป็นทริปสั้นๆ เน้นอยู่ไทยเป็นหลัก เออ สบายเลย คุยต่อด๊ายยย
.
.
...และแล้ว The first date ก็มาถึง ทางฝั่งเรานั้นเน้นความน่ารักสมวัย(ใกล้ๆ30) แต่งหน้าใสๆ เหมือนบับ ...ตื่นมาก็เป็นงี้เลยอะค่ะ คิคิ
*รูปนี้ไม่ใช่ตอนเจอกันครั้งแรกนะ ...ตอนนั้นใครจะไปกล้าถ่ายเก็บไว้ล่ะ เขินอยู่โง้ยยยยยย
...เรานัดเจอกันที่พารากอนตอนเย็นๆ ...ในขณะที่ออนเดอะเวย์นั้น เราก็โทรเพื่อนคนหนึ่งที่ทำงานแถวสยามเซ็นฯ ...“เมิงงงง กรุกำลังจะนัดเจอผู้ชายว่ะ แต่กรุกลัว เมิงคือแพลนB ของกรุนะ ...เปิดเครื่องไว้ด้วย ถ้ามีไรผิดแผนเดี๋ยวโทรหา” ...เพื่อนก็งงๆ แต่ก็รับปากแต่โดยดี
.
(ไม่มีความไว้ใจใดๆในตัวพี่หมีเลย ณ ตอนนั้น555555)
.
...และแล้วในที่สุด เราก็ได้ป่ะกันตัวเป็นๆจ้าพี่น้องงงง... ภาพในความทรงจำ(ที่เบลอๆหน่อยเพราะลืมใส่คอนแทคเลนส์) ที่จำได้คือ...
.
…ผู้ชายคนนี้ตัวสูง สูงมากกก เดินเด่นมาแต่ไกลเลย แฮกริดป่ะว่ะ 5555 (เราสูง 160 พี่หมีสูง 190) เขาดูเป็นผู้ใหญ่แนวอบอุ่นๆนะ แต่งตัวเรียบๆธรรมดา ก็ตามรูปโปรไฟล์แตกๆของฮีนั้นแหละ^^"
.
...(งู้ยยย จะว่าไปแล้ว คนนี้เข้าข่ายที่หมอดูพูดเลยนะ)

เราทักทายกันนิดหน่อย มียิ้มอ่อนอย่างเขินอายบ้าง ในจังหวะที่สบตากัน(แอร๊ย) ...พี่หมีตัวจริงดูเงียบๆนะ ไม่ได้ช่างพูดแบบในแชตเลยอะ(หรือว่าเขินเรากันแน่ เจ้าคนบร้าาา) ...แต่ยิ้มน่ารักอย่างที่ฮีอวยตัวเองไว้จริงด้วยแหละ(กี๊ซซซ)
.
.
ในใจเรานี่ก็แบบ ...นิ่งไว้ สวยๆไว้ อย่าโป๊ะนะ พุธโธๆๆ
.
.
...ตามแพลนคือ เราจะไปทานข้าวเย็นกันที่ Zuma, St.Regis แต่เราบอกว่า เราอยากเดินดูของบางอย่าง ขอแว็บไปดูก่อนได้ไม๊ พระเอกของเราก็แน่นอน ต้องตอบว่า ...ได้จ้า ไม่มีปัญหาาา
.
.
...จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะซื้ออะไรนะ แต่ที่ช็อปปิ้งเพราะนี่อยากดูพฤติกรรมว่าเขาจะเป็นไงบ้าง จะไหวไม๊ เป็นคนหงุดหงิดง่ายรึป่าว การช็อปปิ้งของผู้หญิง มันเป็นอะไรที่น่าเบื่อมากสำหรับผู้ชาย รู้ไง เลยอยากลอง อ่ะ... ไปกัน ป่ะ!

*(รูปนี้ตอนไปดีสนีย์แลนส์นั่นเอง)
.
.
การช็อปปิ้งของคนคลูๆแบบเรา แน่นอนค่ะ ต้องไม่ใช่พารากอน ...ข้ามไปโน้นเลยจ้า สยามฝั่งร้อน ซอยเยอะๆ ของแน่นๆ ที่ผ.เดินแล้วต้องปวดหัว55
...เราแวะดูรองเท้าที่ร้านนึง เขาก็นั่งรอ นี่ก็เดินเลือกทั่วร้าน ในระหว่างที่เลือกก็ค่อยสังเกตุฮีไปด้วย( เออ...เขาไม่ได้สนใจเรามากมายแฮะ) ฮีแค่นั่งหลบมุมเงียบๆ แล้วเล่นมือถือไปเรื่อย (...เล่นไรอ่ะ? เฟสเหรอ แล้วทำไมนี่หาไม่เจอ หรือสแนปแชต ที่ฝรั่งชอบเล่นกัน ต้องใช่แน่เลยมุงงง)
.
.
ว่าแล้วเราก็เดินโฉบไปด้านหลัง ...ฮีเล่น Candy Crush ว่ะ555 ...เอ็นดูววว์

*(USJและความติ่งHarryของเราสอง)
.
.
หายข้องใจ นี่ก็เดินดูของต่อ...
.
.
(บทสนทนา เวอร์ชั่นแปลเป็นไทยแล้ว)
เรา : รองเท้าสีไหนสวยคะ? (พร้อมกับชี้คู่นึงสีดำ และอีกคู่สีนู้ดๆ)
พี่หมี : อ่า...อืม...อ่าาา สีนู้ดนะๆ
เรา : แล้วสีดำไม่สวยเหรอคะ?
พี่หมี : สวยๆ ก็สวยเหมือนกัน
เรา : แล้วตกลงสีไหนสวยอ่ะ เอาคู่ไหนดี จูนเลือกไม่ถูก
พี่หมี : สวยหมดเลยคับ แต่สีนู้ดสวยกว่านิดนึง ได้โปรดอย่าถามผมเลย ความรู้แฟชั่นผมเป็นศูนย์ ผมเลือกไม่เป็นจริงๆ (ฮีเริ่มมีความเหงื่อตก)
(โอ้ย พ่อคุณ วงวานนนน)
.
.
....พี่คะ เอาคู่สีดำค่ะ 55555
.
.
ตอบอะไรมา สุดท้ายเราก็เลือกสีตรงข้ามแหละ ไม่ซื้อตามหรอก แกล้งถามเฉยๆ (เป็นนางเอกที่ทั้งร้าย ทั้งมั่นหน้าและลำไยจริงๆ)

*(เรื่องความจำแม่นของพี่หมีนั้น บางทีก็ดีจนน่าประหลาดใจ ทำไมเราแทบจำอะไรไม่ได้เลยอ่ะ555)
จากเท่าที่สังเกตุและเดินด้วยกันคือ ...เขาไม่บ่น(แหงล่ะ ก็เดทแรกนิ) เปิดประตูให้ ช่วยถือของให้ มีความเลดี้เฟริส มีความสุภาพในแบบของพระเอ๊กพระเอก ...โอ้ย ดีต่อจายยย .
(ฝ.บางคนไม่ช่วยนะ เพราะถือว่า ชายหญิงเท่าเทียม ซื้อเองถือเอง อันนี้แล้วแต่คนจะมอง ...แต่ฮีมีความ Gentleman มากอยู่ ก็ได้คะแนนเพิ่มเป็นธรรมดา)
.
เดทแรกใครเป็นบ้าง มันจะมีความประหม่า เหมือนในซีรีย์เกาหลี ทำอะไรก็ดูโก๊ะๆน่ารัก ตัวเล็กๆน่าทะนุถนอม มีความอ่อนแอ ต้องการคนดูแลตลอดเว555 ดีออก
จบจากบททดสอบ “ช็อปปิ้ง วิท เจลี่จูน” ...ถือว่าพี่หมีทำได้ดี นี่ให้ผ่าน(แน่นอนอยู่แล้นนน) เราก็นั่งบีทีเอสไปดินเนอร์ที่ Zuma กันค่ะ
.
.
...เข้าไปนั่งในร้าน เราก็สั่งอาหารนิดหน่อย ...ปรกติกินน้อยอะค่ะ(...เหรอว่ะ หืมๆ)

