#ออเจ้าต้องรู้!! เซ็ตผมย้อนยุคแบบบุพเพสันนิวาส เค้าทำกันยังไง?
น้องฟาร่าห์3710ณ เพลานี้ ใครจะพลาดเรื่องของออเจ้าการะเกด ในละครบุพเพสันนิวาสไปได้ เป็นกระแสดังทั่วโซเชียลซะขนาดนี้ น้องฟาร่าห์เองก็มิพลาดเหมือนกันเจ้าค่ะ! แต่ๆๆ วันนี้น้องฟาร่าห์มิได้จะมาอัพเดทฉอตเด็ดในละคร แต่เป็น "ทรงผม" ของแต่ละตัวละครในเรื่องต่างหาก ว่าแต่ละทรงมีชื่อเรียกและที่มาที่ไปอย่างไร รวมถึงสมัยก่อนเค้าใช้อะไรเซ็ตผมนะเจ้าคะ พร้อมแล้วไปดูกันเลยค่า
1. ทรงมหาดไทย
เป็นทรงที่เบลล่า หรือแม่การะเกดทำ รวมถึงเจ้าจ้อยด้วยนั่นเองค่ะ ทรงนี้เกิดขึ้นในสมัยอยุธยา เป็นช่วงที่บ้านเมืองไม่สงบ มีศึกสงคราม ผู้หญิงสมัยนั้นจึงต้องตัดผมสั้น แสกกลาง เพื่อปลอมตัวเป็นชายได้อย่างกลมกลืน ในเวลาต่อมาจนถึงยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น ไม่ค่อยมีศึกสงครามมากนัก ผู้หญิงก็ยังคงนิยมไว้ผมทรงมหาดไทย แต่ด้วยความรักสวยรักงามและด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปจึงมีการไว้ผมยาว หรือปล่อยปอยผมออกมา และพัฒนาทรงเลิกไถข้างมาไว้ผมยาวข้างหลังให้ดูสวยงามแทน
2. ทรงโซงโขดง
ทรงประจำตัวของท่านหญิงจันทร์วาด ทรงนี้เกิดขึ้นในสมัยสุโขทัยจนมาถึงสมัยอยุธยาตอนต้น ลักษณะคือไว้ผมยาว และเกล้าเป็นมวยใหญ่อยู่กลางศีรษะ และมีเครื่องประดับตกแต่งด้วยรัดเกล้า หรืออาจะเป็นพวงมาลัย ตามโอกาสหรือตามฐานะของหญิงแต่ละคนเจ้าค่ะ
3. ทรงปีก หรือ ตัดผมขูดหัว
ทรงประจำตัวของคุณแม่จำปา แต่ก็แอบเห็นแม่การะเกดทำด้วยเล็กน้อย ทรงนี้เริ่มมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ยุคนั้นเริ่มมีชาวต่างชาติเข้ามาในสยาม คล้ายกับทรงปอมปาดัวร์ของต่างประเทศ เป็นทรงที่ผู้หญิงจะไว้ผมยาวเฉพาะกลางกระหม่อมคล้ายกับทรงมหาดไทย แต่เซ็ตหวีเสยปาดไปด้านหลัง ไม่แสกกลาง และจุดเด่นคือไว้ปอยผมข้างหู หรือจอนนั่นเองค่ะ และที่สำคัญคือนิยมไว้ยาวกว่าคางด้วยค่ะ
4. ทรงดอกกระทุ่ม
