[ไม่ดราม่า] แชร์ประสบการณ์เมื่อคิสแพ้เครื่องสำอางจาก sponser by หนูคิส

อันนี้คิสลังเลพอสมควรที่จะมาแชร์ประสบการณ์เรื่องการแพ้สินค้าที่ได้รับจากสปอนเซอร์ แต่คิดว่า"สมควร"ที่จะมาบอกต่อให้กับสาวๆที่ทำเรืองการรีวิวสินค้าเรื่อง "จรรยาบรรณ" รวมถึงผู้อ่านโดยทั่วไปเพื่อให้รู้ว่าการรีวิวสินค้าที่สมควร หรือไม่สมควร ควรจัดการอย่างไร และเราควรอ่านข้อมูลยังไงเพื่อบริหาร"วิจารณญาณ"ของเราให้มีประสิทธิภาพ

คิสไม่แน่ใจได้เคยบอกสาวๆใน Jeban ไปกี่รอบแล้วว่าคิสมีปัญหาเรื่องผิวหน้ามาตั้งแต่อายุยังน้อย(ป.4) ทำให้คิสสนใจเรื่องสกินแคร์ตั้งแต่เด็กจนปัจจุบัน คิสว่าก็น่าจะเกิน 20 ปี ถ้าบอกบ่อยไปต้องขอโทษด้วย แต่อยากให้เข้าใจว่าคิส"ผ่าน"อะไรมาเยอะมาก

สินค้าที่คิสใช้ชุดแรกคือ Nu Skin ปะป๊าคิสซื้อให้เป็นเซทอลังการ พร้อมมีพนักงานมานวดหน้าให้ถึงบ้าน บ้านคิสไม่ได้รวยนะคะบอกก่อน แต่พอมีกำลังทรัพย์จะดูแลตัวเองบ้าง

เซทกันแดดที่ได้มาชุดแรกก็จากปะป๊า ลิปสติกแท่งแรกก็ขโมยมาจากโต๊ะหม่ามี๊ เรียกว่ากระแดะแต่เล็กแต่น้อย โทนเนอร์ คิสก็แอบไปเอาของหม่ามี๊มาใช้จากตู้เย็นประจำ

นี่คือที่มาที่ไป ที่คิสสนใจ และใช้สินค้ามาเยอะมาก มั่นใจว่ามากกว่า average ของผู้หญิงทั่วไปแน่นอน
ช่วงหลังคิสได้รับการติดต่อจากหลายๆแบรนด์สินค้า คิสพูดตามตรง คิสรู้ว่าเป็นเรื่องปรกติ และรู้อยู่แล้วว่าต้องมีการติดต่อมาแน่ๆ รวมถึงคิสเองก็มีติดต่อแบรนด์ ในแบรนด์ที่คิสชอบจริงๆ ใช้แล้วดีจริงๆ แต่....ยังไม่มีการสนับสนุนใดๆกลับมา 55555

เอาว่า คนที่ติดต่อมาเพื่อสปอนเซอร์สินค้าคิส คิสจะแจ้งเรื่อง Principles หรือหลักการของตัวเองก่อนทุกครั้งว่า.....
- คิสจะใช้ content ของตัวเองเท่านั้น ภาษาคิสเป็นแบบนี้ ดีก็บอกดี ไม่ดีคิสก็ต้องบอก คุณรับไม่ได้ที่สินค้าคุณมีข้อเสีย คิสจะให้ดู draft รับไม่ได้ คิสก็ไม่ลง

- คิสขอเวลาในการทดลองใช้สินค้าก่อนอย่างน้อยที่สุด 1 อาทิตย์เพื่อดู reaction หากจำเป็นต้องใช้เวลามากกว่านั้นเพื่อให้รู้ผล คิสจะแจ้งกลับไป และคุณต้องรอ

- หากคิสแพ้ คิสขอไม่ลงรีวิวให้ เพราะการแพ้ถือเป็นเรื่องส่วนบุคคล และคิสถือว่าไม่ใช่ความผิดของแบรนด์ แต่ให้รีวิวแบบมั่วๆดำน้ำ ไม่ยอมทาที่หน้า ทาแต่ที่มือแล้วบอกว่าดี ถ่ายรูปกล่อง ถ่ายรูปขวดแล้วบอกว่าดีแสนดี คิสไม่ทำ