*(ถ่ายตอนวันครบรอบ 4 เดือน ก็ต้องเพิ่มดีกรีความเซ็กซี่กันหน่อย แหะๆ)
แต่ภารกิจยังไม่จบ เราต้องรู้ให้ได้ว่า เขาเป็นคนยังไง และต้องการอะไรจากเรากันแน่(คิดเยอะไปม่ะ555).
.
...เราเริ่มกันด้วยบทสนทนาพื้นๆแบบ ...ทำงานอะไร ทำไมเลือกอยู่ที่ไทย ไปเที่ยวไหนมาบ้าง พูดไทยได้ไม๊ ชอบอะไรในประเทศนี้ (ถามเหมือนจะเอาไปเขียนรายงานส่งอ.เลยดีออก55) .
.
พี่หมีบอก เขาชอบประเทศเรานะ กรุงเทพฯอยู่ง่าย ผู้คนน่ารักสบายๆ ค่าครองชีพถูก ที่สำคัญคือ เค้าชอบอาหารไทยมาก และฮีกินเผ็ดมากกก(ตำปูปลาร้าพริก 10 เม็ดงี้ โห้ว...สายโหดตัวจริงว่ะ ยอม) .
...เราก็เล่าเรื่องของเราบ้าง ว่าตอนนั้นเพิ่งกลับมาจากอังกฤษนะ เราเที่ยวฝั่งยุโรปบ่อย แต่ยังไม่เคยไปฝั่งเมกาเลย(มองอ่อน) ...เออ มีเพื่อนเคยบอกเหมือนกันนะ ว่าจูนน่าจะเหมาะกับหนุ่มเมกันมากกว่า เพราะผู้คนฝั่งนั้นเฟรนด์ลี่น่ารัก มีความเฮฮา สนุกสนาน ไม่ขี้อายเงียบขรึมเหมือนหนุ่มบริทิช...เราก็ไม่รู้ซินะ ว่าแต่มันจริงไม๊อ่ะ (หยอดใส่เขาไปอี๊กกก)
.
...อือ นี่ถือว่าคุณเป็นเพื่อนอเมริกันคนแรกของเราเลยนะคะ ปรกติจูนมีเพื่อนฝั่งเอเชียและยุโรปเยอะ เพราะเรียนภาษาด้วยกันมา ตอนนี้จะได้มีเพื่อนจากฝั่งยูเอสบ้างซักที ดีใจมากเลย (เอาซี่...งานแฟนต้ายุวทูตก็มาว่ะ555)

...การพูดคุยก็เป็นไปอย่างราบรื่น จำได้ว่าเราชวนคุยเยอะมาก เขาก็ถามเราเยอะมากเช่นกัน (นี่ไม่เก่งภาษาอะไรมากมายนะ แต่เราชอบพูด ชอบฟัง พูดผิดก็ไม่อาย ไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่ว้อยยย ฝรั่งเขาเข้าใจดี)...ซึ่งเวลาคุยกันมันจะมีอาการมุ้งมิ้ง ยิ้มอ่อน สบตา เหมือนว่าทั้งร้าน(ทั้งโลกนี้)มีแค่เราสองคนอ่ะ เข้าใจม่ะ .....โอ้ย นึกถึงตอนนั้นแล้วก็เขิน แอร๊ยยยย.
.
…พี่หมีจำได้ว่าใกล้ถึงวันเกิดเราแล้ว ก็เลยออกไอเดียว่า ไปหาเค้กทานต่อไม๊ ฉลองกันก่อนวันจริง เพราะในวันนั้นฮีไม่อยู่ไทย แต่ก็อยากให้ได้เป่าเค้กด้วยกัน (งู้ยยย ตั๊ลล๊าคคค) ...และแน่นอน ด้วยความเห็นแก่กิน ทางเรานี้ก็ไม่มีปฏิเสธข่ะ อิอิ

*(Emergency food คือขนมที่พี่หมีซื้อติดบ้านไว้ ฮีบอกว่า เผื่อเวลาเราแดงเดือด จะได้ไม่อาระวาด555 ตัลล๊าคคค)
.
.
...จากร้าน Zuma เราวนกลับมาที่พารากอนกัน หลังจากเดินหาร้านขนมอยู่ 2-3 ร้าน ก็มาลงจบลงที่ Harrods’ Tearoom (ร้านนี้อีกแล้วอีผี นี่เพิ่งกลับมาจากอังกฤษม่ะT-T)... แต่ก็เข้าไปอยู่ดีเพราะขนมอร่อย ^^"
.
.
… หลังจากสั่งเค้กแล้ว เราก็ขอเทียนมาจุด ก็ร้องเพลง HBD เบาๆอยู่ในร้านกันสองคนนั่นแหละ (ถึงจะมีผู้รวมงานแค่ 1 แต่ดูอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก แอร๊ยยยย)

*(รูปจริง บรรยากาศจริงในวันนั้น มันก็จะยิ้มเขินๆหน่อย >,<).....เราเริ่มเปิดประเด็นเรื่องความสัมพันธ์บ้าง ว่าเราเองเคยคบแฟนเก่ามาหลายปีนะ นานสุดก็7-8ปี และบางคนคบแบบระยะสั้นก็มี แต่นี่เป็นโสดมาเกือบปีแล้วแหละ ไม่เจอใครถูกใจเลย มาเล่นแอปนั้นก็น้องแนะนำ จริงๆจะปิดโปรไฟล์อยู่แล้ว แต่ฮีทักมาก่อนเนี่ยแหละ.
.
...ทางฝั่งพี่หมีเอง เขาเล่าว่า เขาโสดมา 4 เดือนนะ แต่ละคนคบไม่นาน(มากสุดคือ 6 เดือน) เพราะเขาคิดว่า ถ้าคนที่คบด้วย ไม่ใช่คนที่จะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตได้ เราจะคบกันทำไม เขาก็จะรีบตัดบทจบเลย เพราะมันเสียเวลา(เอ้า...แล้วกรุจะรอดไม๊นิ น่ากลัวจรุง555)
.
.
…และด้วยความที่เขาทำงานแบบต้องเดินทางตลอด ทำให้มีปัญหาเรื่องเวลาที่ไม่ตรงกัน ไม่ค่อยมีเวลาให้กัน ทำให้สุดท้ายแล้วก็ไปด้วยกันไม่ได้...
.
.
(วร๊าย สิ่งนั้นไม่ใช่ปัญหาจ้า ถ้าเราเป็นแฟนกัน หน่องจูนทำงานอิสระ หน่องจูนไปด้วยได้ตล๊อด ม่องห่วง อิอิ)

...จบจากร้านเค้ก เขาก็ส่งเรากลับบ้าน แล้วก็ทิ้งท้ายว่า ...ขอบคุณสำหรับช่วงเวลาดีๆนะคับ ผมหวังว่าเราจะได้เจอกันบ่อยขึ้น (งู้ยยย) …หลังจากกลับมาบ้าน ความรู้สึกในตอนนั้นคือบับ...ผู้ชายคนนี้น่ารักจัง คุยด้วยแล้วสนุกอ่ะ รู้สึกสบายใจ ถึงจะเพิ่งเคยเจอกัน แต่ฟีลล์เหมือนรู้จักกันมานาน (คือผู้หญิงเรามันจะมีเซ้นต์อ่ะเนอะ ความรู้สึกมันจะบอกเอง)......ใต้ความถูกชะตา ใต้ความคลิ้ก เคมีเข้ากันได้ดี ...เขาทำให้โลกของเรา จากเทาๆเริ่มกลายเป็นเทาพาสเทลแล้วแหละ งือออก่อนหมดวัน เราส่งข้อความไปบอกพี่หมี... .....จูนเข้าใจดีว่าคุณงานยุ่งและกำลังจะไปตปท.วันมะรืน แต่พรุ่งนี้ตอนเย็นจูนว่างนะ ไปดูหนังกันไม๊คะ?.....55555555 ความแรดนี้

...ขอขยายความรู้สึกของตัวเอง หลังจากเดทแรกผ่านไปนิดนึง ...มันเหมือนโลกเปลี่ยนไปอ่ะ มองอะไรก็น่ารัก สวยงาม บรรยากาศรอบตัวจะมีความละมุน สดใส
.
.
...แต่เรายังไม่ถึงกับตกหลุมรักนะ เพราะอย่างที่บอกว่าเราโสดมานาน จนถึงจุดที่อยู่คนเดียวได้สบาย ...ช่วงนั้นเราเลยกลัวการเริ่มต้นใหม่ อยากมีแฟนแต่กลัวเจ็บ กลัวอกหัก ไม่อยากกลับไปสู่สภาวะนั้นอีก (T^T) .....แต่อีกด้านของความรู้สึกก็ขอสารภาพว่า ช่วงนั้นเปิดย้อนอ่านแชตของพี่หมีวันละหลายรอบมาก55 อ่านไปยิ้มไป หัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว (โอ้ย มันมุ้งมิ้งเหลือเกินพี่จ๋าาา)
… ในวันต่อมาเรานัดเจอกันที่พารากอนเหมือนเดิม แต่เราบอกเราอยากกินอะไรซักอย่างที่ CTW (จำร้านไม่ได้) เราถามเขาด้วยคำถามนางเอกว่า ...เดินไกลนิดนึงนะ ไหวไม๊คะ(เสียงสอง) ...คือช่วงนั้นมันอากาศร้อนไง เขาเป็นฝ. แถมตัวใหญ่มาก เราก็กลัวเขาจะไม่ไหว แต่ฮีบอกสบายมาก เพราะฮีเดินไปทำงานทุกวัน.
.
...ดีๆๆ เข้าทางเราเลย เพราะจริงๆมันเป็นแผนเว้ย555 ...ก็นี่อยากเดินไปคุยไป ชมนกชมไม้ไรงี้อ่ะ ...มันดีต่อจัยยย (ถึงแม้ว่าสกายวอล์คนั้นจริงๆมีแต่ตึกและถนนล้วนๆเลยก็เถอะ) ...เราชวนพี่หมีแวะร้านหนังสือ เพราะอยากได้หนังสือแกรมม่าถึงเราจะมีสกิลพูดและฟังพอควร แต่ก็อยากเรียนรู้เพิ่มอีก
.
.
...ยิ่งได้เจ้าของภาษามาเป็นคู่ เฮ้ย! มาเป็นครู ก็คงจะดีไม่น้อย(ประโยคหลังคิดในใจนะ55)

