:+: Review :+: เมื่อซื้อ Jane Iradale Glow Time BB ตามเจด้าและแม่จีน่า จะโกลว์ไม่โกลว์มาดูกัน!

สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันอีกครั้งนะคะ

หลังจากห่างหายจากการเขียนรีวิวไปนานวันนี้กลับมาแล้วค่ะ

เหตุเกิดจากเมื่อสองสามอาทิตย์ก่อนเราเปิดเจอรีวิวสอนแต่งหน้าของเจด้าลูกพ่อเจ 
กับแม่จีน่าในยูทูป ระหว่างการดูคลิปนั้น รู้สึกว่าโดนป้ายยาหลายสิ่งอย่างมาก

ไม่ว่าจะเป็นบีบี ไฮไลท์ มาสคาร่า แน่นอนว่าเราซื้อตามทั้ง 3 อย่างเลยค่าาา

แต่วันนี้ขอประเดิมด้วยตัวรองพื้นก่อนนะคะ

ก่อนหน้านี้เราไม่เคยรู้จักแบรนด์นี้มาก่อนเลย

แต่ทำไงได้ โดนป้ายยาแล้วต้องไปให้สุด ในคลิปคุณแม่จีน่าบอกเลยว่า

"This is will change your life" สิ่งนี้มันจะเปลี่ยนชีวิตของคุณ!

อื้อหืออ ฟังแล้วหนูลุ้นระทึกมากเลยค่ะว่าเป็นยังไงน้าา ตึกตักๆ

โอ้โหหห ผิวเป็นผิวมากค่ะ 

การป้ายยาของคุณแม่สำเร็จ! หนูเสิร์ชกูเกิ้ลแทบไม่ทันเลยค่ะ ฮืออ

ใครอยากโดนป้ายยาแบบเราเข้าไปดูได้เลยที่

http://www.youtube.com/watch?v=vFSKLBd2o30

(เตือนแล้วนะ 5555)

ว่าแล้วก็เสิร์ชตามสไตล์สาวเนิร์ดชอบค้นคว้า

แล้วก็พบว่าแบรนด์นี้ถูกสร้างขึ้นโดย Jane Iradale ชื่อเดียวกับแบรนด์เลยค่ะ

คอนเซปท์หลักของแบรนด์นี้คือ เครื่องสำอางที่ดีต่อผิว

ทางแบรนด์เลยเป็นแบบ Vegan

*Vegan Makeup คือเครื่องสำอางเจ ที่ไม่มีส่วนผสมใดๆจากสัตว์เลยค่ะ สวยๆแบบไม่เบียดเบียนสัตว์น้อยน่ารักนั่นเอง คิคิ! นอกจากจะบำรุงผิวแล้วยัง ไม่อุดตัน ไม่ทำให้เป็นสิวด้วยน้า

ประจวบเหมาะกับพี่สาวของน้องที่ออฟฟิศที่อยู่อเมริกากำลังจะกลับมาไทยพอดี

เราเลยได้โอกาสที่จะฝากพี่เค้าซื้อกลับมา

แล้วในที่สุดเราก็ได้มาครอบครอง!

แต่....

ทางร้านส่งให้เราผิดสีอ้ะ!!!!

ตอนเราสั่งเราจำได้ว่าเรากดสั่งสี BB5 ซึ่งเป็นโทนเหลืองแต่สีที่ได้เป็นสี BB4

สำหรับคนผิวโทนกลาง แอบใจหายนิดนึง แต่เอาวะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว

จะส่งกลับก็ยาก ก็ลองใช้ดูละกัน

นี่เป็นแพคเกจจิ้งของผลิตภัณฑ์นี้ เรียบ ไม่หวือหวาเลย

แต่เราชอบการให้รายละเอียดผลิตภัณฑ์ของเค้ามากๆเลย

ในส่วนล่างระบุถึงข้อมูลยาที่อยู่ในบีบีตัวนี้นะคะ

ส่วนประกอบที่ใช้ในการให้ผลลัพธ์ของบีบีตัวนี้คือ Titanium Dioxide ค่ะ

ก่อนหน้านี้เราหาข้อมูลเกี่ยวกับสารตัวนี้อยู่พอดีเลย

มันคือสารที่อยู่ในกันแดดแบบฟิสิคอลค่ะ

กันแดดแบบฟิสิคอลเป็นกันแดดที่ดีและไม่ทำร้ายผิวเนื่องจากมันจะไม่ดูดแสง รังสีจากแดด