เป็นที่นิยมโดยทั่วไปในช่วงเข้าสู่สมัยรัชกาลที่ 5 ลักษณะคือตัดผมทั้งศีรษะแล้วปล่อยให้ยาวชี้ขึ้นมาเล็กน้อย คล้ายกับดอกกระทุ่ม ตัดผมด้านท้ายทอยให้สั้น หรือถ้าผมยาวจะหวีเสยด้านหน้าให้ตั้งสูง และที่สำคัญคือจะไม่มีการทัดหรือตกแต่งทรงผมด้วยดอกไม้สด เนื่องจากมีข้อบัญญัติในกฎมณเฑียรบาลมาครั้งกรุงศรีอยุธยาแล้วว่าห้ามการทัดดอกไม้ หากสตรีผู้ใดทัดดอกไม้ในเขตพระบรมมหาราชวังจะต้องลงโทษให้นำดอกไม้นั้นมายีบนศีรษะเลยล่ะ
เทคนิคการเซ็ตผมของออเจ้าในสมัยก่อน
แน่นอนว่าสมัยก่อนจะไปมี แว๊กซ์ หรือเยล สเปรย์ตั่งต่าง แบบนี้ที่ไหนกัน แต่ว่า จากดูจากรูปภาพสมัยประวัติศาสตร์แล้วแต่ละคนก็มีทรงผมที่เป๊ะ และเนี๊ยบมากก น้องฟาร่าห์จะไขข้อข้องใจให้ว่าเค้าใช้อะไรเซ็ตผมค่ะ
1. น้ำมันตานีหอม
น้ำมันตานีเป็นน้ำมันใส่ผมของคนโบราณรุ่นปู่ย่า ของสตรีชาวสยามเมื่อ 100 ปีก่อน น้ำมันตานีจะทำให้ผมดกดำเงางาม มีกลิ่นหอมชวนดม ช่วยให้ผมอยู่ทรงมันวับ น้ำมันตานีมีส่วนผสมของ กะทิคั้นสด ดอกลำเจียก ดอกกระดังงาไทย ดอกมะลิ น้ำมันจันทร์ ผิวมะกรูดนิดหน่อย ขี้ผึ้งแท้เล็กน้อย ตอนนี้ได้สูญหายไปแล้วค่ะ แต่ถ้าใครอยากลองทำด้วยตัวเอง ก็จัดเลย
2. ขี้ผึ้ง
คุณสมบัติของขี้ผึ้งคือมีสารตึงผิวตามธรรมชาติ อีกทั้งยังใช้อย่างกว้างขวางในวงการอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง รวมไปถึงการจัดแต่งทรงผมอีกด้วย โดยมีส่วนผสมคือขี้ผึ้ง และน้ำมันมะพร้าว นำมาผสมเข้าด้วยกัน และคุณสมบัติของขี้ผึ้งคือไม่ทำให้ผมแข็งเหมือนกับเจล และยังสามารถนำมาบำรุงหนวดได้อีกนะ ต้องยอมใจคนสมัยโบราณจริงๆ ไอเดียดีมากก
เป็นเยี่ยงไรกันบ้างออเจ้าทั้งหลายยย ดูละครแล้วต้องได้สาระความรู้ด้วยนะจ๊ะ ว่าแต่อยากทำทรงไหนกันบ้าง? ส่วนน้องฟาร่าห์นั้นอยากจะทำทรงมหาดไทยแบบมัดปล้อง ของแม่การะเกด ที่น่าจะได้แรงบันดาลใจมาจากสาว SNSD ก็เป็นได้ เท่สุด ไม่มีใครเหมือน
ถ้าเพื่อนๆ มีทรงไหนของออเจ้ามาอัพเดท ก็อย่าลืมมาแบ่งปันชาวจีบันกันด้วยนะ น้องฟาร่าห์ขอตัวไปเกาะขอบจอทีวีก่อนน เดี๋ยวพรุ่งนี้จิคุยกะคนอื่นไม่รู้เรื่อง บ๊ายบายย
ถ้าเพื่อนๆ มีทรงไหนของออเจ้ามาอัพเดท ก็อย่าลืมมาแบ่งปันชาวจีบันกันด้วยนะ น้องฟาร่าห์ขอตัวไปเกาะขอบจอทีวีก่อนน เดี๋ยวพรุ่งนี้จิคุยกะคนอื่นไม่รู้เรื่อง บ๊ายบายย
Discussion (10)
ขอบคุณมากค่ะ
ดีจัง ขอบคุณค่ะ