...หลังจากนั้นก่อนดูหนังเราก็ไปทานข้าวกัน ...เราคุยกันหลายเรื่องมาก จนมาถึงเกี่ยวกับเรื่องทริปที่เราเพิ่งไป ...พี่หมีเลยถามว่า ทริปต่อไปอยากไปเที่ยวที่ไหน ..…เราตอบว่า ...จูนก็ยังไม่ได้คิดค่ะ เพราะเพิ่งกลับมาเอง แต่ที่ไหนก็ได้ที่อากาศไม่หนาว อาจจะทะเลมั้ง ภูเก็ต กระบี่ไรงี้ค่ะ.
.
...ทันใดนั้น ฮีก็เสนอความคิดที่ว่า ...ทะเลเหรอ ดีๆผมไม่ได้ไปนานแล้ว ไปด้วยกันไม๊คับ? ...เอ้า! ถามมาซะอีนี่อึ้งเลยเว้ย ...อาร๊ายยย เจอกันสองวัน จะชวนไปตจว.แล้วหราาา มันยังไงกันนะ ผู้ชายคนเน้!!!
.
.
เราก็ยิ้มๆ แล้วบอกไปว่า...
.
.
...ก็ดีนะคะ
55555555555 ดีออก เกลียดตัวเองงงง

...คือเราไม่ตอบปฏิเสธหรอก(ก็ชอบเขานิหน่า) แต่ก็ไม่ได้ตอบตกลงนะ ...คือไม่รู้ดิ เพิ่งเจอกันแปปเดียวป่ะว่ะ ไม่ได้ไวไฟขนาดนั้น และเราเป็นอะไรกัน สถานะอะไร นี่ยังไม่รู้เลย จะไปด้วยกันได้ไง??? .
.
...ด้วยคำตอบที่เราบอกไป พี่หมีก็ไม่ได้อะไรนะ เห็นยิ้มๆตลอดนั่นแหละ ดูฮีดีใจซะด้วยซ้ำ ที่เราไม่เซย์ No 555
.
.
...จากนั้นเราก็ดูหนังกัน อารมณ์แบบวัยรุ่นเวอร์ ไม่มีจับมือใดๆทั้งสิ้น แค่แตะตัวกันนิดเดียวก็สปาร์คล่ะเมิง แอร๊ยยย>.<
.
.
...ใต้ความแอบมองกันไปมาระหว่างดูหนังก็ว่าเสียสมาธิแล้ว ในใจนี่ก็คิดถึงแต่อีเรื่องทริปเที่ยวทะเล ที่ฮีชวนไปด้วยกันอีก.
.
...โอ้ย...ดูหนังไม่รู้เรื่องเลยว้อยยย.
.
...จบเดทที่สองแบบงงๆ ปนด้วยคำถามมากมาย และความไม่มั่นใจว่าเขาจะจริงจังกับเราแค่ไหน? เราควรมอบความรักของเราให้เขาหรือไม่? ...น้องสับสบเหลือเกินค่ะ พี่อ้อยพี่ฉอดT^T 
...ในเช้าวันเกิด เราตื่นด้วยข้อความวีดีโอ ที่ส่งมาจากพี่หมี(คนดีคนเดิม เพิ่มเติมคือเซอร์ไพรส์) ...ในวีดีโอนั้นฮีร้องเพลง HBD พร้อมด้วยเค้ก ...ไม่ใช่ดิ...มันไม่ใช่เค้ก มันคือป๊อปคอร์นอยู่ในถ้วย แล้วมีเทียนจุดด้านบนง่ะ (เอเห้ ...คิดด้ายยย น่าร๊ากกก) .....คือในตอนนั้นแม่เรานอนอยู่ข้างๆ เราก็เลยเปิดให้แม่ดูแล้วบอกว่า ...แม่จ๋า หนูชอบเขา..5555 บ้าหราาา... ใครจะกล้าพูดว่ะ .....ก็พูดไปว่า เออเนี่ย กำลังดูๆกันอยู่แต่ยังไม่ใช่แฟน ...แม่เราบอกว่า อืม เขาก็ดูน่ารักดีนะ แต่เค้กนั่นอะไรอ่ะ? ป๊อบคอร์นเหรอ? เออ...ดูเป็นคนประหลาดๆอ่ะ ..555 ...แม่~~~

*(แซตนี้หลังจากที่เป็นแฟนกันแล้วนะ ไม่ใช่ตอนนั้น555 ฮีมีความรับมุข มีความจินตนาการ).....หลังจากนั้นพี่หมีต้องเดินทางไปทำงานตปท.ประมาณอาทิตย์กว่า เราก็ใช้วิธีการแชตหากันตลอด ซึ่งก็เหมือนเดิมคือ เขาจะพยายามตอบเราให้เร็วที่สุด ถ้าตอบช้าก็จะขอโทษ มีกู้ดมอนิ่ง มีกู้ดไนท์ทุกวัน ...ซึ่งฮีจะคอยบอกเสมอว่า ตั้งตารอที่จะเจอกันอีกครั้งนะ อยากกลับไทยไวๆ .....(โอ้ย หวานเวอร์เบอร์ตองงงง).
.
...ยังไม่หมดเด้อ ...ยังมีส่งลิงค์โรงแรมติดทะเลสวยๆมาให้เลือกตลอด คือฮีดูจริงจังกับทริปนี้มาก ...แต่ทางเราก็ยังพูดปัดๆไปเหมือนเดิม ...(อยากไปด้วยนะ ไม่ใช่ไม่อยาก แต่มันยังไม่ชัดเจนไง).....ไม่ได้การล่ะ มันต้องเคลียร์ เดี๋ยวเจอกันครั้งหน้า นี่จะถามให้ชัดเลย ...เราไม่ชอบ จะมาเป็นความสัมพันธ์สีเทาแบบนี้ไม่ได้!!! 
*(พี่หมีผู้ซึ่งไม่ถนัดศิลปะใดๆ มีครั้งนึงฮีลองซื้อมาจัดใส่แจกันบ้างเพราะรู้ว่าเราชอบ กะจะเซอร์ไพร์ส...ก็อย่างที่เห็นอ่ะ 5555 สวยจ้า สวย)
.
.
...ด้วยความห่างไกล ทำงานคนละประเทศ แต่เราก็แชตคุยกันตลอด จนผ่านมาอาทิตย์กว่า ในที่สุดพี่หมีก็กลับไทยซะที (น้องไปรอพี่ที่ท่าน้ำทุกวันเลยนะจ๊ะพี่จ๋า) ...เรานัดทานข้าวเที่ยงกันที่เอ็มควอเทียร์ ฮีก็พกคอมมาด้วยจ้าาา ...เอามาให้เราเลือกโรงแรมภูเก็ตไปด้วยระหว่างทานข้าว(จริงจังไปอี๊ก)...อินี่ก็เลือกเกือบครบเลย ทั้งโรงแรม ทั้งไฟล์บิน ...แต่ยังไม่จองนะ.
.
…"จูนขอถามอะไร ก่อนที่เราจะไปทริปด้วยกันได้ไม๊คะ?” ...เชี่ยแล้ว เอาแล้ว นี่เรากำลังเข้าเรื่องนั้นแล้วซินะ(ใจเต้นแรงมากกก).
.
"จูนรู้สึกดีมากนะคะ ที่เราได้เจอกัน ขอพูดตามตรงว่า มันเป็นความรู้สึกเหมือนเรารู้จักกันมานาน แต่ถึงยังไงก็ตาม การที่จะไปเที่ยวกันสองคนเนี่ย จูนต้องการความชัดเจนก่อนค่ะ ...จริงๆแล้วเราเป็นคนแฟร์มากนะ ถ้าไปกันแบบเพื่อนนี่ก็โอเค ไม่ซีเรียสเลย(เดี๋ยวกรุค่อยชิ่งไง ไม่ไปด้วยหรอก55) .
.
...แต่จูนไม่ชอบความสัมพันธ์สีเทา มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟนไรงี้ ไม่ต้องการค่ะ ...เพราะฉะนั้นตอนนี้คุณคิดกับเรายังไง พูดมาเลยค่ะ พูดดดด".
.
… วินาทีนั้นต้องเรียก น้องจูน...คนจริง 2017 ว่ะ 555