เข้ามาไว้ที่ผิว แต่มันจะใช้วิธีการสะท้อนรังสีออกไป ดังนั้น มันใจได้ว่าผิวเราจะไม่ถูกทำร้ายแดดค่ะ

เห็นแบบนี้เราก็อ๋อเลยค่ะว่าทำไมคอนเสปเค้าคือ เครื่องสำอางที่ดีต่อผิว

ส่วนประกอบอื่นๆก็อยู่ด้านข้างนี้ + วิธีการใช้ผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพ

เท่านั้นยังไม่พอ มูลนิธิโรคมะเร็งผิวหนังยังแนะนำว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ

ในการปกป้องผิวของเราจากรังสีนะเออ!

สำหรับใครที่กลัวใช้ไม่เป็นทางแบรนด์มีโยนหินให้เราเข้าไปดูวิธีใช้ในเว็บต่อได้ด้วยนะคะ

สำหรับเรานั้นเข้าไปดูวิธีใช้มาเรียบร้อยตั้งแต่ยังไม่ได้ของเลยค่ะ ความเห่อนี้

ตื่นเต้นจัง ที่ผ่านมาเคยใช้แต่บีบีฝั่งเกาหลี คราวนี้ได้ลองบีบีฝั่งอเมริกากับเค้าแล้ว

จะเป็นยังไงน้าาา

และนี่คือโฉมหน้าของเค้า

ชอบความทองนี้ เรียบหรูดูแพง(ก็แพงจริงๆนะ 5555) น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ที่แท้ทรู!

❤สำหรับวิธีใช้ของเค้าก็คือ❤

1.) บีบผลิตภัณฑ์เป็นหยดเล็กๆ 4 จุด จึ้ก จึ้ก จึ้ก จึ้ก

2.) ใช้นิ้วกลางกับนิ้วนางปาดสองจุดแล้วนำมาปาดที่หน้า เริ่มจากหน้าผาก

แก้ม และ คาง

3.) ใช้นิ้วกลางกับนิ้วนางปาดจุดสองจุดที่เหลือแล้วนำมาปาดที่ใบหน้าอีกข้าง

4.) เกลี่ยให้ทั่ว

5.) It's glow time! 

ผลการใช้ 

 กลิ่น  

ไม่รู้ว่าคือกลิ่นอะไรแต่รู้สึกเหมือนกลิ่นผลไม้ ส้มๆ เปรี้ยวๆยังไงก็ไม่รู้

พอไปอ่านในส่วนผสมก็มีพวกน้ำมันจากส้ม เกรปฟรุต ตะไคร้อยู่ ...อ๋อเลย 5555 โชคดีที่กลิ่นไม่ติดทนนะคะ ทาเสร็จไม่นานก็จางหายไป

 เนื้อสัมผัส  

เนื้อแปลกดีจะแห้งก็ไม่แห้ง จะชุ่มก็ไม่ชุ่ม น่าจะเป็นเพราะมันเป็นแบบฟิสิคอล

 สี  

สิ่งที่ทางแบรนด์เคลม : Medium light with neutral undertones

สิ่งที่เรารู้สึก : ถ้าทาบนมือมันออกจะติดชมพูไปนิดนึงสำหรับเรา แต่ทาบนหน้าคือโอเคเลย

ถามคนรอบข้างว่าหน้าวอก หน้าลอยมั้ย ต่างบอกตรงกันว่าไม่ สีพอดีเลย

แถมวันที่ทามาครั้งแรกๆก็โดนทักตลอดเลยว่าทำไมวันนี้หน้าเนียนๆนวลๆ

 ความปกปิด 

สิ่งที่ทางแบรนด์เคลม : 

1. Medium to Full Coverage 

2. Minimizes the appearance of pores and helps disguise fine lines and wrinkles 3. Smoothes and brightens skin.  

สิ่งที่เรารู้สึก : 

