Share - All I spent on Sephora

สวัสดีค่าาาา….

ช่วงนี้หยุดยาว นั่งไถ app ในโทรศัพท์กันเพลินเลยทีเดียว ไถไปเรื่อยๆ เปื่อยๆ

ก็ไปเจอ store purchases ใน Sephora เลยอยากจะเอามาแชร์กับเพื่อนๆ

ว่าที่ผ่านๆ มาเราสอย item อะไรจาก Sephora มาบ้าง

ตัวไหนใช้ดีก็มาแชร์ใน comment กันเน๊อะ




เริ่มด้วย Hair Care ก่อนเลยแล้วกัน

Briogeo: deep conditioning mask 1080.-

ขอเกริ่นก่อนว่าช่วงนี้เราทำสีผมหนักมาก ด้วยความอยากผมสีโทน dusty pink ที่ร้านทำผมเลยต้องกัดผมให้เรา 3 รอบ ก่อนจะย้อมสีอีก 1 รอบ ผมเลยค่อนข้าง

ไร้น้ำหนักมาก แต่ไม่ช็อต ไม่แตกปลาย และไม่เป็นวุ้นใดๆ นะ เราเลยต้องการพวก mask มาบำรุงผม พนักงานที่ Sephora เลยแนะนำตัวนี้มาให้เรา ผลลัพธ์ที่ได้

คือ ตอนที่ลง mask อันนี้ แล้วเราค่อยๆ นวดผม คือผมนิ่มมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ลื่นแบบสุดดดด เงาแบบสุดดดดดด้วย คือปกติเวลาผมมันแห้งไร้น้ำหนัก

มันจะพันกัน แต่พอใช้ mask อันนี้คือ ผมนิ่มไปเลยจ้า เอามือสางผมได้แบบสบายๆ

(ในระว่างที่หมักนะ) เราใช้ติดต่อกันประมาณ 1 เดือนได้เรารู้สึกว่ามันช่วยให้

ผมไม่ค่อยพันกันแล้วก็ผมไม่ค่อยกระด้าง แต่ไม่ได้ช่วยให้ผมมีน้ำหนักมากขึ้นนะ

สรุปคือ.. เราชอบมากกกกกกก


PERCY&REED: session hold hairspray ประมาณ 500.-

อันนี้เป็นสเปร์จัดแต่งผมแบบ session คือแบบไม่แข็ง อยู่ทรงได้ประมาณนึง

ที่เราชอบเพราะว่าตัวนี้มันไม่ทำให้ผมเงา ไม่หนักหัว ใช้แบบ every day look

ได้ ประมาณว่าม้วนๆ ผมแล้วเอานี้ฉีดให้พออยู่ทรงบ้าง พอกลับบ้านมาก็

เอาพวกทิชชู่เปียกเช็ดๆ ไม่ต้องถึงขั้นสระผมก็ได้ (กรณีที่ไม่ได้ฉีดเยอะนะ)

ปกติเราจะฉีดผมบริเวณช่วงกรอบหน้า หน้าม้าให้มันพออยู่ทรงหน่อยๆ


IGK: jet lag dry shampoo ประมาณ 1000.-

ตัวนี้สำหรับผมที่ไม่ค่อยมัน เรารู้สึกว่าใช้แล้วความมันช่วงโคมผมหายไปเยอะมากๆ ไม่เป็นแป้ง แต่ก็รู้สึกว่ามีความหนักหัวอยู่ประมาณนึงคือวันถัดมาเราก็รู้สึกอยากสระผมกันเลยทีเดียว



DIOR: EDP 3000.-

ตัวนี้ออกมาช่วงปี 2017 แต่เราพึงซื้อมาปีที่แล้ว ส่วนตัวเราชอบน้ำหอมโทน floral อยู่แล้ว ตัวนี้เป็น floral ที่สดชื่น หวานนิดๆ เหมาะกับวันสบายๆ ฉีดไปเรียน