*(เขาชอบแอบถ่ายรูปเราตอนเผลอ ซึ่งบางทีก็ถ่ายออกมาดีจนยอดไลค์ถล่มกว่าที่เราตั้งใจถ่ายซะอีก งือออ)..
พี่หมีบอกว่าเขารู้สึกดีกับเรามากๆนะ(มองตา) เขาสบายใจและมีความสุขทุกครั้งที่ได้เจอกัน และที่สำคัญ มันไม่ใช่เรื่องปรกติเลยที่เขาจะจองทริปไปเที่ยวกับใคร ก่อนที่จะเป็นแฟนกัน และเขาก็ไม่เคยคิดจะทำด้วย ...แต่ก็ไม่รู้ทำไม เขาอยากไปอ่ะ อยากพาเราไปด้วย(น้ำเสียงจริงจังหนักแน่นมาก)
….(ในใจนี่คือปิติเวอรรร์)

*(บีชดินเนอร์ตอนทริปแรก พี่หมีเล่นใหญ่มาก คือร่ะ? Pre honeymoon งี้หรา555)...... "ผมเองไม่ได้อยากคบใครเล่นๆ ผมต้องการความรักที่เรียบง่าย คนที่อยู่กับเราไปได้ตลอด คนที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุข ไม่เครียด ผมไม่ใช่เด็กๆแล้ว(ฮีอายุ35) ผมอยากจริงจังสร้างอนาคตกับใครซักคน (งู้ยยย) .....ผมรู้สึกเหมือนกันกับจูนเลยนะ เหมือนเรารู้จักกันมานาน ผมเป็นตัวของตัวเองมาก สบายใจมาก เป็นความรู้สึกดีที่ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครเลย ...จนได้มาเจอจูน (...เอ้า! มงลงค่ะ อิดร๊อกกก)
*(ยิ้มร่าาาา)
.
.
ทุกอย่างที่เขาพูดมาก็ดูดีนะ แต่มันก็ยังไม่ชัดเจนมากพอเว้ย...
.
.
คำถามสุดท้าย...
เรา : งั้น...ถ้าเราคิดตรงกันแบบนี้ เราก็ควร In relationship เนอะ?
พี่หมี : ครับ ถ้าจูนโอเค ผมก็อยากให้เป็นแบบนั้นนะ
เรา : (กี๊ซ~)...ยิ้มหวานที่สุดในโลก..ส่งกลับไปเป็นคำตอบจร้าาา
แอร๊ยยยย!

...ใครร้องได้ ช่วยกันร้องด้วยนะค้า ...เพลงมาค่ะ... .
แต่เราก็หากันจนเจอ มันนานแค่ไหนที่คอยเธอมา
รู้สึกไหมว่าชีวิตคุ้มค่า เมื่อมีใครสักคนข้างกาย
เกิดมาเพื่อหาใครคนหนึ่ง เป็นคนที่ฟ้าสร้างมาตรงใจ
เราต่างรู้โลกมันแสนกว้างใหญ่ แต่มันคงไม่ยากเกินไป...ที่ฉันจะพบเธอ
.
.
…อ๊อยยย น้องอยากจะกรี๊ด แม่จ๋า ลูกไม่(น่าจะ)ขึ้นคานแล้วจ้าาา ...คือมันดียย์ มันโล่ง มันใจเบาขึ้นเยอะ ...จากนั้น เราเลยสรุปเลือกทริปไปเที่ยวกันต่ออย่างสบายใจ พร้อมกับความมุ้งมิ้ง ที่เพิ่มขึ้นแบบคูณสอง หลังจากเปลี่ยนสถานะเป็น “แฟน” (>.<) .
.
...คือบับ ตอนนี้โลกของเราไม่ใช่สีเทาแล้วอ่ะค่ะ ...มันคือสีรุ้งพาสเทลยูนิคอร์นจ้า จร้าาา555

อัพเดทเพิ่มเติม ตอนนี้ มกรา 2017 นี่ก็คบกันเกินครึ่งปีแล้วค่ะ ถือว่าทำลายสถิติ แฟนที่นานที่สุดของพี่หมีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว .....ด้วยความพิเศษนิดหน่อยนี้ ฮีก็เลยซื้อกุหลาบ(และอื่นๆตามภาพ) กะเอามาจัดแจกันเซอร์ไพรส์(เหมือนเดิม) แต่ฮีลืมไปว่าวันนี้เราทำงานที่ห้อง ไม่ได้ไปไหน ...ช่อกุหลาบก็เลยมาในรูปแบบก้านยาวเป็นเมตร ...เอ็นดู๊ว์ เอ็นดู ...เดินเขินมาแต่ไกลเลยพ่อคุณ555 ตัลล๊าคคค.
.
...เรากลับไปดินเนอร์กันที่ Zuma เหมือนวันแรกที่เจอ แต่คนละฟีลล์เลย จำได้ว่าวันนั้นแค่สบตากันที นี่ก็เขินบิดจนเอวเอสล้าววว ^^"

ณ ตอนนี้ เรากับพี่หมีก็แฮปปี้มีความสุขดี และหวังว่ามันจะดีตลอดไป(ไม่เอา ไม่ขอหักมุมแบบหนังเกาหลีนาจา) ...เราก็ขอจบเรื่องเล่าลงเท่านี้ดีกว่าเนอะ ไม่งั้นทุกคนอาจจะเบ้ปากพร้อมกับมองแรว๊งใส่เราได้ เรากลัววว555

ปล. จริงๆหมอดูบอกว่า ถ้าเจอคนที่คิดว่าใช่แล้ว ให้กลับไปหาเขา เอารูปคู่ให้เขาฟันธงอีกที ว่าตรงกับที่เขาเห็นในมโนภาพหรือไม่ ...แต่เราไม่ได้กลับไปอีกเลยตั้งแต่เจอพี่หมีนะ เรากลัวคำตอบอ่ะ เราอยากเลือกเอง ...ถ้าเราต้องอกหักอีก เราค่อยกลับไปดูดวงใหม่อีกรอบก็ได้(ถือเป็นแพลนB) 5555

ปล2. ตอนเราโสด เราก็ไปไหว้พระขอพร ขอให้เจอเนื้อคู่เหมือนกันนะ ที่ไหนว่าดี ที่ไหนศักดิ์สิทธิ์เราก็ไปโหม๊ดดด(นี่ถ้ายังโสด คงบินไปฮองกงแล้วแหละ55) ...แต่ที่เราคิดว่าได้ผลดีที่สุด คือสวดมนต์ยาว และถวายสังฆทานทุกอาทิตย์ จริงๆนะ ปีที่แล้วเราทำตลอดเลย ...เมื่อใจเราสบาย พลังบวกจะดึงสิ่งดีๆมาให้ในเวลาที่เหมาะสม โลกจะเหวี่ยงคนที่พอดีกับใจมาให้เองโดยที่เราไม่ต้องพยายามเลย

...ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ คือมันยาวมาก ยาวสุดเท่าที่เราเคยเขียนบล็อคแล้วมั้ง ถ้าคุณมาถึงจุดนี้ได้ คุณคือผู้พิชิตค่ะ555

สาวโสดก็อ่านได้ จิ้นๆกันไป คิดบวกเข้าไว้ เดี๋ยวโลกก็เหวี่ยงคนที่ใช่ มาให้เอง เชื่อดิ จุ๊บๆ

*เนื้อหาอาจมีคำไม่สุภาพบ้าง ภาษาวิบัติบ้าง แต่เพื่อความเป็นอรรถรสเด้อออ
.
.
เริ่มเลยแล้วกัน... ย้อนกลับไปเมื่อกลางปี2016 หลังจากที่เราเลิกกับแฟนคนก่อน ด้วยความที่อีนี่เป็นพวก "เมื่อมีปัญหาความรัก น้องมักปรึกษาหมอดู"(งมงายสัดๆ55) หมอไหนดี หมอไหนแม่น เราจะ...ตาม...ไป...ดู! ...หลังจากที่ดูมาได้นิดนึง
...เฟลมากพี่จ๋า น้องจะเชื่อใครดี?