1. หลังจากเราลองใช้ในปริมาณ 4 จุดแบบวิดีโอสาธิตการใช้ เรารู้สึกว่ามันปกปิดได้ไม่เยอะนะ พวกรอยอะไรยังอยู่ แต่ได้ลุคธรรมชาติ ใสๆ ตื่นมาก็เป็นงี้เลย555

2. สำหรับเรื่องการลดขนาดรูขุมขน เราว่าก็ยังเหลือรูขุมขนอยู่นะ ถ้าอยากให้ดีต้องใช้ไพรเมอร์แหละ ส่วนเรื่องริ้วรอยไม่แน่ใจเท่าไหร่ เพราะเรามีริ้วรอยเส้นๆแค่ตอนยิ้่มตรงตา แต่ส่วนอื่นๆยังไม่มี

3. อันนี้จริงค่ะ มันทำให้หน้าเราเรียบเนียน สม่ำเสมอ และผิวดูสว่างสดใสจริง

ซูมให้เห็นกันชัดๆไปเล้ยยย

(ใช้ไอโฟน 8 ในการถ่ายภาพ โดยไม่ได้แต่งแสง แต่งสีแต่อย่างใดค่ะ

อยากให้เห็นว่าใช้กล้องที่ขึ้นชื่อว่าถ่ายดิบๆแล้วพัง ก็ยังรอดได้ค่า รักเลย)

(รูปนี้ถ่ายโดยไอโฟน 7 พลัส โหมด Portrait ไม่ได้แต่งแสงใดๆนะคะจะเห็นได้ว่ามันทำให้หน้าดูเนียนๆแบบธรรมชาติ แต่ยังคงมีรอยดำให้เห็นอยู่บ้าง )

(รูปนี้ถ่ายโดยกล้องหน้าไอโฟน 8 ณ แสงที่สว่างจ้าาาาา ขออภัยสำหรับตาเหี่ยวๆ หยีๆนะคะ

แดดจ้ามากจริงๆ เราว่าข้อดีของตัวนี้คือมันทำให้หน้าเรา

โกลว์ยามออกแดดนี่แหละค่ะ สังเกตมาหลายรอบแล้ว )

ลองถ่ายรูปในที่แสงน้อยดูบ้าง ก็รอดอยู่น้าถ้าอยากให้ปกปิดรอยดำได้ก็ต้องเพิ่มปริมาณขึ้นมาอีกซักหน่อยค่ะ แต่สำหรับเราเราว่ามันไม่ได้ปกปิดดีขนาดนั้นค่ะ ยังไงก็ต้องพึ่งคอนซีลเลอร์อยู่นะ

 
ข้อดี

 ให้ลุคใสๆธรรมชาติ ไม่โบ๊ะ

 ทำให้สีผิวเรียบเนียน สม่ำเสมอ ปกปิดรอยแดงได้ดี
 มีสารกันแดดแบบฟิสิคอลที่ปลอดภัยต่อผิว ไม่อุดตัน ไม่เป็นสิว สามารถทาได้ทุกวัน
 หน้าโกลว์ยามออกแดดจัดๆ แสงสว่างจ้าๆ
 ไม่ทำให้หน้าแห้ง และ ไม่ทำให้หน้ามันเยิ้ม (เราผิวแห้งนะ)

ข้อเสีย

 เกลียวฝาปิดหลวม : ตอนแรกๆก็แน่นดี แต่พอเปิดหลายๆรอบรู้สึกว่ารอบเกลียวมันน้อยไปเลยปิดฝาได้ไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่
 ปกปิดรอยดำได้นิดหน่อย ถ้าอยากปิดมิดๆต้องใช้คอนซีลเลอร์เพิ่ม

 ยังไม่มีขายในไทย : หมดหลอดนี้แล้วหนูจะทำยังไงงง ฮือออ

สรุป เราชอบบบบ ตอนนี้ใช้ทุกวันเลย

สำหรับราคาตัวนี้เราซื้อมาในราคา USD 43.35 (1,485 บาทค่ะ)

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลอยู่นะคะ

แล้วพบกันใหม่ในหัวข้อถัดไปนะคะ สวัสดีค่ะ