ไปพบปะผู้คนที่แบบไม่ทางการได้อยู่ แต่ถ้าต้องการความสุขุมขึ้นมาตัวนี้

ไม่รอดจ้า ส่วนใครที่ไม่ชอบกลิ่นกุหลาบก็ขอให้ข้ามตัวนี้เลยเช่นกันจ้า

Top: lemon, mandarin, pink pepper

Heart: Damask rose, Grasse rose, jasmine leaves

Base: rosewood, patchouli



ต่อมาเป็นเครื่องสำอางกันแล้วว เริ่มที่

Urban Decay: naked cherry 2500.-

ตอนซื้อรีบซื้อเวอร์ อยากได้ อยากใช้สุด ไม่รอให้ลดราคาด้วย คุณภาพก็ตามมาตรฐานของ naked อยู่แล้ว แต่ด้วยโทนสีที่เป็น Cherry บางคนอาจจะรู้สึกว่ามันแต่ได้ไม่ค่อยหลายแบบเท่าไร แต่ส่วนตัวเราลองใช้แล้วเรารู้สึกว่า

สีมันค่อนข้างครบ ได้ทั้งกลางวันกลางคืน เนื้อแมทจนไปถึงชิมเมอร์ มีสีสว่างๆ

ที่พอไฮไลท์ใต้คิ้วได้ แล้วก็มีสำน้ำตาลเข้ม ที่เอาไว้ย้ำช่วงโคนขนตาได้อยู่

คือถ้าจับโทนสีอ่อนๆ อย่าง bang bang/turn on+feelz+juicy+bing

มันก็ออกมาเป็นโทนละมุนๆ ได้อยู่ ไม่ต้องฟาดงานตาหนักๆ คัดเบ้าเน้นๆ ก็ได้


Benefit: dandelion highlighter ประมาณ 500.-

ตัววนี้เนื้อละเอียด ละมุนๆ ปัดแบบ everyday look ไม่งานหนังปลาทู

มีแปรงมาให้ด้วยแต่ไม่ค่อยชอบใช้ แนะนำให้ใช้กับ fan blush มากกว่า

ปล.ตอนนี้ไซต์ mini ขึ้นราคาเป็นประมาณ 700.- แล้วจ้า


Tarte: Amazonian clay highlighter จำราคาไม่ได้

เพราะมันเป็นแบบ gift set

อันนี้เหมาะเอามาปัดตัวมากกว่าปัดหน้าอะ ชิมเมอร์ กลิตเตอร์คือใหญ่เวอร์


Tarte: Amazonian clay first class อันนี้ก็ gift set จำราคาไม่ได้

สีชมพูอมส้มนิดๆ ละมุนๆ look แบบใสๆ ปัดง่าย pigment ไม่แน่นมาก

ทำให้ปัดง่าย ไม่เป็นตูดลิง


Tarte: Amazonian clay matte waterproof bronzer hotel heiress

ของ tarte ส่วนใหญ่เราซื้อเป็น gift set เลยจำราคาไม่ได้ bronzer

อันนี้เป็นแบบแมท สีติดส้มนิดๆ อารมณ์แบบผมบ่มแดด สีค่อนข้างเข้ม

pigment แน่น ปัดนิดเดียวคือกรอบหน้าชัดเลย


Tarte: rainforest of the sea seaglass 820.-

เป็น liquid eyeshadow ที่เป็นกลิตเตอร์ สำหรับเราเอาไว้ใช้แค่ช่วงกลางตา เพราะกลิตเตอร์ค่อนข้างละเอียดและแน่นมาก ฟาดหนักๆ สำหรับ night look