...แต่สิ่งที่ทุกคนทำนายแทบ
.
หู้ยยย คำทำนายดี๊ดีว่ะแก แต่ฟีลตอนนั้นมันไม่ใช่ไง มันยังอาลัยอาวรคนเก่าที่เร
.
ลักษณะของเขาคือจะตัวสูงมาก
เขาเป็นคนอบอุ่นแต่มีความเป็นผู้นำสูงค่ะ เป็นนิสัยแบบที่น้องต้องการ
หน้าที่การงานก็ดีมากนะ คบกันไม่นานก็แต่ง และถ้าน้องได้เจอกับเขาเมื่
.
โอโห้...พี่เอาความมั่นใจจา
.
...ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ เราก็ไม่ได้เชื่ออะไรกับหมอ
5555555
.
.
*ไม่ต้องหลังไมค์มาถามชื่อหม

...หลังจากที่เริ่มห่างหายไปจากสังเวียนดูดวง(เพราะหมดเงินไปเยอะแล้ว) น้องสาวคนสนิทจากแดนไกล ก็เสนอไอเดียว่า ...เล่นแอปไม๊พี่จูน แอปหาคู่ไง เขาเล่นกันเยอะแยะ เนี่ยๆๆๆ น้องกับสาก็เจอกันที่นั่นแหละ
.
... เอาจริงดิ มันจะเวิร์คเหรอ มันดูน่ากลัว ดูบับ... หาคู่นอนป่ะว่ะ ใครจะมาจริงใจกันในแอปแบบน้านนน ...แต่หลังจากที่วางหู ก็โหลดแอปลงเครื่องทันที
55555555

โหลดมาแล้ว ก็ลองเข้าไปส่อง เหมือนเราไปยืนงงๆในดงเสือ คือมันเล่นยังไงเหยอ?
สุดท้ายก็ค้นพบว่า กรอกข้อมูลทิ้งไว้ แล้วค่อยให้ผู้ชายทักมาเอง เวิร์คสุด และง่ายสุด
หลังจากลองเล่นไปเรื่อยเปื่อย เวลาผ่านไปเป็นเดือนๆ ก็ไม่มีอะไรคืบหน้าเลยข่ะ! วันๆทำแต่งาน ให้เวลากับตัวเอง เสริมสวยช็อปปิ้งโน่นนี่ หาความสุขให้ตัวเองไปเรื่อย ...โอ้ยยย หมอดงหมอดู หมอเดาแล้วแหละ
จากที่เห่อเล่นแอปช่วงแรกๆ ก็ไม่ได้แตะอีกเลยเพราะเบื่อ(และมีแต่พวกโปรไฟล์ประหลาดๆ) จนถึงช่วงที่เราบินไปอังกฤษก็นึกขึ้นได้ว่า
เออ...ลองเปลี่ยนโลเคชั่นเป็นลอนดอนม่ะ? ออกเดทกะหนุ่มบริทิชไรงี้ เกร๋ๆ

...เห้ย มันเวิร์คว่ะ ช่วงนั้นพูดเลยว่าฮ๊อตฉ่ามากเวอร์ ครึ่งปีแรกของ 2017 เราไปเที่ยวตปท.คนเดียว อาศัยอยู่กับเพื่อนเป็นเดือนๆ ช่วงนั้นใครที่คุยถูกคอเราก็นัดเจอเลยนะ
20ปลายๆนี่อย่าลำไยค่ะ เจอๆไปเหอะ55 (นัดร้านข้าวตอนกลางวัน คนเยอะๆ เซฟๆ) คิดง่ายๆว่า ไม่ได้แฟน ก็ได้เพื่อนใหม่ล่ะว่ะ อย่างน้อยๆก็ได้ใช้ภาษาที่ร่ำเรียนมา
และเราจะไม่เลือก “ใครก็ได้" แต่เราจะเลือก “ใครคนนั้น” ด้วยสติค่ะ!
ช่วงนั้นก็เลยไปออกเดทสลับๆกันไป 3-4 คน คือมันก็เหมือนจะดีนะ แต่...มันไม่คลิ้กอะ มันไม่มีใครทำให้เรารู้สึกโลกสดใสเป็นสีชมพูได้เลย จนกลับมาไทยก็ยังโสดอยู่มิเปลี่ยนแปลง ...หรือว่าเราจะเหมาะกับการอยู่คนเดียวมากกว่าว่ะ? ...นี่ถามตัวเองคนที่โสดมาซักพัก หลายคนจะมีอาการเดียวกันคือ อยู่ด้วยตัวเองได้ มันเริ่มชิน เริ่มหันหลังให้ความรัก ...บางคน(เช่นเรา) กลายเป็นคนบ้างาน วันๆคิดแต่เรื่องงาน ...หรือบางที ไม่มีแฟน เน้นมีเงินก็ได้โนะ เดี๋ยวตอนแก่ค่อยซื้อกินเอากร๊ากกกก (จะเทรินตัวเองเป็นสายเปย์ไปอี๊ก)

...จบจากทริปที่ไปตะลอนฝั่ง
ตริ๊งงง... มีข้อความนึงส่งเข้ามา หลังจากที่เราเปลี่ยนกลับมา
ถูกต้องค่ะคุณผู้อ่าน ข้อความนั้นมาจากพี่หมี พระเอกของเรานั่นเองงง
ย้อนกลับมาที่ฝั่งนางเอก (เราเองไง จะใครล่ะ)
...พูดเลยว่าดิฉันสัมผัสได้
...พอเปิดเข้าไปดูด้านใน หนักกว่านั้นอีกว่ะ แกเอารูปใส่สูทติดบัตรมาลงทำม๊ายยย นี่จะมาสมัครงานหรา เอามาลงในแอปหาคู่เฉย เนิร์ดโคดดด

...ปกติที่เคยเจอ คนที่ทักมาก่อน มักจะแบบ... ไฮย์ เราชื่อนี้...เธอชื่อไรอ่ะ?... แค่นั้น เหมือนมาหยอดก่อน ให้เราคุยตอบ ...แต่คนนี้มันไม่ใช่เว้ย ...ฮีมีความทำการบ้าน เข้าไปอ่านในโปรไฟล์เรา ว่าเราทำงานอะไร ชอบอะไรบ้าง แล้วก็มาเขียนตอบว่าฮีก็ชอบเหมือนกันนะ .
เราเขียนในโปรไฟล์ว่าเราชอบยิ้ม เราว่าเรายิ้มสวย ...ฮีตอบมา “ผมว่าผมก็ยิ้มสวยเหมือนกัน"
.
โอ๊ย...จ้า จร้าาาาา
ความเฉิ่มของมุขแบบนี้ นี่ถึงขั้นมองบน55
.
... ก็เหมือนจะไม่ผ่าน แต่ผ่านเว้ย! มาแบบซื่อๆ อ่ะ! แปลกดี...ไหนมาคุยกันหน่อยซิ

...ด้วยความที่ฮีเขียนมายาว
ช่วง 2-3 วันแรก ก็เลยได้แชตคุยกันเยอะอยู่ และพี่หมีเป็นคนที่ตอบไวมาก
แต่ในส่วนของนางเอกแบบเรานั้น ...ไม่ค่ะ เราจะไม่ตอบทันที เราจะทิ้งไว้ซักพักค่อยมาตอ

คุยกันได้ไม่ถึงอาทิตย์ แต่ดูแล้วไม่น่ามีพิษมีภัย(
.
.
แต่เราเกิดคำถามในใจนะ...คนนิสัยดูโอเค หน้าตาก็ไม่ได้แย่ การงานก็ดี อายุก็เหมาะจะมีครอบครัว ...รวมๆแล้วน่าคบ แต่ทำไมไม่มีแฟน??? ...อย่างงี้ต้องสืบบบ ...เมื่อองค์พ่อโคนันเข้าสิง นี่ก็ตามเจาะข้อมูล เสริชตามโซเชียลตั่งต่าง ก็ปรากฏว่า...
.
.
...ไม่เจออะไรเลยแจ้ (==“)
.
.
เป็นไปได้ไงง่ะ ผู้ชายคนนี้ไม่เล่นโซเชียลเลยเหรอ ...ไม่ว่าจะหาจากชื่อ ไปจนถึงแคปรูปจากในแอปไปเสริชในอากู๋ ก็ยังไม่เจอเลยง่ะ โอ้ย...ลึกลับไปอี๊ก ...เอาไงดี จะมาหลอกเราป่าวว่ะ นี่ไม่อยากเจ็บนะ ...หยุดคุยม่ะ? หรือจะไปต่อ?

ทันใดนั้นเอง เพลงนี้ก็ลอยมา ..."แค่เสียงหัวใจมันบอก อาจไม่ค่อยพอ แต่ฉันก็ยังมั่นใจ ว่าต้องใช่เธอ เสียงหัวใจเรียกร้อง แปลกๆ ให้รู้สึกดีที่มีเธอ” (...เด็กๆที่เกิดไม่ทัน ป้าขอโทษนะลูก)
.
.
โอ้ย... มันหน่วงๆ มันบับ บอกไม่ถูกอ่ะ ...เอางี้ล่ะกัน นัดเจอแม่งเลย คุยกันแมนๆ เดี๋ยวก็รู้แหละว่าอะไรยังไง ...เราก็เลยขอนัดเจอไปเลยจ้าาา
.
.
บอกก่อนว่าตอนคุยกัน เราแชตอย่างเดียว ไม่เคยโทรคุยใดๆนะ จะนัดเจอนี่ก็รู้สึกว่าตัวเองห้าวหาญมาก55

คือช่วงนั้นพี่หมีต้องบินไป
.
.
อุ่ย! เอาแล้วจุ่ยยยยย! จะเจอกันล้าวววว
.
.
...ลืมเล่าให้ฟัง ก่อนจะตัดสินใจนัดเจอพี่หมี
.
.
...และแล้ว The first date ก็มาถึง ทางฝั่งเรานั้นเน้นความน่ารักสมวัย(ใกล้ๆ30) แต่งหน้าใสๆ เหมือนบับ ...ตื่นมาก็เป็นงี้เลยอะค่ะ