- คิสจะแจ้งว่าได้รับสินค้าคุณเป็นสปอนเซอร์ จะระบุไว้อย่างชัดเจน เพราะคนอ่าน"ไม่โง่" และคิสไม่ต้องการ"ดูถูก"คนอ่าน เพราะคิสก็เป็นคนอ่านเหมือนกัน คิสก็รู้สึกว่าหลายๆแบรนด์ดูถูกคนอ่านสุดๆที่เอาสินค้าหลายๆแบรนด์มา benchmark ทำเป็นว่าซื้อมาเทียบกัน แล้วแบรนด์คุณดีที่สุด บอกเลย เหมือนด่ากลายๆว่าคนอ่าน"โง่" แถม "บลัฟ" แบรนด์อื่นว่าแย่ทางอ้อม คิสไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการตลาดสายมารสายดาร์คค่ะ คิสเป็นแค่ลูกพ่อค้าตัวเล็กๆ ไม่มีชาติตระกูลยิ่งใหญ่ แต่ที่บ้านสอนมาดีพอค่ะ


_______________________________

คิสจบการบริหารระหว่างประเทศ สาขาย่อยการตลาด คิสรู้ดีว่าการตลาดคืออะไร แต่กรุณาตามทิศทางให้ทันค่ะว่าผู้บริโภค IQ อยู่ระดับไหนกันแล้ว และบล๊อคเกอร์เองก็ควรจะรู้จัก ethics หรือมี moral อย่างสมควรเท่าที่คุณจะทำได้ ถ้าบางคนไม่มีจริงๆ ช่วยไม่ได้ค่ะ

ล่าสุดคิสแพ้จากสินค้าหนึ่งตัว(ตอนนี้ข้างจมูกและขากรรไกรคิสเป็นคุ่มแดงและคันมาก แต่คิสโชคดีที่ sensitive มากพอที่จะรู้ตัวในครั้งแรกที่ใช้) ตอนนี้คิสต้องงดแต่งหน้า และคิดว่าน่าจะหายภายในไม่กี่วัน เพราะอาการไม่ได้รุนแรง


คิสได้แจ้งไปที่แบรนด์ และแจ้งขอคืนเงินค่าสินค้า เพราะคิสถือว่าอาการแพ้ไม่ใช่ความผิดของแบรนด์แต่อย่างใด และตอนที่คิสแจ้งว่า "คิสจะลงในภาษาตัวเองเท่านั้น หากมีข้อเสียคิสต้องขอระบุตามจริง"


แบรนด์นี้ "ใจถึง"มากพอที่จะบอกคิสว่า "ขอให้รีวิวตามที่คุณคิสรู้สึกจริงๆได้เลยค่ะ" คิสแบบ...สุดยอดมาก แบรนด์อื่นถอยไปหลายแบรนด์แล้วค่ะ


ขอบคุณแบรนด์ที่ตอบกลับมาทันทีว่าไม่เป็นไร และเข้าใจคิสทุกอย่าง คิสขอไม่ระบุแบรนด์ว่าเป็นแบรนด์อะไร ของประเทศไหน แต่คิสขอบคุณที่คุณมีจรรยาบรรณทางธุรกิจมากพอ ถึงไม่ได้กล่าวถึงชื่อแบรนด์ แต่คิสขอบคุณและดีใจที่ยังมีแบรนด์แบบนี้อยู่


คิสไม่เคยมองว่าตัวเองเป็นบล๊อคเกอร์ คิสไม่ใช่บล๊อคเกอร์ คิสเป็นผู้บริโภค


ขอบคุณพื้นที่ Jeban ที่ทำให้คิสได้พบกับ circle ดีๆด้วยนะคะ 

ถึงคิสจะแพ้สินค้า แต่คุณชนะใจมากๆ


^_____^

Discussion (6)

สกินแคร์มันเป็นเรื่องของบุคคลจริงๆ ค่ะ ฟริ้งเห็นครีมที่ขายในเน็ตบางแบรนด์บอกว่าใช้ได้ทุกคน ไม่แพ้ อื้อหือ ฟริ้งล่ะกลัวใจ

ปรบมือรัวๆค่ะ เราเองยังกล้าๆกลัวๆกับการรีวิว เพราะเราเองคือผู้บริโภค​ บางครั้ง​ก็แอบกลัวว่าผลลัพธ์​ดีของเราหรือสิ่งที่เล่ามัน อาจไม่ใช่ผลดีกับคนอื่นๆเสมอไป เลยออกตัวเลยว่ารีวิวไม่เก่ง และเราเองเป็นแค่ผู้ใช้คนนึงเท่านั้น การรีวิวสำหนับเราไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยค่ะ ของทุกอย่างมีข้อดีข้อเสียเสมอ