ได้เลยทีเดียว


Fenty Beauty: gloss bomb ประมาณ 800.-

เราชอบความ variety ในการใช้มากๆๆๆๆ เอามาทา top สีลิปสติก ก็จะได้ความปากอิ่ม บางทีก็ทากลางตาบ้าง highligh ช่วงโหนกแก้มบ้าง ก็จะมีความ

wet look เบาๆ แต่ต้องระวังหน้าเยิ้มนะ ฮ่าๆๆๆๆ


Huda Beauty: liquid matte lipstick trendsetter 980.-

เนื้อเหลว บางเบา สีชัด สบายปาก แต่เรารู้สึกว่าทาแล้วปากค่อนข้างแห้ง

เลยทีเดียว



Tarte: mascara ตั่งๆ ทั้งหลายแหล่ มาเป็น gift set และแลกคะแนนมา

จำราคาไม่ได้

mascara ของ tarte ไม่มีสูตร waterproof แต่แบรนด์จะทำให้กันน้ำ

ได้ประมาณนึง หน้าเราค่อนไปทางมัน แน่นอนว่าทั้ง 3 ตัวไหลหมด

ไม่มีตัวไหนรอด แต่สิ่งที่เราชอบคือ ทั้ง 3 ตัวมันเช็ดออกง่าย ส่วนตัวที่เราชอบที่สุด

เป็น Amazonian clay เพราะว่าแปรงมันพอดีกับช่วงตาเรา ปัดแล้วไม่เป็นก้อนๆ

ได้ความธรรมชาติ บางทีก็แอบเอามาปัดคิ้วให้หัวคิ้วตั้งๆ ด้วย ฮ่าๆๆๆ

นางมีความเป็นธรรมชาติสูง ไม่มีความโป๊ะใดๆ ทั้งนั้น ปล.ปัดคิ้วไม่ไหล

เหมือนปัดขนตานะ


Marc Jacobs: mascara เป็น welcome gift set จาก Sephora

เลยไม่รู้ราคา

เรารู้สึกว่าแปรงมันใหญ่สำหรับตาเราไปหน่อย มันซอกแซกไม่ค่อยได้

ปัดแล้วมีความเป็นก้อนเบาๆ ต้องเอาแปรงปัดขนตามาปัดซ้ำเพื่อไม่ให้

มันเป็นก้อนอีกที ตัวนี้จะไม่ค่อยไหล มีไหลบ้างนิดๆ ล้างออกยากกว่า tarte


Tarte: rainforest makeup removing gel cleanser เอาคะแนนแลกมาจ้า

วิธีใช้มันเราก็งงๆ อยู่ แต่ปกติเราใช้คล้ายๆแบบ oil คือ นวดวนไป แล้วเอาแผ่นสำลีหมาดๆ เช็ดออก ส่วนตัวใช้แล้วก็รู้สึกเฉยๆ ก็ไม่ได้มีอะไรที่โดดเด่นมาก


It Cosmetics: anti-aging armour cream เอาคะแนนแลกมาเช่นกันจ้า

ปกติเราใช้ก่อนนอนเพราะว่าเนื้อครีมค่อนข้างหนัก ก็รู้สึกว่ามันให้ความชุ่มชื้น

ได้ประมาณนึง แต่เรื่อง anti-aging เราไม่แน่ใจเพราะที่เราใช้มันเป็นขนาดทดลอง

ไม่ได้ใช้ติดต่อกันนานๆ เลยไม่รู้ว่าผมลัพธ์จะเป็นยังไง


Sephora: waterproof eye makeup remover ได้ welcome gift set

จาก Sephora

เราค่อนข้างประทับใจเลย รู้สึกว่าเช็ดพวก eye shadow, mascara

ได้ค่อนข้างดี คือเทใส่สำลี แล้วแปะไว้ที่ตา 20-30 วิ makeup หายไปประมาณ

90% เลยทีเดียว



หมดแล้วจ้าาา... ที่จ่ายๆ ไปกับ Sephora ถ้ามีตัวไหนอยากให้ รีวิวแยก
หรืออยากถามเพิ่มก็บอกได้เลยจ้า

Discussion (2)

ชิ้นเดียวไม่เคยพ้ออออออออ
Sephora Online คือช็อปคุ้มมากกก ทั้งโปร แถม แลกแต้ม จะซื้อชิ้นเดียม สรุป 3000++++ ตลอดจ้า 5555
555555 จริงสุดอะ