...เรานัดเจอกันที่พารากอนตอนเย็นๆ ...ในขณะที่ออนเดอะเวย์นั้น เราก็โทรเพื่อนคนหนึ่งที่ทำงานแถวสยามเซ็นฯ ...“เมิงงงง กรุกำลังจะนัดเจอผู้ชายว่ะ แต่กรุกลัว เมิงคือแพลนB ของกรุนะ ...เปิดเครื่องไว้ด้วย ถ้ามีไรผิดแผนเดี๋ยวโทรหา” ...เพื่อนก็งงๆ แต่ก็รับปากแต่โดยดี
.
(ไม่มีความไว้ใจใดๆในตัวพี่หมีเลย ณ ตอนนั้น555555)
.
...และแล้วในที่สุด เราก็ได้ป่ะกันตัวเป็นๆจ้าพี่น้องงงง... ภาพในความทรงจำ(ที่เบลอๆหน่อยเพราะลืมใส่คอนแทคเลนส์) ที่จำได้คือ...
.
…ผู้ชายคนนี้ตัวสูง สูงมากกก เดินเด่นมาแต่ไกลเลย แฮกริดป่ะว่ะ 5555 (เราสูง 160 พี่หมีสูง 190) เขาดูเป็นผู้ใหญ่แนวอบอุ่นๆนะ แต่งตัวเรียบๆธรรมดา ก็ตามรูปโปรไฟล์แตกๆของฮีนั้นแหละ^^"
.
...(งู้ยยย จะว่าไปแล้ว คนนี้เข้าข่ายที่หมอดูพูดเลยนะ)

เราทักทายกันนิดหน่อย มียิ้มอ่อนอย่างเขินอายบ้าง
.
.
ในใจเรานี่ก็แบบ ...นิ่งไว้ สวยๆไว้ อย่าโป๊ะนะ พุธโธๆๆ
.
.
...ตามแพลนคือ เราจะไปทานข้าวเย็นกันที่ Zuma, St.Regis แต่เราบอกว่า เราอยากเดินดูของบางอย่าง ขอแว็บไปดูก่อนได้ไม๊ พระเอกของเราก็แน่นอน ต้องตอบว่า ...ได้จ้า ไม่มีปัญหาาา
.
.
...จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะซื้ออะไรนะ แต่ที่ช็อปปิ้งเพราะนี่อยาก

*(รูปนี้ตอนไปดีสนีย์แลนส์นั่นเอง)
.
.
การช็อปปิ้งของคนคลูๆแบบเรา แน่นอนค่ะ ต้องไม่ใช่พารากอน ...ข้ามไปโน้นเลยจ้า สยามฝั่งร้อน ซอยเยอะๆ ของแน่นๆ ที่ผ.เดินแล้วต้องปวดหัว55
...เราแวะดูรองเท้าที่ร้านนึง เขาก็นั่งรอ นี่ก็เดินเลือกทั่วร้าน ในระหว่างที่เลือกก็ค่อยสังเกตุฮีไปด้วย( เออ...เขาไม่ได้สนใจเรามากมายแฮะ) ฮีแค่นั่งหลบมุมเงียบๆ แล้วเล่นมือถือไปเรื่อย (...เล่นไรอ่ะ? เฟสเหรอ แล้วทำไมนี่หาไม่เจอ หรือสแนปแชต ที่ฝรั่งชอบเล่นกัน ต้องใช่แน่เลยมุงงง)
.
.
ว่าแล้วเราก็เดินโฉบไปด้านหลัง ...ฮีเล่น Candy Crush ว่ะ555 ...เอ็นดูววว์

*(USJและความติ่งHarryของเราสอง)
.
.
หายข้องใจ นี่ก็เดินดูของต่อ...
.
.
(บทสนทนา เวอร์ชั่นแปลเป็นไทยแล้ว)
เรา : รองเท้าสีไหนสวยคะ? (พร้อมกับชี้คู่นึงสีดำ และอีกคู่สีนู้ดๆ)
พี่หมี : อ่า...อืม...อ่าาา สีนู้ดนะๆ
เรา : แล้วสีดำไม่สวยเหรอคะ?
พี่หมี : สวยๆ ก็สวยเหมือนกัน
เรา : แล้วตกลงสีไหนสวยอ่ะ เอาคู่ไหนดี จูนเลือกไม่ถูก
พี่หมี : สวยหมดเลยคับ แต่สีนู้ดสวยกว่านิดนึง ได้โปรดอย่าถามผมเลย ความรู้แฟชั่นผมเป็นศูนย์ ผมเลือกไม่เป็นจริงๆ (ฮีเริ่มมีความเหงื่อตก)
(โอ้ย พ่อคุณ วงวานนนน)
.
.
....พี่คะ เอาคู่สีดำค่ะ 55555
.
.
ตอบอะไรมา สุดท้ายเราก็เลือกสีตรงข้ามแหละ ไม่ซื้อตามหรอก แกล้งถามเฉยๆ (เป็นนางเอกที่ทั้งร้าย ทั้งมั่นหน้าและลำไยจริงๆ)

*(เรื่องความจำแม่นของพี่หมีนั้น บางทีก็ดีจนน่าประหลาดใจ ทำไมเราแทบจำอะไรไม่ได้เลยอ่ะ555)
จากเท่าที่สังเกตุและเดินด้วยกันคือ ...เขาไม่บ่น(แหงล่ะ ก็เดทแรกนิ) เปิดประตูให้ ช่วยถือของให้ มีความเลดี้เฟริส มีความสุภาพในแบบของพระเอ๊กพระเอก ...โอ้ย ดีต่อจายยย .
(ฝ.บางคนไม่ช่วยนะ เพราะถือว่า ชายหญิงเท่าเทียม ซื้อเองถือเอง อันนี้แล้วแต่คนจะมอง ...แต่ฮีมีความ Gentleman มากอยู่ ก็ได้คะแนนเพิ่มเป็นธรรมดา)
.
เดทแรกใครเป็นบ้าง มันจะมีความประหม่า เหมือนในซีรีย์เกาหลี ทำอะไรก็ดูโก๊ะๆน่ารัก ตัวเล็กๆน่าทะนุถนอม มีความอ่อนแอ ต้องการคนดูแลตลอดเว555 ดีออก

.
.
...เข้าไปนั่งในร้าน เราก็สั่งอาหารนิดหน่อย ...ปรกติกินน้อยอะค่ะ(...เหรอว่ะ หืมๆ)

*(ถ่ายตอนวันครบรอบ 4 เดือน ก็ต้องเพิ่มดีกรีความเซ็กซี่กันหน่อย แหะๆ)
แต่ภารกิจยังไม่จบ เราต้องรู้ให้ได้ว่า เขาเป็นคนยังไง และต้องการอะไรจากเรากันแน่
.
...เราเริ่มกันด้วยบทสนทนาพื้นๆแบบ ...ทำงานอะไร ทำไมเลือกอยู่ที่ไทย ไปเที่ยวไหนมาบ้าง พูดไทยได้ไม๊ ชอบอะไรในประเทศนี้ (ถามเหมือนจะเอาไปเขียนรายงานส่งอ.เลยดีออก55) .
.
พี่หมีบอก เขาชอบประเทศเรานะ กรุงเทพฯอยู่ง่าย ผู้คนน่ารักสบายๆ ค่าครองชีพถูก ที่สำคัญคือ เค้าชอบอาหารไทยมาก และฮีกินเผ็ดมากกก(ตำปูปลาร้าพริก 10 เม็ดงี้ โห้ว...สายโหดตัวจริงว่ะ ยอม) .
...เราก็เล่าเรื่องของเราบ้าง ว่าตอนนั้นเพิ่งกลับมาจากอังกฤษนะ เราเที่ยวฝั่งยุโรปบ่อย แต่ยังไม่เคยไปฝั่งเมกาเลย(มองอ่อน) ...เออ มีเพื่อนเคยบอกเหมือนกันนะ ว่าจูนน่าจะเหมาะกับหนุ่มเมกันมากกว่า เพราะผู้คนฝั่งนั้นเฟรนด์ลี่น่ารัก มีความเฮฮา สนุกสนาน ไม่ขี้อายเงียบขรึมเหมือนหนุ่มบริทิช...เราก็ไม่รู้ซินะ ว่าแต่มันจริงไม๊อ่ะ (หยอดใส่เขาไปอี๊กกก)
.
...อือ นี่ถือว่าคุณเป็นเพื่อนอเมริกันคนแรกของเราเลยนะคะ ปรกติจูนมีเพื่อนฝั่งเอเชียและยุโรปเยอะ เพราะเรียนภาษาด้วยกันมา ตอนนี้จะได้มีเพื่อนจากฝั่งยูเอสบ้างซักที ดีใจมากเลย (เอาซี่...งานแฟนต้ายุวทูตก็มาว่ะ555)