จริง คิสไม่รวยนะ แต่เทสมาเยอะมาก ซิสเล่ย์ ลาแมร์ ลาแพรี่ จะอะไรก็เหอะ ไม่ได้เหมาะกับทุกๆคน ไม่มีสมบูรณ์แบบ รีวิว แล้วบอกแต่ข้อดี มันไม่ใช่รีวิวแล้ว มันคือ ads  มีอีกประเภทคือมาแปะรูป แล้วำม่อธิบายอะไร บอกว่ารีวิว คนทำก็มีชื่อพอสมควร เอาขวดรองพื้นมาเรียงๆกัน กดเข้าไปก็กดปิดด้วยความงง ว่าเป็นบล๊อคเกอร์จนมีสินค้าของตัวเองออกมาได้ยังไม่รู้อีกหรอว่ารีวิวคืออะไร คิสชอบอ่านรีวิวตปท. เค้าบอกตรงมา แบรนด์ส่งมา ข้อดีข้อเสียบอกหมด บอกdupe ให้ก็มี คือมาตรฐานการศึกษาและคุณธรรม ต่างกันมาก สอนกันไม่ได้ด้วยเรื่องแบบนี้ เรื่องรีวิว ไม่ต้องกลัว คิสไม่กลัวอะไรเลย มีพิมพ์แซวตัวเองบ้าง แต่คิสไม่กลัวนะ จะฟ้องคิสหรอ? ชั้นเสียเงินซื้อมา และเงินเหลือพอจะจ้างทนายด้วย คิดดีๆ ก่อนจะหักกับใคร

หมายถึงการรีวิวใช่ปะคะ แล้วแต่คนเลยค่ะ ง่ายเยอะมาก มักง่ายนะคะ 55 ยากก็มีค่ะ คิสรีวิวไม่เก่ง แต่เรื่องเยอะ และยาก เข้าใจยากนะ ก๊ากกก

งื้อออ หายไวๆนะคะ ส่งกลจให้

ของเราก็มีติดต่อมา เงื่อนไขเราง่ายๆ  รีวิวตามจริง ไม่รับบรีฟอวย แจ้งว่าแบรนด์ให้มา  สมมุติ 10 ราย จะหายไปกับสายลมสัก 8 คนเราถ้าไม่มั่นใจนสินค้าของตัวเองขนาดนั้น แล้วจะมาให้คนอื่นมั่นใจไปด้วยได้ไงฟะ!!!! หรือจะให้รีวิวว่าดีเริ่ด ไร้ที่ติ สุดยอดเหนือแบรนด์ทั้งปวง มันเป็นไปได้เหรอ ของทุกอย่างมีดีมีติเพราะ 100 คนร้อยความขอบอะ บ่นเฉยๆ บางทีก็เบื่อ รู้ๆกันอยู่

55 เราก็งงเหมือนกันว่า ถ้าสินค้าคุณดี คุณอยากขาย แล้วถ้ามีันมีข้อเสีย(ที่ทุกแบรนด์ก็มี) คุณยอมรับไม่ได้หรอ เพราะข้อดีของคุณก็มี  คนที่โพสแล้วมีแต่ดี ดี ดี ดีเลิศ ดีสุดๆ ดีดี๊ดี เราบอกเลยใครอ่านแล้วเชื่อก็.........................นะ ไม่รู้จะใช้คำไหนดี แต่ก่อนดาราโฆษณาไม่ใช้จริงๆใครๆก็รู้ แต่คนอ่านบล๊อคเกอร์ เค้าต้องการข้อมูลที่ realistic ทุกวันนี้ความจริงจากคนปรกติธรรมดายังหาแทบไม่ได้เลย น้อยมากกกกกกก ที่เด็ดกว่านั้นคือบล๊อคเกอร์บางคนก็ทำตัวประหนึ่งดาราก็มี(ซึ่งมันก็นอกเรื่อง 55) อย่าลืมว่าคุณคือคนธรรมดา และคนอ่านก็คนธรรมดา ให้ข้อมูลตามความจริง อันนี้จะ PR ก็บอก frank นี่คนอ่านเค้ารับกันได้ค่ะ ไปทำ research ได้ เพราะเราเชื่อว่าคนอ่านไม่โง่ เค้าแค่ทำเป็นไม่สนใจ เพราะดีกว่าไม่มีอะไรให้อ่าน คอนเทนท์ทุกวันนี้ เค้าแค่มองว่าเอาของมาให้คุณ ประหยัดกว่าจ้างดาราเป็นพันเท่า หมื่นเท่า แค่นั้น แต่มันจะดีกว่ามั๊ย และแบรนด์จะได้รับความเชื่อถือมากกว่ามั๊ย ถ้าคุณกล้าขายความจริง บล๊อคเกอร์ดีๆ เราตามอ่านนะ สนับสนุนมากๆ เพราะเราจะจ่ายตังค์ เราหาเงินมา เราอยากรู้ข้อมูล ดีเลว อยากรู้หมดละ เพราะข้อเสียหลายๆข้อเรารับได้ ถ้าข้อดีมันก็ดีจริงๆ ปล.บล๊อคเกอร์ที่ตอ......... เราไม่สามารถเชื่อเนื้อหาหลังจากนั้นได้อีกเลย เพราะทำครั้งเดียว เราก็จะไม่เชื่ออีกเลย เหมือนขายวิญญาณไปแล้ว