...การพูดคุยก็เป็นไปอย่างราบรื่น จำได้ว่าเราชวนคุยเยอะมาก เขาก็ถามเราเยอะมากเช่นกัน (นี่ไม่เก่งภาษาอะไรมากมายนะ แต่เราชอบพูด ชอบฟัง พูดผิดก็ไม่อาย ไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่ว้อยยย ฝรั่งเขาเข้าใจดี)...ซึ่งเวลาคุยกันมันจะมีอาการมุ้งมิ้ง ยิ้มอ่อน สบตา เหมือนว่าทั้งร้าน(ทั้งโลกนี้)มีแค่เราสองคนอ่ะ เข้าใจม่ะ .....โอ้ย นึกถึงตอนนั้นแล้วก็เขิน แอร๊ยยยย.
.
…พี่หมีจำได้ว่าใกล้ถึงวันเกิดเราแล้ว ก็เลยออกไอเดียว่า ไปหาเค้กทานต่อไม๊ ฉลองกันก่อนวันจริง เพราะในวันนั้นฮีไม่อยู่ไทย แต่ก็อยากให้ได้เป่าเค้กด้วยกัน (งู้ยยย ตั๊ลล๊าคคค) ...และแน่นอน ด้วยความเห็นแก่กิน ทางเรานี้ก็ไม่มีปฏิเสธข่ะ อิอิ

*(Emergency food คือขนมที่พี่หมีซื้อติดบ้านไว้ ฮีบอกว่า เผื่อเวลาเราแดงเดือด จะได้ไม่อาระวาด555 ตัลล๊าคคค)
.
.
...จากร้าน Zuma เราวนกลับมาที่พารากอนกัน หลังจากเดินหาร้านขนมอยู่ 2-3 ร้าน ก็มาลงจบลงที่ Harrods’ Tearoom (ร้านนี้อีกแล้วอีผี นี่เพิ่งกลับมาจากอังกฤษม่ะT-T)... แต่ก็เข้าไปอยู่ดีเพราะขนมอร่อย ^^"
.
.
… หลังจากสั่งเค้กแล้ว เราก็ขอเทียนมาจุด ก็ร้องเพลง HBD เบาๆอยู่ในร้านกันสองคนนั่นแหละ (ถึงจะมีผู้รวมงานแค่ 1 แต่ดูอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก แอร๊ยยยย)

*(รูปจริง บรรยากาศจริงในวันนั้น มันก็จะยิ้มเขินๆหน่อย >,<).....เราเริ่มเปิดประเด็นเรื่องความสัมพันธ์บ้าง ว่าเราเองเคยคบแฟนเก่ามาหลายปีนะ นานสุดก็7-8ปี และบางคนคบแบบระยะสั้นก็มี แต่นี่เป็นโสดมาเกือบปีแล้วแหละ ไม่เจอใครถูกใจเลย มาเล่นแอปนั้นก็น้องแนะนำ จริงๆจะปิดโปรไฟล์อยู่แล้ว แต่ฮีทักมาก่อนเนี่ยแหละ.
.
...ทางฝั่งพี่หมีเอง เขาเล่าว่า เขาโสดมา 4 เดือนนะ แต่ละคนคบไม่นาน(มากสุดคือ 6 เดือน) เพราะเขาคิดว่า ถ้าคนที่คบด้วย ไม่ใช่คนที่จะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตได้ เราจะคบกันทำไม เขาก็จะรีบตัดบทจบเลย เพราะมันเสียเวลา(เอ้า...แล้วกรุจะรอดไม๊นิ น่ากลัวจรุง555)
.
.
…และด้วยความที่เขาทำงานแบบต้องเดินทางตลอด ทำให้มีปัญหาเรื่องเวลาที่ไม่ตรงกัน ไม่ค่อยมีเวลาให้กัน ทำให้สุดท้ายแล้วก็ไปด้วยกันไม่ได้...
.
.
(วร๊าย สิ่งนั้นไม่ใช่ปัญหาจ้า ถ้าเราเป็นแฟนกัน หน่องจูนทำงานอิสระ หน่องจูนไปด้วยได้ตล๊อด ม่องห่วง อิอิ)

...จบจากร้านเค้ก เขาก็ส่งเรากลับบ้าน แล้วก็ทิ้งท้ายว่า ...ขอบคุณสำหรับช่วงเวลาดีๆนะคับ ผมหวังว่าเราจะได้เจอกันบ่อยขึ้น (งู้ยยย) …หลังจากกลับมาบ้าน ความรู้สึกในตอนนั้นคือบับ...ผู้ชายคนนี้น่ารักจัง คุยด้วยแล้วสนุกอ่ะ รู้สึกสบายใจ ถึงจะเพิ่งเคยเจอกัน แต่ฟีลล์เหมือนรู้จักกันมานาน (คือผู้หญิงเรามันจะมีเซ้นต์อ่ะเนอะ ความรู้สึกมันจะบอกเอง)......ใต้ความถูกชะตา ใต้ความคลิ้ก เคมีเข้ากันได้ดี ...เขาทำให้โลกของเรา จากเทาๆเริ่มกลายเป็นเทาพาสเทลแล้วแหละ งือออก่อนหมดวัน เราส่งข้อความไปบอกพี่หมี... .....จูนเข้าใจดีว่าคุณงานยุ่งและกำลังจะไปตปท.วันมะรืน แต่พรุ่งนี้ตอนเย็นจูนว่างนะ ไปดูหนังกันไม๊คะ?.....55555555 ความแรดนี้

...ขอขยายความรู้สึกของตัวเอง หลังจากเดทแรกผ่านไปนิดนึง ...มันเหมือนโลกเปลี่ยนไปอ่ะ มองอะไรก็น่ารัก สวยงาม บรรยากาศรอบตัวจะมีความละมุน สดใส
.
.
...แต่เรายังไม่ถึงกับตกหลุมรักนะ เพราะอย่างที่บอกว่าเราโสดมานาน จนถึงจุดที่อยู่คนเดียวได้สบาย ...ช่วงนั้นเราเลยกลัวการเริ่มต้นใหม่ อยากมีแฟนแต่กลัวเจ็บ กลัวอกหัก ไม่อยากกลับไปสู่สภาวะนั้นอีก (T^T) .....แต่อีกด้านของความรู้สึกก็ขอสารภาพว่า ช่วงนั้นเปิดย้อนอ่านแชตของพี่หมีวันละหลายรอบมาก55 อ่านไปยิ้มไป หัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว (โอ้ย มันมุ้งมิ้งเหลือเกินพี่จ๋าาา)

.
...ดีๆๆ เข้าทางเราเลย เพราะจริงๆมันเป็นแผนเว้ย555 ...ก็นี่อยากเดินไปคุยไป ชมนกชมไม้ไรงี้อ่ะ ...มันดีต่อจัยยย (ถึงแม้ว่าสกายวอล์คนั้นจริงๆมีแต่ตึกและถนนล้วนๆเลยก็เถอะ) ...เราชวนพี่หมีแวะร้านหนังสือ เพราะอยากได้หนังสือแกรมม่าถึงเราจะมีสกิลพูดและฟังพอควร แต่ก็อยากเรียนรู้เพิ่มอีก
.
.
...ยิ่งได้เจ้าของภาษามาเป็นคู่ เฮ้ย! มาเป็นครู ก็คงจะดีไม่น้อย(ประโยคหลังคิดในใจนะ55)

...หลังจากนั้นก่อนดูหนังเราก็ไปทานข้าวกัน ...เราคุยกันหลายเรื่องมาก จนมาถึงเกี่ยวกับเรื่องทริปที่เราเพิ่งไป ...พี่หมีเลยถามว่า ทริปต่อไปอยากไปเที่ยวที่ไหน ..…เราตอบว่า ...จูนก็ยังไม่ได้คิดค่ะ เพราะเพิ่งกลับมาเอง แต่ที่ไหนก็ได้ที่อากาศไม่หนาว อาจจะทะเลมั้ง ภูเก็ต กระบี่ไรงี้ค่ะ.
.
...ทันใดนั้น ฮีก็เสนอความคิดที่ว่า ...ทะเลเหรอ ดีๆผมไม่ได้ไปนานแล้ว ไปด้วยกันไม๊คับ? ...เอ้า! ถามมาซะอีนี่อึ้งเลยเว้ย ...อาร๊ายยย เจอกันสองวัน จะชวนไปตจว.แล้วหราาา มันยังไงกันนะ ผู้ชายคนเน้!!!
.
.
เราก็ยิ้มๆ แล้วบอกไปว่า...
.
.
...ก็ดีนะคะ
55555555555 ดีออก เกลียดตัวเองงงง

...คือเราไม่ตอบปฏิเสธหรอก(ก็ชอบเขานิหน่า) แต่ก็ไม่ได้ตอบตกลงนะ ...คือไม่รู้ดิ เพิ่งเจอกันแปปเดียวป่ะว่ะ ไม่ได้ไวไฟขนาดนั้น และเราเป็นอะไรกัน สถานะอะไร นี่ยังไม่รู้เลย จะไปด้วยกันได้ไง??? .
.
...ด้วยคำตอบที่เราบอกไป พี่หมีก็ไม่ได้อะไรนะ เห็นยิ้มๆตลอดนั่นแหละ ดูฮีดีใจซะด้วยซ้ำ ที่เราไม่เซย์ No 555
.
.
...จากนั้นเราก็ดูหนังกัน อารมณ์แบบวัยรุ่นเวอร์ ไม่มีจับมือใดๆทั้งสิ้น แค่แตะตัวกันนิดเดียวก็สปาร์คล่ะเมิง แอร๊ยยย>.<
.
.
...ใต้ความแอบมองกันไปมาระห
.
...โอ้ย...ดูหนังไม่รู้เรื่องเ
.
...จบเดทที่สองแบบงงๆ ปนด้วยคำถามมากมาย และความไม่มั่นใจว่าเขาจะจริงจังกับเราแค่ไหน? เราควรมอบความรักของเราให้เ

...ในเช้าวันเกิด เราตื่นด้วยข้อความวีดีโอ ที่ส่งมาจากพี่หมี(คนดีคนเดิม เพิ่มเติมคือเซอร์ไพรส์) ...ในวีดีโอนั้นฮีร้องเพลง HBD พร้อมด้วยเค้ก ...ไม่ใช่ดิ...มันไม่ใช่เค้

*(แซตนี้หลังจากที่เป็นแฟนกันแล้วนะ ไม่ใช่ตอนนั้น555 ฮีมีความรับมุข มีความจินตนาการ).....หลังจากนั้นพี่หมีต้องเดินทางไปทำงานตปท.ประมาณอาทิ
.
...ยังไม่หมดเด้อ ...ยังมีส่งลิงค์โรงแรมติดท

*(พี่หมีผู้ซึ่งไม่ถนัดศิลปะใดๆ มีครั้งนึงฮีลองซื้อมาจัดใส่แจกันบ้างเพราะรู้ว่าเราชอบ กะจะเซอร์ไพร์ส...ก็อย่างที่เห็นอ่ะ 5555 สวยจ้า สวย)
.
.
...ด้วยความห่างไกล ทำงานคนละประเทศ แต่เราก็แชตคุยกันตลอด จนผ่านมาอาทิตย์กว่า ในที่สุดพี่หมีก็กลับไทยซะที (น้องไปรอพี่ที่ท่าน้ำทุกวั
.
…"จูนขอถามอะไร ก่อนที่เราจะไปทริปด้วยกันไ
.
"จูนรู้สึกดีมากนะคะ ที่เราได้เจอกัน ขอพูดตามตรงว่า มันเป็นความรู้สึกเหมือนเรา
.
...แต่จูนไม่ชอบความสัมพันธ์สีเทา มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟนไ
.
… วินาทีนั้นต้องเรียก น้องจูน...คนจริง 2017 ว่ะ 555

*(เขาชอบแอบถ่ายรูปเราตอนเผลอ ซึ่งบางทีก็ถ่ายออกมาดีจนยอดไลค์ถล่มกว่าที่เราตั้งใจถ่ายซะอีก งือออ)..
พี่หมีบอกว่าเขารู้สึกดีกั
….(ในใจนี่คือปิติเวอรรร์)

*(บีชดินเนอร์ตอนทริปแรก พี่หมีเล่นใหญ่มาก คือร่ะ? Pre honeymoon งี้หรา555)...... "ผมเองไม่ได้อยากคบใครเล่นๆ

*(ยิ้มร่าาาา)
.
.
ทุกอย่างที่เขาพูดมาก็ดูดีนะ แต่มันก็ยังไม่ชัดเจนมากพอเว้ย...
.
.
คำถามสุดท้าย...
เรา : งั้น...ถ้าเราคิดตรงกันแบบนี้ เราก็ควร In relationship เนอะ?
พี่หมี : ครับ ถ้าจูนโอเค ผมก็อยากให้เป็นแบบนั้นนะ
เรา : (กี๊ซ~)...ยิ้มหวานที่สุดในโลก..ส่งกลับไปเป็นคำตอบจร้าาา
แอร๊ยยยย!

...ใครร้องได้ ช่วยกันร้องด้วยนะค้า ...เพลงมาค่ะ... .
แต่เราก็หากันจนเจอ มันนานแค่ไหนที่คอยเธอมา
รู้สึกไหมว่าชีวิตคุ้มค่า เมื่อมีใครสักคนข้างกาย
เกิดมาเพื่อหาใครคนหนึ่ง เป็นคนที่ฟ้าสร้างมาตรงใจ
เราต่างรู้โลกมันแสนกว้างใหญ่ แต่มันคงไม่ยากเกินไป...ที่ฉันจะพบเธอ

.
…อ๊อยยย น้องอยากจะกรี๊ด แม่จ๋า ลูกไม่(น่าจะ)ขึ้นคานแล้วจ้าาา ...คือมันดียย์ มันโล่ง มันใจเบาขึ้นเยอะ ...จากนั้น เราเลยสรุปเลือกทริปไปเที่ยวกันต่ออย่างสบายใจ พร้อมกับความมุ้งมิ้ง ที่เพิ่มขึ้นแบบคูณสอง หลังจากเปลี่ยนสถานะเป็น “แฟน” (>.<) .
.
...คือบับ ตอนนี้โลกของเราไม่ใช่สีเทาแล้วอ่ะค่ะ ...มันคือสีรุ้งพาสเทลยูนิคอร์นจ้า จร้าาา555

อัพเดทเพิ่มเติม ตอนนี้ มกรา 2017 นี่ก็คบกันเกินครึ่งปีแล้วค่ะ ถือว่าทำลายสถิติ แฟนที่นานที่สุดของพี่หมีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว .....ด้วยความพิเศษนิดหน่อยนี้ ฮีก็เลยซื้อกุหลาบ(และอื่นๆตามภาพ) กะเอามาจัดแจกันเซอร์ไพรส์(เหมือนเดิม) แต่ฮีลืมไปว่าวันนี้เราทำงานที่ห้อง ไม่ได้ไปไหน ...ช่อกุหลาบก็เลยมาในรูปแบบก้านยาวเป็นเมตร ...เอ็นดู๊ว์ เอ็นดู ...เดินเขินมาแต่ไกลเลยพ่อคุณ555 ตัลล๊าคคค.
.
...เรากลับไปดินเนอร์กันที่ Zuma เหมือนวันแรกที่เจอ แต่คนละฟีลล์เลย จำได้ว่าวันนั้นแค่สบตากันที นี่ก็เขินบิดจนเอวเอสล้าววว ^^"

ณ ตอนนี้ เรากับพี่หมีก็แฮปปี้มีความสุขดี และหวังว่ามันจะดีตลอดไป(ไม่เอา ไม่ขอหักมุมแบบหนังเกาหลีนาจา) ...เราก็ขอจบเรื่องเล่าลงเท่านี้ดีกว่าเนอะ ไม่งั้นทุกคนอาจจะเบ้ปากพร้อมกับมองแรว๊งใส่เราได้ เรากลัววว555

ปล. จริงๆหมอดูบอกว่า ถ้าเจอคนที่คิดว่าใช่แล้ว ให้กลับไปหาเขา เอารูปคู่ให้เขาฟันธงอีกที ว่าตรงกับที่เขาเห็นในมโนภาพหรือไม่ ...แต่เราไม่ได้กลับไปอีกเลยตั้งแต่เจอพี่หมีนะ เรากลัวคำตอบอ่ะ เราอยากเลือกเอง ...ถ้าเราต้องอกหักอีก เราค่อยกลับไปดูดวงใหม่อีกรอบก็ได้(ถือเป็นแพลนB) 5555

ปล2. ตอนเราโสด เราก็ไปไหว้พระขอพร ขอให้เจอเนื้อคู่เหมือนกันนะ ที่ไหนว่าดี ที่ไหนศักดิ์สิทธิ์เราก็ไปโหม๊ดดด(นี่ถ้ายังโสด คงบินไปฮองกงแล้วแหละ55) ...แต่ที่เราคิดว่าได้ผลดีที่สุด คือสวดมนต์ยาว และถวายสังฆทานทุกอาทิตย์ จริงๆนะ ปีที่แล้วเราทำตลอดเลย ...เมื่อใจเราสบาย พลังบวกจะดึงสิ่งดีๆมาให้ในเวลาที่เหมาะสม โลกจะเหวี่ยงคนที่พอดีกับใจมาให้เองโดยที่เราไม่ต้องพยายามเลย

...ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ คือมันยาวมาก ยาวสุดเท่าที่เราเคยเขียนบล็อคแล้วมั้ง ถ้าคุณมาถึงจุดนี้ได้ คุณคือผู้พิชิตค่ะ555

Discussion (4)
โอ้ยยยย อ่านไปยิ้มไป มีความอิจเบอร์แรง >w<
เขินนนนน
ตามมาอ่านอีกรอบ อิอิ
โอ้ยอินเว่อ อยากเล่าสตอรี่ตัวเองมั่งจัง กว่าจะมาเป็นมาดามเมืองน้ำหอม แต่ไม่รู้จะมีคนอ่าน+ขยันเขียนมั้ย555